1740. เกราะสองธาตุ
คำพูดของชายชราจากชั้นที่สามดังกึกก้องไปทั่วอาณาเขต เข้าสู่หูของหวังหลิน รวมถึงหยุนยี่เฟิงแห่งสำนักกุ้ยยี่ ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว
ปกติเขาดูสบายๆ แต่นั่นเพียงแค่ฉากหน้าเท่านั้น ความหยิ่งยโสของเขานั้นหยั่งรากลึก เพราะมีความหยิ่งยโสเช่นนี้เขาจึงไม่ทำตัวน่าขายหน้าเพียงเพราะคำพูดของตัวเอง
เขาพบว่าเรื่องแบบนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคนมีอำนาจ
หยุนยี่เฟิงขมวดคิ้วมองดูหวังหลินและอ้าปากค้าง เขาถอยร่นไปด้านข้างและ ไม่สนสิ่งที่เกิดขึ้น
ขณะที่ประโยคพวกนั้นดังออกมาจากชั้นที่สาม แสงสีเขียวกะพริบวาบพร้อมกับแสงสีเหลือง ชายชราผมขาวดูสมสง่าได้ก้าวเดินออกมาจากชั้นที่สาม
ร่างกายของชายชราผู้นี้ถูกล้อมรอบด้วยพลังของธาตุไม้และปฐพี เพียงแค่ก้าวออกมาก็ได้เห็นเงาของต้นไม้สูงตระหง่านและพายุทรายด้านหลังแล้ว
แรงกดดันระดับบ่มเพาะขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลางแผ่กระจายออกมาจากชายชรา
เขาสะบัดแขนขวาใส่หอคอย ม่านแสงปรากฏขึ้นล้อมรอบหอคอยเพื่อทำการปกป้อง มันแข็งแกร่งมากและยากจะทำลายได้ในเวลาสั้นๆ!
“ทะลวงเข้าสู่ดาวเบญจธาตุและย้อนทวนกงล้อจิตใจ เจ้ากล้ามากเด็กน้อย ในเมื่อวันนี้เจ้ามาแล้วก็อย่าไปไหน ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ามีสถานที่ที่เผ่าพันธุ์เต๋าโบราณของเจ้ามิควรก้าวเข้ามา!” ชายชรามองหวังหลินด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ข้าจะจับเจ้าไว้ และให้ผู้อาวุโสของเจ้ามาชำระบาป!” เขาไม่รู้ว่าหวังหลินมาจากโลกถ้ำ หลังจากเห็นพลังอำนาจเต๋าโบราณของหวังหลินไปแล้ว จึงคิดไปว่าหวังหลินมาจากแผ่นดินเซียนดาราเหมือนตนเอง!
เขาไม่คิดว่าหวังหลินจะมาคนเดียว และน่าจะมาพร้อมกับคนของเผ่าพันธุ์ เต๋าโบราณคนอื่นๆ ด้วย ราวกับเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาสมบัติแต่เพื่อตามหาเย่โม่!
ชายชราคิดทั้งหมดนี้ขึ้นมาเองและเชื่อว่าถูกอย่างน้อยแปดในสิบส่วน หลังจากเอ่ยปากออกไป เขาพุ่งทะยานและโบกแขนขวา เสียงดังปะทุออกมาจากเงาต้นไม้ยักษ์ ต้นไม้บิดเบี้ยวและหดลงจนกลายเป็นกลุ่มก้อนแสงสีเขียวในมือชายชรา
พริบตาเดียวแสงสีเขียวเปลี่ยนกลายเป็นแส้!
แส้เต็มไปด้วยพลังชีวิตและพลังธาตุไม้ เขาโบกสะบัดมันจนเกิดเสียงดังลั่น ราวกับอสรพิษสีเขียวเลื้อยเข้าหาหวังหลิน!
โลกพลันเปลี่ยนสีสัน ราวกับทุกอย่างต้องพังทลายเบื้องหน้าแส้เส้นนี้!
