1542. ตกตะลึง!
“ข้ามองออกแล้ว มันไม่เหมือนกัน” หวังหลินพูดอย่างมั่นใจพลางจ้องมอง ชายเสียสติด้วยความเย็นชา ภายในความดูถูกมีความเสียใจแฝงอยู่ด้วย
ความเสียใจนี้ทำให้น้ำในดวงตาของชายเสียสติเริ่มจะเพิ่มขึ้นมาและท้ายที่สุดเขาก็ร้องไห้
พอเริ่มร้องไห้ หวังหลินรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ เขารู้สึกเหมือนลุงกำลังแย่งของเล่นออกมาจากมือเด็กน้อย…
‘ช่างมัน เวรกรรม เวรกรรม ข้าเจอเขาในอสูรโลกันตร์ เขามอบสายโลหิตเทพให้ข้าและตอนนี้ข้าก็ได้วิชาของเขามาด้วยวิธีนี้ ท้ายที่สุดข้าต้องตอบแทนเขาบ้าง… หายากที่จะมีเซียนบ้าคลั่ง ดังนั้นจะต้องมีเรื่องอะไรใหญ่โตอยู่เบื้องหลัง ข้าหวังหลินขอจดจำบุญคุณนี้ไว้!! ข้าสาบานว่าในอนาคต เรื่องของเขาทั้งหมดจะเป็นเรื่องของข้าด้วย!!’ หวังหลินมองชายเสียสติอีกครั้ง แต่ตอนนี้ในสายตามีความอ่อนโยนซ่อนอยู่
“ข้าไม่ได้โกหก ข้าใช้วิชาเดิมจริงๆ วิชาของข้าเรียกว่าประทับวิญญาณสงคราม พี่ใหญ่ของข้าขโมยมาจากแฝดราชันย์เทพ จากนั้นส่งต่อมาให้ข้า…” ดูเหมือน ชายเสียสติไม่ได้ล้างหน้ามานาน ขณะที่น้ำตาไหลลงมา ดินโคลนผุดบนใบหน้าเป็นสองสาย เขาปาดคราบน้ำตาพลางมองหวังหลินด้วยสายตาคับข้องใจและร้องคำราม
“หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าจะบอกบทร่ายที่เป็นความลับให้ ราชาผู้นี้ไม่เคยโกหกตั้งแต่เด็ก เพราะพี่ใหญ่บอกว่าหากข้าโกหกขึ้นมา เขาก็จะตีข้า…” ชายเสียสติรู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง เขาท่องบทร่ายของวิชาประทับวิญญาณสงครามโดยไม่คิดอะไรเลย
“ดูสิ ดูสิ นี่คือบทร่ายลับ เจ้าไปฝึกฝนมันด้วยตัวเองและดูเอาเองเลย จากนั้นเจ้าจะเห็นว่าข้าไม่ได้โกหกเจ้า เห็นได้ชัดว่าข้าเอาชนะได้จากการพยายามอย่างหนัก แต่เจ้าก็ไม่เชื่อข้า!! ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าแล้วนะ!” ชายเสียสติเริ่มกลับมาโกรธอีกครั้งและเดินออกไปข้างๆ เขายังเต็มไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจ นั่งลงและจงใจไม่มองหวังหลิน
หวังหลินหัวใจเต้นรัว เขาจำจดคำร่ายเอาไว้ จากนั้นพึมพำอยู่ในใจ ส่วนที่เขาไม่เข้าใจพลันชัดเจนขึ้นมา พอชี้ไปที่ท้องฟ้า ประทับวิญญาณสงครามอันเป็นเอกลักษณ์จึงปรากฏ แม้ว่ามันไม่ได้ตกลงมาแต่แรงกดดันทรงพลังแผ่กระจายไปทั่ว
ขณะมองประทับวิญญาณสงคราม หวังหลินหรี่ตาและจิตใจตื่นเต้น ด้วยระดับ บ่มเพาะของเขาจึงบอกได้ว่าประทับวิญญาณสงครามนี้ไม่ใช่แค่วิชาอย่างเดียว แต่เป็นวิชาเต๋า!
วิชาเต๋าอันทรงพลังยิ่งที่สามารถทำลายได้แม้แต่ฟ้าดิน!
