1541. หน้าด้านเกินไป
หวังหลินจ้องมองฝ่ามือยักษ์ในท้องฟ้าด้วยสายตาเคร่งเครียด ดูเหมือนมันปรากฏตัวออกมาจากอากาศบางๆ และมีระลอกคลื่นแผ่กระจาย
รอยฝ่ามือทุกเส้นมองเห็นได้ชัดเจน ราวกับเป็นฝ่ามือของคนจริงๆ!
ประทับฝ่ามือนี้แตกต่างจากประทับวิญญาณสงครามที่หวังหลินรู้จัก แต่มีความแตกต่างอย่างล้ำลึก ประทับฝ่ามือที่หวังหลินรู้จักนั้นไม่มีรอยฝ่ามือที่ชัดเจน หลังจากมันปรากฏขึ้นมาจะดูดซับพลังดั้งเดิมจำนวนมากทำให้มันขนาดใหญ่โต ทั้งยังมีพลังอำนาจที่ไม่อาจควบคุมได้ง่ายๆ
ขณะที่ประทับฝ่ามือใหญ่ขึ้นและดูดซับพลังมากขึ้น ในที่สุดเขาก็สูญเสียการควบคุม
หวังหลินรู้ว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้สืบทอดมันและเรียนรู้จากการสังเกตเท่านั้น ประทับฝ่ามือวิญญาณสงครามของจริงที่ฉุยต้าวใช้ก็ไม่มีข้อผิดพลาดนั้น
อย่างไรก็ตามแม้แต่ประทับฝ่ามือที่ฉุยต้าวใช้เองก็ไม่มีรอยฝ่ามือชัดเจนเหมือนที่ชายเสียสติใช้ออกมา ทั้งยังไม่มีระลอกคลื่นประหลาดตรงขอบด้วย
ระลอกคลื่นพวกนี้ดูคล้ายกับเคล็ดวิชาอันทรงพลังจากเต่าดำ!
พลังแห่งการสั่นสะเทือน!
ขณะที่หวังหลินสังเกต สีหน้าท่าทางจึงเคร่งเครียด เขาเฝ้าดูประทับฝ่ามือตกลงใส่พื้นตรงๆ พื้นดินสั่นไหวเกิดเป็นคลื่นกระแทกทำให้พื้นที่รอบด้านกลายเป็นผุยผง
หวังหลินเองก็อยู่ในฝ่ามือนี้ด้วยและสัมผัสได้ว่าฝ่ามือตกลงมาใส่ เขาขบคิดถึงการเปลี่ยนแปลงภายในฝ่ามือ
‘ประทับวิญญาณสงครามที่ทรงพลังอะไรกัน การสั่นสะเทือนเขย่าได้แม้แต่ฟ้าดิน ราวกับผูกมัดโลก ผูกมัดพลังดั้งเดิมของโลกนี้ให้กลายเป็นฝ่ามือ…. หรือกระทั่งผูกมัดพลังดั้งเดิมให้สร้างจิตวิญญาณ จิตวิญญาณที่ห่อหุ้มพลังปราณสวรรค์จนก่อเปิดเป็นประทับฝ่ามือ….ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน…ข้าจำเป็นต้องสืบทอดมันเพื่อค้นหาความลับนี้!’ หวังหลินเลียริมฝีปากและดวงตาส่องสว่าง
หลังจากฝุ่นพุ่งขึ้นมา ชายเสียสติหัวเราะด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เป็นอย่างไรเล่า? เป็นอย่างไร? วิชาของข้าทรงพลังใช่หรือไม่?” ชายเสียสติดูเหมือนโอ้อวดพลังเบื้องหน้าเจ้าวานรทมิฬ แต่ความจริงแล้วเขามองหวังหลินด้วยรอยยิ้มภูมิใจ
หวังหลินยิ้ม
เขามองชายเสียสติและเผยรอยยิ้มเป็นประกาย หลังจากชายเสียสติเห็นรอยยิ้มของหวังหลินนี้จึงเกิดความงุนงง ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเกาศีรษะ ไม่รู้ว่าทำไม หวังหลินถึงได้ยิ้มออกมา
หวังหลินเอ่ยขึ้น “วิชาดีนี้ทีเดียว แต่ข้าเองก็รู้จักวิชานี้เช่นกัน และของข้าก็ ทรงพลังยิ่งกว่าของเจ้า”
ชายเสียสติเผยท่าทีดูถูกพลางชี้ใส่หวังหลินและกัดฟัน “วิชาของข้าทรงพลังที่สุด ไม่มีใครดีกว่าของข้าหรอกเว้นแต่ของพี่ใหญ่! ฮี่ฮี่ เจ้าอยากเรียนรู้จากข้าใช่หรือไม่? พี่ใหญ่บอกข้าว่าไม่สามารถสอนวิชาของข้าให้คนอื่นได้ ถึงแม้เจ้าจะตบตีข้าจนตาย ข้าก็ไม่สอนเจ้า!”
