Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1487

Cover Renegade Immortal 1

1487. ฝันสวยงามในอดีต

สตรีผู้นี้มีความสวยงามยิ่งกว่ามู่ปิงเหมย แม้นางจะไม่ยิ้มแต่นางกลับทำให้หัวใจเหล่าเซียนเต้นระรัวมากขึ้นเพียงแค่มองคราเดียว

พลังหยินรวมกันกลางหน้าผากทำให้นางดูแตกต่างจากสตรีคนอื่น นางมีเสน่ห์ของตัวเอง!

ยามที่ลืมตาขึ้น ดวงตาดูราวกับมีดวงดาวอยู่ภายใน ผู้คนอดไม่ได้ที่จะหลงใหลสายตาคู่นั้น

แผ่นดินแช่แข็งเกิดเสียงแตกร้าวดังกระจาย ไม่นานก็ปกคลุมทั่วทั้งผืนดิน น้ำแข็งทั้งหมดพังทลายและแตกกระจายออกไปทั่วทิศทาง

นางสูดหายใจลึก ดวงดาวโบราณเริ่มหมุนติ้วรวดเร็วยิ่งขึ้น พลังเทพโบราณทรงพลังเต็มไปทั่วร่างกาย

หลังจากผ่านไปสักพักนางจึงมีแววตาส่องสว่าง ฝ่ามือกำหมัดอย่างละเอียดอ่อน เสียงดังเกรียวกราวทรงพลังออกจากฝ่ามือและสั่นสะเทือนรอบข้าง

ขณะที่นางกำหมัด ดวงดาวกลางหน้าผากหยุดลงจนเผยให้เห็นดวงดาวสีม่วงเจ็ดดวง!

เทพโบราณเจ็ดดาว!

เทพโบราณสตรีเจ็ดดาว!

เมื่อตัวตนของนางในฐานะเทพโบราณปรากฏขึ้นมา ทั้งหมดจึงสมเหตุสมผลว่าทำไมปรมาจารย์เย่มู่ถึงได้หายตัวไปตามอสรพิษพิฆาตจันทร์

ทำไมหวังหลินถึงได้ถูกบรรพชนตระกูลเซี่ยงดูดพลังชีวิตไปเกือบหมด! พลังชีวิตที่ถูกเอาไปนั้นคือพลังชีวิตเทพโบราณ!

แม้หวังหลินจะไม่รู้เรื่องทั้งหมดแต่ก็พอรู้คร่าวๆขณะที่ทะยานล่องไปในดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

หลังจากค้นความทรงจำของบรรพชนตระกูลเซี่ยง หวังหลินเรียนรู้มาว่าพลังชีวิตที่บรรพชนดูดซับไปนั้นก็เพื่อสนองความโลภในการบ่มเพาะ เขาไม่ได้มีเจตนาให้ หวังหลินรอดชีวิต ความจริงแล้วตอนที่หวังหลินเข้ามาในดาวตงหลิน บรรพชนตระกูลเซี่ยงได้เห็นความโกรธแค้นของคนผู้หนึ่งจากตระกูลเซี่ยงบนตัวหวังหลิน…หลังจาก ลิ้มรสความแค้นนั้นเขาจึงรู้ว่าคนตระกูลเซี่ยงผู้นั้นเป็นใคร

แม้จะไม่มีความแค้นนี้ บรรพชนตระกูลเซี่ยงก็ยังดูดซับพลังชีวิตของหวังหลินอยู่ดี แม้หวังหลินไม่ได้ผสานร่างกับร่างดั้งเดิมในตอนนั้น พลังชีวิตอันแข็งแกร่งทรงพลังได้เผยออกมาผ่านการเชื่อมต่อกับร่างดั้งเดิมจนบรรพชนตระกูลเซี่ยงถึงกับเกิดความกระหาย

อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังดูดซับพลังชีวิตของหวังหลินและกำลังคิดจะสังหาร มีคำสั่งออกมาจากตระกูลตงหลินโบราณ บรรพชนไม่กล้าขัดคำสั่งจึงล้มเลิกความคิดสังหารหวังหลินไป เขาดูดซับพลังชีวิตเทพโบราณจำนวนมากจากร่างดั้งเดิมของ หวังหลิน