วิชาที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของหวังหลินขึ้นหลายเท่าผ่านกรรมวิธี อันลึกลับ ส่วนสำคัญที่สุดคือต้นตอพลังทั้งสามสายในฝ่ามือนี้ หากทั้งสามถูกใช้งาน จะมีสามฝ่ามือตกลงเข้าทำลายร่างกาย วิญญาณดั้งเดิมและวิญญาณชีวิตในเวลาเดียวกัน!
‘ที่ฉุยต้าวใช้แค่ทำลายร่างกาย วิชาเต๋าที่ข้าเรียนรู้ตอนนี้คือประทับวิญญาณสงครามของจริง!’ หวังหลินสูดหายใจลึก หลังจากจดจำวิชาประทับวิญญาณสงครามให้ขึ้นใจ เขามองไปที่ชายเสียสติ
ในสายตาเขา คนเสียสติผู้นี้คือกล่องสมบัติขนาดยักษ์ที่สามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ…
“ก็ได้ อย่าร้องไห้ไปเลย ข้าขอชื่นชมว่าวิชาของเจ้าทรงพลังจริงๆ ข้าผิดไปแล้วที่ดุด่าเจ้า” หวังหลินลุกขึ้นและขอโทษ คำนับฝ่ามือด้วยสายตาอ่อนลง
ชายเสียสติพ่นลมหายใจ หันหน้ากลับมาโดยไม่ได้มองหวังหลิน
หวังหลินยิ้ม แขนขวายื่นออกไปพลางขบคิด เปิดมิติเก็บของและหยิบเม็ดยาออกมาจำนวนหนึ่ง เขาหยิบยาที่มีกลิ่นหอมรุนแรงที่สุดออกมา
ชายเสียสติพลันสูดกลิ่นโดยไม่รู้ตัว เลียริมฝีปากแต่ฝืนไม่ให้หันไปมอง ทว่ายังชำเลืองสายตาเข้ามา
“ฮึ่ม เม็ดยาพวกนี้นับว่าเป็นอะไรได้เล่า? เม็ดยาที่แย่ที่สุดของข้าให้น้องแดงยังดีกว่าของพวกนี้มากนัก…”
หวังหลินเผยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม พลางถือเม็ดยาหนึ่งเม็ดขึ้นมาบีบ มันแตกสลายและมีกลิ่นหอมกระจัดกระจาย
ชายเสียสติระงับอาการ แต่ท้องสั่นไหว นานมาก มาก มากแล้วที่เขาไม่ได้กินเม็ดยา ตอนนี้จึงรู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อย
“ข้าจะมอบเม็ดยาพวกนี้แทนคำขอโทษ ตกลงหรือไม่?” หวังหลินเอ่ยเสียงอ่อนโยนพลางสะบัดแขน เหล่าเม็ดยาลอยเข้าหาชายเสียสติและลอยค้างอยู่ตรงนั้น
ชายเสียสติกลืนน้ำลายเสียงดัง เขาหันกลับมาจ้องเม็ดยา เอ่ยด้วยความดูถูก “ในอดีตข้าไม่แม้แต่จะชายตามอง พวกมันเป็นแค่ขยะ! แต่ในเมื่อเจ้าประจบข้าเสียแบบนี้ ข้าจะรับไว้แล้วกัน!”
พอเอ่ยขึ้น แขนขวารีบยื่นออกมาคว้าเม็ดยา เมื่อเม็ดยาเข้าไปในปาก ดวงตาพลันส่องสว่าง เขากัดมันให้แตกในไม่กี่คำและกลืนไปอย่างรวดเร็ว
หวังหลินเผยรอยยิ้มและคำนับฝ่ามือ “วิชาของเจ้าช่างอัศจรรย์โดยแท้ แต่ข้าสงสัยว่ามีแค่วิชาเดียวหรือ?”
ชายเสียสติถึงกับภูมิใจ แต่ทันใดนั้นหันไปมองหวังหลินด้วยความระมัดระวัง
“ข้าจำคนที่พูดแบบนี้กับข้าได้ มันเป็นใคร…น้องแดง มันเป็นใคร? เอ๋ ข้าลืมไปแล้ว…แต่ข้าจำได้ว่าคนที่พูดแบบนี้เพียงเพื่อหวังจะหลอกเอาวิชาจากข้า ฮึ่ม ฮึ่ม ข้ามี ไหวพริบ ข้าจะโง่ได้อย่างไร? อย่ามาพยายามหลอกเอาวิชาเต๋าของข้านะ”
“แม้ข้าจะตาย ข้าก็จะไม่บอกบทร่ายลับหรือวิชาอันใดให้เจ้า!”
