1464. ใครเร็วกว่า?
ตอนนี้มีเซียนอยู่จำนวนหนึ่งที่เหลืออยู่ในสุสานบัญชาโบราณ สีหน้าท่าทางแต่ละคนพลันเปลี่ยนไปพร้อมกับมองสายหมอกรุนแรงรอบๆตัว พวกเขาตกอยู่ในอาการตะลึง
ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เซียนกลุ่มหนึ่งขนาดสิบกว่าคนถูกอสูรดุร้ายขังไว้ในแผนที่แห่งที่สามและต้องดิ้นรน ตอนนี้สายหมอกพรั่งพรูออกมา เหล่าอสูรร่างมนุษย์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกมันถูกสายหมอกพาเข้ามาใกล้โดยไม่มีเวลาถอยหนี จากนั้นราวกับถูกมือยักษ์ตีเข้าใส่และตายกันหมด
เหล่าเซียนหลายสิบคนไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย พวกเขาทำได้แต่เฝ้าดู สายหมอกกวาดผ่านไป เสียงดังลั่นรุนแรงของสายหมอกได้ระงับเสียงกรีดร้อง ก่อนตายของแต่ละคนเอาไว้
ในแผนที่แห่งที่สี่ แท่นหินระดับสามแห่งหนึ่งกำลังทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หันไปมองด้านหลังเป็นพักๆ
ด้านหลังเขาไกลๆมีแท่นหินสามแห่งที่กำลังไล่ล่ามาเพื่อชิงแท่นของเขา อย่างไรก็ตามสายหมอกเกิดการเปลี่ยนแปลงและกระแทกเข้าใส่เซียนคนที่วิ่งหนี แท่นหินไม่สามารถต่อต้านได้เลยและถูกสายหมอกกลืนกินไป
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าเซียนทั้งสามคนที่ไล่ตามมาต้องเปลี่ยนไปมหาศาล อย่างไรก็ตามทะเลหมอกกลับเร็วกว่าพวกเขาและกวาดผ่านไปในพริบตา ผู้ไล่ล่าและแท่นของตนเองพังทลายไปหมด
ฉากเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นไปทั่วสุสานบัญชาโบราณทำให้เกิดการตายเป็นจำนวนมาก คนที่โชคดีหนีรอดมาได้ล้วนประหลาดใจอย่างยิ่ง!
เพราะมีเซียนตายกันมากมายเกินไปในทะเลหมอก อักขระเวทย์เหล่านั้นจึงกะพริบวูบวาบอยู่ในหมอก เหล่าเซียนที่รอดชีวิตจึงเริ่มฉกชิงกันอย่างบ้าคลั่ง
ท่ามกลางพวกเขาไม่มีใครจะเอาชนะเฒ่าพิษเดียวดายได้ อักขระเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นถึงจำนวนหนึ่งและหลังจากผนึกเข้าไปมากขึ้น จึงถือกำเนิดเป็นแท่นระดับห้า!
หลังจากกลายเป็นแท่นระดับห้า เขาจึงสัมผัสแท่นของคนอื่นได้และมีสีหน้าเปลี่ยนไป
ณ ปลายขอบของแผนที่แห่งที่แปด จอมมารเก้าสวรรค์ถึงกับระงับความรู้สึก ตกตะลึงในใจ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปและเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เป็นครั้งแรกที่แท่นของเขาหยุดลง
‘เป็นไปไม่ได้!!’ จอมมารเก้าสวรรค์ถึงกับมีแววตาหวาดหวั่น เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าแท่นที่เพิ่งบรรลุระดับเจ็ดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั้นกลับพลันเลื่อนเป็นระดับแปด!
แท่นระดับแปดแห่งแรก!
การเปลี่ยนแปลงนี้เหนือล้ำเกินกว่าการคาดการณ์ของจอมมารเก้าสวรรค์ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาสามารถสัมผัสผ่านแท่นหินได้อย่างชัดเจน เขาคงจะไม่เชื่อ!
‘เขาข้ามจากระดับห้าไปเป็นระดับแปดได้ด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน…นี่…นี่…’ จอมมารเก้าสวรรค์อ้าปากค้างและตกตะลึง
เดิมทีเขามั่นใจว่าเป็นคนแรกที่บรรลุระดับแปด อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ความคิดเขาต้องสั่นเทา
‘เขาเป็นใคร?!’ แววตาเผยจิตสังหารและความหวาดกลัว ขบคิดเล็กน้อยและไม่เดินทางต่อ เขาควบคุมแท่นของตัวเองให้กลับไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
‘ข้าต้องเห็นให้ได้ว่าเป็นใคร! ระดับแปด…ระดับแปด…หลังจากฆ่าเขา โอกาสของข้าจะเพิ่มขึ้นมหาศาล!’
‘หากข้าสามารถค้นพบความลับที่ทำให้เขาบรรลุระดับแปดได้รวดเร็ว เมื่อนั้นตำหนักปฐพีของบัญชาโบราณเย่โม่ก็จะเป็นของข้า โม่ผิง!’
