Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1583

Cover Renegade Immortal 1

1583. ร่างเทพอมตะ

วิชาพยากรณ์นั้นคล้ายกับที่เทียนหยุนใช้ แต่มันกลับแตกต่างยิ่งเมื่อนางใช้ออกมา หลังจากนางเอ่ย วงกลมสีดำขนาดเท่ากำปั้นจึงปรากฏทั่วร่างหวังหลิน

พวกมันเริ่มเน่าเปื่อย ร่างหวังหลินสั่นเทาและรู้สึกว่าความตายกำลังมาถึง

“ข้าพยากรณ์ว่าร่างเจ้าจะเน่าเปื่อยภายในลมหายใจแรก!” นางยิ้มพลางมองหวังหลิน

วงกลมสีดำจำนวนมากทั่วร่างหวังหลินได้เจาะลึกลงไปในร่างจนมองเห็นกระดูก แม้กระทั่งกระดูกยังกลายเป็นสีดำและเริ่มสลาย

เสียงพิณเร่งจังหวะและผสานเข้ากับคำพูดของนาง เร่งเร้าให้วงกลมสีดำเน่าเปื่อยและฉีกร่างเป็นชิ้นๆ

“ข้าพยากรณ์ว่ากระดูกของเจ้าจะแตกสลายภายในลมหายใจที่สอง!”

เสียงดังปะทุออกมาจากร่างหวังหลินและมีรอยแตกร้าวบนกระดูกขึ้นนับไม่ถ้วน รอยแตกแผ่ขยายจนแม้แต่หัวกะโหลกก็เจอแบบเดียวกัน!

หากร่างเขาโปร่งใสคงจะเห็นชัดเจนว่ากระดูกทั้งหมดในร่างกำลังแตกละเอียดเนื่องจากรอยแตกร้าวสีดำแพร่กระจาย บางส่วนถึงกับแตกสลายไปแล้วด้วยซ้ำ

ความรู้สึกเจ็บปวดในตอนนี้ไม่น้อยไปกว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากวิชาฝังเทพห้าปรมัตถ์ของนางสนมจักรพรรดิเทพคนแรกเลย ขณะที่หวังหลินล่าถอย พลังชีวิตทั้งหมดจึงสูญสลายอย่างรวดเร็ว หวังหลินค่อยๆ ก้าวเดินเข้าสู่ความตายอย่างช้าๆ

เขาบาดเจ็บอยู่แล้วและแทบจะระงับพลังต่อต้านในร่างกายไม่ได้ อวัยวะภายในทั้งห้าของเขาหายไปและตอนนี้พอมาตกอยู่ภายใต้วิชาพยากรณ์ หวังหลินจึงใกล้ถึง จุดจบเต็มที

แต่หวังหลินก็ยังไม่ได้เอาคันศรออกมา แม้เขากำลังจะตาย แต่เขาก็ยังไม่ได้ตาย ราชันย์ไม่ปรากฏตัวและเขาไม่เชื่อว่านางสนมจักรพรรดิเทพทั้งสองคนจะเป็น กลุ่มสุดท้าย

หวังหลินรู้ว่าเขามีพลังพอที่จะใช้คันศรได้ครั้งเดียว หากเกาทัณฑ์นั่นไม่สามารถทำให้ราชันย์และคนที่นี่บาดเจ็บสาหัสได้ เมื่อนั้นเขาคงตายจริงๆ!

หวังหลินไม่สามารถนำคันศรออกมาได้จนกว่าจะถึงจังหวะสุดท้าย!

นางมองหวังหลินอย่างอ่อนโยนดุจคนรัก ฝ่ามือเรียวงามดุจหินหยกชี้ไปที่หวังหลินพลางเอ่ยเป็นคำพูดสุดท้าย “ข้าพยากรณ์ว่าลมหายใจที่สาม…วิญญาณสิ้น”

น้ำเสียงบางเบาและผสานกับเสียงพิณ! สองนางสนมจักรพรรดิเทพใช้วิธีที่แตกต่างในเวลาเดียวกันเพื่อสังหารหวังหลิน!

พลังของทั้งสองผสานกัน ส่วนหนึ่งขัดขวางความคิดของหวังหลินและอีกคนใช้วิชาพยากรณ์เพื่อบังคับหวังหลิน ทั้งสองลงมือได้เหมาะเจาะจนเห็นได้ชัดว่าวางแผนกันมา

เมื่อนางเอ่ยคำพูดสุดท้าย หวังหลินร้องคำรามออกมา เขาไม่เข้าใจวิชาพยากรณ์ แต่สามารถบอกได้ว่ามันมีพลังทำลายอันทรงพลังอยู่ด้วย

เลือดเนื้อและกระดูกของหวังหลินได้เน่าเปื่อยและแตกสลาย ความเจ็บปวดรุนแรงเข้าถาโถม ร่างกายเผยอาการพังทลาย! ทว่าในจังหวะนั้นหวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาตีใส่หน้าผาก!

ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงส่งเสียงดังลั่น ร่างกายเขาเคยผสานเข้ากับเหล่าเทพและบัญชาโบราณ แตกสลายและก่อเกิดขึ้นใหม่หลายครั้งในอสูรโลกันตร์

ต้องขอบคุณเหลียนต้าวเฟยผู้เสียสติที่ลงมือลงแรงไปเยอะ ร่างเทพของเขาในตอนนี้คือร่างเทพอมตะอยู่ห้าในสิบส่วน! แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่มันก็มีพลังแห่งความอมตะไปแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงเวลาวิกฤต หวังหลินคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วพลังต่อต้านในร่างกายจึงระเบิดจนหลุดจากการควบคุม

ตลอดชั่วเวลานี้ถึงแม้พลังต่อต้านในร่างกายจะเกรี้ยวกราดแค่ไหน หวังหลินระงับให้อยู่ภายใต้การควบคุมตลอด อย่างไรก็ตามเมื่อเขาสลับสับเปลี่ยนจากร่างโบราณไปเป็นร่างเทพ การควบคุมของเขาจึงสูญสลาย

พลังต่อต้านได้ระเบิดออกมาอย่างสิ้นเชิง หวังหลินสูญเสียโอกาสในการระงับมันได้อีกครั้ง ราวกับมันเป็นม้าพยศ และไม่สามารถจับมันได้อีกแล้ว!

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก ขณะที่วิญญาณกำลังแตกดับ ฝ่ามือร่อนลงไปและมีแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากร่าง

แสงสีทองส่องสว่างและแผ่กระจายไปทุกทิศทาง แม้กระทั่งดาวซูซาคุที่อยู่ห่างไกลยังได้รับแสงสีทองนี้

ชายหนุ่มในน้ำแข็งเพิ่งหลอมละลายน้ำแข็งและก้าวเดินออกมาพร้อมใบหน้าซีดเผือด เขาเห็นแสงสีทองแพรวพราวในทันที สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ขณะแสงสีทองแผ่กระจาย ร่างเทพโบราณของหวังหลินสูญสลายและซ่อนดาวเทพโบราณไว้ข้างใน ร่างของเขาปลดปล่อยแสงสีทองไร้ขอบเขตและกลายเป็นร่างเทพอมตะ!

เมื่อร่างเทพอมตะปรากฏขึ้นมา สีหน้าสตรีที่เอ่ยคำพูดอ่อนโยนเหล่านั้นจึงเปลี่ยนไป แววตานางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ นางมาจากโลกแบบเดียวกับจักรพรรดิสวรรค์ เมื่อนางได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหวังหลิน จึงคิดถึงตำนานบทหนึ่ง!

พลังพยากรณ์อันประหลาดในร่างกายเขาระเบิดขึ้น ร่างเทพอมตะของหวังหลินแตกสลาย

ทว่าขณะที่มันแตกสลาย มีแสงสีทองกะพริบและก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

สตรีสุดสวยกระอักโลหิตมายาออกมาและก้าวถอยไปหลายก้าว วิชาพยากรณ์ของนางถูกทำลายและส่งผลกระทบต่อความคิดจนบาดเจ็บ! อย่างไรก็ตามแค่นี้เทียบไม่ได้กับความหวาดกลัวและท่าทีไม่เชื่อที่นางรู้สึก!

เดิมทีนางรู้สึกว่ารูปร่างดั้งเดิมของหวังหลินดูคุ้นตาและเกิดความสงสัย อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นร่างหวังหลินแตกสลายและก่อเกิดจากแสงสีทอง สีหน้าท่าทางของนางจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

“ร่างเทพอมตะ!!” นางตกตะลึงและถอยกลับโดยไม่รู้ตัว สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เจ้า…เจ้ามีร่างเทพอมตะจริงๆ ร่างเทพอมตะที่เหล่าเทพทั้งหมดเทิดทูน! เจ้าไม่ใช่เซียนจากที่นี่ เจ้า…เจ้าเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับราชันย์เทพ!?” นางสั่นสะท้านจากการเปลี่ยนแปลงในร่างหวังหลิน ความคิดนางหวั่นไหวราวกับสายฟ้าสวรรค์นับไม่ถ้วนระเบิดอยู่ในจิตใจ

“ข้าไม่…ข้าฆ่าเขาไม่ได้!!” การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวที่สุด มากยิ่งกว่าตอนที่นางเผชิญหน้ากับราชันย์เทพเสียอีก

ไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่สตรีผู้กำลังเล่นพิณก็สั่นเทาไปด้วยและหยุดเล่น นางจ้องมองหวังหลินที่มีแสงสีทองปกคลุมอย่างตกตะลึง

ภายในแสงสีทองมีพายุพัดในร่างหวังหลิน พายุนี้คือพลังต่อต้านที่ได้ระเบิดออกมาอย่างเต็มที ร่างกายเขาแตกสลายภายใต้สายตาของนางสนมจักรพรรดิเทพทั้งสองคน!