สมบัติของสำนักกุ้ยยี่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือแส้! แส้เหล่านี้มีชื่อเสียงมากบนแผ่นดินเซียนดารา และยังมีวิธีการสร้างแตกต่างกันทั้งหมด
หวังหลินไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของแส้สีเขียวได้ชัดเจน เขามองเห็นแต่แสงสีเขียวเท่านั้น แสงสีเขียวที่กำลังใกล้เข้ามาหาเต็มไปด้วยธาตุไม้เต็มเปี่ยม!
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ยังมีอีกสองชั้นที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ชายชราจาก ชั้นที่สามมีระดับบ่มเพาะน่าตกตะลึงไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าอีกสองคนที่เหลืออยู่ในสองชั้นนั้นจะทรงพลังแค่ไหนกัน…
หวังหลินถอยไปหลายก้าว ขณะที่แส้สีเขียวใกล้เข้ามา แววตากะพริบเย็นเยียบและผลักฝ่ามือไปข้างหน้า
นิ้วทั้งห้ากำหมัดและดึงกลับมา!
ประทับเวรกรรม!
เพียงแค่การดึง แสงสีเขียวจึงถูกแยกออกมาจากแส้และส่งเข้าไปในกำมือหวังหลิน เขาบีบมันอย่างรุนแรงทำให้แสงสีเขียวพังทลาย!
แส้หยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะ วินาทีนั้นต้นไม้ใบหญ้าบนดาวเคราะห์พลันเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนกลายเป็นพลังธาตุไม้รวมตัวเข้าไปในแส้
เพียงครู่เดียว แก่นแท้ที่ถูกประทับเวรกรรมดึงออกมาก็ฟื้นคืน แส้ฟาดออกไปและร่อนลงใส่ร่างหวังหลิน!
ร่างหวังหลินสั่นสะท้านรุนแรงเสียงดังปัง แส้ไม่ได้สัมผัสร่างกายแต่หยุดลงห่างไปเจ็ดฟุต เกิดระลอกคลื่นโผล่ออกมาจากแส้ทำให้หวังหลินรู้สึกว่ามีพลังรุนแรงตีใส่ร่างกาย
หวังหลินถอยไปหลายก้าวและฝืนกลืนโลหิตในลำคอ ชายชราหัวเราะอย่างโอหังและฟาดแส้ออกไปอีกครั้ง คราวนี้เป้าหมายอยู่ที่ศีรษะหวังหลิน!
หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเริ่มสรุปสถานการณ์ เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสังหาร เป้าหมายก็เพื่อดูให้เห็นว่าหนามที่ฝังอยู่ในโลกถ้ำและเซียนต่างแดนพวกนี้แข็งแกร่งแค่ไหน!
หวังหลินไม่ประหลาดใจกับระดับบ่มเพาะของชายชรา แต่การถูกอีกฝ่ายพัวพันไว้เช่นนี้หมายถึงเขาไม่สามารถบังคับให้อีกสองคนโผล่ออกมาจากการซ่อนตัวใน สองชั้นสุดท้ายได้
“แส้ ข้าก็มีเช่นกัน!” วินาทีนั้นหวังหลินดวงตาส่องสว่าง ความคิดหวังหลินมี เล่ห์เหลี่ยมดุจปีศาจ ดังนั้นจึงค้นพบวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับคำตอบที่เขาต้องการ
หวังหลินยื่นแขนขวาออกไป ปรากฏแส้ฟาดวิญญาณขึ้นมา แส้ฟาดไปรอบๆ และเกิดเสียงดังลั่น แสงสีทองจากแส้ฟาดวิญญาณดูรุนแรงยิ่งกว่าแสงสีเขียวเสียอีก!
เมื่อชายชราได้เห็นแส้ฟาดวิญญาณ จึงเกิดอาการตกตะลึง แต่ในไม่นานก็จดจำบางอย่างได้ สีหน้าท่าทางมืดมนขึ้น
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินถือแส้ฟาดวิญญาณและก้าวออกไป สะบัดแขนขวา ส่งแส้ฟาดวิญญาณเข้าปะทะกับแส้สีเขียว!
