1670. เหล่าอสูรโบราณ
ถึงแม้สุราอุ่นในปากยังคงมีความเย็นแต่มันก็เผาไหม้อยู่ในกระเพาะ เขามองขึ้นพลางหัวเราะและโยนขวดสุรากลับไปในน้ำเดือด จากนั้นชี้ใส่ดาราจักรโบราณ
“ใครก็ตามที่ต้องการเข้าไปในดินแดนชั้นในช่วงเวลาสามปีนี้ จะต้องผ่านศพข้า ไปก่อน!”
สัมผัสแรงผลักดันแผ่กระจายออกมาจากหวังหลิน ขณะที่เขาชี้ไป หอกสีรุ้งขนาดยักษ์จึงส่งเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์
พอมันร้องคำราม ด้ามหอกพุ่งเข้าใส่แสงโบราณที่โผล่ออกมาจากวังวนวิญญาณหนึ่งแสนดวง!
ดวงดาวสั่นสะท้าน แสงสีรุ้งเปล่งประกาย กลิ่นอายทรงพลังโผล่ออกมาจากตัวหอก หอกแล่งนี้ไม่ได้เป็นของโลกใบนี้ มันเป็นของราชันย์เทพสีรุ้งแห่งสำนักเจ็ดเต๋า!
วิชานี้ถือเป็นสุดยอดวิชาลับของราชันย์เทพสีรุ้ง การที่คนนอกจะเรียนรู้มันได้ ถือว่าหากได้ยากยิ่ง มีเพียงเหลียนต้าวเฟยเท่านั้นที่ใช้ตัวตนของตัวเองไปขโมยวิชาแบบนี้มา
ชั่วขณะที่หอกสีรุ้งปรากฏในดาราจักรโบราณ ราชันย์เผยสายตาซับซ้อนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขามองหอกสีรุ้งจากระยะไกล เขาเคยเห็นเจ้านายใช้วิชานี้และเป็นพยานรู้เห็นความทรงพลังของมันจากสงครามในอดีต
“นายท่าน ข้าติดตามท่านมานาน แต่ตลอดหลายปีที่อยู่กับท่านมา ท่านไม่เคยสอนวิชาระดับนี้ให้แก่ข้าเลย ท่านกลับส่งต่อมันให้กับเจ้ามดถ้ำชั้นต่ำ… นิสัยของท่านนั้นผิดแปลกและเจ้าอารมณ์ ข้าภักดีกับท่านแต่ท่านกลับขี้เหนียวกับข้าเสมอ!!” ราชันย์พึมพำและกำหมัด
ด้านนอกค่ายกลกงล้อ หอกสีรุ้งกะพริบวาบและพุ่งเข้าใส่วังวน มันเข้าไปใกล้และปะทะกับแสงโบราณ
พริบตานั้นเกิดเสียงสั่นสะเทือนแผ่กระจาย ก่อตัวดุจระลอกคลื่นทั่วทุกสารทิศ โหมกระหน่ำเป็นคลื่นยักษ์
ทั่วดาราจักรสั่นสะท้าน สั่นสะเทือนไปถึงรากฐานของโลกแห่งถ้ำนี้เล็กน้อย
แสงโบราณจากวังวนพลันฉีกขาดและพังทลาย หอกสีรุ้งพลันสูญสลายในเวลาเดียวกัน ลำแสงพร่ามัวแต่ชั่วครู่ต่อมา แสงทั้งหมดก็หายไป
ขณะเดียวกันร่มบรรพกาลเผาดินแดนเริ่มหมุนและมีเปลวเพลิงทำลายล้างแผ่กระจายออกมา ท้ายที่สุดเปลวไฟก็พุ่งออกมาจากร่มเข้าหาวังวนโบราณมืดมิด
แม้แสงจากวังวนจะพังทลายไปแล้ว แต่วังวนยังคงอยู่ดี ราวกับมีแสงใหม่กำลังจะรั่วไหลออกมา
แสงสีรุ้งทำได้เพียงชะลอแสงเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ไม่ได้ทำลายมันไปทั้งหมด อีกทั้งหวังหลินก็เป็นคนเพียงแค่คนเดียว เขาไม่ใช่ราชันย์เทพสีรุ้ง!
กระนั้นเขาก็สามารถทลายแสงด้วยหอก ปกคลุมผืนฟ้าด้วยร่มได้เองคนเดียว!