หวังหลินรู้เรื่องทั้งหมดนี้จากการค้นวิญญาณของบรรพชนตระกูลเซี่ยง รวมถึงการกระทำของปรมาจารย์เย่มู่เมื่อตอนนั้นเขาจึงคาดเดาเรื่องได้หลายอย่าง

‘ตระกูลตงหลินโบราณ…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและมองกลับไปไกล

‘ในตระกูลนั้น…มีเทพโบราณ!! ไม่รู้ว่าเทพโบราณตนนี้คือเทพดั้งเดิมหรือคนที่ได้รับมรดกสืบทอดเช่นข้า…’ หวังหลินขบคิดอยู่นานก่อนจะถอนสายตาและก้าวไปข้างหน้า

‘ข้าส่งคำเตือนไปแล้ว ดังนั้นอย่ามายุ่งกับข้า!’

‘จากสี่เรื่องทั้งหมด ทำไปแล้วสอง ตอนนี้เป็นเรื่องที่สาม…เทพโลหิตแห่งตระกูลเหยา!’ หวังหลินดูสงบนิ่งแต่ในสายตามีจิตสังหารที่ไม่ได้จางหายไป

‘ครั้งนั้นเทพโลหิตไล่ล่าข้าหลายวันหลายคืน ถ้าไม่ใช่เพราะศิษย์พี่ฉิงชุ่ย ร่างอวตารของข้าคงตายไปแล้ว ข้าจะลืมได้อย่างไร? อีกทั้งเทพโลหิตก็มีปีศาจโบราณข้างในด้วย…ร่างอวตารปีศาจโบราณของข้าจำเป็นต้องได้รับพลังปีศาจโบราณตอนนี้…นอกจากนั้นถึงแม้ข้าจะไม่ได้ทำสัญญากับหญิงสาวตระกูลเหยาเอาไว้ ข้าได้ทำสัญญาไว้ในความฝันของนางซึ่งเป็นการทิ้งเวรกรรมเอาไว้…ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าต้องไปดูแลเสียบ้าง’ หวังหลินหายวับออกไปไกล

ดาวตงหลินพังเสียหายและตระกูลทั้งหมดบนดาวถึงคราวแตกสลาย เสียงการต่อสู้จากดาวตงหลินแพร่กระจายออกไปและเป็นที่รู้กันทั่วในดาราจักรอย่างรวดเร็ว

ดาวตงหลินถือเป็นดาวที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดในดาราจักรทุกชั้นฟ้า การพังทลายและถูกทำลายล้างของมันมากพอจะสั่นสะเทือนดาราจักรทุกชั้นฟ้า

ในตอนนี้ทางด้านทิศใต้ของดาราจักรทุกชั้นฟ้ามีกลุ่มเซียนร้อยคนกำลังทะยานไปข้างหน้าอย่างเงียบงันโดยมีเซียนสตรีผู้หนึ่งอยู่ท่ามกลาง

สตรีผู้นี้ไม่ได้เยาว์วัย นางดูเหมือนสตรีวัยกลางคน ใบหน้าแฝงริ้วรอยแห่งกาลเวลาในขณะที่ทะยานไปพร้อมกับกลุ่มนี้อย่างเงียบๆ

เห็นได้ชัดว่าใบหน้านางสวยงามแค่ไหนตอนที่เยาว์วัยและยังมีเสน่ห์หลงเหลืออยู่เป็นบางส่วน ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงข้ออ้างว่านางไม่ได้มีรอยแผลเป็นน่าหวาดกลัวบนใบหน้ามากนัก!