“ก่อนหน้านั้น มีแต่คนที่ต้องการขโมยไปจากข้า แต่ข้ามองออก ฮึ่ม ข้าฉลาดนัก เจ้าไม่ต้องมาโกงข้าหรอก”
ขณะที่ยังกล่าวไม่จบ หวังหลินยกแขนขึ้นใส่ท้องฟ้าและกดลงมา ท้องฟ้าสั่นสะเทือนและปรากฏประทับฝ่ามือเลือนลาง ไม่นานมันก็เริ่มดูดซับพลังดั้งเดิมจนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และกระแทกลงใส่พื้นด้านล่าง
แรงกดดันทรงพลังตกลงมาและเริ่มมีสายลมร้องหอน พื้นดินสั่นสะเทือน เปิดเป็นรอยแยกขนาดยักษ์บนผิวดาวเคราะห์
ชายเสียสติจ้องมองประทับฝ่ามือด้วยสายตาขุ่นมัว ตอนนี้มันกำลังจะร่อนลงไป หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นมา สูดลมหายใจลึกและชี้ไปข้างหน้า
“รวบรวม รวบรวม รวบรวม!”
หลังจากกล่าวคำว่า “รวบรวม” จำนวนสามครั้ง ประทับฝ่ามือหดลงอย่างรวดเร็วจนไม่มั่นคง ราวกับมันกำลังหลุดจากการควบคุม ท้ายที่สุดมันได้ร่อนลงใส่ ดาวเคราะห์ ทั้งดวงดาวสั่นไหวทำให้ชายเสียสติต้องกระโจนขึ้นไปในอากาศ
ประทับฝ่ามือยักษ์ได้ประทับบนพื้นดินอย่างชัดเจน มันมีขนาดกว้างหลายหมื่นฟุตและดูเหมือนหลุมที่ยุบลงไป!
“หากเจ้าสามารถสร้างหลุมด้วยวิชาประทับฝ่ามือได้ใหญ่ขนาดนี้ได้ ข้าจะขอชื่นชมวิชาของเจ้าจากใจเลย” หวังหลินกล่าวช้าๆ จงใจเผยความดูถูก
ความดูถูกนี้ทำให้แววตาชายเสียสติต้องแดงขึ้น เขากวัดแกว่งแขนตีใส่หน้าอกเหมือนเสียงกลอง เขาเพิ่งจะเรียนรู้ท่านี้มาจากวานรทมิฬและรู้สึกว่าการทำแบบนี้จะทำให้เขาฮึกเหิมมาก
“ราชาผู้นี้แข็งแกร่งที่สุด เจ้ารอเดี๋ยว” เขาเต็มไปด้วยความโกรธ ก้าวไปข้างหน้าและใช้แขนขวาชี้ใส่ท้องฟ้า ร้องคำรามออกมาและปรากฏประทับฝ่ามือยักษ์ เพียงแค่สะบัดแขน ประทับฝ่ามือก็ตกลงไปบนพื้น พัดฝุ่นผงจำนวนมากขึ้นมาและเกิดเป็นประทับฝ่ามืออันตื้นเขิน
ชายเสียสติถึงกับตกตะลึง หลังจากมองผลลัพธ์และหลุมลึกที่หวังหลินทำได้ ในแววตาจึงเกิดความบ้าคลั่ง เขาร้องคำรามอย่างหนักแน่นและเริ่มกระหน่ำใส่พื้นดิน
หวังหลินเพ่งสมาธิอยู่ด้านข้างอย่างเต็มที่ ดวงตากะพริบเป็นประกาย เริ่มสรุปวิชานี้จากความเข้าใจ ตอนนี้เขาลืมเลือนทุกอย่างนอกจากชายเสียสติที่กำลังใช้ประทับวิญญาณสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า!
