Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1582

Cover Renegade Immortal 1

1582. จันทรามืด ฟ้ากระจ่าง

“สี่คือตับ จงละลายและแตกสลาย!” นิ้วชี้ของนางโค้งงอเข้าสัมผัสฝ่ามือ คำพูดของนางบางเบาแต่กลับเต็มไปด้วยจิตสังหารอำมหิต!

หวังหลินกระอักโลหิตออกมาหลายคำอย่างต่อเนื่องและกระเด็นกลับไป ปอดในหน้าอกถึงกับแห้งเหี่ยวและหายวับไปในร่างกาย พอไม่มีปอดจึงไม่สามารถหายใจได้ ความเจ็บปวดเข้าถาโถมจนคร่ำครวญในลำคอ

หลังเสียปอดไป ม้ามจึงเน่าสลายไปด้วย โลหิตสาดกระจายไปทั่วทุกที่ในร่างกาย การสูญเสียม้ามไปส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูของเขาหลายเท่า ร่างกายหวังหลิน ซีดเซียว มีจุดแดงผุดขึ้นทั่วร่างกาย

เกือบสุดท้ายคือตับที่หลอมละลายหลังจากนางเอ่ยขึ้นมา

อวัยวะภายในทั้งสี่ของเขาสูญสลาย ตัดขาดพลังชีวิต ร่มบรรพกาลเผาดินแดนจึงสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ห้าคือหัวใจ เมื่อไร้หัวใจจึงไม่มีเต๋า!” นางมองหวังหลินอย่างสงบนิ่ง นิ้วโป้งค่อยๆโค้งเข้ามาและสุดท้ายจึงเป็นนางกำหมัด

และค่อยๆ โยนกำปั้นเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงในหน้าอก หัวใจหยุดเต้นและค่อยๆ กลายเป็นหินในพริบตาเดียว! พอหัวใจกลายเป็นหินจึงทำให้ความเจ็บปวดที่กำลังได้รับรุนแรงยิ่งเกินคำอธิบายอันใด แม้แต่หวังหลินก็อดไม่ได้ที่จะร่ำร้องอย่างโหยหวน

ขณะที่นางโยนกำปั้นออกไปจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง หน้าอกของหวังหลินยุบลงไปและเขากระเด็นเข้าหาพื้นที่ซึ่งมีน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ

‘นางสนมจักรพรรดิเทพ!!’ หวังหลินตกไปยังผิวน้ำแต่ไม่ได้จมลงไป เขาอดทนต่อความเจ็บปวดพลางใช้แขนขวาชกใส่ผิวน้ำและเด้งตัวเองขึ้นไป

เขาพยายามเข้าสู่รอยแยกในทะเลเมฆาโดยการใช้หินหยกที่สตรีลึกลับมอบให้เขา แต่มันกลับไร้ผล เขาพยายามเรียกอสูรโลกันตร์แต่มีผนึกที่เขาไม่สามารถทำลายได้และไม่สามารถสัมผัสอสูรโลกันตร์ได้

“เจ้าไม่มีทางรอด เจ้าหนีไปไหนไม่ได้! แต่หากเจ้าคุกเข่าอ้อนวอน ข้าอาจจะมอบโอกาสมีชีวิตให้เจ้าอยู่บ้าง” นางเอ่ยเสียงเบาพลางก้าวออกมาจากน้ำแข็งและเดินมาหาหวังหลิน

หวังหลินหน้าซีดไร้สีโลหิต ถอยร่นไปสองสามก้าว

“ข้าหวังหลินจะไม่คุกเข่าแม้แต่สวรรค์ ทำไมข้าต้องคุกเข่าให้เจ้า? เจ้าทำให้ข้าเสียเกียรติ หากวันนี้ข้าไม่ตาย ข้าจะเอาคืนเจ้ากลับไปร้อยเท่า!!” หวังหลินดวงตา ส่องสว่าง เขาไม่ได้หายใจเนื่องจากอดทนต่อความเจ็บปวดและชี้ไปที่ท้องฟ้า

“เรียกขานสายลม อัญเชิญสายฝน ไสยเวทย์!” ร่างหวังหลินเรืองแสงสีทอง จากนั้นพลังเทพอันทรงพลังพุ่งเข้าหาท้องฟ้า

