1616. แก่นแท้ที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“มันเป็นใครกัน? ใครถึงกระตุ้นประตูดับสูญในยามนี้!?”
“เรื่องนี้มันเกินจะคาดคิด นี่มัน…จริง…จริงแล้ว…”
“ข้าเผชิญการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน มันน่าเหลือเชื่อเกินไป”
เสียงดังสนั่นกึกก้อง การปรากฏตัวของประตูดับสูญได้ทำให้การต่อสู้หยุดชะงักไปชั่วขณะ เซียนดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในต่างก็มองหน้ากัน สงสัยว่าใครเป็นคนกระตุ้นประตูดับสูญ
แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ไม่รู้คำตอบ
ขณะที่เสียงดังสนั่นกึกก้องต่อไป กลิ่นอายทรงพลังจากประตูดับสูญยังไม่หยุดแค่นั้น มันรั่วไหลออกไปอย่างต่อเนื่องกลายเป็นแรงกดดันทรงพลังมหาศาล
แรงกดดันนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง ขณะที่แผ่กระจาย มันได้ผลักเซียนในสนามรบให้อยู่ด้านล่าง
สีหน้าของโจวจินเปลี่ยนไปอีกครั้งและซีดเผือดทันที แรงกดดันจากประตูดับสูญช่างเหนือจินตนาการ ภายใต้แรงกดดันนี้ เขาถอยร่นอย่างร้อนรนและความคิดสั่นไหว
‘แรงกดดันประตูดับสูญทรงพลังขนาดนี้ นี่…นี่มันมีกี่แก่นแท้กัน!? ประตูดับสูญช่างทรงพลังกว่าของข้ามากมายนัก…’
ชายชุดเขียวเองก็ตกตะลึงเช่นกัน แววตาเย็นเยียบและไม่ได้ถอยตามแรงกดดัน เขาเงยศีรษะจ้องมองประตูดับสูญที่กำลังจะกลายเป็นรูปร่างมากยิ่งขึ้น
ไม่นานประตูดับสูญจึงก่อขึ้นมาอย่างสมบูรณ์และปกคลุมพื้นที่ มันเปล่งแสงเรืองรองจนส่องสว่างขึ้นในอวกาศอันมืดมิด!
แรงกดดันของแสงไฟดุจอำนาจแห่งสวรรค์ ส่งผลให้เซียนรอบด้านมีแรงดลใจให้คุกเข่า ทั้งหมดสั่นเทา เซียนที่มีระดับต่ำถึงกับตรงเข้าคุกเข่าในทันที
ประกายสายฟ้าดังลั่น สายฟ้าไร้ขอบเขตเข้าล้อมประตูดับสูญและส่งเสียงดังไม่ขาดสาย ทำให้อวกาศรอบด้านถึงกับสั่นสะเทือน
“แก่นแท้สายฟ้า!” ชายหนุ่มชุดเขียวดวงตาส่องสว่างขึ้นมา
ขณะที่เอ่ยปาก เขาพลันเห็นทะเลเพลิงเผาไหม้เข้าล้อมรอบประตูดับสูญขนาดยักษ์ มันกำลังต่อสู้ร่วมกับสายฟ้าเป็นจุดประกาย
“แก่นแท้เพลิง!” ชายหนุ่มมีท่าทีมืดมน
นาทีที่เปลวเพลิงปรากฏขึ้น พลังไม่ทราบที่มาได้ปรากฏขึ้นนอกประตูดับสูญ พลังสายนี้มีความสามารถในการดูดความคิดคนให้เข้าไปข้างใน ก่อตัวเป็นอักขระเลือนลางที่ดูเหมือนอักขระเวทย์แต่ไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจน
มันคือประทับเวรกรรม มิอาจมองเห็นมันชัดเจนได้ตามปกติ หากสามารถมองเห็นได้ชัดเจน นั่นหมายความว่าโดนดูดเข้าไปข้างในและเหมือนกับตายไปแล้ว
