Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1710

Cover Renegade Immortal 1

1710. ดวงวิญญาณ

ห้าหยดโลหิตและหนึ่งโลหิตวิญญาณสีม่วงกำลังเปล่งประกายเบื้องหน้ารูปปั้น หลังจากมหาชั้นฟ้าซวนลั่วผนึกกลิ่นอายด้วยพลังอำนาจของตะวันชั้นฟ้า โลหิตทั้ง หกหยดจึงลอยล่องออกไปไกล

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในท้องฟ้าก่อตัวเป็นวังวนยักษ์ ใจกลางวังวนดูเหมือนเชื่อมต่อกับอวกาศอีกแห่ง หยดโลหิตทั้งหกทะยานเข้าไปในวังวนและหายวับไปเบื้องหน้าสายตาของทุกคน

สิ่งที่หายไปสุดท้ายคือ โลหิตวิญญาณสีม่วง การปรากฏตัวของโลหิตวิญญาณหยดนี้ทำให้ทุกคนสั่นไหว ทั้งยังไม่เชื่อ หวาดกลัวและยำเกรง!

หลายคนมองแสงสีม่วงน่ากลัวที่โผล่ออกมาจากโลหิตวิญญาณ เฝ้าดูมันหายวับไปในวังวน หลังจากนั้นจึงได้สติและเกิดความตกตะลึงรุนแรง ความตกตะลึงเสมือนคลื่นเข้าห่อหุ้มทั้งร่างกายและวิญญาณ

“โลหิตวิญญาณม่วง…โอ้ ข้าได้เห็นหยดโลหิตวิญญาณม่วง! ทั่วทุกรุ่นของ แคว้นโบราณ มีโลหิตอยู่แค่เก้าหยดเท่านั้น!”

“ตามตำนานบอกว่าบรรพชนโบราณมอบโลหิตวิญญาณเก้าหยดให้แก่ลูกชายสามคน แต่ละคนก่อเกิดเป็นหนึ่งเผ่าโบราณ เผ่าของข้าคืออาณาจักรเต๋าที่สร้างขึ้นจากลูกชายคนที่สามและมันคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้…”

“หยดโลหิตที่สิบปรากฏขึ้นในยามนี้…”

“ใครกันกำลังเจอกับหายนะแรกของบททดสอบที่สาม? ข้าไม่เคยได้ยินว่ามี โลหิตวิญญาณปรากฏขึ้นในระหว่างหายนะนี้มาก่อน เรื่องแบบนี้… เรื่องแบบนี้ มันอัศจรรย์เกินไป!! เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้แคว้นโบราณต้องสั่นคลอนแน่นอน!”

“ในบททดสอบที่สามมีอยู่สามหายนะ หายนะแรกคือ โลหิตสวรรค์เผ่าโบราณ เขาได้รับเก้าหยดโลหิตและโลหิตวิญญาณ นี่แค่หายนะแรกเท่านั้น หากเขาผ่านหายนะที่สอง สามสิ่งก่อกวนเต๋าโบราณ…เขาจะได้โชควาสนาแบบไหนอีกในหายนะนั้น?”

“ยังมีหายนะสุดท้าย คำอวยพรบรรพชนโบราณ หากเขาได้รับการยอมรับจากบรรพชนโบราณสูงส่งขนาดนั้น ข้าจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาจะได้อะไร… อาจจะเป็นการได้สืบทอดบรรพชนโบราณในตำนานที่ไม่เคยมีใครได้มาก่อน?”