เหนือทะเลหมอกในแผนที่แห่งที่แปด สตรีชุดขาวมีท่าทีมืดมนเช่นกัน แท่นของนางหยุดลง ครู่ต่อมานางจึงถอนหายใจหนาวเย็น ไม่คาดคิดว่านางจะทำสิ่งเดียวกันและกลับไปหาแท่นระดับแปดคนนั้น
นางรู้ว่าหากตนเองไม่เข้าใจว่าคนลึกลับผู้นี้เพิ่มระดับของแท่นรวดเร็วได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นเขาก็คงจะบรรลุระดับเก้าในอีกไม่กี่ชั่วโมง!
นางก็เหมือนจอมมารเก้าสวรรค์ นางจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด!
ในแผนที่แห่งที่เก้า สตรีบนแท่นด้านหลังต้าเสินพลันยืนขึ้น ใบหน้าไม่มีเสน่ห์อีกแล้วแต่กลับถูกแทนที่ด้วยจิตสังหาร
‘คนผู้นี้ต้องถูกกำจัด หากข้าไม่สามารถได้วิธีเพิ่มระดับของแท่นอย่างรวดเร็วได้ ข้าก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ไป!’ ใบหน้าปรากฏจิตสังหาร นางเมินเฉยต้าเสินและ พุ่งกลับไปด้วยแท่นของนาง
หอกทั้งหมดชี้มาที่หวังหลิน!
หวังหลินกำลังนั่งอยู่บนแท่นขนาดแปดหมื่นฟุต แท่นแห่งนี้ปลดปล่อยแสงสีทองทรงพลังราวกับดวงอาทิตย์ สายหมอกโดยรอบขยับออกไปและล่าถอยเพราะเขา!
แผนที่แห่งที่แปดปรากฏขึ้นในหัวหวังหลิน พื้นที่ส่วนใหญ่ของสุสานบัญชาโบราณเผยขึ้นมาให้เขา!
วินาทีนี้มีเสียงเก่าแก่ดังกึกก้องเป็นครั้งที่สี่!
“ตำหนักสวรรค์บรรจุมรดกของข้า เมื่อระดับบ่มเพาะของคนในเผ่าข้าเพิ่มมา ถึงขีดจำกัดจะสามารถหวนกลับคืนสู่เส้นทางบัญชาโบราณได้…จากนั้นก็จะออกไปจากโลกและกลับคืนสู่โลกเดิมของข้า ค้นหาเผ่าของข้า…” เมื่อน้ำเสียงสลายไป หวังหลินรู้สึกชัดเจนว่ามีแท่นระดับเจ็ดสามแห่งกำลังเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว รวมถึงในแผนที่แห่งที่ห้าด้านหลังมีแท่นระดับห้าแห่งใหม่ถือกำเนิดขึ้น หวังหลินเดาได้ว่าคนที่อยู่บนแท่นนั้นคือเฒ่าพิษเดียวดาย!
ตอนนี้เฒ่าพิษเดียวดายกำลังพุ่งมาหาเขาด้วย
‘แท่นของข้าเพิ่มระดับขึ้นสามรอบในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ข้าจึงไปทำให้พวกเขาหวาดกลัว…ตอนนี้จึงมาหาคำตอบและสังหารข้า’ หวังหลินสีหน้าเป็นปกติและ เยาะเย้ย
เขาสามารถรู้ตำแหน่งของคนอื่นๆขณะที่อยู่บนแท่นระดับแปดได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามคนอื่นรู้แต่เพียงทิศทางของเขาคร่าวๆเท่านั้น
‘น่าเสียดายที่ข้าใช้สมบัติปีศาจโบราณไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่หนึ่งชิ้นและ ไม่มากพอจะบรรลุระดับเก้าได้…’ หลังจากแท่นบรรลุระดับแปด มันจึงกลายเป็นหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง หวังหลินเดาว่ามันคงต้องการอีกจำนวนมาก!
ตามกฎของสุสานบัญชาโบราณแล้ว หวังหลินคงต้องสังหารทุกคนที่ไล่ล่าเขาและขโมยอักขระเวทย์พวกนั้นมา ด้วยวิธีนั้นจะทำให้แท่นของเขาบรรลุระดับเก้าได้อย่างไรก็ตามหวังหลินคงไม่ทำอะไรแบบนี้ เขาเยาะเย้ยพลางควบคุมแท่นของตัวเอง
ความเร็วของแท่นระดับแปดเทียบได้กับเซียนขั้นที่สามและไม่ใช่สิ่งที่แท่นระดับเจ็ดจะเทียบได้ เพิ่มด้วยเรื่องที่หวังหลินสามารถตามหาตำแหน่งพวกเขาได้อย่างแม่นยำจึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถจับเขาได้ในช่วงเวลาอันสั้น
‘ตอนนี้ข้าต้องหาทุกอย่างที่เกี่ยวกับปีศาจโบราณและใช้วิธีของตัวเองในการเพิ่มแท่นให้เป็นระดับเก้า ข้าอยากจะรู้ว่าจะเป็นข้าหรือพวกเขาที่เร็วกว่า!’
