1635. ควบคุมโชคชะตา
‘ช่างเป็นชีวิตที่น่าสนใจ ช่างเป็นสวรรค์ที่น่าสนใจ ช่างเป็นการสร้างที่น่าสนใจ! แต่กระนั้นแล้วอย่างไรเล่า? หากข้าหวังหลิน ได้สามารถเข้าสู่แดนสวรรค์โบราณ ทะลวงผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อได้รู้ว่ามันถูกสร้างมาได้อย่างไร เช่นนั้นวันหนึ่งข้าจะสามารถก้าวออกไปจากถ้ำ ข้าจะสามารถเข้าสู่แผ่นดินเซียนดาราและได้เห็นว่า ยอดเซียนนั้นทรงพลังแค่ไหน!’
‘พวกเขามีคุณสมบัติอะไรถึงต้องยกระดับคนที่อยู่ข้างใน? พวกเขามีคุณสมบัติอะไรถึงต้องกลายเป็นจ้าวชีวิตคนอื่น?’
‘มิน่าเล่าที่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกบอกว่าเขาพาคนไปที่บ้านเกิดได้ไม่กี่คนเท่านั้น เป็นเพราะนอกจากเขา คนอื่นๆ ไม่ได้มาจากแผ่นดินเซียนดารา! พวกเขาเป็นแค่เซียนที่เกิดขึ้นในถ้ำแห่งนี้!’
‘มิน่าเล่าที่เขาบอกว่าคนในบ้านเกิดเขาสามารถชุบชีวิตลี่มู่หวานได้ แต่เขาทำไม่ได้ มิน่าเล่า…มิน่าเล่า’
‘หากจิตวิญญาณแตกสลายสามารถพาคนออกไปจากโลกเจ็ดล้านได้ เช่นนั้นข้าหวังหลิน ก็สามารถทำได้เช่นกัน ข้าอยากเห็นว่าคนของแผ่นดินเซียนดารานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!’
‘ตอนที่ข้าก้าวออกไปจากถ้ำและเข้าสู่แผ่นดินเซียนดารา ข้าอยากเห็นว่าข้าสามารถทำให้เกิดการนองเลือดได้หรือไม่ ข้าอยากเห็นว่าแค่เซียนผู้ถือกำเนิดจากในถ้ำ จะสามารถก้าวไปสู่สุดยอดของเซียนทรงพลังในแผ่นดินเซียนดาราได้หรือไม่!’ หวังหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่ประหลาดใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เพราะเขาคาดการณ์ได้มาสักพักแล้ว อย่างไรก็ตามเขาแค่ไม่อยากเชื่อ เขากระทั่งหลอกตัวเองไม่ให้คิดเรื่องนี้
แต่ในวันนี้เขาได้เห็นทุกอย่าง พอรู้ความจริงแล้วอย่างไรเล่า? เขายังเป็นหวังหลิน ยังเป็นเซียนฝืนลิขิตฟ้า ยังต้องการชุบชีวิตลี่มู่หวาน และยังต้องการเผชิญหน้ากับโลกเพียงคนเดียว
แม้จะเป็นเรื่องจริงแล้วอย่างไร? ตราบใดที่เขามีจิตใจที่ไม่ย่อท้อและมีเจตจำนงอยู่ในร่าง เขาก็จะมุ่งหน้าต่อไป!
หวังหลินก้าวเข้าหาดวงอาทิตย์ดวงที่สองด้วยความรู้แจ้งแห่งความจริง ดวงอาทิตย์ดวงนี้มีทัณฑ์สวรรค์เพลิง เขาเข้าไปใกล้พลางโยนกำปั้นออกไป
ดวงอาทิตย์ดวงที่สองพังทลายพร้อมกับเสียงดังสนั่นกึกก้อง ทัณฑ์สวรรค์เพลิงที่ถูกสร้างขึ้นจากชายสีรุ้งจึงเผยตัวเองออกมา
หวังหลินไม่หยุดแค่นั้น ก้าวเข้าหาดวงอาทิตย์ดวงที่สาม แรงกดดันแผ่กระจายออกมาจากภายในดวงอาทิตย์ ราวกับคืออำนาจแห่งสวรรค์และสามารถกดดันได้ทุกชีวิต
หลังจากทำลายดวงอาทิตย์สามดวงในคราเดียว หวังหลินพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ยกแขนขวาขึ้นมา สร้างฝ่ามือยักษ์เข้ากระแทกใส่ดวงอาทิตย์ ดวงที่สี่
ดวงที่สี่มีสี่กระบี่และเปล่งปราณกระบี่น่ากลัว ทว่าหวังหลินไม่สนใจปราณกระบี่เลย!