ชายเสียสติเงยศีรษะขึ้นมาและพ่นลมหายใจเย็น เปล่งสัมผัสราวกับตนเองอยู่สูงกว่า เขาส่ายศีรษะและถอนหายใจ “การเรียนรู้วิชาเต๋ามากมายเป็นเรื่องน่าเบื่อยิ่ง อาาา พรสวรรค์ของข้าช่างสูงล้ำเกินไป ในเมื่อเจ้าเคารพนับถือเสียขนาดนี้ ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น แต่ไม่มีทางที่ข้าจะสอนเจ้าหรอกนะ!”
หลังชายเสียสติกล่าวขึ้น เขายืนและอ้าแขน ยกแขนขวาขึ้นอย่างภูมิใจ จากนั้นท้องฟ้าพลันมืดลง ปรากฏแสงสีแดงสว่างและมีร่มขนาดใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้นมา!
ร่มนี้ใช้ท้องฟ้าเป็นพื้นที่ร่ม ส่วนด้ามจับสร้างขึ้นจากทะเลเพลิงไร้ขอบเขต! เพลิงทำลายล้างผุดออกมากระจายไปทุกทิศทาง ก่อเกิดเป็นเมล็ดอัคคีคล้ายร่มอยู่ เก้าเมล็ด เมล็ดอัคคีเหล่านี้เปล่งกลิ่นอายน่าหวาดกลัวยิ่ง
หวังหลินหรี่ตาแคบ เขาจำได้ว่าวิชานี้คล้ายกับวิชาร่มบรรพกาลเผาดินแดน ที่เขาเองก็รู้จัก แต่สิ่งที่แตกต่างคือเขาต้องเปิดร่มออกมาตอนที่ใช้วิชา ทว่าตอนที่ ชายเสียสติใช้มัน ร่มเปิดออกมาแล้ว!
มันดูคล้ายกัน แต่แตกต่างราวกับฟ้าดิน!
“เป็นอย่างไรเล่า? ราชาผู้นี้แข็งแกร่งมาก หากร่มปิดลง พลังอำนาจจะรุนแรงยิ่ง!” ชายเสียสติสะบัดแขน ร่มหายไปจากท้องฟ้า
“ฮึ่ม ข้าจะไม่สอนให้เจ้านะ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นมันแต่เจ้ามิอาจเรียนรู้มันได้! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นอีก!” ชายเสียสติยกแขนขึ้นอย่างภูมิใจ ทำเป็นท่าคล้ายกำลังจะยิงเกาทัณฑ์ ราวกับเขามีคันศรอยู่ในมือ หวังหลินจดจำได้ว่ามันเหมือนกับท่าที่ลี่กวงใช้!
พลังเกาทัณฑ์อันน่าตื่นตะลึงโผล่ออกมาจากชายเสียสติ หากเขาปล่อยออกไป ราวกับโลกนี้คงถูกพลังเกาทัณฑ์ทำลายจนสิ้น!
“ข้ารู้อีกเยอะ แค่นี้นับเป็นอะไรได้?” อารมของชายเสียสติเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เห็นหวังหลินเริ่มเคร่งขรึม เขาพึงพอใจอีกครั้งและปล่อยเสียงคำรามออกมา คลายแขนลงทำให้พลังเกาทัณฑ์สูญสลาย ขณะเดียวกันฝ่ามือ สร้างผนึกและสะบัดแขน
โลกสั่นสะเทือน ปรากฏเป็นแสงสีรุ้งคือม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง แสงสีรุ้งรวมกันก่อเกิดเป็นหอกเจ็ดสี!