คงไม่มีโอกาสอันใดเหมาะไปกว่าการที่มีคนใช้วิชาเดียวกันอยู่เบื้องหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นเหมือนอาจารย์และลูกศิษย์
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชายเสียสติได้ใช้ประทับจิตวิญญาณสงครามหลายสิบครั้งทำให้ร่องรอยบนพื้นลึกขึ้นอีกนิด แต่มันยังห่างไกลจากหลุมลึกที่หวังหลินทำได้
ชายเสียสติหอบหายใจและเหน็ดเหนื่อยจากการใช้วิชา เขาคิดจะยอมแพ้แต่เมื่อลอบมองดูหวังหลินและเห็นใบหน้าดูถูกเหยียดหยาม
ทำให้เขาโกรธเคืองขึ้น!
“บัดซบ ข้าไม่เชื่อ!” เขาร้องคำราม กระหน่ำวิชาประทับวิญญาณสงครามใส่พื้นดินโดยลืมไปว่าตนเองเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน!
หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมง…ทุกครั้งที่กำลังจะยอมแพ้ เขาจะเห็นใบหน้า ดูถูกของหวังหลิน เขาไม่สามารถทนดูสีหน้านั้นจากหวังหลินได้!
แววตาหวังหลินเต็มไปด้วยโลหิต เขาสังเกตอย่างละเอียดพร้อมกับแขนขวาสะบัดอยู่เบื้องหน้า เขากำลังใช้ความเข้าใจของตนเองเพื่อค้นความลับของวิชานี้
ผ่านไปหกชั่วโมง ชายเสียสติได้ใช้วิชาประทับวิญญาณสงครามไปหลักร้อยครั้ง เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ อ้าปากหอบหายใจจนลิ้นห้อย ราวกับไม่สามารถหายใจได้ทันท่วงที
“บัดซบ เหนื่อยเกินไป ข้าไม่เล่นแล้ว! หากข้าไม่ชนะ ข้าไม่ชนะแล้วอย่างไรเล่า? ข้าจะไปนอน” เขาพึมพำ ขณะที่กำลังจะยอมแพ้ เขามองดูหวังหลิน ตกตะลึงไปชั่วขณะ
เขาเห็นใบหน้าตกตะลึงของหวังหลิน!
