1451. คำตอบ
หวังหลินสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม เขาตกตะลึงอยู่สักพักและยังมีสายตาตกใจ สิ่งที่เขาเห็นนั้นแม้แต่ตนเองก็ไม่กล้าเชื่อ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง “เต๋าแห่งสวรรค์คือความตาย…เต๋าแห่งสวรรค์คือความตาย…” หวังหลินได้ยินสิ่งนี้มามากกว่าหนึ่งครั้งในการบ่มเพาะชั่วเวลาสองพันปี เขาพยายามไล่ล่าหาคำตอบแต่มันกลับยุ่งเหยิงและไม่มีใครพบเบาะแสอย่างแท้จริง บางทีเต๋าแห่งสวรรค์อาจคือ ความตายจริงๆ…หวังหลินใบหน้าซีดพลางมองไปยังเตาหลอมจักรพรรดิและเห็น จิตวิญญาณเต๋าข้างใน
จิตวิญญาณเต๋าที่กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วดูเหมือนจะรับรู้ถึงสายตาของหวังหลิน มันปล่อยเสียงคำราม ดวงตาไม่เป็นมิตร
หวังหลินขบคิดเงียบๆ ทุกสิ่งที่เขาเห็นจากวิชาห้วงเวลากำลังแล่นวาบผ่านสายตา…จิตวิญญาณเต๋าตัวนี้มีชีวิตอยู่มานาน ดังนั้นวิชาห้วงเวลาจึงไม่สามารถแสดงให้เขาเห็นทุกอย่างได้ หวังหลินรู้เรื่องนี้ดี เขาเพียงแค่ต้องการหาเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับ จิตวิญญาณเต๋า
ทว่าเมื่อวิชาห้วงเวลาเข้าล้อมรอบจิตวิญญาณเต๋า สถานที่นี้จึงได้เปลี่ยนไปอย่างลึกลับ บางทีคงเป็นเพราะมันคือสุสานบัญชาโบราณหรือเพราะจิตวิญญาณเต๋าที่มีชีวิต เพียงแค่ชีวิตมันสองส่วนกลับทำให้การย้อนคืนเวลาของหวังหลินถึงขีดจำกัด
สิ่งนี้ทำให้หวังหลินตกตะลึง แต่ก็สงบนิ่งลงและไม่ยอมหยุด เขาให้วิชาห้วงเวลาทำการย้อนคืนเวลาอย่างบ้าคลั่งบนจิตวิญญาณเต๋า
ผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหน หวังหลินจึงได้เห็นส่วนแรก! จิตวิญญาณดวงนี้แพรวพราวและพร่ามัวจนมองเห็นข้างในได้ยากยิ่ง
ขณะที่แสงส่องประกาย จิตวิญญาณเต๋าค่อยๆหายไป แม้แสงจะเลือนลางแต่ หวังหลินก็ยังเห็นข้างในแสงได้ชัดเจนจากระดับบ่มเพาะ สิ่งที่หวังหลินเห็นทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก เขาเห็นเม็ดยาสีทองขนาดเท่าศีรษะกำลังหมุนอยู่ข้างในอย่างรวดเร็ว มีแสงโผล่ออกมาจากเม็ดยานี้ แล้วจิตวิญญาณเต๋าเป็นแบบไหนกันนี่? มันเป็นเม็ดยาชัดๆ! คงต้องเรียกว่าจิตวิญญาณเต๋าดวงนี้เป็นจิตวิญญาณของเม็ดยา แต่แค่นั้นคงไม่ทำให้หวังหลินยืนขึ้นและแทบลืมตัวเอง
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงจริงๆก็คือเรื่องถัดไป เมื่อเวลาย้อนคืนกลับไปอีกครั้ง การหวนคืนเวลาราวกับน้ำไหลหลาก พริบตาเดียวเม็ดยาก็เริ่มบิดเบือนและพังทลายลงจนเผยเป็นดาราจักรไม่ทราบที่มา มันไม่ใช่ทั้งดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นใน มันดูเหมือนมีเวลาคงอยู่ของตัวเอง กลิ่นอายเก่าแก่ของมันที่ปลดปล่อยออกมา เมื่อเทียบดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในราวกับของเล่นเด็ก
ในดาราจักรแห่งนี้มีดาวเคราะห์เซียนนับไม่ถ้วน แค่ชำเลืองสายตามองก็เห็น ดาวเคราะห์เผาไหม้อยู่เก้าดวงแล้ว เปลวเพลิงจากดาวเคราะห์นั้นมีขนาดมหึมาและเปล่งแสงแพรวพราวเสมือนดวงอาทิตย์ในอวกาศอันกว้างใหญ่ ร่างเจ็ดสีผู้หนึ่งเคลื่อนไหวดุจภาพเลือนลางข้ามผ่านดาวเคราะห์และยกมือขึ้น บนนิ้วชี้เป็นแหวน สีเขียว
