1562. อัญเชิญนที
ประตูดับสูญแตกหักและมีพลังรั่วไหลออกมา ฉิงชุ่ยเปลี่ยนวิญญาณของภรรยาตัวเองให้กลายเป็นอักขระและประทับไว้ใกล้ๆหัวใจ
ไม่ใช่ว่าเขาจะเก็บนางไว้ในมิติเก็บของไม่ได้ แต่ฉิงชุ่ยไม่อยากทำแบบนั้น
ฉิงชุ่ยตั้งใจมอบกระบี่สังหารให้แก่หวังหลิน ดังนั้นหวังหลินจึงเก็บมันไว้ เศษเสี้ยวแก่นแท้สังหารของหวังหลินถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงการสู้รบครั้งแรกกับดินแดนชั้นนอก ทว่าแก่นแท้นี้อ่อนแอมากและเพิ่งกำเนิด
ด้วยกระบี่สังหารเล่มนี้ หวังหลินจะมีได้หกแก่นแท้! ส่วนเรื่องอักขระต่อสู้นั้นมันไม่ใช่แก่นแท้ มันเปลี่ยนกลายเป็นดวงดาวแห่งกฎเมื่อนานมาแล้วและถูกสลักไว้ในส่วนลึกของร่างกายหวังหลิน
หวังหลินไม่มีเจตนาจะหลอมแก่นแท้สังหารในทันที ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เขาจะรอให้แก่นแท้เวรกรรม ชีวิตและความตาย จริงเท็จ ทั้งสามแก่นแท้สมบูรณ์ก่อน เมื่อนั้นตอนที่กำลังจะเปิดประตูดับสูญ เขาจะดูดซับแก่นแท้สังหารและทะลวงเปิดประตูในอึดใจเดียวเพื่อกลายเป็นเซียนขั้นที่สามผู้มีหกแก่นแท้อันหาได้ยากยิ่ง!
ฉิงชุ่ยลงมาจากฟ้า มองดูประตูดับสูญที่กำลังแตกสลาย แขนขวายื่นออกไปคว้าน้ำเต้าสีเขียวที่มีสุราโลหิตมังกร ดื่มไปหนึ่งอีก รสชาติเผ็ดร้อนแผ่กระจายไปทั่วร่าง ดวงตาค่อยๆเย็นลง ส่งขวดสุราไปให้หวังหลิน
ทั้งสองมองประตูดับสูญที่กำลังแตกสลายบนดาวเคราะห์รกร้าง สายลมเย็นๆกระทบใบหน้า พัดพาฝุ่นผงออกไป
ไม่มีใครเอื้อนเอ่ย
หวังหลินไม่ได้ถามฉิงชุ่ยว่าเขาได้ค้นพบคำตอบที่ต้องการในดินแดนเจ็ดสีหรือไม่
ฉิงชุ่ยไม่ได้เอ่ยปาก มีเพียงความเข้าใจที่ค้นพบและเรียนรู้เท่านั้น ทว่าในท้ายที่สุดแล้วยิ่งเขารู้มากขึ้นก็ยิ่งขบคิด
“เกมกระดาน…” แววตาฉิงชุ่ยกะพริบเย็นเยียบ แต่บนใบหน้ามีความขื่นขม เขารับขวดสุรามาจากหวังหลิน ดื่มไปอึกใหญ่ก่อนจะหัวเราะ
“หวังหลิน สัญญากับข้าหนึ่งอย่าง!” เสียงหัวเราะของฉิงชุ่ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น พลางมองใบหน้าหวังหลิน
หวังหลินไม่เอ่ยตอบแต่พยักหน้ารับ
“หากวันใดวันหนึ่งที่ข้าตาย หากข้ายังมีร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วน จงนำร่างข้าไปฝังที่บ้านเกิด อย่าเขียนชื่อบนป้ายหลุมศพ ทำพิธีธรรมดาให้ข้าก็ดีมากแล้ว…” ฉิงชุ่ยมองไปบนท้องฟ้า
หวังหลินขบคิดเงียบๆ หลังผ่านไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “หากไม่มีบ้านเกิดเหลืออยู่…”
“เช่นนั้นจงฝังข้าในโลกนี้” ฉิงชุ่ยดื่มไปอีกหนึ่งอึก โลหิตบางส่วนเลอะออกมาจากมุมปาก แสงสีแดงเปล่งประทบแสงตะวัน
“ตกลง!” หวังหลินรับขวดสุราจากมือฉิงชุ่ยและดื่มไป สีหน้าท่าทีเคร่งขรึมและดวงตาส่องสว่าง
“หากข้าตายก่อนท่าน ส่งข้ากลับไปที่ดาวซูซาคุ แคว้นจ้าว ตระกูลหวัง…”
ฉิงชุ่ยมองหวังหลินและพยักหน้าอย่างช้าๆ
นี่คือคำสัญญา!