การถกเถียงเริ่มดังขึ้นเนื่องจากทุกคนตกตะลึงกับหยดโลหิตวิญญาณ โชคดีที่สถานที่แห่งนี้ถูกมหาชั้นฟ้าซวนลั่วผนึกเอาไว้ ด้วยพลังอำนาจอันทรงพลังของเขาจึงป้องกันไม่ให้คนอื่นได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้

ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงเป็นคลื่นลูกใหญ่ก่อตัวบนแผ่นดินเซียนดารา อาณาจักรจวี่และฉีคงเข้ามาสังเกตการณ์เมื่อรู้เรื่องนี้ จนอาจเกิดข้อโต้แย้งได้

ต้องกล่าวว่าการปรากฏตัวของโลหิตวิญญาณหยดที่สิบนี้ถือว่าเป็นเรื่อง สำคัญมากสำหรับแคว้นโบราณ หากหวังหลินได้อีกสองหยด เขาจะสามารถกระจายแก่นโลหิตและสร้างเผ่าโบราณที่สี่ออกมาได้เหมือนลูกทั้งสามคนของบรรพชนโบราณ!

หากเหล่าเทพรู้เรื่องนี้คงตกตะลึง แม้จะไม่ทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่แต่คงจะส่งคนเข้ามาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด

ทุกอย่างเป็นเพราะโลหิตวิญญาณหยดนี้เพียงหยดเดียว!

หลังจากโลหิตทั้งหกหยดหายเข้าไปในวังวนและแสงโลหิตหายไป กลิ่นอายก็หายไปเช่นเดียวกัน มหาชั้นฟ้าซวนลั่วสะบัดแขนใส่ตะวันสีแดงที่ห่อหุ้มบริเวณ

ดวงตะวันส่องแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งขึ้นและแบ่งเป็นเศษราวหนึ่งล้านส่วน ร่อนเข้าสู่ร่างของทุกคนที่นี่ ก่อตัวเป็นวิชาผนึก

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ดวงตะวันที่ห่อหุ้มสถานที่แห่งนี้จึงหายไป ท้องฟ้ากลับคืนสู่ปกติ สายลมพัดผ่านราวกับต้องการพัดเอาความตกตะลึงและ ความตึงเครียดที่นี่ให้หายไป

มหาชั้นฟ้าซวนลั่วมองออกไปไกล ก้าวเท้าไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล หายวับอย่าง ไร้ร่องรอย เขากำลังเข้าไปในแผ่นดินของเทพ เข้าสู่สำนักเจ็ดเต๋า เพื่อพาเด็กคนนั้นกลับบ้าน!

หลังจากซวนลั่วจากไป เมืองในท้องฟ้าจึงสงบนิ่งอยู่สักพัก จากนั้นจักรพรรดิเย่ซูก็จากไปด้วยหัวใจมืดมนยิ่ง หลังจากไปแล้วทุกคนที่นี่จึงออกไปทั้งที่ยังตกใจ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ถูกฝังไว้ในส่วนลึกของจิตใจ ขณะที่พวกเขากระจายตัว ทุกคนมองตำแหน่งที่มหาชั้นฟ้าออกไป แววตามีความซับซ้อนและอิจฉา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเกินกว่าที่พวกเขาจะคาดเดา!

พวกเขากำลังมองอนาคตที่มหาชั้นฟ้าซวนลั่วกำลังนำคนผู้นั้นกลับมา พวกเขาคงอยากเห็นยิ่งกว่าว่าคนผู้นี้หน้าตาแบบไหนและเป็นใครกัน

“อาณาจักรเต๋าของข้าอ่อนแอที่สุดในสามแคว้นโบราณ… ข้าหวังว่าการกลับมาของมหาชั้นฟ้าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง…”

จนทุกคนหายไป จักรพรรดิเย่ซูจึงได้กลับไปยังตำหนักของตัวเองที่อยู่ส่วนลึกของเมืองลอยฟ้า ตำหนักแห่งนี้กว้างใหญ่จนแทบไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีแต่ของหรูหราและลวดลายแกะสลักซับซ้อน

ข้างในตำหนักมีคนรับใช้มากมาย ใบหน้าแต่ละคนซีดเซียวและเคร่งเครียดยิ่ง กลิ่นอายน่ากลัวโผล่ออกมาจากหนึ่งในตำหนักเล็กทางด้านตะวันออก