ใบหน้าตกตะลึงนี้ทำให้ชายเสียสติที่กำลังจะยอมแพ้ถึงกับเกิดอาการตื่นเต้น เขาร้องคำรามและใช้สองแขนตีหน้าอก
หากหวังหลินยังมีท่าทีดูถูก เขาคงเลือกจะเมินเฉยหวังหลินเพราะเหน็ดเหนื่อยเกินไป ทว่าใบหน้าตกตะลึงของหวังหลินทำให้เขามุ่งมั่น
“ฮ่าฮ่า ในที่สุดสาวน้อยก็เข้าใจข้าแล้ว ฮึ่มฮึ่ม ข้าต้องเพิ่มแรงอีกนิดเพื่อแสดงให้เจ้าเห็นว่าข้าแข็งแกร่งแค่ไหน!” ชายเสียสติกำลังตื่นเต้นและเริ่มกระหน่ำอีกครั้ง
หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเริ่มทำความเข้าใจวิชาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเวลาผ่านไป ประทับฝ่ามือยิ่งชัดเจนอยู่ในจิตใจของเขามากขึ้นและยิ่งลึกล้ำ
เจ็ดชั่วโมง แปดชั่วโมง…จนกระทั่งเก้าชั่วโมงต่อมา ชายเสียสติดวงตาแดงฉาน ส่งเสียงร้องคำรามและปล่อยประทับจิตวิญญาณครั้งสุดท้าย พื้นดินสั่นไหว หลังจากผ่านไปเก้าชั่วโมง ในที่สุดผลลัพธ์ของประทับฝ่ามือก็ได้เท่ากับที่หวังหลินเคยทำไว้
หลังจากเสร็จสิ้น ชายเสียสติเริ่มจะคลานอยู่บนพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่เขายังมองหวังหลินและร้องตะโกนเสียงแหบ “เป็นอย่างไรเล่า? เป็นอย่างไร? วิชาของราชาผู้นี้ทรงพลังที่สุดใช่หรือไม่!?”
หวังหลินเผยความตกตะลึงและเอ่ยขึ้นช้าๆ “ข้าต้องตรวจสอบมันด้วยตัวเองก่อน”
“ไปตรวจสอบเลย ข้าจะรอ!” ชายเสียสติพูดอย่างดูถูกแต่ไม่ได้เผยแววตาแห่งความสุขออกมา สีหน้าตกตะลึงของหวังหลินทำให้เขารู้สึกพอใจราวกับความอ่อนเพลียหายเป็นปลิดทิ้ง
หวังหลินลุกขึ้นและก้าวเข้าไปหาหลุมที่ชายเสียสติทำเอาไว้ เขาเริ่มสังเกตอย่างละเอียด แม้ชายเสียสติกำลังพักผ่อน เขากำลังจ้องดูท่าทีของหวังหลินอย่างต่อเนื่อง เขาต้องการดูว่าหวังหลินจะตกตะลึงแค่ไหน
ทว่าชายเสียสติรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ สีหน้าหวังหลินที่เดิมทีเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่ความตกตะลึงนั้นค่อยๆหายไปและแทนที่ด้วยความสงบนิ่ง สีหน้าดูถูกที่เขาไม่อาจทนได้ พลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
หลังจากเห็นสีหน้าดูถูกของหวังหลิน ชายเสียสติกลับโกรธขึ้นมา จ้องหวังหลินและร้องคำราม
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะร้ายกาจขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าวิชาของเจ้าเทียบกับของข้าไม่ได้ และเจ้าลอบใช้วิธีขี้โกง…” หวังหลินส่ายศีรษะ สีหน้าดูถูกยิ่งรุนแรงขึ้น เขาหันตัวกลับมานั่งลงโดยไม่ได้มองชายเสียสติ
ชายเสียสติแข็งค้างไปชั่วขณะ สีหน้าแดงฉานและพุ่งมาหาหวังหลิน “ข้าไม่ได้โกง ข้าไม่ได้โกง!”
หวังหลินเบิกตากว้าง เอ่ยอย่างเย็นชา “วิชาที่เจ้าใช้ตลอดเวลาไม่เหมือนกับในตอนแรกเริ่ม อย่าพยายามมาหลอกข้า!”
“เจ้ากล่าวหาข้า ข้าใช้วิชาเดียวกันตลอด ข้าไม่ผิด! เจ้าดูใกล้ๆสิ ดูใกล้ๆ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า…” ชายเสียสติเริ่มจะเคร่งเครียด แววตามีน้ำขึ้นมา เขารู้สึกผิดมหันต์ ผิดพลาดเป็นอย่างยิ่ง เขาเหนื่อยมาหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงจุดนี้แต่แล้วกลับถูกเรียกว่าคนหลอกลวง