1561. รู้สึกเจ็บปวด สมบัติประทานพร
‘เข้าสู่ขั้นที่สามด้วยแก่นแท้สังหารโดยไม่ใช้เพลิงนรกานต์ช่วย แก่นแท้สังหารในตัวฉิงชุ่ยถูกร่างสีรุ้งปลูกฝังเอาไว้แต่ไม่ได้ชิงเอาไป ส่วนใหญ่ยังอยู่ในร่างฉิงชุ่ย ดังนั้นเมื่อผนึกถูกถอนออก มันจึงกระตุ้นประตูดับสูญ!’ หวังหลินวิเคราะห์สถานการณ์ในทันที
‘แต่ทำไมร่างสีรุ้งถึงไม่เอาแก่นแท้สังหารไป…เป้าหมายของเขาคืออะไร? เขาไม่ได้ทำลงไปเพื่อแก่นแท้สังหารเหมือนที่ข้าคิด…ถ้าไม่ใช่เพราะแก่นแท้สังหาร แล้วเขาทำลงไปเพื่ออะไร…’
‘เขาต้องการอะไรจากศิษย์พี่ฉิงชุ่ย?’ หวังหลินดวงตาส่องส่วาง ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดพลาด จากนั้นความคิดหนึ่งแวบผ่านเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าหนามที่ทะลุผ่านศีรษะของฉิงชุ่ยนั้นโผล่ออกมาหลายนิ้ว!
‘พื้นที่กลางหน้าผากนั้นเป็นจุดเชื่อมระหว่างความเป็นความตาย แต่หนามกลับโผล่ออกมาหลายนิ้ว ร่างสีรุ้งพูดว่ามันเป็นการเปิดวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่…การเกิดใหม่…การเกิดใหม่ไม่มีตัวตน เป็นไปได้ว่าเป้าหมายของร่างสีรุ้งเพื่อให้ศิษย์พี่ฉิงชุ่ยเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ผ่านแก่นแท้สังหาร…แต่กระนั้น เพื่ออะไร…’
‘มีข้อสังเกตหนึ่งที่เขากล่าวว่าข้าไม่มีความสัมพันธ์กับเขา หรือนั่นหมายความว่าระหว่างเขากับศิษย์พี่ฉิงชุ่ยมีความสัมพันธ์บางอย่าง…หากเป็นแบบนั้น ความสัมพันธ์อะไร…’ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคว้าอะไรได้บางอย่างแต่ก็ยังไม่ชัดเจน
นับตั้งแต่ที่เขาพบทันหลางในดินแดนตกสวรรค์และได้รับรูปปั้นเจ็ดสีมา หวังหลินคว้าได้แต่หมอกบางๆ เบื้องหลังหมอกนี้มีความลับที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอก!
หวังหลินยังไม่อาจมองเห็นความลับได้เพราะหมอกนี้ จนกระทั่งเกิดการรบกับดินแดนชั้นนอกในทะเลเมฆา การปะทะระหว่างราชันย์และผีเฒ่าจางได้ทำให้ หวังหลินเริ่มสังเกตได้อีกครั้ง
จากมุมมองของหวังหลิน สงครามที่เกิดขึ้นซ้ำๆระหว่างดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในนั้นเกี่ยวข้องกับความลับที่ซ่อนอยู่ในหมอกนี้!
‘ร่างสีรุ้งกำลังหาอะไร?’ หวังหลินคิดเกี่ยวกับผลึกในหลังเต่าดำที่เขาเอามา
เสียงดังสนั่นขัดจังหวะความคิดหวังหลิน เขามองขึ้นไปเห็นฉิงชุ่ยชี้ใส่ประตูดับสูญ
ประตูส่งเสียงดังลั่นและเผยสัญญาณว่ากำลังจะเปิด
พอจ้องมองประตูดับสูญ หวังหลินเผยความปรารถนา เขาต้องการกลายเป็นเซียนขั้นที่สาม ด้วยระดับบ่มเพาะที่สูงส่งพอเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติในการล่วงรู้ความลับเบื้องหลังสายหมอกและฟื้นคืนชีพลี่มู่หวาน!
