Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1465

Cover Renegade Immortal 1

1465. ปีศาจโบราณที่มีชีวิต

วิชาร่มเผาดินแดนนั้นทรงพลังมาก แม้จะแค่สองในสิบส่วนแต่เปลวเพลิง เผาดินแดนก็ไม่สามารถถูกพลังใดขัดขวางได้ ตอนนี้ทะเลเพลิงแพร่กระจายออกมาจากร่มและทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง!

สายหมอกรอบๆเริ่มถูกเผาไหม้และถูกผลักไปด้านหลังจนเกิดเป็นพายุรุนแรง จอมมารเก้าสวรรค์ปรากฏร่างขึ้นและมีท่าทีเคร่งเครียด หากร่างดั้งเดิมเขาอยู่ที่นี่ก็ คงดี แต่ร่างอวตารของเขาถูกจำกัดระดับบ่มเพาะจึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเปลวเพลิง ทางด้านสตรีชุดขาวก็ด้วย นางเปลี่ยนสีหน้าไปหลายครั้งแต่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางก้มหน้าลงและรีบถอย

ขณะที่ทั้งสองคนถอย หวังหลินปาดโลหิตจากมุมปาก หยิบยืมพลังของเปลวเพลิงให้ทะยานไปเร็วขึ้น เขาพุ่งมาถึงปลายขอบของแผนที่แห่งที่เจ็ด ขณะที่กำลังจะเข้าแผนที่แห่งที่แปด จอมมารเก้าสวรรค์มองจากไกลๆ สายตาดูราวกับสามารถเจาะทะลวงมิติและเห็นหวังหลินปาดโลหิตได้ชัดเจน เขาชี้กลางหน้าผากและพึมพำ “ตราบใดที่ข้าได้เห็นเจ้าสักครั้ง…ตราบใดที่ข้าได้เห็นร่างเจ้าแล้วครึ่งหนึ่ง นั่นก็พอแล้ว…ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ไกลจากข้าแค่ไหน แม้เราจะถูกภูเขาบดบังจนแยกเป็นสองดินแดน ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้!”

“ดัชนีเทพทะลวงภูเขา!” แขนขวายกขึ้นและชี้ไปข้างหน้าอย่างรุนแรง! วินาทีนี้ร่างหวังหลินปรากฏในสายตาเขา กำลังประคองท่าทางถือร่มโบราณเอาไว้ ขณะที่ชี้ไปร่างหวังหลินเริ่มบิดเบือนและมีพลังลี้ลับพุ่งเข้าใส่เพื่อพยายามฉีกกระชากร่างให้เป็นชิ้นๆ ขณะที่เขาใช้วิชาของตัวเองซึ่งเป็นรองเพียงวิชาตกจันทราในบ่อน้ำ สตรีชุดขาวพลันมองขึ้นไป ในแววตามีความมุ่งมั่น

ฝ่ามือเรียวดุจหยกสะบัดพลิ้วและเอ่ยขึ้นบางเบา “สามเต๋าแห่งประตูสวรรค์ สามประตูแห่งตะวัน จันทราและดารา จงเปิด!” ขณะที่คำพูดนางดังลั่น แขนขวาสร้างผนึกปรากฏลำแสงดวงดาวนับไม่ถ้วนเบื้องหน้าจอมมารเก้าสวรรค์

ลำแสงดวงดาวตัดผ่านกันและเกิดเป็นประตูยักษ์เสียดฟ้า มันคล้ายกับประตูดับสูญแต่ตัวตนของมันไม่เหมือนกัน

ประตูดวงดาวปรากฏขึ้นในชั่วจังหวะที่จอมมารเก้าสวรรค์ชี้ไป วิชาเต๋าทั้งสองจึงปะทะกันทันที

ไร้เสียงและไร้ระลอกคลื่นแต่ประตูดวงดาวสั่นเทา จากนั้นหายวับไปในสุสานบัญชาโบราณ ขณะเดียวกันจอมมารเก้าสวรรค์ก็กระอักโลหิต ใบหน้าซีดเซียวและกระเด็นกลับไปหลายพันฟุต เขามองสตรีชุดขาวและร้องตะโกน

“ทำไมนางสนมเทพถึงหยุดข้า!?”

นางเองก็หน้าซีดเล็กน้อยเช่นกัน นางล่าถอยไปหลายพันฟุตแต่ก็สงบนิ่งลงและเอ่ยขึ้นช้าๆ “ทำไมข้าต้องอธิบายให้เจ้าด้วย? เจ้าเป็นอะไรกับข้า?”