ยามนี้ร่มบรรพกาลเผาดินแดนหมุนติ้วและพุ่งใส่วังวน ผืนร่มใหญ่ยักษ์เข้าขัดขวางหลุมดำในวังวน
หลังจากปกคลุมได้แล้ว ร่มบรรพกาลเผาดินแดนจึงปลดปล่อยเสียงดังปัง และลอยเข้าไปในวังวนที่สร้างขึ้นจากวิญญาณแสนดวง ขัดขวางป้องกันหลุมดำข้างในไว้ได้อย่างสิ้นเชิง
หลังจากหลุมดำถูกขวาง เปลวเพลิงโหมกระหน่ำและเผาวังวนไปด้วยกัน!
เกิดเป็นเสียงดังปะทุขึ้นเรื่อยๆ วังวนพังทลาย วิญญาณดั้งเดิมข้างในทั้งหมด แตกสลาย พวกมันกระอักแก่นพลังงานออกมา บางส่วนถูกเปลวเพลิงเผาไหม้จนไม่เหลือซาก
หลังจากวังวนพังทลายไปแล้ว วิญญาณดั้งเดิมที่รอดชีวิตจึงกลับเข้าสู่ร่างกายทั้งหมด ดวงวิญญาณดั้งเดิมของเซียนขั้นที่สามห้าคนได้กลับเข้าสู่ร่างกายเช่นกัน พวกเขาต่างก็กระอักโลหิต
ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น เซียนหลายหมื่นคนพลันลืมตาและกระอักโลหิตออกมาเช่นกัน
หวังหลินยืนอยู่ในค่ายกลกงล้อ แม้เขาจะเป็นเซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง การใช้หอกสีรุ้งและร่มบรรพกาลเผาดินแดนก็ยังแบกภาระให้เขาอย่างหนักหน่วง แม้จะดูปกติแต่ความเจ็บปวดกลับโผล่ออกมาจากวิญญาณดั้งเดิม
หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ เอ่ยขึ้นกับเซียนดินแดนชั้นนอกอย่างเยือกเย็น “เข้ามาอีกสิ!”
เซียนขั้นที่สามทั้งห้าคนดูอ่อนแอ แววตามืดมัว ทว่าพวกเขาไม่สามารถล่าถอยได้เลย พวกเขาได้รับคำสั่งมาจากสภาราชันย์ หากล่าถอยนั่นหมายความว่าเผ่าพันธุ์ของแต่ละคนจะสูญสิ้น
พวกเขาจำต้องต่อสู้!
ยามนี้ทั้งห้าคนร้องคำรามในเวลาเดียวกัน ชายชราผมขาวซึ่งเป็นคนนำทัพพลันร้องคำราม
“ราชรถ ยิง!”
สิ้นเสียงคำราม ราชรถหลายสิบคันที่ถูกหุ้มด้วยหนังอสูรจึงถูกเซียนหลายคนผลักออกมา กลิ่นอายเก่าแก่แผ่กระจายออกมาจากราชรถเหล่านี้
ราชรถหลายสิบคันนี้เหมือนกับจิตวิญญาณค่ายกลดวงที่หกในค่ายกลดินแดนปิดผนึก มันคือเครื่องยิงไฟ แต่ตอนนี้พวกมันไม่มีไฟ แต่ก็ไม่ดุร้ายน้อยลงเลย
ราชรถเหล่านี้คือสมบัติของสภาราชันย์ แต่ละคันต้องใช้สมบัตินับไม่ถ้วนหล่อหลอม สิ่งสำคัญที่สุดคือแต่ละคันต้องใช้วิญญาณอสูรโบราณ
แม้วิญญาณอสูรโบราณจะถือกำเนิดในถ้ำแห่งนี้ แต่บรรพบุรุษของพวกมันถูกราชันย์เทพสีรุ้งนำเข้ามาจากแผ่นดินเซียนดารา
แม้พวกมันจะไม่ได้มาจากแผ่นดินเซียนดารา แต่ก็มีกลิ่นอายของแผ่นดิน เซียนดารา เป็นอสูรเทพจากแผ่นดินเซียนดาราที่มีหลากหลายระดับ!
วิญญาณพวกมันมีความทรงจำของบรรพบุรุษ ท่ามกลางเหล่าอสูรหลายสิบตัวที่ปรากฏขึ้นมาบนราชรถนั้น มีทั้งมังกรยาวหลายแสนฟุต อสูรประหลาด มีแม้กระทั่งอสูรที่หวังหลินเคยเห็นมาก่อน กิเลน!