กลิ่นอายนี้เต็มไปด้วยความโกรธกริ้วที่ไม่อาจควบคุมได้

เสียงดังสนั่นกึกก้องทะลุตำหนักออกมา ตำหนักแขกสำหรับจักรพรรดิถึงพังทลายและคลื่นกระแทกทรงพลังแผ่กระจาย คนงานและองครักษ์บางส่วนที่หลบหนีไม่ทันจึงตายอย่างทรมานกันหมด

คลื่นคาวโลหิตคละคลุ้ง คนผู้หนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากซากปรักหักพัง ของตำหนัก เขาคือจักรพรรดิเย่ซู ดวงตาสงบนิ่งไร้อารมณ์ขุ่นมัว หลังจากก้าวออกมาจากซาก พลันเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้หันไปมอง

“ทำความสะอาด ข้าอยากเห็นตำแหน่งตำหนักใหม่ภายในสามวัน”

หลังเอ่ยปาก ร่างคล้ายควันหลายร้อยร่างปรากฏขึ้นมาและคุกเข่าเบื้องหน้า

จักรพรรดิเย่ซูสะบัดแขนเสื้อและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย เขาปรากฏตัวอีกครั้งในหอคอยสูงที่สุดในตำหนัก ยืนประจันหน้ามองข้ามตำหนักไปยังรูปปั้น บรรพชนโบราณที่สูงเสียดฟ้า

‘ข้าคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเต๋า ลูกหลานที่แท้จริงของบรรพชนโบราณ สายเลือดของพวกท่านไหลเวียนในตัวข้า ก็แค่ทายาทของเย่โม่ มีคุณสมบัติอะไรถึง มีค่าต่อซวนลั่วขนาดนั้น?’

‘โลหิตวิญญาณ…’ จักรพรรดิเย่ซูดูสงบนิ่ง แต่แขนขวากำหมัด พลันเริ่มหัวเราะ

‘ถือเป็นเรื่องดี ดูน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อย ข้าอยากเห็นว่าเขาจะสร้างคลื่นลูกใหม่ได้แบบไหน แม้จะมีโลหิตวิญญาณ เขาก็ยังต้องคุกเข่าเบื้องหน้าข้าอยู่ดี!’

จักรพรรดิเย่ซูเผยรอยยิ้มกว้างและถอนสายตา สะบัดแขนเสื้อ ลูกปัดสีแดงขนาดเท่ากำปั้นปรากฏขึ้นในกำมือ

ข้างในมีก้อนเมฆลอยตัวอย่างช้าๆ คล้ายหมอกควัน มีวิญญาณดวงหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน หน้าตาของมันไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน บอกได้แค่ว่ามันเป็นวิญญาณของหญิงสาว

วิญญาณดวงนี้ไม่สมบูรณ์ มันเป็นแค่เศษวิญญาณเท่านั้น

จักรพรรดิเย่ซูมองลูกปัดสีแดงในมือ และเอ่ยขึ้น “เย่ต้าว!”

“ข้าน้อยอยู่นี่!” หลังจากจักรพรรดิเย่ซูเอ่ยขึ้น แสงด้านหลังบิดเบี้ยว มีชายชราชุดดำก้าวเดินออกมา เขาคุกเข่าเบื้องหน้าจักรพรรดิเย่ซู

จักรพรรดิเย่ซูเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “เจ้าเจอนางหรือไม่?”

“ท่านจักรพรรดิ ข้าน้อยค้นทั่วทั้งแคว้นโบราณแล้วยังไม่เจอนาง ตอนนี้ข้าส่งคนไปทางฝั่งพวกเทพและจะได้รับข่าวในเร็วๆ นี้”

“ไม่มีข่าวจากอาจารย์เลยหรือ?” จักรพรรดิเย่ซูขมวดคิ้ว

ชายชราคุกเข่านิ่งและเอ่ยขึ้น

“แม้อาจารย์ได้มอบวิญญาณของนางเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน แต่อาจารย์ก็ตามหานางไม่ได้ อย่างไรเสียนางจะมีประโยชน์กับท่านจักรพรรดิในอนาคต ด้วยนางผู้นี้ ท่านจักรพรรดิจะมีแคว้นโบราณที่สมบูรณ์!”