นางเคยเห็นแสงสีทองจากหวังหลินแล้ว พอได้เห็นมันอีกครั้ง ดวงตาเรียวงามจึงหดแคบลงและเกิดความสงสัยขึ้นในใจแต่นางไม่ได้เอ่ยออกมา นางก้าวไปข้างหน้าและขยับตัวเร็วกว่า ยกแขนขวาเข้าประทับใส่หวังหลินอีกครั้ง

ท้องฟ้าส่งเสียงดังลั่น ปรากฏมังกรดำสิบสามตัวเปล่งแสงสีทองและเริ่มร้องคำราม จากนั้นสายฝนสีทองเริ่มตกลงมา หยาดฝนแต่ละเม็ดมีวิญญาณหนึ่งดวงที่ตายไปด้วยน้ำมือหวังหลิน!

ขณะที่ฝนตกลงมาจึงก่อเกิดเป็นโลกแห่งสายลมและสายฝน แม้วิญญาณจำนวนมากจะสูญสลาย ยังคงมีเหลืออยู่อีกมาก พวกมันทั้งหมดพุ่งเข้าหาสตรีในทันที

หวังหลินไม่มองดูผลลัพธ์และล่าถอยอย่างต่อเนื่อง แววตากะพริบเย็นเยียบและชี้ใส่ท้องฟ้าอีกครั้ง

“ป่นภูเขา ถล่มพสุธา!” หวังหลินไม่ได้เข้าใจวิชาทลายดินแดนมากนัก แต่ด้วยระดับบ่มเพาะตอนนี้จึงสามารถเลียนแบบได้ ขณะที่ชี้ไปภูเขาไฟจำนวนมากปรากฏขึ้นมา เสียงดังสนั่นคับฟ้า เนื่องด้วยปราณสวรรค์ของหวังหลินจึงทำให้วิชาของป๋ายฟ่านกลายเป็นวิชาเทพของจริง!

ทั้งหมดนี้ไม่มากพอจะต่อต้านนางสนมจักรพรรดิเทพได้ หวังหลินไม่ได้มีเจตนาเพื่อใช้วิชาที่เหลือนี้ผลักดันนางกลับไป แต่เขาวางแผนจะใช้วิชาสุดท้ายของป๋ายฟ่าน!

ฟ้ากระจ่าง จันทรามืด!

หวังหลินเคยเห็นวิชาฟ้ากระจ่างจันทรามืดเพียงแค่ครั้งเดียว และนั่นเป็นตอนที่ขุนนางเทพฉิงชุ่ยใช้ไปในดินแดนเจ็ดสีในดาราจักรอัญเชิญนที พวกเขาสองศิษย์พี่น้องต่างได้ศึกษาเรียนรู้หกวิชาเทพของป๋ายฟ่าน

หวังหลินไม่ได้เก่งกาจเหมือนฉิงชุ่ยที่สามารถใช้วิชาฟ้ากระจ่างจันทรามืดอันทรงพลังที่สุดได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตามเขาสามารถบังคับใช้งานวิชานี้ได้ด้วยการใช้วิชาทั้งหมดไปก่อน

เขาเคยเห็นมันแค่ครั้งเดียว ดังนั้นด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบันและความเข้าใจมากกว่าสองพันปี อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

นางก้าวเดินออกจากวิชาทั้งหมดด้วยท่าทีสงบนิ่ง วิชาทั้งหมดไร้ประโยชน์ที่ต่อสู้กับนาง

อย่างไรก็ตามขณะที่นางเดินออกมา หวังหลินร้องคำรามใส่ท้องฟ้า!