สุราโลหิตมังกรนั้นรุนแรงและสามารถทำให้มึนเมาเป็นอย่างดี แต่กลับไม่ทำให้หวังหลินและฉิงชุ่ยเมาได้เลย ประตูดับสูญเริ่มสูญสลายไปตอนที่ไม่มีสุราเหลือมากนัก
ฉิงชุ่ยหลับตา มองดูโดดเดี่ยวเล็กน้อย เอ่ยขึ้นกับหวังหลิน “หวังหลิน ข้าไม่เคยถามเจ้ามาก่อน…เจ้ามีลูกหลานหรือไม่?”
“ข้ามีลูกชาย…” แววตาหวังหลินเผยความเศร้า เขาดื่มสุราโลหิตมังกรที่เหลืออยู่น้อยนิดลงไป สุราไม่เผ็ดร้อนอีกแล้วแต่เปลี่ยนกลายเป็นความเจ็บปวด
“ข้ามีลูกสาว…” ฉิงชุ่ยลืมตา เผยความคิดถึงและขื่นขม
“แต่ว่า ข้ามิอาจตามหานางได้…บางทีนางไม่อยู่แล้วและจากไปตลอดกาล” ฉิงชุ่ยนึกถึงอดีตด้วยความโศกเศร้า ตอนที่เขากลับมามีสติและกอดศพภรรยา มีเด็กสาวอายุเจ็ดถึงแปดขวดกำลังร้องห่มร้องไห้อยู่ไกลๆ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต นางกอดกระเรียนที่ตายไปแล้ว มองดูพ่อและแม่ด้วยสายตาน่ากลัว
“บางทีนางเวียนว่ายตายเกิดไปแล้วและกลายเป็นอีกคน แต่ตอนที่นางเกิดข้าได้ทิ้งอักขระสีแดงไว้บนไหล่นาง อักขระนั้นจะอยู่เคียงคู่กับนางเสมอ หากเจ้าเจอผู้หญิงคนนั้น โปรดดูแลนางให้ข้าด้วย…”
เงาประตูในท้องฟ้าเลือนหายไปอย่างสิ้นเชิง
ฉิงชุ่ยยืนขึ้นและปล่อยลมหายใจยาว แววตาผุดความเย็นเยียบ
“หวังหลิน ข้าต้องการสังหาร!” ฉิงชุ่ยยกแขนขวาขึ้นมา ระเบิดแก่นแท้สังหารอันทรงพลังยิ่งออกจากร่าง มันรวมกันในมือขวา ห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายเย็นวาบและมีสีดำ
กลิ่นอายหนาวเย็นแผ่กระจายทำให้ดาวเคราะห์รกร้างแห่งนี้เย็นตัวลง
แก่นแท้สังหารเป็นแก่นแท้ที่พิเศษยิ่ง มีน้อยคนนักที่ได้ครอบครองแก่นแท้นี้ ทั้งยังสามารถทะลวงเปิดประตูดับสูญได้ง่ายๆดี แก่นแท้นี้มีขีดจำกัดอยู่ที่การเข่นฆ่า
แม้ฉิงชุ่ยจะเป็นขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้น ต้องขอบคุณแก่นแท้สังหารและ การต่อสู้หลายหมื่นปีของเขา เพราะแม้กระทั่งเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับปลายยังต้องหวาดกลัวการเผชิญหน้ากับฉิงชุ่ย!