มองไกลๆ แส้ทั้งสองเสมือนอสรพิษยักษ์สองตัว เมื่อปะทะกันจึงเกิดเสียงดังสนั่น ตัวแส้อ่อนนุ่ม เมื่อสัมผัสกันจึงบิดเบี้ยวพัวพันจนยากจะแยกออก
แสงสีทองและแสงสีเขียวผสมผสานกันพร้อมกับเสียงดังสนั่น หวังหลินถือแส้ ฟาดวิญญาณในมือขวา ชายชราถือแส้สีเขียวเอาไว้ แส้ทั้งสองเสมือนติดมือกันทั้งคู่!
ทั้งคู่ดึงกลับในเวลาเดียวกัน ใบหน้าชายชราบวมเป่งพร้อมกับส่งระดับบ่มเพาะเข้าไปในแขน ระเบิดพลังและดึงกลับมา
ทว่าเขาเป็นแค่เซียนเท่านั้น!
หวังหลินมีสายโลหิตเต๋าโบราณ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่มีร่างกายแข็งแกร่งกว่า เหล่าบัญชาโบราณ ไม่เพียงแต่หวังหลินจะมีสายโลหิตเต๋าโบราณเท่านั้น แต่ร่างอวตารยังมีเจ็ดแก่นแท้ด้วย
แก่นแท้ระเบิดพลังและเข้าไปในแขนขวา ผสมผสานกับพลังเต๋าโบราณ อีกทั้งแขนขวาของหวังหลินก็เป็นของเย่โม่ พลังที่ผสานกันจึงเพิ่มความน่ากลัวทวีคูณ แม้ชายชราจะเป็นขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลาง หากเทียบความแข็งแกร่งกับหวังหลินแล้วถือว่าเล็กน้อยไป!
เพียงดึงเข้ามา ทั่วอาณาเขตส่งเสียงดังสนั่น แส้ทั้งสองส่งเสียงราวกับไม่สามารถทนไหวอีกต่อไป พริบตานั้นมันจึงถูกดึงออกจากมือของชายชราจนทิ้งเป็นรอยโลหิตเอาไว้!
ปัง!
แส้ทั้งสองถูกดึงเข้าหาหวังหลิน หวังหลินพุ่งใส่ชายชราพร้อมกับดวงตาส่องสว่าง
ชายชรามีสีหน้ามืดมนยิ่ง สองฝ่ามือสร้างผนึกพลางล่าถอยอย่างรวดเร็ว แส้สีเขียวที่ถูกหวังหลินดึงไปพลันแตกสลายเป็นแสงสีเขียวลอยกลับเข้าหาชายชรา
ขณะเดียวกัน พายุทรายด้านหลังชายชราได้เคลื่อนไหวไปข้างหน้าและห่อหุ้มรอบตัวเขา เสียงแตกร้าวดังสนั่น แสงสีเขียวเข้าไปในพายุทรายทันที พายุทรายหดตัวลงและก่อเกิดเป็นชุดเกราะที่มีทั้งธาตุไม้และธาตุปฐพี!
เกราะสีเหลืองน้ำตาล มีลวดลายดอกไม้เป็นสีเขียว มองไกลๆแล้วสีเขียววาดลวดลายเป็นต้นไม้ยักษ์
เมื่อชุดเกราะปรากฏ ระดับบ่มเพาะของชายชราจึงเพิ่มขึ้นจากขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลางไปสู่แก่นแท้ดับสูญระดับปลาย เขาห่างจากขั้นแก่นแท้ดับสูญขั้นสูงสุดเพียงขั้นเดียว!
นี่คือ ชุดเกราะของสำนักกุ้ยยี่!