‘นี่มัน!!! นี่มันมหาเต๋าแห่งเวรกรรม!! สามแก่นแท้ มันคือสามแก่นแท้จริงๆ การกระตุ้นประตูดับสูญด้วยสามแก่นแท้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน มันเป็นใคร!?’ สีหน้าของชายหนุ่มชุดเขียวพลันเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง
จ้าวเมฆาใต้เองก็ตกตะลึงคล้ายๆ กัน ระดับบ่มเพาะของจ้าวเมฆาใต้นั้นสูงมาก พอสัมผัสถึงสามแก่นแท้จากประตูดับสูญได้ สีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนไป ความคิด สั่นเทา สายตาจับจ้องไปที่ประตูดับสูญ
‘เป็นสามแก่นแท้จริงๆ! ในโลกอันกว้างใหญ่นี้ มีคนที่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจของการบรรลุขั้นที่สามและโชคดีได้รู้แจ้งจนบรรลุสามแก่นแท้ได้ด้วยหรือ เมื่อคน ผู้นั้นทะลวงเปิดประตูดับสูญได้ แม้จะเป็นแค่ขั้นสวรรค์ดับสูญ ก็สามารถสังหาร เซียนขั้นวิญญาณดับสูญได้!’
ซือถูหนาน ปรมาจารย์หลงผานและปรมาจารย์ลั่วฟู่ล้วนตกตะลึง ประตูดับสูญที่ผุดขึ้นมานั้นทำให้พวกเขาตกตะลึงสองรอบในครั้งเดียว ซึ่งไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย
“คุ้นๆ…ทำไมถึงคล้ายกับน้องชายข้าอย่างนี้…” ซือถูหนานซ่อนแววตาตื่นเต้นและความคาดหวัง ในใจคาดเดาจนหัวใจเต้นเร็วขึ้นและตื่นเต้นจนถึงขีดจำกัด
หวังหลินผู้อยู่ในมิติว่างไม่ได้รู้เรื่องเหล่านี้เลย เสียงดังสนั่นที่เขาได้ยินไกลๆ คือการทำให้ประตูดับสูญปรากฏขึ้นข้างนอก
“แก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย!” หวังหลินนั่งลงขัดสมาธิ ยกสองแขนขึ้นมา ดวงตาหลับลงช้าๆ
มิติว่างสั่นสะเทือน ข้างนอกแสงโลหิตรอบตัวหวังหลิน มีแก่นแท้ที่สี่ปรากฏขึ้น
แก่นแท้ชีวิตและความตาย!
“แขนซ้ายข้าคือชีวิต…” คำพูดของหวังหลินเต็มไปด้วยอำนาจเหนือจินตนาการ ราวกับเขาคือผู้คุมกฎของโลกใบนี้ กลิ่นอายสีขาวห่อหุ้มในแขนซ้ายและสร้างเป็นผนึก
ผนึกแฝงพลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุดและเจตจำนงแห่งสวรรค์!
“แขนขวาคือความตาย…” กลิ่นอายสีดำห่อหุ้มแขนขวาและทำให้กลิ่นอายน่าตกตะลึงปรากฏขึ้นมา กลิ่นอายแห่งความตายบรรจุอำนาจแห่งพื้นดิน ตัดกับแขนซ้ายอย่างสิ้นเชิง
“ข้า หวังหลิน คือฟ้าดินแห่งชีวิตและความตาย!” สองแขนของหวังหลินปรบมือเข้าด้วยกันเบื้องหน้าและลืมตาขึ้นมา วินาทีนั้นแสงพรั่งพรูจากระหว่างสองมือและส่องสว่างขึ้นในมิติว่าง
“ผนึกชีวิตและความตาย!”
สองแขนของหวังหลินแยกจากกัน แสงสีขาวและสีดำลอยออกมาผสานกันก่อเกิดเป็นผนึกแห่งชีวิตและความตาย และผสานเข้ากับอีกสามแก่นแท้ก่อนหน้านี้
นี่คือวิชาที่ห้าของหวังหลิน ผนึกแห่งชีวิตและความตาย!
