1741. มหาชั้นฟ้าซวนลั่ว
หวังหลินถอยกลับเข้าไปในท้องฟ้าและร่อนอยู่บนหลังเจ้าอสูรโลกันตร์เพียงแค่ก้าวสองครั้ง เมื่อหวังหลินเรียกอสูรโลกันตร์ออกมามันก็หายตัวทันที
หวังหลินนั่งอยู่บนหลังของมันด้วยความเจ็บปวด เขาอดทนต่ออาการบาดเจ็บทั้งหมดในร่างพร้อมกับจ้องมองดาวเบญจธาตุ
หลังจากเห็นว่าดาวเบญจธาตุไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันใด หวังหลินจึงรู้ว่าอีกฝ่ายไม่กล้าพนัน!
ความจริงแล้วถึงแม้จะกล้าลงมือ หวังหลินก็ยังมีแผนสำรอง เขายังมีคันศรลี่กวงอยู่ แม้จะไม่อยากใช้ตอนนี้ แต่หากเผชิญวิกฤตจริงๆ หวังหลินก็ต้องใช้อย่างไม่ลังเล
แม้การเดินทางมายังดาวเบญจธาตุจะได้รับรอยแผล แต่สิ่งที่เขาได้ยังมีค่ามหาศาล เจ้าอสูรโลกันตร์ค่อยๆ ล่าถอยและออกไปจากวงโคจรรอบดาวเบญจธาตุ มันกลับไปยังดาราจักรฟ้ากระจ่าง
‘ระดับบ่มเพาะของเซียนชื่อหม่าคนนั้นทรงพลังยิ่งกว่าของราชันย์ แม้จะไม่ถึง ขั้นวิบากดับสูญ เขาคงผ่านด่านวิบากแก่นแท้ไปหลายด่านแล้ว…’
‘อีกทั้งชั้นแรกของหอคอยยังมีชุดเกราะ…การบ่มเพาะของสำนักกุ้ยยี่ช่างแปลกประหลาด พวกเขาพึ่งพาแต่ชุดเกราะ…ชุดเกราะในชั้นแรกนั่นเหมือนจะเป็นของเซียนชื่อหม่า…’
‘หากเป็นของเขาจริง เขาจะมีระดับบ่มเพาะเท่าใดเมื่อสวมใส่ไปแล้ว?’ หวังหลินขบคิด
หลังจากหวังหลินจากไป ชายชราชื่อหม่าจึงมืดมนและจ้องมองท้องฟ้า เขาลังเลและไม่ตัดสินใจ
เขาไม่มั่นใจว่าหวังหลินมีคนหนุนหลังเตรียมการมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามในเมื่อหวังหลินกล้าเข้ามาในสถานที่อันตรายเช่นนี้และกระทั่งบังคับให้เขาคืนกระบี่โลหิต หวังหลินต้องเตรียมการมาแล้ว!
เพียงขบคิด ดวงตากลับเย็นเยียบ รอบด้านเงียบสนิท ด้านชายชราสวมเกราะสองธาตุกำลังยืนอย่างเคารพและไม่กล้าส่งเสียง
ทางด้านชายวัยกลางคนทั้งสามจากชั้นห้าจนถึงชั้นเจ็ด ทั้งหมดยืนอย่างเคารพและดูหวาดกลัว
หลังจากผ่านไปสักพัก ชายชราชื่อหม่าพลันเอ่ยขึ้น “เจ้าคิดอะไรอยู่?” แม้คำพูดไม่ได้เอ่ยถึงใครตรงๆ แต่หยุนยี่เฟิงขบคิดและเอ่ยตอบ
“ผู้น้อยไม่เชื่อว่าเต๋าแห่งสวรรค์นั่นจะกลืนกินเราได้! ท่านลุงค้นหาเบาะแสเรื่องเต๋าแห่งสวรรค์และข้าก็ค้นหามันหลายปี แม้จะไม่พบอะไรแต่ข้าก็พอคาดการณ์ได้บางส่วน”
“เต๋าแห่งสวรรค์แบ่งตัวออกมา แม้เจ้าเด็กนั่นจะเป็นเจ้านาย มันก็ไม่สมบูรณ์! ถึงเต๋าแห่งสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์จะสามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตได้ทุกอย่าง มันไม่สามารถกลืนกินระดับบ่มเพาะที่ทรงพลังได้มากมาย!”
“เขาต้องมาที่นี่เพราะค้นพบว่าเรามาจากโลกนอกถ้ำ ตอนนี้เป็นช่วงสำคัญในการค้นหาวิญญาณดวงที่สามและเขาต้องกังวลเรื่องนี้ ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อบังคับให้เราออกจากที่ซ่อน พอรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เขาจึงสามารถวางแผนของตัวเองได้!”
“แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของผู้น้อย หากนี่คือเหตุผลจริงๆ ที่เขามา เขาก็ต้องมีอะไรบางอย่าง”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น นอกจากเต๋าแห่งสวรรค์แล้ว เขาต้องมีแผนสำรองหากกล้าเข้ามาที่นี่!” ชายชราชื่อหม่ามีแววตาส่องสว่างขึ้นและถอนสายตาออกจากท้องฟ้า มองไปยังทุกคนตอนนี้ด้วยท่าทีมืดมนและกำลังจะกลับไปยังหอคอย
ทว่าในจังหวะนั้น น้ำเสียงราบเรียบดังกึกก้องไปทั่วดาวเบญจธาตุ
“พวกเจ้าใช่หรือไม่ที่บอกว่าเผ่าพันธุ์เต๋าโบราณเป็นแค่คนเถื่อน?”
ยามที่น้ำเสียงนี้ดังขึ้นมา สีหน้าชายชราชื่อหม่าจึงเปลี่ยนไป รูม่านตาหดเล็ก หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก แม้น้ำเสียงจะฟังดูนิ่งเรียบแต่กลับทำให้จิตใจสั่นเทา
เขาไม่ใช่คนเดียวที่เป็นแบบนี้ หยุนยี่เฟิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปและไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่นิ้วเดียว
อีกสามคนที่เหลือเช่นกัน ร่างแต่ละคนสั่นเทา แววตาหวาดกลัวสุดขีด
ส่วนชายชราสวมชุดเกราะสองธาตุ ใบหน้าซีดเผือดทันที แววตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เสียงนั้นดังเข้าสู่จิตใจทุกคนและเกิดสัมผัสความหวาดกลัวระเบิดขึ้นจากในร่าง
ความหวาดกลัวมากพอจนทำลายพลังชีวิต ชายวัยกลางคนทั้งสามกระอักโลหิต ร่างกายถอยร่นพลางสั่นเทา ราวกับคนที่มองไม่เห็นนี้เข้ามาประชิดและผลักพวกเขาออกไป
โลกเปลี่ยนสีสัน ก้อนเมฆกระจัดกระจาย ระลอกคลื่นดังสนั่น ร่างเลือนลางปรากฏขึ้นและก้าวเข้าหาดาวเคราะห์
ร่างนั้นไม่ได้สูง แต่รูปลักษณ์ของเขาทำให้พื้นปฐพีสั่นสะท้านและแทบทำให้ ดาวเบญจธาตุแทบพังทลาย ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับร่างนี้ครอบครองพลังทำลายสรวงสวรรค์
หลังจากเขาปรากฏตัว ทั่วดาวเคราะห์ถึงกับเงียบกริบ กระทั่งดวงอาทิตย์ในท้องฟ้ายังหายไป
“ใช่พวกเจ้าหรือไม่ที่บอกว่าเผ่าพันธุ์เต๋าโบราณทั้งหมดเป็นแค่คนเถื่อนเบื้องหน้าสำนักกุ้ยยี่?” น้ำเสียงไม่แยแสดังออกมาจากร่างนั้น เขาก้าวเดินออกมา ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ร่างนั้นมาถึงเบื้องหน้าชายชราที่สวมชุดเกราะสองธาตุ และคว้าเข้าลำคออีกฝ่ายทันที!
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก แรงกดดันน่าตกตะลึงเข้ากดทับไม่หยุด ชายชราสวมชุดเกราะไม่สามารถหลบหนีหรือต่อต้านได้ ชั่วจังหวะที่เขาถูกร่างนั้น คว้าเอาไว้ จึงเริ่มดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด
ร่างเลือนลางสะบัดแขนขวาอย่างเบามือ เสียงดังสนั่นกึกก้อง ชุดเกราะสองธาตุอันทรงพลังของสำนักกุ้ยยี่พลันแตกกระจายดุจเศษกระดาษและสูญสลาย
“ใช่เจ้าหรือไม่ที่พูดออกมา!” ร่างนั้นดึงชายชราเข้ามาใกล้และจ้องมองอย่างเยือกเย็น
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ชายชราชื่อหม่าถึงกับขาสั่น ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น หยุนยี่เฟิงก็เช่นเดียวกัน!
“มหา…มหาชั้นฟ้า…” ริมฝีปากสั่นเทา มีคนเดียวที่สามารถทำลายชุดเกราะของสำนักกุ้ยยี่ได้ง่ายๆ และตั้งคำถามเกี่ยวกับการไม่เคารพต่อเผ่าพันธุ์เต๋าโบราณ
“มหาชั้นฟ้าซวนลั่ว!!” ชายชราชื่อหม่ากระอักโลหิตและถอยไปหลายก้าว แววตาหวาดกลัวสุดขีด