“ฟ้ากระจ่าง จันทรามืด!!” หวังหลินคำรามและชี้ใส่นาง

ด้วยการชี้นิ้วครั้งนี้ จันทรามืดผุดขึ้นบนใบหน้านาง! วินาทีนั้นสีหน้านางเปลี่ยนไป การก้าวเท้าหยุดลงในครั้งแรก

“สำนักจันทรามืด กระบวนท่าแรก…ใช่แล้ว ก่อนที่ป๋ายฟ่านจะถูกเจ้าเฒ่านั่นจับตัวไป เขาเคยเป็นคนทรยศของสำนักจันทรามืดมาก่อน…”

จันทราสีดำบนใบหน้านางจึงควบแน่นอย่างรวดเร็ว รอยแตกร้าวผุดขึ้นมาราวกับต้องการทำให้นางเสียโฉม โลหิตสดๆ ไหลนองออกมาตามรอยแตก

นางส่งเสียงร้อง ดวงตาเปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่ง

“หากเจ้ารู้กระบวนท่าที่สอง จันทรามืดไร้พิรุณ และกระบวนท่าที่สาม จันทรามืดสายลมหนาว เมื่อนั้นเจ้าอาจจะรอดตายวันนี้ได้ แต่เพียงแค่กระบวนท่าแรก ตราบใดที่ข้าสังหารเจ้าได้ ข้าก็สามารถลบล้างมันออกได้!” นางอดทนต่อความเจ็บปวดที่โผล่ออกมาจากใบหน้าและพุ่งเข้ามาหาหวังหลิน

นางรู้จักวิชาของสำนักจันทรามืด วิชาของสำนักจันทรามืดนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต พวกมันไม่ได้สังหารศัตรูในทันทีแต่ทำให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ยาวนานยิ่งลบเลือนออกได้ยากขึ้น

นางพุ่งเข้าประชิดหวังหลินในพริบตา ฝ่ามือทำเป็นกรงเล็บและข่วนเข้าใส่หวังหลินอย่างรุนแรง!

หวังหลินผุดแววตาบ้าคลั่งและยกแขนขวาขึ้นมา หลังจากใช้วิชาจันทรามืดฟ้ากระจ่างออกไป เขากำหมัดและโยนกำปั้นใส่นาง!

กำปั้นมีพลังเทพโบราณอยู่ด้วย แต่ได้ใช้เคล็ดวิชาเต่าดำอันทรงพลังที่สุดที่เรียนรู้มาจากวิหคศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนตกสวรรค์!

คลื่นการสั่นสะเทือนก่อเกิดเป็นระลอกคลื่นรอบๆ กำปั้นของหวังหลิน มองไกลๆ ระลอกคลื่นเหล่านี้ได้ทำให้พื้นที่คั่นกลางระหว่างหวังหลินและนางเสมือนเป็นผิวน้ำ

ทั้งสองปะทะกันจากสองฟากฝั่ง!

หวังหลินทุ่มสุดกำลัง หยิบยืมพลังสะท้อนทั้งหมดเข้าปะทะกับฝ่ามือของนาง

ความเจ็บปวดรุนแรงเต็มไปทั่วร่างทำให้เขารู้สึกราวกับร่างกายกำลังพังทลาย หมอกโลหิตปะทุออกมาจากร่างกายและย้อมเสื้อผ้าให้แดงฉาน แขนขวาแตกสลายตั้งแต่ข้อต่อและโดนกระเด็นกลับไป

พลังต่อต้านในร่างเข้าโหมกระหน่ำและเกินทนแล้ว แต่หวังหลินก็ยังสามารถหักห้ามไว้ได้เพียงแค่เศษเสี้ยว

ด้านสตรีอีกฝั่งเองไม่ได้รู้สึกดีกว่ากันเท่าไหร่ โลหิตเริ่มไหลย้อนออกมาจากมุมปากและนางกระเด็นกลับไปหลายร้อยฟุต ร่างกายสั่นเทา จันทรามืดปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง รอยแตกร้าวและจันทราแผ่ขยายไปถึงลำคอ

ขณะที่มันแผ่ขยาย ตัววิชาจึงแสดงพลังอำนาจอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดรุนแรงจนนางต้องส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ตอนนี้นางเสียโฉมอย่างสิ้นเชิงและดูเหมือนภูตผีปีศาจ!