จอมมารเก้าสวรรค์จ้องมองนางอยู่ชั่วขณะ จากนั้นสีหน้าท่าทางค่อยๆสงบนิ่งลงจนไม่เผยความโกรธเกรี้ยว เขาเผยรอยยิ้มบนมุมปากและส่ายศีรษะ เขาหันตัวกลับและอ้อมนางไปพร้อมกับไล่ล่าหวังหลินไปยังแผนที่แห่งที่แปด

นางขมวดคิ้วและถอนสายตา มองจุดที่หวังหลินหายไปและทะยานเข้าหา

เมื่อหวังหลินเข้าสู่แผนที่แห่งที่แปด เขาสัมผัสถึงความเย็นอันรุนแรงได้ สัมผัสอันตรายเต็มไปทั่วจิตใจ จึงชี้ใส่จุดกลางหน้าผากโดยไม่ลังเลเพื่อให้เตาหลอมจักรพรรดิปรากฏขึ้นล้อมรอบ ขณะเดียวกันก็พุ่งเข้าไปในแผนที่แห่งที่แปด

หลังจากเข้าแผนที่มาได้ สัมผัสอันตรายก็หายไป เขามองด้านหลังและพุ่งเข้าสู่ส่วนลึกโดยไม่ลังเล

หลังจากนั้นไม่นานจอมมารเก้าสวรรค์ก็มาถึง แผนที่แห่งที่แปดถือว่าเป็นพื้นที่ที่เขาไม่รู้จัก หลังจากขบคิดเล็กน้อยจึงไล่ล่าตามความรู้สึกเลือนลางของแท่นหิน

ขณะเดียวกันสตรีผู้มีเสน่ห์ได้กลับมาจากแผนที่แห่งที่เก้ามาสู่แผนที่แห่งที่แปด

ไม่มีใครคุ้นเคยแผนที่แห่งที่แปดนี้มากกว่าหวังหลิน หวังหลินทะยานไปอย่างรวดเร็ว ที่นี่มีดินแดนผนึกอยู่สามแห่งและทั้งหมดถูกจารึกไว้ด้วยภาษาของเผ่าบัญชาโบราณ เทพ มาร ปีศาจ!

หวังหลินอยากเลือกดินแดนผนึกที่จารึกว่า “เทพโบราณ” แต่ตอนนี้เขาพุ่งไปหาดินแดนผนึกปีศาจโบราณโดยไม่ลังเล

ด้วยเป้าหมายที่แน่นอนเช่นนี้หวังหลินจึงไม่เสียเวลา เพียงหนึ่งชั่วโมงเขาก็มาถึงดินแดนผนึกปีศาจโบราณ ตอนนี้ทุกคนที่นี่ต่างก็ไล่ล่าเขาผ่านความรู้สึกอันเลือนลางพวกนั้น หวังหลินคาดการณ์ว่าอีกครึ่งชั่วโมงก็คงไล่ทัน

‘ครึ่งชั่วโมง…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างเมื่อเห็นวังวนหนึ่งอยู่ห่างไปในระยะหมื่นฟุต วังวนนี้ส่งเสียงดังและเต็มไปด้วยพลังปีศาจ เพียงแต่พลังปีศาจนี้มากพอจะทำให้จิตใจทุกคนสั่นเทา

หลังจากเข้าไปใกล้หวังหลินจึงสัมผัสพลังชีวิตอันทรงพลังออกมาจากวังวนได้!

‘ปีศาจโบราณที่ยังมีชีวิต!’ หวังหลินอ้าปากค้าง จ้องมองวังวนเข้าไป ลึกเข้าไปข้างในวังวนมีร่างหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในพายุหมุนโดยมีผนึกติดเอาไว้ เนื่องด้วยผนึกนี้ปีศาจโบราณจึงไม่สามารถหนีไปได้และกำลังหลับใหล

พลังปีศาจที่นี่แข็งแกร่งมาก และพลังชีวิตที่นี่ทำให้หวังหลินมั่นใจว่าไม่เพียงแต่จะเป็นปีศาจโบราณที่มีชีวิต มันยังแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เก้าดาวก็คงมีอย่างน้อยแปดดาว! หวังหลินขมวดคิ้วแต่ในไม่นานก็ผ่อนคลาย เขาเผยรอยยิ้มน่า ขนลุก ค่อยๆทะยานออกจากแท่น เก็บมันกลับไปก่อนจะเคลื่อนร่างเข้าหาวังวน

หลังจากเข้าไปในวังวนได้ไม่นาน เสียงหอนดังกึกก้องทั้งสองหู พลังปีศาจในวังวนราวกับพายุรุนแรงและพัวพันหวังหลินราวกับต้องการฉีกกระชากร่างเขาเป็นชิ้นๆ เขาสามารถเคลื่อนตัวเข้าไปได้เพียงพันฟุตเท่านั้นจนไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้อีก ระยะห่างเท่านี้แทบไม่มีค่าอะไรเมื่อเทียบกับใจกลางของมัน หวังหลินดวงตา ส่องสว่างและปรากฏดวงดาวเทพโบราณขึ้นมา

ดวงดาวของหวังหลินหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว พลังเทพโบราณเต็มไปทั่วสองตา เขากัดฟันแน่นและก้าวเท้าไปข้างหน้า แต่ละก้าวข้ามผ่านระยะหลายพันฟุต เพียงพริบตาเดียวเขาก็เข้าสู่พื้นที่ใจกลางซึ่งแทบจะถึงขีดจำกัดแล้วและสามารถไปได้อีกสองสามก้าว แต่เขาไม่เลือกก้าวออกไป หวังหลินนั่งลงและหยิบขวดมารโบราณออกมา หลังจากแยกพลังมารโบราณและพลังเทพโบราณของตัวเองออกมา จากนั้นแขนซ้ายคว้าพลังปีศาจโบราณให้ทั้งสามพลังผสานกัน

พลังลึกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้งและหวังหลินรีบกดมันใส่กลางหน้าผาก ขณะที่อักขระเวทย์ปรากฏขึ้นมาเขาจึงรับมันเอาไว้และทำกระบวนการเดิมซ้ำๆให้รวดเร็วขึ้น

กลิ่นอายปีศาจโบราณกำลังถูกหวังหลินแยกออกมา จำนวนวิญญาณในขวดมารโบราณกำลังลดน้อยลงพร้อมกับมีอักขระเวทย์ปรากฏมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปเวลาก็เกือบผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว

หวังหลินสร้างอักขระเวทย์ขึ้นมาได้หลายพันชิ้นด้วยพลังปีศาจโบราณทั้งหมดที่นี่ เขาแยกวิญญาณมารโบราณ คว้าพลังปีศาจโบราณและเติมพลังเทพโบราณของตนเองลงไป หวังหลินทำอย่างเชี่ยวชาญราวกับลมหายใจ

‘เร็วกว่านี้!!’ แม้จะทำได้เร็วมากแล้วแต่เขาก็ยังห่างจากระดับเก้าอยู่ไกลพอสมควร หวังหลินสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายทั้งสี่กำลังพุ่งเข้ามาหา ดังนั้นจึงขยับมือไปมาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากนั้นไม่นานจึงเกิดเสียงดังกึกก้องและมีแท่นขนาดเจ็ดหมื่นฟุตมาถึง มีสตรีรูปร่างน่าหลงใหลกำลังยืนอยู่ด้านบน เสียงหัวเราะมีเสน่ห์ของนางดังออกมาก่อนที่จะมาถึงเสียอีก

เสียงหัวเราะของนางมีเสน่ห์และเมื่อเข้าไปในหูหวังหลินจึงทำให้ความคิดเขาสั่นเทา ความคิดเขาล่องลอยไปถึงตอนที่ใช้เวลาอยู่กับหลิวเหมยในสุสานซูซาคุ ทำให้ใบหน้าเขาซีดเผือดและท่าทีเย็นดุจน้ำแข็ง เขาจ้องมองสตรีด้านบนแท่นหินอย่างเย็นชา ด้วยระดับบ่มเพาะสองพันปีและความเจ็บปวดที่ทนทุกข์อยู่ในสุสานซูซาคุ เขาจึงสามารถระงับความรู้สึกประหลาดนี้ได้ ดวงตายิ่งหนาวเย็นมากกว่าเดิม เมื่อนางมาถึงเขาจึงถอยห่างเข้าไปในวังวนซึ่งเป็นจุดที่นั่งไปแล้วหนึ่งครั้ง หวังหลินเมินเฉยนางทันทีพลันหลับตาและสร้างอักขระเวทย์อย่างต่อเนื่อง

“เป็นเจ้านี่เอง หากพี่สาวไม่มีต้าเสินอยู่แล้ว พี่คงไม่อยากทำร้ายเจ้า” สตรีชุดชมพูยิ้มออกมาแต่แฝงแววตาประหลาดใจ นางชำเลืองไปที่ส่วนลึกของวังวนและสัมผัสได้ถึงปีศาจโบราณข้างใน ดวงตาจึงเคร่งเครียด แม้เสียงหัวเราะนางดูธรรมดาแต่กลับมีวิชาเต๋าแฝงอยู่ อย่างไรก็ตามหวังหลินเพียงแค่สับสนชั่วครู่เท่านั้นและตื่นขึ้นทันที นางอดไม่ได้ที่จะมีความคิดประหลาด

‘หรือว่าสหายน้อยคนนี้ไม่เคยลิ้มลองสตรี?’ ดวงตาส่องสว่างวาบและเลีย ริมฝีปาก จากนั้นนางก็หัวเราะและเข้าสู่วังวนเพื่อไปหาหวังหลิน ขณะเดียวกันนั้นเองจอมมารเก้าสวรรค์ก็มาถึง เขาเก็บแท่นของตัวเองและเข้าสู่วังวนไปด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version