เขาสะบัดแขนขวา หนึ่งดวงอาทิตย์ทั้งเก้าดวงสั่นไหวอย่างบ้าคลั่งและพุ่งหาคนในชุดคลุมเจ็ดสีผู้นั้น
ระยะทางไร้ขอบเขตดูเหมือนสั้นลงในพริบตา คลื่นความร้อนทำให้อวกาศสั่นเทาจนมิอาจมองสีหน้าชายชุดคลุมเจ็ดสีออก เขาสะบัดแขนทำให้ดวงอาทิตย์ที่เหลือ แปดดวงเปลี่ยนวงโคจรและเข้ามาใกล้
ดวงอาทิตย์เก้าดวงกระแทกใส่กันเบื้องหน้าชายชุดคลุมเจ็ดสี เกิดเป็นพลังระเบิดที่เกินจะหาคำใดมาเทียบได้ ราวกับทั้งดาราจักรดวงดาวกำลังแตกสลาย
หลังจากไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ดวงอาทิตย์ทั้งเก้าเริ่มผสานกันและพังทลายอย่างต่อเนื่อง พวกมันเล็กลงเรื่อยๆจนทั้งเก้าดวงผสานกันกลายเป็นหนึ่ง จากนั้น ชายชุดคลุมเจ็ดสีได้พ่นพลังเจ็ดสีออกมาจากปาก พลังเต็มไปทั่วพื้นที่เบื้องหน้า มันหดลงทันทีและเกิดเป็นเม็ดยาสีทอง เปลวเพลิงรุนแรงยังคงเผาไหม้อยู่รอบมัน เม็ดยานี้คือเม็ดยาตัวเดียวกันกับที่หวังหลินเห็น ซึ่งพอเห็นแบบนี้หวังหลินจึงยืนขึ้นและเผยท่าทีตกตะลึง สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงนอกจากเม็ดยานี้จะถูกหลอมขึ้นจากดวงอาทิตย์ทั้งเก้าแล้ว ยังเป็นชายชุดคลุมเจ็ดสีคนนั้นด้วย แม้จะมองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาชัดๆได้ แต่เขายังจำได้ว่าคนผู้นี้คือคนเดียวกับรูปปั้นที่หวังหลินได้มาจากทันหลาง! เพียงแต่ในรูปปั้นไม่มีแหวนบนนิ้วชี้ รูปปั้นนั้นทันหลางก็ได้มาจากที่นี่และพอเห็นอีกครั้งตอนที่เข้ามาในสุสานบัญชาโบราณ นี่จะไม่ทำให้เขาล่าถอยได้อย่างไร เขายืนขึ้นและสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอาการตกใจแต่ก็ยังไม่มากพอให้เขาล่าถอย
มีเพียงความหวาดกลัวเกินพรรณาและความไม่เชื่อเท่านั้นที่จะทำให้เขาล่าถอย ซึ่งมันดังออกมาจากชายชราชุดคลุมเจ็ดสีว่า “การยกระดับเต๋าสวรรค์ด้วยเม็ดยาเต๋าไม่ใช่วิธีที่ดี…ข้าต้องหาทางอื่น…เพื่อทำให้เต๋าสวรรค์ที่ข้าขโมยมาจะเติบโตได้เร็วขึ้น…”
เพียงแค่ประโยคนี้จึงทำให้ความคิดหวังหลินสั่นเทาและไม่สามารถรักษาวิชา ห้วงเวลาให้ไหลต่อไปได้จนมันหยุดลง ความหวาดกลัวและความไม่เชื่อจึงบังคับให้เขาต้องก้าวถอย ราวกับข้อมูลนี้มากพอกระทั่งฉีกกระชากร่างเทพโบราณออกไปหากไม่ได้ถอยกลับหลัง ความตกตะลึงนี้มากพอจะทำลายเขา “ยกระดับเต๋าสวรรค์ ยกระดับเต๋าสวรรค์ ยกระดับเต๋าสวรรค์ ยกระดับเต๋าสวรรค์…” คำพูดนี้ดังกึกก้องในหูหวังหลินอย่างบ้าคลั่งและทับเสียงอื่นทั้งหมด ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงระงับความตกใจเอาไว้และสูดหายใจลึก
‘เต๋าสวรรค์คืออะไร…จิตวิญญาณเต๋านี่ถูกใช้เพื่อหล่อเลี้ยงเต๋าสวรรค์…ชายชุดคลุม เจ็ดสีคนนั้นเป็นใคร…จักรพรรดิสวรรค์โบราณ…’ ในแววตาหวังหลินมีแต่ความงุนงงสับสน
ยิ่งรู้ลึกก็ยิ่งรู้สึกว่ามันลี้ลับ หวังหลินเกิดความรู้สึกลางๆแต่ก็ยังไม่เข้าใจทุกอย่าง ขณะที่ยืนอยู่ที่นี่ สายตาเขายิ่งรุนแรงหนักขึ้นไปอีก
‘โลหิตของเต๋าสวรรค์…เทียนหยุนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้โลหิตแห่งเต๋าสวรรค์มาตอนที่อยู่ในแดนสวรรค์พิรุณ…จักรพรรดิมังกรฟ้าบอกว่าเขาได้กลืนโลหิตของ เต๋าสวรรค์ไปด้วย…’