‘ชีวิตและความตาย เวรกรรม จริงเท็จ ข้าต้องทำสามแก่นแท้นี้ให้สมบูรณ์… มันคงอีกไม่ไกล!’ หวังหลินดวงตาเปล่งประกายและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
‘ตอนนั้นข้ามีผลไม้เต๋าสองผลแล้ว อีกหนึ่งผล ข้ามั่นใจว่าจะสำเร็จถึงเก้าในสิบส่วน! ขั้นที่สามอยู่ไม่ไกล!’ หวังหลินสูดหายใจลึก เสียงดังสนั่นกึกก้อง ฉิงชุ่ยหัวเราะพลางพุ่งใส่ประตูดับสูญ
เขาสะบัดแขนปรากฏแก่นแท้สังหารมหึมา หิมะสีดำจำนวนมากรวมตัวกันเบื้องหน้าก่อเกิดเป็นกระบี่ยาว เขาคว้ากระบี่ไว้และฟาดฟันใส่ประตูดับสูญ!
“วันนี้ ขุนนางเทพจะบรรลุเต๋า ทะลวงประตูดับสูญและเข้าสู่เส้นทางแห่งยอดเต๋า!”
อำนาจแห่งกระบี่เล่มนี้สั่นสะเทือนสวรรค์ มันสร้างพายุสีดำพุ่งเข้าใส่ประตูดับสูญ
พายุสีดำเข้าประชิดประตูดับสูญในทันที ทั่วทั้งดาวเคราะห์ร้างสั่นสะท้าน เสียงดังกึกก้องกัมปนาท
พายุกระแทกใส่จนเกิดรอยแตกละเอียกบนประตูดับสูญ มันถูกเปิดด้วยการฝืนกำลัง!
หวังหลินมองฉิงชุ่ยพลางสูดหายใจลึก แก่นแท้สังหารในตัวฉิงชุ่ยนั้นทรงพลังยิ่ง เป็นแก่นแท้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่หวังหลินเคยพบเห็น พลังนี้ กลิ่นอายนี้ช่างน่าตกตะลึงยิ่ง!
ส่วนเล็กๆของประตูถูกหวังหลินพังทลายและดันเข้าไปข้างใน แสงเบาบาง เล็ดลอดออกมาและห่อหุ้มเขา
แสงนี้ไม่มีสีและเต็มไปทั่วท้องฟ้า รวบรวมบนตัวฉิงชุ่ย จากนั้นกลิ่นอายของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานจึงเป็นกลิ่นอายของเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้น
กลิ่นอายแฝงการเข่นฆ่า เงาร่างนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบฉิงชุ่ย ทั้งหมดคือคนที่ฉิงชุ่ยสังหาร!
เงาร่างทั้งหมดต่างก็สั่นเทาและมองมายังฉิงชุ่ย พวกเขาดูเหมือนกำลังกรีดร้องแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอด
ภายใต้เสียงกรีดร้องเงียบงันนี้ เงาร่างทั้งหมดต่างก็ตัวสั่นและคุกเข่า เริ่มเทิดทูนฉิงชุ่ย! ทว่ามีร่างหนึ่งที่ไม่ได้คุกเข่ามองฉิงชุ่ยแต่เป็นรอยยิ้มอ่อนโยน
เป็นสตรีนางหนึ่ง!