ทว่ายิ่งชุดเกราะทรงพลังแค่ไหน มันยิ่งยากจะควบคุมและยิ่งเกิดอันตรายมหาศาลต่อผู้ใช้ ใบหน้าชายชราบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ราวกับกิ่งไม้กำลังชอนไชเข้าไปในร่าง เขามองขึ้นไปด้วยสีหน้าดุดันและส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดก่อนจะพุ่งไปข้างหน้า
ทันทีที่พุ่งออกไป พื้นดินขยับเคลื่อนไหวเสมือนคลื่น ภูเขายักษ์ปรากฏขึ้นหลายแห่งและเคลื่อนไปพร้อมกับเขา
รวมถึงต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดบนดาวเคราะห์จึงเหี่ยวแห้งและเปลี่ยนกลายเป็น เส้นสีเขียวรวมเข้าเบื้องหน้าชายชรา
มันพุ่งเข้าไปในต้นไม้สูงตระหง่านจำนวนมากจนเกิดการเคลื่อนไหว ต้นไม้พวกนี้ดูเหมือนป่าทึบและรวมตัวกันก่อเกิดเป็นมนุษย์ไม้ขนาดยักษ์!
มนุษย์ไม้สูงมากกว่าหมื่นฟุตและห่อหุ้มรอบชายชรา มันเข้าไปใกล้หวังหลิน ยกแขนขวากระแทกเข้าใส่!
“จงตายไปซะ!” เสียงดังกระหึ่ม กำปั้นของต้นไม้ยักษ์ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของหวังหลิน!
ธาตุปฐพีสร้างวังวนด้านล่างหวังหลิน พายุทรายเข้าห่อหุ้มรอบตัว เหล่าเม็ดทรายนับไม่ถ้วนหมุนวนพยายามฉีกกระชากร่างหวังหลิน!
หวังหลินสงบนิ่งอยู่ในพายุทราย ทั้งหมดอยู่ภายใต้การคาดการณ์ของหวังหลิน ขณะที่พายุทรายห่อหุ้มเขาและมีกำปั้นจากต้นไม้เข้าประชิด หวังหลินหลับตาและ ย่อตัวลง วิชาไร้เทียมทานห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
ด้านนอกดาวเบญจธาตุ มหาชั้นฟ้าซวนลั่วมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเริ่มทำการทดสอบหวังหลินได้สักพักแล้ว ตอนนี้พึงพอใจยิ่ง ดวงตาเผยแสงแปลกประหลาด
‘นี่มันวิชาที่คล้ายกับร่างเทพอมตะ…เขากำลังจะทำอะไร…’
ขณะที่หวังหลินงอตัวอยู่ในพายุทรายข้างใน กำปั้นจากมนุษย์ต้นไม้ก็มาถึง กำปั้นไม่ได้มีพลังความแข็งแกร่งแต่มันเป็นวิชาที่ใช้ร่วมกับระดับบ่มเพาะของชายชราและชุดเกราะ
เป็นกำปั้นจากวิชาเซียน!
นาทีที่กำปั้นตกลงมา พายุทรายหดตัวลงเข้าหาหวังหลินราวกับกำลังฉีกกระชาก
เสียงดังสนั่นแผ่กระจายไปทั่วทั้งดาวเคราะห์ กระทั่งกระจายออกไปนอกอวกาศ
หวังหลินถูกพลังธาตุไม้และธาตุปฐพีเข้าโจมตีใส่ร่าง วิชาไร้เทียมทานระเบิดออกมาทำให้หวังหลินฟื้นคืนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ตาย!
หวังหลินหยิบยืมพลังที่เข้ามาและดีดผึงดุจลูกธนู แทงทะลุผ่านพายุทรายและพุ่งออกไปไกล!
ความเร็วเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล จากร่างเต๋าโบราณและระดับบ่มเพาะ เขาตระหนักดีถึงพลังโจมตีของชายชรา ถ้าไม่มีวิชาไร้เทียมทาน แม้จะมีร่างเต๋าโบราณก็ยังตาย!
อย่างไรก็ตามด้วยวิชาไร้เทียมทานที่เข้าปกป้อง ตราบใดที่ไม่ใช้เวลานานเกินไป ร่างกายจะไม่ถูกทำลาย!
หวังหลินยืมพลังของอีกฝ่าย ใช้ความเร็วที่เหนือกว่าเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญจนเพิ่มความเร็วไปถึงระดับที่มากกว่าด่านวิบากแก่นแท้ไปหลายขั้น ดาวเบญจธาตุคล้ายกำลังพังทลาย สิ่งเดียวที่มองเห็นได้คือลำแสงที่หวังหลินสร้างขึ้น ราวกับเขากำลังพุ่งออกไปจากโลกถ้ำ!