‘เต๋าสวรรค์มีโลหิตและจำเป็นต้องยกระดับด้วยเม็ดยานี้…แล้วเต๋าสวรรค์คืออะไร!?!’ หวังหลินขบคิดพลางจ้องมองท้องฟ้า
‘บางทีเต๋าสวรรค์คือ สมบัติ หรือเม็ดยา หรืออสูรร้าย…’ หวังหลินมีสีหน้าซับซ้อนยิ่งขึ้นและนึกถึงตอนที่เขาเจออสูรเดียวดายในดาราจักรทุกชั้นฟ้า…อสูรตัวนั้นใหญ่ยักษ์และมีอีกโลกหนึ่งข้างใน หวังหลินยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้ามืดมนพร้อมกับความคิดค่อยๆฟื้นคืนจากอาการตกใจ เขาจมดิ่งเข้าไปในจิตใจจนตอนนี้ข้างในเตาหลอมจักรพรรดิ จิตวิญญาณเต๋าระดับสี่ได้ฟื้นฟูมาเกือบสมบูรณ์ มันร้องคำราม ราวกับพายุเกรี้ยวกราด
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณเต๋าดวงนี้ก็ไม่ลึกลับต่อหวังหลินอีกแล้ว “ก็แค่ จิตวิญญาณเม็ดยา แม้เจ้าจะถูกหลอมจากดวงอาทิตย์เก้าดวง เจ้าสูญเสียพลังอำนาจไปนานนับตั้งแต่อดีตแล้ว ในเมื่อเจ้าโชคดีและไม่ได้ถูกใช้ยกระดับเต๋าสวรรค์ เช่นนั้นให้ข้าใช้เจ้าแทนเถอะ!”
หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเลียริมฝีปาก จากนั้นกลับมาเป็นปกติ เขามองไปที่จิตวิญญาณเต๋าและสะบัดแขน เตาหลอมจักรพรรดิสั่นไหว เปลวเพลิงพรั่งพรูข้างใน พายุวิญญาณกวาดผ่านเข้าไปขัดขวางจิตวิญญาณเต๋าที่กำลังฟื้นฟู หวังหลินเริ่มการหลอมและก้าวเข้าไปข้างในเตาด้วยตัวเองจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องภายในเตาหลอม
พริบตาเดียวเวลาผ่านไปสามวัน ควันสีขาวจำนวนมากออกมาจากเตาหลอมพร้อมกับกลิ่นหอม ควันสีขาวผสานเข้ากับแม่น้ำโลหิตที่ยังไม่ได้พังทลาย
หวังหลินปรากฏร่างขึ้นมาจากในควันสีขาว เพียงแค่สะบัดแขน เตาหลอมจักรพรรดิก็หายไปและกลับเข้าสู่ดาวเทพโบราณกลางหน้าผาก
เม็ดยาสีทองขนาดเท่าศีรษะพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า มันลอยอยู่หน้าหวังหลินราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังเผาไหม้ หวังหลินสัมผัสถึงพลังที่อยู่ในเม็ดยา เขารู้สึกว่าหาก ฝืนกลืนกินมันเข้าไปคงระเบิดเป็นแน่ แม้จะมีร่างเทพโบราณก็คงไม่เลือกจะกลืนกินมันแต่ใช้การสูดหายใจเข้าแทน เปลวเพลิงจากเม็ดยาถูกหวังหลินสูดเข้าไปทางจมูก
ร่างกายส่งเสียงดังปะทุ พลังเปลวเพลิงโหมกระหน่ำจากข้างใน ทำให้เปลวเพลิงปรากฏขึ้นในตาซ้ายโดยไม่คาดคิด ดูเหมือนมันกำลังเผาสิ่งสกปรกในอักขระสายฟ้าทำให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น “ต่อจากเพลิงไร้ลักษณ์ก็คือเพลิงเต๋า เมื่อเพลิงเต๋าของข้าจุดขึ้นมา แก่นแท้สายฟ้าและแก่นแท้เพลิงของข้าก็จะสมบูรณ์! อย่างไรก็ตามเม็ดยานี้ยังขาดจิตวิญญาณและจำเป็นต้องได้เครื่องบรรณาการ…แต่นี่ก็ดีกว่าที่ข้าจะดูดซับมันอย่างช้าๆ!”
หวังหลินสูดหายใจอีกหลายครั้ง เปลวเพลิงในร่างกายพรั่งพรูขึ้นและเกิดความรู้สึกปลอดโปร่งในร่าง! เขามองดูแม่น้ำโลหิตด้านล่าง
‘เรื่องที่มีอสูรร่างมนุษย์เกิดขึ้นที่นี่ต้องเกี่ยวข้องกับแม่น้ำโลหิต แม่น้ำไม่ได้สลายไปจากหมอกสีแดงก่อนหน้านี้ ดังนั้นพวกมันคงไม่ธรรมดา!’
หวังหลินสะบัดแขนขวาอย่างไม่ลังเลและเปิดมิติเก็บของขึ้นมา เสียงหึ่งๆดังออกมาจากรอยแยกและมีเหล่าอสูรยุงมากมายพุ่งออกมาทันที