ฉิงชุ่ยมองสตรีผู้นั้น หยาดน้ำตาไหลรินลงมาสองข้าง เขายื่นมือขวาออกไป รอยยิ้มของนางสว่างไสวและนางค่อยๆเดินมาหาเขา
นางเข้ามาใกล้จนกระทั่งอยู่ด้านหน้าฉิงชุ่ย นางถูกฉิงชุ่ยสวมกอด หยาดน้ำตาไหลรินออกมามองสตรีในอ้อมแขนและร้องไห้อย่างเจ็บปวด
เขาคือขุนนางเทพ เซียนขั้นที่สามผู้มีแก่นแท้สังหารที่ไม่ร้องไห้แม้จะอดทนต่อความเจ็บปวดเกินจินตนาการจากหนามสิบแท่งที่ถูกดึงออกมา แต่ในยามนี้ เมื่อฉิงชุ่ยสวมกอดนาง เขาจึงร้องไห้ออกมา
เขาเหมือนคนธรรมดาที่กอดสตรีผู้หนึ่งและมีหยาดน้ำตาไหลรินมากขึ้น เขาสวมกอดนางแน่นมากราวกับกังวลว่านางจะหายไปและทิ้งเขาไว้ตลอดกาล
นางกัดริมฝีปาก ยิ้มออกมาพร้อมดวงตามีน้ำใสๆ ทว่าน้ำตานั้นเป็นเพียง ภาพมายาเนื่องจากวิญญาณไม่มีน้ำตา นางสามารถร้องไห้ได้แต่ไม่มีน้ำตาอยู่จริง
เป็นความโศกเศร้าของวิญญาณ
นางยิ้มเงียบๆและร้องไห้เงียบๆอยู่ในอ้อมกอดของฉิงชุ่ย นางค่อยๆยกแขนขึ้นมาปาดน้ำตาของฉิงชุ่ย แต่นางมิอาจสัมผัสเขาได้
ความเศร้าในแววตาฉิงชุ่ยทำให้หัวใจนางเจ็บปวด ฉิงชุ่ยเองก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาสัมผัสเรือนผมนางแต่ก็ไม่อาจสัมผัสนางได้
เขาเห็นนางทะลุผ่านมือของเขาไปอย่างช้าๆและล่าถอยราวกับมีบางอย่างดึงนางไว้ นางเสมือนหมอกควันและกำลังจะหายไป
“ฮันหยาน!!!” ฉิงชุ่ยส่งเสียงร้องคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ นาทีนี้เขาลืมเลือนว่าต้องเปิดประตูดับสูญ ลืมเลือนทุกอย่าง สิ่งเดียวในดวงตาคือสตรีตรงหน้า!
ภรรยาของเขา ฮันหยาน! เพื่อให้ได้ภรรยามาอยู่เคียงข้าง เขาทำลายดินแดนสังหารไปทั้งดินแดน ความรักที่มีต่อภรรยาคือโลกของเขา เป็นความสุขและยังเป็น ต้นตอแห่งความเจ็บปวด
ภรรยาของฉิงชุ่ยปรากฏตัวขึ้นเพราะเขาทะลวงเปิดประตูดับสูญและทำแก่นแท้สังหารได้สมบูรณ์ ทว่าเมื่อเห็นนางกำลังจะหายไปอีกครั้ง จึงส่งเสียงคำรามอย่างโศกเศร้า พุ่งไปข้างหน้า ต้องการรักษาวิญญาณของภรรยาเอาไว้!
แม้ไม่ได้บรรลุขั้นที่สาม แม้ต้องละทิ้งทุกสิ่ง เขาก็จะเก็บวิญญาณดวงนี้เอาไว้! แม้วิญญาณนี้จะไม่สมบูรณ์ แม้จะเป็นเพียงโครงร่างอันอ่อนแอที่สร้างขึ้นจาก ประตูดับสูญ…
อย่างไรก็ตามร่างของนางยิ่งห่างออกไปไกลลิบ ในแววตาของนางไม่มีรอยน้ำตาแต่เป็นใบหน้าแห่งความเศร้าที่เขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
แม้ทั้งหมดนี้เป็นความเศร้า นางยังคงยิ้มและมองฉิงชุ่ยอย่างเงียบๆ
หวังหลินมองเหตุการณ์ทั้งหมดและยื่นมือออกไปเงียบๆ ปรากฏรอยแยกขึ้นมาในอวกาศและมีใบไม้โบราณผุดขึ้นใบสิบ เขาไม่รู้ว่าจะช่วยฉิงชุ่ยได้หรือไม่ แต่ต้องลองดู
หวังหลินสร้างเขตอาคมหลายล้านชุด เพิ่มพลังอำนาจของใบไม้โบราณ สะบัดแขนชี้ใส่สตรีที่กำลังหายไป ใบไม้โบราณพุ่งไปในทันที
หวังหลินกัดฟันแน่นก่อนจะกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตสีทองออกมา โลหิตที่มีพลังแห่งสายโลหิต โลหิตของเหล่าเทพ!