หอกเล่มนี้สั่นสะเทือนสวรรค์และยึดครองทั้งท้องฟ้า ท้องฟ้าฉีกขาดราวกับกำลังโดนหอกฟาดฟันจนแตกเป็นเสี่ยงๆ หวังหลินรู้สึกขนลุก เหงื่อเย็นเฉียบชะโลมไปทั่วร่าง
แสงเจ็ดสีมีพลังแห่งอารมณ์ความรู้สึกอยู่ด้วย พอปรากฏขึ้นมาดูเหมือนสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคนเห็น คล้ายคลึงกับเพลิงไร้ลักษณ์ แต่หวังหลินรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพลิงไร้ลักษณ์ไปเสียอีก!
ชายเสียสติร้องหัวเราะและคลายมือลง ท้องฟ้ากลับคืนเป็นปกติ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ พลางยิ้ม “เป็นอย่างไรเล่า? เป็นอย่างไร? ข้าแข็งแกร่งใช่หรือไม่? เจ้าอยากเรียนใช่หรือไม่?”
“ข้าจะบอกให้เจ้าฟัง มีมากมายหลายคนที่ต้องการเรียนรู้วิชาเต๋าของข้า ฮึ่ม ฮึ่ม ข้าจะมองไม่ออกได้อย่างไร? ไม่มีใครสามารถหลอกข้าได้ แม้เจ้าจะตบตีข้าจนตาย ข้าก็ไม่สอนเจ้า!”
“แม้เจ้าอยากจะเรียน มันก็ไร้ประโยชน์ ช่วยไม่ได้ ช่างน่าสงสารจริงๆ…” ชายเสียสติส่ายศีรษะและยิ่งภูมิใจขึ้น
“ให้ข้าเดาว่าเจ้าจะตอบอย่างไร…ข้าจำได้ว่ามีคนหนึ่งตอบว่าไม่ต้องการเรียนและแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อกระตุ้นความสนใจของข้า ผลก็คือฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า ข้าให้เจ้าเดาผลลัพธ์ ฮ่าฮ่า…ฮ่าฮ่า…ข้าหัวเราะจนท้องแข็งแล้ว…” ชายเสียสติเริ่มหัวเราะและ กุมท้อง
“หากเจ้าตอบว่าใช่ ข้าจะปฏิเสธเจ้าแน่นอน สาวน้อย ข้าเข้มงวดมาก แม้เจ้าพยายามเกลี้ยกล่อมข้า มันก็ไร้ประโยชน์!” ชายเสียสติเริ่มพูดจ้ออีกครั้ง ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งตื่นเต้น
หวังหลินค่อยๆ ยิ้มออกมาพลางมองชายเสียสติ
‘ข้าจำได้ว่าในความทรงจำของอสูรโลกันตร์นั้น เขาไม่รู้เรื่องอสูรโลกันตร์เลยและหวาดกลัวมันมาก…’ หวังหลินยิ้มมากยิ่งขึ้น
ชายเสียสติรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแย่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นตอนที่หวังหลินจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มแบบนี้ เขาดูเหมือนจะจำได้เลือนลางว่านั่นเป็นรอยยิ้มหลังจากที่เขาใช้เวลาไปหลายชั่วโมงใช้ประทับวิญญาณสงครามจนต้องหอบหายใจหนักหน่วง
ขณะนั้นดาวเคราะห์เซียนสั่นเทา ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับพายุกำลังจะปรากฏ เสียงดังสนั่นกึกก้องและมีร่างเงาขนาดใหญ่ค่อยๆ ผุดขึ้นมา
ร่างเงาขนาดใหญ่มากและดูเหมือนวาฬ มันมีหนวดยาวสองเส้นขยับไปตามสายลม
มันคืออสูรโลกันตร์! หลังจากได้ยินเสียงเรียกของหวังหลิน ร่างเงาของมันจึงปรากฏขึ้นมาในโลกของตัวเอง!
วินาทีที่มันปรากฏตัว ใบหน้าภาคภูมิใจของชายเสียสติพลันมลายหายไป รูม่านตาหรี่แคบ ร่างกายสั่นไหวอย่างรุนแรงและกรีดร้องเสียงหลง!
“อ๊า เจ้า เจ้า เจ้า…เจ้าไล่ล่าข้ามาถึงที่นี่!! บัดซบ เจ้ายังไม่ปล่อยข้าไปอีก!!! ข้าไม่อร่อยหรอก ข้าไม่อร่อยจริงๆ อ๊าก!”