ความเสียหายจากวิชาจันทรามืดฟ้ากระจ่างได้ทำให้นางกระอักโลหิตและถอยไปหลายร้อยฟุต นางมองขึ้นไปจ้องหวังหลินในทันที จากนั้นสะบัดแขนขวาปรากฏ พิณโบราณขึ้นเบื้องหน้า

นางมองหวังหลินและใช้ฝ่ามือเข้าสัมผัสพิณโบราณ

เสียงพิณดังกึกก้องขึ้นในโลก ขณะที่เสียงเพลงดำเนินต่อไปมันได้ก่อเกิดเป็นจิตสังหารสั่นสะเทือนสวรรค์!

เสียงเพลงเร่งจังหวะขึ้นและเข้าสู่หูของหวังหลินทำให้เขารู้สึกราวกับมีระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นเข้ากระหน่ำใส่ ผลักดันเขากลับไปหลายพันฟุตและทำให้โลหิตไหลออกมาจากทวารทั้งหมด!

“เสียงพิณของข้ามีแต่อดีตจักรพรรดิเทพเท่านั้นที่สามารถได้ยิน การที่เจ้าได้ยินมันวันนี้ เจ้ายิ้มได้ก่อนตายแล้ว จงฟังเสียงเพลงของข้า ฝังไว้ในนรก…” นางเอ่ยเสียง สงบนิ่ง ฝ่ามือเล่นพิณไปรวดเร็วกว่าเดิม

เสียงพิณเต็มไปทั่วโลกแต่ให้ความรู้สึกเหมือนความคิดชั่วร้ายเต็มไปทั่วจิตใจหวังหลิน ความคิดชั่วร้ายนับไม่ถ้วนต้องการฉีกกระชากจิตใจหวังหลินเป็นชิ้นๆ หวังหลินส่งรอยยิ้มน่าเวทนา โลหิตไหลจากมุมปากและเริ่มหัวเราะ

“ฝังไว้ในนรกช่างไพเราะเสียจริง!” ขณะที่เขาหัวเราะ พลันหันกลับมาและมีแสงโลหิตกะพริบวาบ กระบี่โลหิตหมองหม่นปรากฏขึ้นมาและพุ่งผ่านอากาศ

พริบตาเดียวมีสตรีอีกคนก้าวเดินออกมาด้านหลังหวังหลินอย่างเงียบงัน กระบี่โลหิตจึงพุ่งเข้าใส่นาง

นางไม่ประหลาดใจที่หวังหลินสามารถค้นหานางเจอ หากเขาทำไม่ได้ พวกเขาก็คงไม่คู่ควรต่อการวางแผนสังหารหวังหลิน

นางยอมให้กระบี่โลหิตแทงทะลุผ่านนางไป ร่างกายของนางคือภาพมายา ราวกับคงอยู่เพียงแค่ในสายตาหวังหลินและไม่มีร่างจริง นางยิ้มอย่างอ่อนโยน

แค่สีหน้านั้นได้สื่อความหมายว่า “แค่ชำเลืองหันมายิ้มให้ก็สามารถทำให้ทุกคนตกหลุมรักได้ไปชั่วชีวิต” แม้นางไม่ได้หันมา แต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะทำให้โลก ส่องสว่างและเป็นความงดงามหาที่เปรียบไม่ได้

“ข้าไม่ได้ยินเสียงพิณของพี่หญิงมานานแล้ว การได้ยินมันในวันนี้ต้องขอบคุณ เจ้าจริงๆ” กระบี่โลหิตไร้ประโยชน์และกระเด็นกลับไปวนรอบหวังหลิน หวังหลินถอยไปแล้วตอนที่โยนกระบี่โลหิตไป เสียงพิณเต็มไปด้วยจิตสังหารพร้อมส่งเสียงดังไป ทั่วโลก

“ข้าไม่ต้องการสังหารเจ้าจริงๆ…” นางผู้ไม่มีร่างจริงได้มองมาที่หวังหลิน นางยกฝ่ามือละเอียดดุจหยกขึ้นมาและค่อยๆ ชี้ใส่หวังหลิน

“ข้าพยากรณ์ด้วยวิญญาณเทพของข้าแล้วว่าเจ้าจะตายในสามลมหายใจ…ข้าใช้วิญญาณของตัวเองเป็นส่วนเสริม ดังนั้นการพยากรณ์ของข้าจะกลายเป็นจริง” นางยิ้มและพยักหน้าให้หวังหลิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version