“เขาเพียงแค่บอกข้าน้อยว่ากำลังทำนายโชคชะตาของแคว้นเต๋าโบราณ ความคิดเขาถูกเชื่อมต่อกับโลกใต้ดิน เขาเข้าไปในสถานที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและแยกวิญญาณของนางออกมาจากเศษเสี้ยวเต๋าสวรรค์…”

จักรพรรดิเย่ซูขบคิดชั่วขณะ จากนั้นมองลูกปัดสีแดงในมือ เผยแววตาแปลกประหลาด

“สตรีคนนี้ดูธรรมดาเกินกว่าที่ข้าต้องรู้ แต่หากนางเป็นตามที่อาจารย์กล่าวจริงๆ ข้าจะให้นางเป็นมเหสีของข้า! ค้นหาในพื้นที่ของเหล่าเทพต่อไป หากเจ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็จงหาสตรีโบราณที่สามารถผสานเข้ากับวิญญาณดวงนี้ได้”

“ขอรับ!” ชายชราชุดดำลุกขึ้นและกำลังจะจากไป เขาลังเลชั่วขณะ ขบคิดอยู่นาน คำนับฝ่ามือเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ท่านจักรพรรดิ ก่อนที่อาจารย์จะเข้าไปปิดด่านบ่มเพาะ เขาพูดบางอย่างขึ้นมา…”

“ว่ามา!” จักรพรรดิเย่ซูมองลูกปัดสีแดงในมือ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความองอาจ

“เขาบอกว่าการทำนายอาจจะเป็นจริงและอาจไม่เป็นจริง ตอนที่เขาแยกวิญญาณของสตรีคนนี้ออกมา เขาเห็นสองภาพ หนึ่งคือ จักรพรรดิรวมแคว้นโบราณ และอีกหนึ่งคือจักรพรรดิสิ้นพระชนม์…”

“ในสองภาพนี้ มีร่างอีกคนอยู่ด้วย! ร่างนี้เลือนลางเล็กน้อยและอาจารย์มองไม่เห็นชัดเจน แต่คนผู้นี้มีเรือนผมสีขาว!”

“น่าสนใจ เจ้าไปได้แล้ว” จักรพรรดิเย่ซูเผยแววตาเย็นเยียบ มองลูกปัดในมือและยิ้มขึ้น

‘นางเป็นใคร… เกี่ยวข้องอะไรกับร่างผมขาวที่อาจารย์เห็น…’

ดวงวิญญาณของสตรีในลูกปัดสีแดงกำลังนั่งไม่ไหวติง ร่างกายถูกสายหมอก บดบังและนางดูเหมือนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย

สายลมพัดผ่านใส่จักรพรรดิเย่ซู ลูกปัดสัมผัสกับสายลมไปด้วย หมอกรอบตัวนางดูเหมือนปั่นป่วน ขณะที่ร่างของนางกำลังเผยออกมา มันกลับถูกนิ้วมือของผู้ถือลูกปัดบดบังไปเสีย

ณ โลกถ้ำ ในรอยแยกที่อยู่ในทะเลเมฆา วังวนยักษ์เหนือแท่นพิธีกำลังส่งเสียง แสงโลหิตเปล่งประกายบนร่างหวังหลินจนทำให้เขาดูเหมือนสร้างขึ้นจากโลหิต

สายตาหรี่แคบและจดจ้องเข้าไปในส่วนลึกของวังวน จนกระทั่งได้เห็นโลหิต อีกหลายหยดลอยออกมาจากวังวน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version