ผนึกแห่งชีวิตและความตายนั้นทรงพลังมากพอจะสังหารฟ้าและมอบชีวิตให้กับดิน พลังของมันมิอาจหยั่งรากถึง!
เพียงแก่นแท้ที่สี่ปรากฏขึ้นนอกดาวเคราะห์ซูซาคุได้ไม่นาน ประตูดับสูญส่งเสียงดังลั่นอีกครั้ง แรงกดดันจากประตูดับสูญทำให้เซียนคุกเข่ามากขึ้น ภายใต้แรงกดดันนี้เซียนเกือบทั้งหมดคุกเข่าลงโดยมิอาจควบคุมได้
แรงกดดันจากประตูดับสูญพรั่งพรูออกมา เส้นสายสีดำและเส้นสีขาวปรากฏขึ้น สองเส้นหมุนรอบประตูดับสูญและทำให้คนที่อยู่ด้านนอกมองเห็นแก่นแท้ที่สี่!
คนแรกที่ย่อยยับคือโจวจิน ร่างกายสั่นเทาและล่าถอยอีกครั้ง แววตาหวาดกลัวเกินระดับเหนือจินตนาการถึง
“สี่แก่นแท้! ไม่มีใครในดินแดนชั้นนอกจะสามารถกระตุ้นประตูดับสูญด้วยสี่แก่นแท้ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน!!”
ชายหนุ่มชุดเขียวหน้าซีดเผือด สามแก่นแท้ทำให้เขาตกตะลึงพอแล้วและรู้สึกว่านั่นเป็นขีดจำกัด แต่ตอนนี้กลับมีแก่นแท้ที่สี่
‘คนที่มีสี่แก่นแท้ถือว่าเป็นบุตรแห่งสวรรค์ หากเขาทะลวงเปิดประตูดับสูญด้วย สี่แก่นแท้ แม้แต่เซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางก็เทียบกับเขาไม่ได้… เขาคือใครกัน!?!’
‘ใครจะมีโชควาสนาเพียงนี้ ความอดทนและความรู้แจ้งได้ขนาดนี้? หากเขามาจากดินแดนชั้นใน เขาต้องถูกสังหาร ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาจะมีอีกมากมาย!!’
‘สี่แก่นแท้น่าจะเป็นขีดจำกัดแล้ว ประตูดับสูญที่กระตุ้นด้วยสี่แก่นแท้ก็ทรงพลังเกินจินตนาการไปไกล เขาอาจโดนประตูดับสูญหยุดยั้งได้!’
เพียงในจังหวะนั้น ประตูดับสูญสั่นเทาและแรงกดดันเพิ่มพูนขึ้นทันที มันแพร่กระจายดุจพายุ บังคับให้เซียนรอบๆ ต้องล่าถอย
แก่นแท้ที่ห้าปรากฏขึ้นบนประตูดับสูญ!
แก่นแท้ที่ห้าคือจริงเท็จ หลังจากปรากฏขึ้นมามันจึงพร่ามัว ราวกับมีประตูดับสูญ อีกบานขึ้นด้านหลัง สองประตูดับสูญยืนประจัญหน้ากันและยากจะบอกว่า บานไหนจริง บานไหนปลอม!
‘ห้าแก่นแท้!!! นี่…นี่…’ ชายหนุ่มชุดเขียวมีสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปมหาศาล เขาชี้ประตูดับสูญพร้อมกับถอยหลังไปหลายสิบก้าว แววตาหวาดกลัวอย่างไม่เคยเจอมาก่อน
‘ห้าแก่นแท้ เป็นห้าแก่นแท้จริงๆ หากคนผู้นี้ไม่สามารถเปิดประตูดับสูญได้ นั่นจะไม่เป็นปัญหา แต่หากเขาทำได้ จะสามารถต่อกรกับเซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับปลายได้เลย!’