ลำแสงพุ่งใส่หอคอยที่มีม่านแสงปกป้องและกระแทกเข้าใส่ หวังหลินใช้ตัวเองดุจสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดเข้าทะลวงการป้องกันของหอคอย!
แสงรอบหอคอยแตกร้าวและเริ่มบิดเบือน ส่วนที่หวังหลินปะทะไปเกิดรอยแตกและทำให้เขาเข้าไปข้างใน!
จนกระทั่งเข้าไปแล้ว ม่านจึงพังทลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
หวังหลินทะลวงเข้าไปและยังไม่หยุด ด้วยพลังรุนแรงจากการโจมตีและ วิชาไร้เทียมทาน เขาจึงปะทะกับหอคอย
หอคอยสั่นเทา หลุมยักษ์ผุดขึ้นมาตรงจุดที่หวังหลินเข้าปะทะ เศษชิ้นส่วนจากช่องว่างเริ่มแตกสลายเบื้องหน้าหวังหลิน
พอหวังหลินทะลวงเข้าไปในชั้นที่สอง เขาเห็นชายชราคนหนึ่งซึ่งมีพลังของ ธาตุทั้งห้าอยู่ในร่าง
แม้ชายชราจะดูแก่ แต่กลับมีเรือนผมสีดำขลับ! เขานั่งอยู่ตรงนั้นราวกับกำลัง บ่มเพาะวิชา แต่กลับตกตะลึงกับการปรากฏตัวของหวังหลินและพลันลืมตาขึ้น!
เมื่อหวังหลินเห็นชายคนนี้ จิตใจจึงสั่นไหว!
หากชายชราเยาว์วัยขึ้นเล็กน้อย เขาคงเหมือนหน่าต้าวไม่ผิดเพี้ยน!! ดวงตาของเขามีกงล้อจิตใจเก้าโคจรอยู่ด้วย!
“ออกไปจากที่นี่ซะ!!” เสียงคำรามดังออกมาจากชั้นที่สอง เต็มไปด้วยความ โกรธเกรี้ยวและแผ่กระจายไปทั่วดวงดาว ชายชราจากชั้นที่สองสั่นเทา สายตาหวาดกลัวและหวาดหวั่น
แม้กระทั่งหยุนยี่เฟิงที่มีท่าทีเกียจคร้านยังหายไปและเกิดความเคารพ
ทุกคนที่มีสติเกิดการสั่นเทา เห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวเจ้าของเสียง
เมื่อเสียงนี้เข้าสู่ร่างหวังหลิน ร่างไร้เทียมทานจึงเผยอาการพังทลาย จิตใจสั่นไหวและกระอักโลหิต ล่าถอยอย่างบ้าคลั่งราวกับโดนเสียงคำรามของชั้นที่สองบังคับให้ออกมา!
ช่องว่างระหว่างระดับบ่มเพาะช่างนั้นกว้างใหญ่เกินไป!
อย่างไรก็ตามหวังหลินไม่ยอมถูกผลักออกไปแบบนี้ เขายังไม่เจอคนในชั้นแรกเลย ตอนนี้สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและโหดเหี้ยม
หวังหลินไม่เพียงโหดเหี้ยมกับคนอื่นเท่านั้น แต่รวมถึงตัวเองด้วย ขณะที่ถูกดันกลับไป เขาโบกแขนขวาและปรากฏกระบี่โลหิต เขาอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างกาย และโยนกระบี่โลหิตไปข้างหน้าพร้อมกับจะพุ่งออกไปยังหอคอย!
เพียงสะบัดครานี้ กระบี่โลหิตจึงพุ่งเข้าหาชั้นแรก! ขณะเดียวกันหวังหลินก็กระอักโลหิต ยกแขนซ้ายขึ้นมาชี้ใส่ชั้นที่สอง
“เจ้ากล้า!!” ชายชราในชั้นที่สองลุกขึ้น สายตาเย็นเยียบ ยื่นแขนขวาเข้าหา กระบี่โลหิต
จังหวะนั้นแขนซ้ายหวังหลินซึ่งชี้ออกมาก่อนแล้ว พลันใช้วิชาของตัวเอง!