รอยแผลเป็นเหล่านี้ปกคลุมหลายอย่าง รอยแผลสีแดงเข้มเป็นรูปกากบาทได้วาดผ่านใบหน้างดงามของนางจนทิ้งรอยลึกเอาไว้เบื้องหลังใบหน้าน่าเกลียดและน่ากลัวนี้ ทำให้ผู้คนไม่ต้องการเข้าใกล้นางเกินไป

รอยแผลเหล่านี้ไม่สามารถลบล้างด้วยวิชาธรรมดาได้ หลังจากนางฟื้นพลังก็จึงค่อยๆได้รับแผลเหล่านี้บนใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับมันค่อยๆสลักลงไปถึงวิญญาณ

ระดับบ่มเพาะของนางไม่ได้สูงนัก เป็นเพียงแค่ขั้นรูปธรรมหยางเท่านั้น แต่ร่างกายของนางเปล่งสัมผัสความเหน็ดเหนื่อยและสับสนออกมา

สมาชิกในตระกูลของนางตายไปเกือบหมดจากการต่อสู้กับพันธมิตรเซียน แม้กระทั่งบรรพชนผู้รักนางมากที่สุดก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสในสงครามและท้ายที่สุดก็ตายเพราะช่วยนางจากเหตุการณ์เทพโบราณบนดาวซูซาคุ ทั้งตระกูลของนางสูญสิ้นไปแล้ว

หลังจากสงครามจบลง นางกลับมายังดาราจักรทุกชั้นฟ้าด้วยความเหน็ดเหนื่อยและบาดเจ็บ แต่ตระกูลของนางไม่อยู่แล้ว นางทำได้แค่เช็ดน้ำตาอยู่ในบ้านของตระกูลและจากมาอย่างเงียบๆ นางบ่มเพาะอยู่คนเดียวและกลายเป็นคนจรจัด

ยากยิ่งนักที่สตรีคนเดียวจะเอาตัวรอดในดาราจักรทุกชั้นฟ้าหลังสงครามได้ แม้นางยังมีสหาย แต่ในเมื่อตระกูลถูกทำลายไปแล้วจะใช้ประโยชน์อันใดได้…ในตอนนั้นนางยังเยาว์วัยและมีใบหน้าสละสลวย

มีหลายคนที่ต้องการความงดงามของนาง มีหลายคำสัญญาที่จะให้นางบ่มเพาะฝึกฝนร่วมกัน ยากยิ่งนักสำหรับสตรีผู้อ่อนแอในการเอาชีวิตรอดโดยไม่ลดเกียรติของตัวเอง และความสวยสดงดงามของนางก็ล่อลวงใครหลายคน

นางเหมือนหลิวหยานเฟยในสำนักต้นกำเนิด แต่นางมีความมุ่งมั่นยิ่งกว่า นางได้ทำลายใบหน้างดงามของตัวเองเพื่อหยุดไม่ให้คนลุ่มหลง!

ความงดงามถือเป็นเรื่องโชคร้าย และบางทีหลังจากทำลายความงดงามไปแล้วก็คงทำให้โชคร้ายจากไป

นางไม่ลืมความปรารถนาของตัวเองในอดีต นางต้องการกลายเป็นเหมือนบรรพชน กลายเป็นเซียนสตรีผู้ทรงพลัง การได้มีโลกของตัวเองในดาราจักรทุกชั้นฟ้า

อย่างไรก็ตามความต้องการนี้กลับอยู่ห่างไกลเป็นอย่างยิ่ง…ถ้าไม่ใช่เพราะร่างคนผู้นั้นในใจนาง นางคงกลายเป็นของเล่นของคนอื่นไป มอบร่างกายของตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นการปกป้องและมีสิทธิ์บ่มเพาะต่อไป

อย่างไรก็ตามคนผู้นั้นกลับป้องกันไม่ให้นางลดเกียรติตนเอง นางปฏิเสธคนอื่นเพื่อปล่อยให้ตัวเองต่ำต้อยเสียดีกว่า แม้คนผู้นั้นอาจจะลืมนางไปแล้วและกระทั่ง จำชื่อนางไม่ได้ นางยังจดจำได้ดี…นางไม่ลืมร่างชายผู้นำเหล่าเซียนออกจากแดนสวรรค์อัสนีที่กำลังล่มสลาย…นางไม่ลืมร่างของเซียนที่ต่อสู้กับผู้ส่งสาส์นของ อารามเทพอัสนี

ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่ลืมร่างชายผู้ทำให้ดาราจักรทุกชั้นฟ้าตกตะลึงและกลายเป็นเทพสายฟ้า! ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่รู้ว่านางอยู่ท่ามกลางคนที่ยืนดู คนผู้นั้นอาจจะไม่รู้ว่านางเกิดความสุขขึ้นในใจ…ผ่านไปแปดร้อยปี ทุกครั้งที่นางรู้สึกเศร้า นางจะคิดถึงร่างคนผู้นั้นและทำให้ตัวเองกล้าหาญขึ้นอีกครั้งเพื่อดิ้นรนต่อไป

อดีตเสมือนกับหมอกควันและแล่นผ่านความคิดนางอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ดาวเคราะห์เซียนดวงหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังปราณจึงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา

กลุ่มเซียนหยุดอยู่นอกดาวเคราะห์เซียน ผู้นำเป็นชายวัยกลางคนท่าทีโดดเดี่ยว เขามองเหล่าเซียนเบื้องหลังและเผยความรังเกียจเมื่อเห็นว่ามีสตรีอยู่ด้วย

เหล่าเซียนมักจะหวงแหนกายเนื้อ กายเนื้อคือรากฐานของการฝึกฝน มีหลายคนที่ค้นพบวิธีการทำให้ตัวเองดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ แม้จะไม่ทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ แต่พวกเขาก็มีวิธีรักษาความเยาว์วัย

มีหลายคนรังเกียจนาง อีกทั้งนางก็เป็นเซียนขั้นรูปธรรมหยางคนเดียวที่ไม่มีตระกูลหนุนหลัง ดังนั้นนางจึงถูกกลั่นแกล้งโดยไม่ไว้หน้า

“ซื่อจื่อเฟิง ใช้วิญญาณดั้งเดิมของเจ้าเพื่อสั่นคลอนวิถีโคจรของดาวดวงนี้” ชายวัยกลางคนอยู่ในขั้นส่องสวรรค์ระดับกลาง คำพูดของเขาจึงแฝงอำนาจที่มิอาจโต้แย้งได้

เขารู้จักสตรีผู้นี้มานานและนางเป็นคนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสนใจความงดงามของนางด้วย แต่เพราะทุกครั้งที่เขาเห็นรูปร่างน่าเกลียดของนาง เขากลับรู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้น

การเคลื่อนย้ายดาวเคราะห์เซียน คนผู้นั้นจำเป็นต้องใช้วิญญาณดั้งเดิมของตัวเองเพื่อสั่นคลอนดาวให้หลุดจากวงโคจร เมื่อวงโคจรเปลี่ยนไปจะเกิดพลังสะท้อนจนทำให้วิญญาณคนผู้นั้นบาดเจ็บเสียหาย

ซื่อจื่อเฟิงขบคิดเงียบๆและใบหน้าซีดขาว ครู่ต่อมานางคำนับฝ่ามืออย่างเคารพและเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่า “ท่านผู้ส่งสาส์น ข้าได้ใช้วิญญาณดั้งเดิมสั่นคลอน ดาวเคราะห์ให้หลุดจากวงโคจรไปสามดวงแล้วเมื่อครั้งล่าสุดและอาการบาดเจ็บของข้ายังไม่ฟื้นตัวดี ข้า…”

ก่อนที่ซื่อจื่อเฟิงจะกล่าวจบ ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วและพ่นลมหายใจ

ร่างซื่อจื่อเฟิงสั่นเทาและกัดริมฝีปาก นางไม่กล่าวอีกและหันไปหาดาวเคราะห์เซียน

ในกลุ่มเซียนร้อยคนมีบางส่วนด้านหลังนางไม่อาจทนได้และทำได้แค่ถอนหายใจ

“เกือบพันปีก่อนตระกูลซื่อมีขนาดใหญ่มากและถึงแม้จะไม่ได้เป็นยอดตระกูล ลูกหลานสายตรงของตระกูลซื่อ ซื่อจื่อเฟิงทั้งสวยและมีเสน่ห์กลับมาจบชีวิตแบบนี้…โชคชะตาช่างโหดร้าย…”

“ซื่อจื่อเฟิงเป็นสตรีที่มีความเด็ดเดี่ยว…น่าเสียดาย…น่าเสียดาย…”

“ไม่มีอะไรต้องรู้สึกเสียดาย หลังสงครามมีหลายคนย่ำแย่ยิ่งกว่านางอีก!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version