ความคิดจิตใจของเซียนที่อยู่ใกล้เคียงถึงกับสั่นเทาอย่างมิอาจควบคุม พวกเขาถูกผลักดันต่อไปเรื่อยๆ ด้วยการเพิ่มแรงกดดันจากประตูดับสูญ
จ้าวเมฆาใต้ถึงกับมีแววตาส่องสว่าง เขาไม่รู้ว่าผู้ที่กระตุ้นประตูดับสูญอยู่ด้านไหน แต่รู้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต
“เซียนฟ้ากระจ่าง อย่ามองที่ประตูดับสูญ พวกเราโจมตี!” จ้าวเมฆาใต้ส่งเสียงคำรามปลุกเซียนดินแดนชั้นในทุกคน จ้าวเมฆาใต้พุ่งใส่ชายหนุ่มชุดเขียวที่ยังตกตะลึง
ซือถูหนาน ปรมาจารย์หลงผานและปรมาจารย์ลั่วฟู่ได้พุ่งไปข้างหน้า หลายคนเริ่มต่อสู้อันบ้าระห่ำใส่เซียนดินแดนชั้นนอกพร้อมกับเสียงประตูดับสูญดังกึกก้อง
เซียนดินแดนชั้นในหลายพันคนติดตามเขามา พริบตาเดียวการต่อสู้นองเลือดจึงเริ่มต้น!
วินาทีนั้นลมหายใจเย็นเยียบโผล่ออกมา เมฆหมอกสีม่วงผุดออกมาจากไหน สักแห่ง มันเร็วมากและเข้าสู่สนามรบ ปะทะเข้ากับจ้าวเมฆาใต้ที่กำลังต่อสู้กับ ชายหนุ่มชุดเขียว เสียงดังสนั่นกึกก้องและจ้าวเมฆาใต้หน้าซีด เขาบาดเจ็บอยู่แล้ว ตอนนี้จึงกระเด็นเข้าหาดาวซูซาคุ
“หนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ!! รีบเข้า ถอยไปที่ดาวซูซาคุและต้านด้วยค่ายกล!”
หมอกม่วงกวาดไปที่ซือถูหนาน ปรมาจารย์หลงผานและปรมาจารย์ลั่วฟู่ ทำให้ปรมาจารย์ลั่วฟู่กระอักโลหิตจำนวนมากและกระเด็นกลับไป ร่างกายแตกสลาย วิญญาณดั้งเดิมหนีอย่างรวดเร็วแม้จะอ่อนแรงมาก
แสงสีทองกะพริบรอบซือถูหนาน ในช่วงนาทีวิกฤต เขานำของขวัญที่ฉิงหลินมอบให้ออกมา สมบัติชิ้นนี้คือหินหยกและตอนนี้มันแตกสลายไปทันที เขากระอักโลหิตและรีบถอย
ปรมาจารย์หลงผานร่างกายแตกสลายเช่นกัน พอก่อร่างขึ้นมาใหม่จึงแทบโปร่งใส เขาสะบัดแขนโดยไม่ลังเล นำพาเอาซือถูหนานและวิญญาณดั้งเดิมของปรมาจารย์ลั่วฟู่กลับมาที่ดาวซูซาคุ
ส่วนเหล่าเซียนนับพัน ทั้งหมดล่าถอยโดยไม่ลังเลภายใต้เสียงคำรามของ จ้าวเมฆาใต้ ทั้งหมดกลับมาที่ดาวซูซาคุจากทุกทิศทาง
หมอกม่วงลอยอยู่ที่เดิม จากนั้นกระจายตัวและมีชายชราผู้หนึ่งเดินออกมา ชายชราเปล่งแรงกดดันทรงพลังไร้ท่าทีโกรธเกรี้ยว เขามองประตูดับสูญอย่าง เยือกเย็น รูม่านตาหดแคบจนแทบมองไม่เห็น