“หยุด!!”
หวังหลินยอมเสี่ยง เขารู้ว่าด้วยร่างไร้เทียมทานของตัวเอง แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็คงไม่ตาย ในเมื่อไม่ตายเขาก็อยากเสี่ยง!
แม้จะบาดเจ็บสาหัส เขาก็มีวิธีออกไปจากที่นี่!
ภายใต้ผลลัพธ์ของวิชายับยั้ง แขนขวาของชายชราหยุดชะงัก เป็นช่วงเวลาครู่เดียวก่อนที่ผลลัพธ์ของวิชาจะหายไป หวังหลินถูกพลังสะท้อนตีใส่และมีเสียงปะทุโผล่ออกมาจากร่าง โลหิตจำนวนมากฟุ้งกระจายออกมาจากรูขุมขน แต่ในสายตาเขามันคุ้มค่าแล้ว!
ชายชราหยุดชะงักทำให้กระบี่โลหิตทะลวงเข้าไปในชั้นแรกได้ เกิดรูขนาดสามนิ้วก่อนจะมีแสงกะพริบวาบจากอีกฝั่งของหอคอย!
หวังหลินถอยร่นพลางจ้องมองช่องว่างขนาดสามนิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
เขาเห็นว่าในชั้นแรกนั้นไม่มีเซียน มีเพียงชุดเกราะสีดำเท่านั้น!! สีดำบนชุดเกราะเสมือนความมืดมิดที่สามารถกลืนกินแสงได้ทั้งหมด!
หวังหลินถอยอย่างรวดเร็วและกระอักโลหิต กระบี่โลหิตกำลังกลับคืนมา แต่มีมือสีขาวจับเอาไว้
มือนั้นคือชายชราจากชั้นที่สอง เขาก้าวออกมาคว้ากระบี่โลหิต! ไม่ว่ากระบี่โลหิตพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถเป็นอิสระออกมาได้
ด้านนอกหอคอย ชายชราในชุดเกราะธาตุไม้และโลหะกลับมีสีหน้าเคารพพลางคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “ขอคารวะ ศิษย์พี่หม่า”
“ขอคารวะ ลุงหม่า” หยุนยี่เฟิงกล่าวอย่างตกตะลึงเช่นกัน สายตาเคารพพลางคำนับฝ่ามือ
“ขอคารวะ ผู้อาวุโสหม่า” คนทั้งสามที่ถูกหยุดเอาไว้ด้วยร่างเงาเต๋าโบราณ ทั้งหมดคำนับฝ่ามืออย่างเคารพ
หวังหลินถอยออกไปไกลและเห็นทุกอย่าง เขาเข้าใจว่าต้องบังคับให้เซียนต่างแดนออกมา ชายชราชื่อหม่าผู้มีหน้าตาเหมือนหน่าต้าวที่อ่อนเยาว์กว่า เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่หวังหลินเห็นในเผ่าสายฟ้ากระจาย ซึ่งเป็นหัวหน้าของกลุ่มเซียนต่างแดนกลุ่มนี้!
หนามได้ถูกดึงออกมาแล้วและไม่มีสิ่งใดซ่อนอยู่ หวังหลินเห็นทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรติดค้างในใจ!
เขาคิดไว้แล้วในใจ แม้อาการบาดเจ็บจะสาหัสแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หวังหลินชี้ไปยังท้องฟ้า
ชายชราชื่อหม่ามีแสงกะพริบในแววตา เขาจ้องหวังหลินและพุ่งออกไป
“เจ้ารบกวนการบ่มเพาะของข้า เจ้าสมควรตาย!”
“หากเข้ามาอีกก้าว เจ้าสมควรตาย!” ขณะที่ชายชราก้าวออกมา หวังหลินเอ่ยเสียงเย็นเยียบดังกึกก้อง แม้โลหิตยังคงไหลจากปากหวังหลิน คำพูดเต็มไปด้วย ความมุ่งมั่น!