หลังจากแตกสลาย มันก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

หลังจากเกิดการวนเวียนเช่นนี้หลายครั้ง สตรีผู้หยุดเล่นพิณจึงกัดฟันแน่น ตอนนี้จันทรามืดแผ่กระจายออกไปมากขึ้น หากนางไม่สังหารหวังหลิน คงไม่เพียงแต่จะสังหารร่างแยกของนาง แต่มันจะส่งผลกระทบต่อร่างดั้งเดิมไปด้วย

“ร่างเทพอมตะนี้ไม่สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่ามันถูกแย่งชิงมา สังหารเขา!” นางกัด ฟันแน่นและคว้าพิณ ดึงสายขึ้นส่งผลให้เสียงพิณดังกึกก้อง

เสียงพิณดังขึ้นมา เหล่ามีดเลือนลางปรากฏขึ้นเบื้องหน้า นางพ่นโลหิตให้ผสมเข้าไปในมีดก่อนจะทำให้พวกมันพุ่งโจมตีใส่หวังหลิน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ช่วงการแตกสลายและก่อตัวขึ้นใหม่ ดวงตาหวังหลินแดงฉานจากความเจ็บปวด ส่งเสียงร้องคำรามและใช้ฝ่ามือสร้างผนึก พอมีดทั้งเก้าเล่มเข้ามาใกล้จึงสะบัดแขนออกไป เพียงเท่านั้นร่างกายจึงแตกสลาย อีกครั้ง

แม้ร่างกายแตกสลาย วิชายังคงใช้งานได้ โลกกลายเป็นมืดมิดราวกับห่อหุ้มด้วยความมืด จากนั้นแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องออกมาไกล

แยกราตรี วิชาดั้งเดิมวิชาแรกของหวังหลิน!

โลกพร่าเลือนในความมืดมิด แต่ไม่อาจซ่อนแสงสีทองรอบตัวหวังหลินได้ แสงสีทอง ดูเหมือนผสานเข้ากับแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดส่อง ทำให้ระเบิดพลังฉีกกระชากความมืดมิดในตอนสุดท้าย

พลังแห่งแยกราตรีระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

วินาทีนี้ร่างหวังหลินก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง เขาร้องคำรามและมีใบหน้าบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดแทบทำให้เขาบ้าคลั่ง เขาสะบัดแขนให้น้ำด้านล่างส่งเสียงดังลั่น ปรากฏเป็นประตูหินขนาดยักษ์ขึ้นมา!

เมื่อประตูหินปรากฏ กลิ่นอายแห่งกาลเวลาเข้าครอบคลุมพื้นที่แห่งนี้ วิชาดั้งเดิมบทที่สองของหวังหลิน ห้วงเวลา!

แยกราตรีและห้วงเวลาเป็นวิชาพิเศษ ขณะที่ร่างหวังหลินแตกสลายและก่อร่างใหม่อย่างต่อเนื่อง วิชาทั้งสองมีพลังเทพของเขาและยิ่งทรงพลังมากกว่าเดิม!

ความมืดมิดถูกแสงสีทองฉีกกระชาก มีสี่ในเก้าเล่มแตกสลายจากวิชาแยกราตรี ที่เหลืออีกห้าปะทะเข้ากับวิชาห้วงเวลา ท้ายที่สุดเหลือเพียงสามเล่มร่อนใส่ร่าง หวังหลิน และพวกมันแตกสลายไปพร้อมกับร่างเขา

สตรีอีกคนทำการพยากรณ์ไปพลางถอยร่นขณะที่ถูกล้อมรอบด้วยวิชาแยกราตรีและห้วงเวลา นางรู้สึกตกตะลึงและตื่นตระหนกทำให้จิตใจเต๋าของนางเกิดตำหนิ ตอนนี้นางถูกวิชาเทพทั้งสองโจมตีทำให้ต้องกระอักโลหิตและถอยร่นอย่างรวดเร็ว

นางไม่มีเจตนาจะต่อสู้อีกแล้ว!

อย่างไรก็ตามขณะที่หวังหลินใช้สองวิชานี้พร้อมกับร่างกายแตกสลายและ ก่อเกิดขึ้นใหม่ ร่างพร่าเลือนคนหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง

มิอาจบอกได้ว่าร่างพร่ามัวผู้นี้เป็นบุรุษหรือสตรี เยาว์วัยหรือแก่ชรา ร่างเขา ปกคลุมอยู่ในหมอกเลือนลางและล่องลอยออกไปภายนอก

“ข้าคือหนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ ปรมาจารย์เทพซูเฉิน” เสียงของเขาดังก้องออกมาพลางยกแขนขึ้นกระแทกใส่ด้านหลังหวังหลิน

ร่างหวังหลินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและกระอักโลหิตสีทองจนร่างกระเด็นเข้าหาดาวซูซาคุและกระแทกใส่

ร่างพร่าเลือนผู้นั้นอ้าปากขึ้นมาและสูดโลหิตสีทองที่หวังหลินกระอัก ดวงตาเต็มไปด้วยความโลภ พลันเปลี่ยนร่างเป็นก้อนเมฆและไล่ตามหวังหลินไป

“โลหิตเทพ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าจะเอาร่างเทพอมตะของเจ้ามาซะ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version