ดวงที่ห้ามีร่างมายานับไม่ถ้วน ร่างเหล่านี้ผสมผสานกันเป็นภาพพร่ามัว นี่คือรากฐานของทัณฑ์มายา
ดวงที่หกมีกลิ่นอายของสมบัติสามชิ้น สมบัตินี้คือกลุ่มสมบัติที่ใช้ต่อสู้กับหวังหลินมาก่อน ตอนนี้หวังหลินได้ทำลายไปสองชิ้น กลิ่นอายของแต่ละอันจึงผสานเข้าด้วยกัน
ดวงที่เจ็ดมีพลังวิญญาณของสามเผ่าโบราณ ข้างในมีวิญญาณของสามเผ่าโบราณถูกผนึกไว้นับไม่ถ้วน มันคือกลวิธีสุดท้ายในการสร้างผู้ส่งสาส์นแห่งสวรรค์
พอมาถึงดวงที่แปด หวังหลินสัมผัสกลิ่นอายของทัณฑ์ตัวเอง กลิ่นอายนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนสังเกตความแตกต่างได้ยากยิ่ง
หลังจากทำลายดวงอาทิตย์แปดดวงในคราเดียว เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วแดนสวรรค์โบราณ พื้นดินสั่นเทา รูปปั้นบนพื้นเองก็สั่นไหวไปด้วย
ทว่าหวังหลินไม่สนใจ ดวงตาจับจ้องไปบนดวงอาทิตย์ดวงที่เก้า เขาไม่เคยเห็นทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่ในดวงอาทิตย์ดวงที่เก้ามาก่อน
เขากลับรู้สึกถึงกลิ่นอายคุ้นเคยยิ่งในดวงนี้ กลิ่นอายที่เป็นของเขา ลี่มู่หวาน ท่านพ่อท่านแม่ และคนนับไม่ถ้วนที่เขาพบเจอ
พอยืนอยู่ด้านข้างดวงอาทิตย์ดวงที่เก้า หวังหลินสงบนิ่งและหลับตา เขายืนอยู่สักพัก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก่อนจะลืมตาขึ้นมาด้วยความรู้แจ้ง
‘อาทิตย์ดวงที่เก้า ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่เก้า ต้นกำเนิดของทัณฑ์สวรรค์ มันมีโชคชะตาของทุกชีวิตที่อยู่ในดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นใน ทัณฑ์สวรรค์ที่เก้าคือแผนการสุดท้าย ใครก็ตามที่เกิดในถ้ำแห่งนี้จะถูกบันทึกไว้ที่นี่…’
พอมองอาทิตย์ดวงที่เก้า แววตาหวังหลินกะพริบเย็นเยียบ เขาต้องการทำลายทัณฑ์สวรรค์นี้ และด้วยระดับบ่มเพาะของเขาในปัจจุบันจึงมีโอกาส ทว่าด้วยความเข้าใจของเขา หากเขาทำเช่นนั้นโลกคงตกอยู่ในความโกลาหล เพราะโลกใบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันถูกสร้างขึ้นจากชายสีรุ้งคนนั้น
หวังหลินขบคิดพลางยกแขนขวาขึ้นมาทาบไปบนดวงอาทิตย์ดวงที่เก้า สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายผ่านแขนขวาและพุ่งเข้าไปในดวงอาทิตย์ดุจพายุ
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินเจาะทะลวงเข้าไปในส่วนลึกของมัน ข้างใน ดวงอาทิตย์นั้นวุ่นวายอย่างสิ้นเชิง ขณะที่สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายออกไป จึงได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง
เขาเห็นชีวิตของคนธรรมดาและเซียนมากมาย เห็นใบหน้าหลายคนที่เขาไม่รู้จัก ทั้งหมดสวมเสื้อผ้าโบราณและตายไปนานแล้ว
ดวงอาทิตย์ดวงที่เก้านั้นมีโชคชะตาของชีวิตทุกชีวิตที่ปรากฏขึ้นนับตั้งแต่โลกใบนี้ถูกสร้างมา มันเหมือนกับวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ มันเหมือนกฎเกณฑ์ มันเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องใช้โชควาสนาและโอกาส ย่อทั้งหมดนั้นให้กลายเป็นโชคชะตา
ดวงอาทิตย์ดวงที่เก้าจึงถูกเรียกว่า โชคชะตา!
ขณะที่หวังหลินแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป ไม่รู้ว่ากาลเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เขาค้นพบโชคชะตาของตัวเอง กลิ่นอายนี้ทรงพลังยิ่งและเป็นจุดสังเกตในความวุ่นวายไร้ขอบเขตแห่งนี้
พอมองดูโชคชะตาของตัวเอง หวังหลินขบคิดอย่างเงียบงัน ผ่านไปสักพักจึงตัดสินใจ ส่งสัมผัสวิญญาณล้อมรอบโชคชะตาของตัวเอง เขากลืนกินมันและผสานเข้ากับสัมผัสวิญญาณ
วินาทีที่โชคชะตาถูกผสานเข้ากับเขา สัมผัสวิญญาณของหวังหลินจึงเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ร่างกายสั่นสะท้านรุนแรง
ร่างกายแปรเปลี่ยนให้สมบูรณ์โดยสิ้นเชิง ราวกับว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เขาสามารถกำหนดโชคชะตาของตัวเองได้ ไม่มีพลังใดในโลกนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาได้!
ทัณฑ์สวรรค์มิอาจเปลี่ยนแปลงได้! แม้แต่ชายสีรุ้งคนนั้นก็มิอาจทำได้!