“สังหาร…เยี่ยม!” หวังหลินยืนขึ้นและก้าวเข้าหาท้องฟ้า ระลอกคลื่นดังกึกก้อง เขาหายตัวไปในโลกนี้ทันที ฉิงชุ่ยก้าวเข้าไปในระลอกคลื่นที่หวังหลินสร้างขึ้นมาและหายตัวไปพร้อมกัน
หากทั้งดาราจักรฟ้ากระจ่างเป็นทะเลสาบและสิ่งที่ลอยอยู่ในน้ำคือเหล่าดาวเคราะห์ เช่นนั้นตอนนี้มีระลอกคลื่นบนผิวน้ำเสมือนมัจฉาสองตัวกำลังว่ายผ่านทะเลสาบ
ในดาราจักรฟ้ากระจ่างไม่ได้มีเซียนดินแดนชั้นนอกมากนัก อีกทั้งพันธมิตรเซียนก็เป็นเพียงกองบัญชาการชั่วคราว ส่วนใหญ่ตายไปในระหว่างการสังหารสั่นสะเทือนสวรรค์ก่อนหน้านี้
การสังหารนี้ถูกกวาดล้างโดยหนึ่งอาจารย์และลูกศิษย์ ด้วยระดับบ่มเพาะของปรมาจารย์หลงผาน เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกจึงยากจะรอดชีวิตได้
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของปรมาจารย์หลงผานคือดาราจักรอัญเชิญนที ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ในดาราจักรฟ้ากระจ่าง ซึ่งทำให้มัจฉาบางตัวว่ายได้อย่งาอิสระ
เซียนดินแดนชั้นนอกสามคนที่มีอักขระกลางหน้าผากกำลังท่องทะยานผ่านดวงดาวด้วยความระมัดระวัง พวกเขาไม่กล้าทะยานเร็วเกินไปเนื่องจากกลัวจะทำให้เกิดความผันผวนจนไปทำให้คนอื่นสนใจ
“ไม่มีการตอบสนองจากหยกสื่อสาร ข้ากลัวว่าคนอื่นกำลังเผชิญอันตราย บัดซบ เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
“เราไม่สามารถกลับไปพันธมิตรเซียนได้แล้ว ข้ากลัวว่าจะมีปัญหาบางอย่างที่นั่น หรือว่าดินแดนชั้นในเริ่มโต้กลับ? เราไปซ่อนในดาวเคราะห์เซียนจะดีที่สุด จนกว่ากองกำลังหลักจะเข้ามา”
ขณะที่ทั้งสามคนทะยานไป พวกเขาส่งข้อความให้กันเอง ขณะนั้นระลอกคลื่นสองสายผ่านมาและส่งจิตสังหารมหึมาผ่านทั้งสามคนไป
เมื่อสองระลอกคลื่นผ่านไป เซียนดินแดนชั้นนอกสามคนสั่นเทา มิอาจกล่าวอะไรได้สักคำ บนร่างเกิดรอยแตกร้าวละเอียดนับไม่ถ้วน จากนั้นร่างกายก็แตกสลาย ดวงวิญญาณดั้งเดิมฉีกขาดและตายทันที
เหตุการณ์คล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นในสถานที่แห่งอื่นในดาราจักรฟ้ากระจ่าง ทุกขั้นฟ้าและทะเลเมฆา หลังจากปรมาจารย์หลงผานผ่านไปไม่ได้ไม่นาน เซียนดินแดนชั้นนอกที่เหลืออยู่จึงพบเจอกับความบ้าคลั่งของฉิงชุ่ย
ดอกไม้โลหิตเบ่งบานเผยความงดงามแห่งความตาย
สองระลอกคลื่นกวาดผ่านดาราจักรทั้งสามแห่งและจากนั้นเข้าสู่ดาราจักรอัญเชิญนที! ดาราจักรอัญเชิญนทีนั้นถูกเซียนดินแดนชั้นนอกครอบครองไว้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงมีเซียนดินแดนชั้นนอกอยู่มากมายที่นี่
ขณะที่ทั้งสองเข้าสู่ดาราจักรอัญเชิญนที กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งรุนแรง แต่แค่กลิ่นคาวโลหิตนี้มิอาจหยุดคนทั้งสองได้ พวกเขาผ่านดาวเคราะห์แต่ละดวงอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดจึงได้พุ่งสู่ส่วนลึกของดาราจักรอัญเชิญนที เข้าหาดินแดนเจ็ดสีแห่งสุดท้าย! ที่นี่คือที่ที่ร่างดั้งเดิมของปรมาจารย์หงซานถูกผนึกเอาไว้!