พลังปราณสวรรค์ห่อหุ้มใบไม้โบราณทำให้พวกมันกลายเป็นสีทอง พวกมันลอยทะลุผ่านฉิงชุ่ยไป ล้อมรอบนางและผนึกเอาไว้!
ร่างกายนางพลันหยุดกึก กลิ่นอายสีทองห่อหุ้มนางและมีใบไม้โบราณพุ่งใส่ พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นผนึกและทำให้ร่างกายนางเป็นรูปเป็นร่าง
ฉิงชุ่ยคว้าร่างนางเอาไว้ หยาดน้ำตาไหลรินจากใบหน้า เอ่ยพึมพำออกมาอย่างจับใจความไม่ได้ นางกอดฉิงชุ่ยอย่างเงียบๆ ดูราวกับคงอยู่ไปชั่วกาลนาน
ผ่านไปสักพัก ฉิงชุ่ยเงยศีรษะขึ้นมาสะบัดแขน ปิ่นปักผมโบราณปรากฏขึ้นมา ของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ภรรยาทิ้งไว้ให้และเขาได้นำมันกลับมาจากดินแดนสังหาร ฉิงชุ่ยค่อยๆวางปิ่นปักผมใส่ในเรือนผมของนาง
แววตาผุดความเศร้าอย่างรุนแรง ครู่ต่อมาจึงหันมามองหวังหลินด้วยสายตาขอบคุณเกินคำอธิบาย
แขนซ้ายยื่นออกไป กระบี่สีดำที่เขาใช้ทะลวงเปิดประตูดับสูญพลันปรากฏขึ้น เขาสะบัดมัน จากนั้นวิญญาณทั้งหมดนอกจากภรรยาจึงถูกกระบี่สีดำดูดซับ
แก่นแท้สังหารอันทรงพลังระเบิดออกมาจากกระบี่และกวาดไปทั่วโลก
“หวังหลิน กระบี่เล่มนี้สร้างขึ้นจากประตูดับสูญแตกหักของข้า มันช่วยข้าเปิดประตูดับสูญและมีกลิ่นอายแห่งความดับสูญ ทั้งยังมีวิญญาณข้าและชีวิตแห่งการ เข่นฆ่า มันสร้างขึ้นจากแก่นแท้สังหารของข้า ข้าขอมอบมันให้เจ้า! หากเจ้าหลอมมัน เจ้าจะได้รับแก่นแท้สังหาร!”
ฉิงชุ่ยโยนกระบี่สีดำให้หวังหลินและมันลอยมาอยู่เบื้องหน้าเขา กลิ่นอายสังหารที่ออกมาทำให้หวังหลินตกตะลึง
กระบี่เล่มนี้คือแก่นแท้สังหารที่สมบูรณ์แบบ!
กระบี่เล่มนี้กล่าวได้ว่าเป็นสมบัติที่ทรงพลังที่สุดของฉิงชุ่ยและเป็นสมบัติแก่นแท้ชิ้นแรกของเขา! ไม่ใช่เซียนทุกคนจะสามารถสร้างสมบัติแก่นแท้ได้ตอนที่ทะลวงเปิดประตูดับสูญ คนเหล่านี้ช่างหาได้ยากยิ่ง!
บรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิง หนานจ้าว อาจารย์เทียนจ้าว โจวจิน หลินตง ไม่มีใครเลยที่ทำแบบนี้ได้ แม้กระทั่งปรมาจารย์หงซานและจ้าวเมฆาใต้ก็ทำไม่ได้
นี่แสดงให้เห็นว่าสมบัติชิ้นนี้มีค่าแค่ไหน!