แท่นหินด้านใต้หวังหลินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง แสงสีทองบังคับให้สายหมอกถอยไป พอไม่มีหมอกหวังหลินจึงทะยานไปได้รวดเร็วมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ประโยชน์ของมัน เขาเป็นคนแรกที่เลื่อนเป็นแท่นระดับแปดและเป็นคนแรกที่ได้เห็นแผนที่แห่งที่แปด
คนอื่นๆคงต้องใช้เวลาเพื่อหาทางเข้าไปในแผนที่แห่งที่แปด แต่หวังหลินไม่ต้องทำอะไรเลย เส้นทางและดินแดนผนึกทั้งหมดในแผนที่แห่งที่แปดอยู่ในจิตใจหวังหลิน
‘ตอนนี้ข้าต้องเร็ว!’ หวังหลินไม่ลังเลและไม่เสียเวลาอันใด เขานั่งลงบนแท่นและเพ่งสมาธิไปที่การสัมผัสตำแหน่งของคนอื่นๆ
ขณะที่ทะยานไปข้างหน้า เสียงดังสนั่นกึกก้อง เขาเคลื่อนผ่านคนสี่คนที่ไล่ล่ามาและเข้าสู่แผนที่แห่งที่เจ็ด
จอมมารเก้าสวรรค์อยู่ในแผนที่แห่งที่เจ็ดเช่นเดียวกัน ใบหน้าท่าทางมืดมนยิ่ง อีกฝ่ายเหมือนไส้เดือนที่หลบเลี่ยงการไล่ล่าเขาได้อย่างชาญฉลาดราวกับรู้การเคลื่อนไหวได้ชัดเจน
‘คงเป็นเพราะแท่นระดับแปดที่สามารถสัมผัสแท่นอื่นๆได้ชัดเจนยิ่งขึ้น…’ จอมมารเก้าสวรรค์ดวงตาส่องสว่าง ฝ่ามือสร้างผนึก จากนั้นกระแทกลงใส่แท่นของตัวเองทำให้มันพุ่งไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
สตรีชุดขาวและสตรีสุดสวยทะยานผ่านสุสานโบราณมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาเข้าใกล้หวังหลินอย่างต่อเนื่อง
ยังมีเฒ่าพิษโบราณด้วย แม้เขาจะอยู่เพียงระดับห้า ในฐานะเซียนขั้นที่สามเขาจึงมีหลายวิถีทางที่ทำให้แท่นของตัวเองไปได้เร็วยิ่งขึ้น เขาเองก็ไล่ล่าหวังหลินเช่นกัน
หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาในแผนที่แห่งที่เจ็ด เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายสองแห่งที่กำลังเข้ามาใกล้ได้ หนึ่งในนั้นมาจากทางขวา อีกหนึ่งมาจากทางซ้าย ทั้งคู่กำลังพุ่งหาเขาเป็นเส้นตรง
ดวงตาหวังหลินส่องสว่าง แท่นด้านล่างเขาพลันหยุดลงทันที เขาไม่ขยับไปข้างหน้าเลยแต่กลับพุ่งขึ้นไปด้านบนหลายแสนฟุต กลิ่นอายทั้งสองคนเปลี่ยนทิศทางไปด้วยและติดตามเขามาด้านบน
ก่อนที่จะได้เข้าใกล้ หวังหลินสัมผัสถึงสายหมอกรอบตัวเขากำลังถูกบดขยี้และส่งเสียงดังสนั่นกึกก้อง
หวังหลินยิ้มเยาะพลางให้แท่นของตนเองหยุดชะงักลงและไม่ขึ้นไปอีก เขาเริ่มขับเคลื่อนลงเป็นเส้นโค้ง หวังหลินยืนขึ้นและมองมาด้านหลัง แววตากะพริบเย็นเยียบพลางสะบัดแขนและปรากฏอักขระหลายล้านชิ้น
สายหมอกปั่นป่วนและปรากฏทะเลเพลิงขึ้นด้านหลังหวังหลิน ร่มขนาดใหญ่ ผุดขึ้นมาในทะเลเพลิงด้วย
“ร่มเผาดินแดน!” หวังหลินร้องคำรามพร้อมกับที่ร่มขนาดยักษ์ปรากฏในสายหมอก!
“จงเปิดทำลายล้างโลก!” หวังหลินกระอักโลหิตให้เริ่มเผาไหม้ลอยเข้าหาร่ม ตัวร่มเผยท่าทีกำลังเปิดออก มันเปิดได้ถึงสองในสิบส่วน!
เมื่อร่มเปิดออก เปลวเพลิงทำลายล้างโลกพุ่งออกมาและลงไปด้านล่าง
วินาทีนี้ปรากฏแท่นหินแห่งหนึ่งขึ้นทางด้านซ้ายและมองเห็นเป็นร่างจอมมาร เก้าสวรรค์ ทางด้านขวาปรากฏขึ้นอีกแท่น แววตาสตรีชุดขาวดุจสายฟ้าฟาด แต่เมื่อนางเห็นหวังหลินจึงตกตะลึงอย่างชัดเจน