ท่ามกลางดวงดาวมีรอยแยกขนาดใหญ่เปล่งแสงสีรุ้งอยู่แพรวพราว ด้านนอกรอยแยกมีชิ้นส่วนแขนขากระจัดกระจายหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นของเซียนดินแดนชั้นนอกที่ตายกันอยู่ที่นี่
เสียงดังสนั่นกึกก้องออกมาจากภายในดินแดนเจ็ดสี เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดการต่อสู้รุนแรงอยู่ข้างใน!
ระลอกคลื่นทั้งสองเข้าใกล้ ระลอกคลื่นเต็มไปด้วยจิตสังหารมหึมาจนทิ้งเป็นทางน้ำแข็งไว้ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าพุ่งเข้าหารอยแยกเจ็ดสี
เมื่อมาถึง แขนขาและซากศพนับไม่ถ้วนถูกห่อหุ้มอยู่ในน้ำแข็ง ความหนาวเย็นแพร่กระจายไปทุกที่ ระลอกคลื่นจิตสังหารทรงพลังเข้าไปใกล้รอยแยกเจ็ดสี เมื่อระลอกคลื่นหายไปจึงปรากฏเป็นฉิงชุ่ย เขาเข้าสู่ดินแดนเจ็ดสีโดยไม่ลังเล
หวังหลินเองก็ปรากฏตัวเช่นกัน เขาดูเหนื่อยเล็กน้อยพลางก้าวเข้าสู่ดินแดนเจ็ดสี
ขณะที่หวังหลินก้าวเข้าสู่ดินแดนเจ็ดสีในดาราจักรอัญเชิญนที จึงได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนในทันที ดินแดนเจ็ดสีแห่งนี้แตกต่างจากอีกสองแห่งที่หวังหลินเคยเห็น มันมีแผ่นดินขนาดใหญ่หลายแห่งลอยตัวอยู่ด้วย
ทว่าพื้นที่ในนี้กลับเต็มไปด้วยเศษแผ่นดินจนเหลือดินแดนอยู่แค่สามแห่งเท่านั้น ปรมาจารย์หลงผานกำลังต่อสู้กับคนชุดดำ ขณะที่ทั้งสองคนสะบัดฝ่ามือ เกิดเป็นเสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือนสวรรค์
หวังหลินเคยเห็นชายชราชุดดำผู้นี้มาก่อน เขาคือจ้าวตำหนักทัณฑ์สวรรค์ที่ถูกจ้าวดินแดนปิดผนึกกักขังเอาไว้ในการรบแรกในทะเลเมฆา!
ระดับบ่มเพาะของเขาคือขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้นซึ่งต่ำกว่าห้าปรมาจารย์ แห่งดินแดนชั้นนอกเล็กน้อย! เขาไม่ได้มาด้วยการทำลายอายุขัยเหมือนปรมาจารย์หลงผานแต่เป็นการบรรลุระดับนี้อย่างยากลำบาก!
เซียนดินแดนชั้นนอกหลายหมื่นคนกำลังนั่งอยู่บนสามแผ่นดินที่กำลังลอยอยู่ พวกเขาเอ่ยคำร่ายพึมพำกันทั้งหมด เปลวเพลิงนรกานต์หลายเส้นสายลอยขึ้นไปในท้องฟ้า ก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ล้อมรอบปรมาจารย์หลงผาน พวกเขากำลังต่อสู้ร่วมกับจ้าวตำหนักทัณฑ์สวรรค์
ฉิงชุ่ยก้าวเข้ามาข้างในก่อนหวังหลิน เมื่อปรากฏตัวจึงมองจุดที่ปรมาจารย์หลงผานและชายชราชุดดำต่อสู้กัน แววตากะพริบเย็นเยียบและพุ่งเข้าหาเซียนนับหมื่นของดินแดนชั้นนอก ยามที่หวังหลินเข้ามาจึงได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวน
ฉิงชุ่ยกำลังสังหาร หลังจากทะลวงเปิดประตูดับสูญได้ แก่นแท้สังหารของเขาจึงบรรลุความสมบูรณ์แบบ เขาใช้ชีวิตไปกับการสังหาร ตอนนี้เพียงแค่สะบัดแขน เหล่าเซียนต่างตายกันนับไม่ถ้วน
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง มองผ่านปรมาจารย์หลงผานและชายชราชุดดำ เขาเห็นว่ามีผลไม้เต๋าก้อนโตกำลังห้อยหัวลงมาจากก้อนเมฆเจ็ดสีด้านบน