ท้องฟ้าพลันมืดครึ้มราวกับร่างขนาดยักษ์ปกคลุมด้านบน ขณะเดียวกันมีสายตา คู่หนึ่งปรากฏในท้องฟ้า!
ดวงตาคู่นี้โหดเหี้ยมอำมหิตไร้สีสัน ราวกับทุกอย่างในโลกไม่แตกต่างอะไรจากฝุ่นผง
ชายชราชื่อหม่าสั่นไหวพลางมองขึ้นไปยังดวงตาในท้องฟ้า รูม่านตาหรี่แคบและฝ่าเท้าหยุดกึก เขาไม่กล้าก้าวไปอีกก้าว!
คลื่นในใจระเบิดออกมาในตัวชายชราชื่อหม่า มีความตกตะลึงปนไม่เชื่อและเห็นได้ชัดทางสีหน้า
นอกจากเขาแล้วยังมีชายชราที่มีชุดเกราะธาตุไม้และปฐพีเองก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว พอเขามองดวงตาคู่นั้นในท้องฟ้า ใบหน้าซีดเผือดทันที หัวใจสั่นไหว
อีกสามคนสั่นเทาเช่นกัน ตกตะลึงกับสายตาบนท้องฟ้า
หยุนยี่เฟิงตกตะลึงชั่วขณะ แต่ความรู้สึกนี้ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว อย่างรวดเร็ว เขามองไปยังชายชราชื่อหม่า หลังจากเห็นสีหน้าท่าทางของชายชรา ใบหน้าจึงซีดเผือดทันที
‘เต๋าแห่งสวรรค์…’ ชายชราชื่อหม่าขบคิดเงียบๆ ผ่านไปสักพักจึงมองหวังหลินอย่างล้ำลึก จิตสังหารและความโลภถูกซ่อนเอาไว้แต่ยังไม่กล้าก้าวเท้า
เขาไม่กล้าเสี่ยง!
“คืนกระบี่มาให้ข้า!” หวังหลินถอยอย่างช้าๆ และก้าวเข้าไปในท้องฟ้า จากมุมมองของคนด้านล่าง เขาอยู่ตรงกลางของสายตาโหดเหี้ยมคู่นั้น
ชายชราชื่อหม่ากำกระบี่แน่น ขบคิดเล็กน้อยจึงมองหวังหลินและเอ่ยเบาๆ
“ข้าตกใจกับเต๋าแห่งสวรรค์นั้นจริงๆ แต่ข้าไม่เชื่อว่ามันจะมีพลังเข้ากลืนกินข้า! ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่ตกอยู่ในสภาวะแบบนี้!” ชายชราชื่อหม่ายกเท้าขวาขึ้นมาและค่อยๆ วางลงไป แต่สายตาจับจ้องและมองดูการเปลี่ยนแปลงของหวังหลิน
หวังหลินยิ้มเบาบางและกล่าวเบาๆ “มันไม่สามารถกลืนเจ้าได้จริงๆ แต่เจ้ายังต้องคืนกระบี่ให้ข้า”
คำกล่าวนั้นทำให้ชายชราต้องขมวดคิ้วและลังเล เท้าหยุดชะงักและจ้องหวังหลินอยู่สักพัก แต่ยังไม่อาจเห็นร่องรอยอันใดจากสีหน้าหวังหลิน
‘ในเมื่อกล้าเช่นนั้น เขาต้องเตรียมตัวมาแล้ว…’
“คืนกระบี่มาในสามลมหายใจ!” แววตาหวังหลินแล่นวาบ
สามลมหายใจผ่านไปในพริบตา ท้ายที่สุดชายชราก็ถอนฝ่าเท้าและโยนกระบี่ให้หวังหลิน หวังหลินไม่ได้รับมันไว้แต่มีเจ้าอสูรโลกันตร์มายาเข้ากลืนมันไป
“ลาก่อน!” หวังหลินคำนับฝ่ามือและล่าถอย เพียงก้าวเดียวเขาก็ออกไปจาก ดาวเบญจธาตุและจมเข้าไปในอวกาศ!