ราวกับเขาได้ชิงโชคชะตาของตัวเองกลับคืนมาจากสวรรค์และเป็นอิสระ! ตลอดหลายชั่วอายุคน เหล่าผู้คนแสวงหาความร่ำรวยด้วยการตัดสินใจจากโชคชะตาของตนเอง ทว่านับตั้งแต่ยุคโบราณกาล แทบไม่มีใครที่สามารถทำได้
โชคชะตานั้นไม่แน่นอน พลังของคนธรรมดามีขีดจำกัด พวกเขาสามารถทำได้แค่เพียงดิ้นรนอยู่ภายใต้โชคชะตาและปล่อยเสียงคำรามอย่างไม่ยินยอมเท่านั้น ราวกับมดแมลงที่อยู่ในกำมือมนุษย์ มันสามารถทำได้แค่สิ่งที่มนุษย์ต้องการ และไม่สามารถหนีออกไปจากฝ่ามือได้
แม้แต่ในตอนจบ ตอนที่มันตาย มันก็ตายในฝ่ามือ แม้ร่างกายจะถูกวางไว้ที่ที่ฝ่ามือต้องการและนอนอย่างสงบ กระทั่งตอนจากไปก็ยังถูกควบคุมโดยโชคชะตา
ผู้คนทั่วไปในโลกเชื่อว่าหากยมบาลต้องการให้ตาย เมื่อนั้นจะไม่มีใครหนีพ้นไปได้ เหล่าคนธรรมดาสร้างเรื่องนรกและยมบาลขึ้นมาเพราะพวกเขากลัวตาย
แสดงถึงความหวาดกลัวของผู้คนและการดิ้นรนต่อโชคชะตา แต่ในท้ายสุดก็ไม่สามารถหนีพ้น
แม้จะมีบางคนคิดถึงสิ่งที่ทำลงไป พวกเขาก็แค่หลอกตัวเอง วันนี้ มีเพียงหวังหลินเท่านั้นที่ช่วงชิงโชคชะตากลับคืนมาและควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้!
หลังจากได้คืนมา เขายังไม่ถอนสัมผัสวิญญาณ ทำการค้นหาสหาย ญาติมิตรและคนที่เขารัก เพื่อนำโชคชะตาของพวกเขาคืน!
แม้จะมีส่วนมากที่ตายไป หวังหลินก็ไม่ยอมให้พวกเขาถูกโชคชะตาบังคับ!!
ขณะที่ค้นหาต่อไป เขาพบเจอท่านพ่อและท่านแม่ หวังหลินมีน้ำตารื้นขึ้น แม้ครอบครัวจะสิ้นชีพไปแล้ว โชคชะตาของพวกท่านยังพัวพันอยู่ด้วยกัน
ความรักของท่านพ่อท่านแม่ช่างสงบนิ่งและอบอุ่น แม้ยามตาย พวกท่านยังพึ่งพิงกัน
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินล้อมรอบโชคะตาของท่านพ่อท่านแม่ เขาค้นพบฉือซาน หัวโต โจวยี่ ฉิงซวง ฉิงหลิน…
เขาพบเจอจ้าวเมฆาใต้ ปรมาจารย์หงซาน หวังจัว วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่ห้า ตุ้นเทียน…
เขาพบอีกหลายคน พบเจอลูกของตัวเอง หวังผิง และโจวลี่ เขานำโชคชะตาของแต่ละคนออกมาเพื่อให้ไม่โดนสวรรค์ควบคุมอีก เพื่อให้พวกเขารอดพ้นสวรรค์เหมือนที่เขาทำ
เขายังค้นพบของผีเสื้อสีแดง มู่ปิงเหมย ซื่อจื่อเฟิง ค้นพบเหล่าใบหน้าที่มิอาจลืมในชีวิตนี้
ทั้งยังค้นพบของหลี่เฉียนเหมยด้วย
อย่างไรก็ตามขณะที่ค้นหาต่อไป เขากลับไม่พบของฉิงชุ่ย ซือถูหนานและพยายามค้นหาเทียนหยุนผู้เป็นอาจารย์เขาที่หายสาบสูญไป อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดราวกับโชคชะตาของพวกเขาได้หายไป
หวังหลินกลับไม่พบคนที่สำคัญอย่างยิ่งอีกคนด้วย คนผู้นี้คือคนรักของเขา เป็นครอบครัวของเขา นางเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา
สตรีคนนี้นามว่า ลี่มู่หวาน
ไม่ว่าเขาจะค้นหาแค่ไหนก็ไม่พบกลิ่นอายโชคชะตาของลี่มู่หวานเลย ราวกับมันหายไปในอากาศเบาบาง แต่นี่กลับแตกต่างจากของฉิงชุ่ย ซือถูหนานและเทียนหยุน โชคชะตาของพวกเขาดูเหมือนไม่มีอยู่ในดวงอาทิตย์ดวงที่เก้าตั้งแต่แรกแล้ว
อย่างไรก็ตามสัญญาณโชคชะตาของลี่มู่หวานนั้นยังคงอยู่ แต่ดูเหมือนจะมีคนมาเอาไปก่อนหน้าเขาเพียงก้าวเดียว…