ราชรถส่งเสียงคำรามดังกึกก้อง เหล่าเซียนได้เตรียมพลีชีพพลางนั่งลงบนราชรถ
ร่างเหล่าเซียนเปล่งกลิ่นอายแห่งความตายและความบ้าคลั่ง หลังจากนั่งลง เกิดเสียงดังสนั่นคับฟ้า ร่างกายที่กำลังเหี่ยวแห้งพลันถูกโยนเข้าหาค่ายกลกงล้อราวกับอุกกาบาต
เมื่อถูกโยนจึงระเบิดตัวเอง แลกเปลี่ยนชีวิตเพื่อระเบิดการโจมตีที่รุนแรงเข้าใส่ค่ายกลกงล้อ
หากค่ายกลกงล้อเปรียบเสมือนผิวน้ำ เช่นนั้นเซียนที่บ้าคลั่งเหล่านี้เป็นเสมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในน้ำ ก่อเกิดเป็นระลอกคลื่นมากมาย
หวังหลินอยู่ในค่ายกล เฝ้าดูราชรถยิงเหล่าเซียนออกมาหลายคน พวกเซียนกระแทกเข้าใส่ค่ายกลด้วยชีวิต
ทว่าด้วยระดับบ่มเพาะของแต่ละคน จึงทำได้แค่ให้เกิดการบิดเบี้ยวเล็กน้อยบนค่ายกล อย่างไรก็ตามสายตาหวังหลินเคร่งเครียดขึ้นและเผยแสงประหลาด
‘มีบางอย่างผิดพลาด!’
เสียงดังสนั่นกึกก้องในหูหวังหลิน เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกกำลังกระแทกเข้าไปในค่ายกลและระเบิดตัวเอง แม้ร่างกายจะหายไป กลิ่นอายแห่งความตายยังอยู่บนค่ายกล
ค่ายกลนี้มีพลังวิญญาณของราชรถแต่ละคันอยู่ด้วย ยิ่งเหล่าเซียนตายมากขึ้น กลิ่นอายแห่งความตายนี้จึงก่อเกิดเป็นอักขระแปลกประหลาด
ยามนี้ขณะที่เซียนคนหนึ่งถูกโยนออกมาจากราชรถ มังกรแสนฟุตบนราชรถพลันร้องคำราม เดิมทีมันหลับตาแต่ตอนนี้พลันตื่นขึ้น เผยสายตาดุร้ายออกมาก่อนจะกลืนกินเซียนคนนั้น จากนั้นมันพุ่งออกมาจากราชรถและพุ่งใส่ค่ายกล!
ราวกับอักขระที่ปรากฏขึ้นบนค่ายกลมีแรงดึงดูด เจ้ามังกรพุ่งเข้ามาเต็มกำลัง
วินาทีที่เจ้ามังกรพุ่งออกมา อสูรประหลาดที่ดูเหมือนก้อนทรงกลมพลันลืมตาและพุ่งออกมาด้วยแววตาดุร้าย
เวลาเดียวกันนั้นอสูรดุร้ายเกือบทั้งหมดที่เหลืออยู่บนราชรถพลันร้องคำรามและพุ่งใส่ ซึ่งรวมถึงเหล่ากิเลนหลายตัวด้วย
เจ้ามังกรกระแทกใส่ค่ายกลก่อนเป็นอันดับแรกจนเกิดเสียงดังปัง ค่ายกลเกิดการบิดเบือน เหล่าวิญญาณทาสนับไม่ถ้วนที่กำลังผลักดันกงล้อจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน บางดวงแตกสลายในทันที
อสูรโบราณตามกันมาและเจ้าอสูรรูปร่างคล้ายก้อนทรงกลมเข้ากระแทกใส่ ค่ายกลตามหลังเจ้ามังกร
เกิดเสียงดังสนั่นแผ่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ค่ายกลบิดเบือนและเกิดระลอกคลื่นเสียงดังสนั่น
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าอสูรโบราณอีกหลายสิบตัวก็เข้ามาใกล้ ค่ายกลกงล้อเริ่มสั่นสะท้าน
หวังหลินรู้สึกถึงความปั่นป่วนจากในค่ายกล เขามองอสูรเหล่านั้นและเกิดแววตาเย็นเยียบ
“อสูรโบราณ ข้าเองก็มี! และไม่ใช่เพียงแค่วิญญาณแต่เป็นอสูรโบราณที่ยังมีชีวิต!!” หวังหลินชี้ใส่กลางหน้าผาก
วังวนหนึ่งปรากฏขึ้นกลางหน้าผาก กลิ่นอายเก่าแก่แผ่กระจาย หลังจากนั้น ไม่นานจึงเป็นแสงน่ากลัวกะพริบวูบวาบ