1756. เดิมพัน
ปกติแล้วนางจะนุ่งน้อยห่มน้อยมาก ตอนนี้พอชุดที่ใส่ได้รับความเสียหาย ผิวกายหลายแห่งจึงเผยให้ได้รับชม หวังหลินเป็นคนเย็นชาต่อศัตรู แม้จะเป็นสตรีก็ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ หากเป็นคนอื่นแค่มองดูก็เกิดความปรารถนาได้แล้ว
กระบี่โลหิตแทงทะลุผ่านหน้าอกของซื่อเจีย โลหิตสาดกระเซ็นไปทุกที่พร้อมกับมันส่งเสียงร้องหึ่งอย่างตื่นเต้น
กระบี่โลหิตเต็มไปด้วยจิตสังหาร ยามใดที่พุ่งออกไปจะไม่กลับมาจนกว่าจะได้ ดื่มโลหิต!
ยิ่งโลหิตสาดกระเด็นออกมาจากหน้าอกของซื่อเจีย สีหน้านางยิ่งซีดเผือดและกระอักโลหิต ขณะที่ร่วงลงไปจึงหยิบสมบัติออกมาช่วยเหลือ ทว่าหวังหลินจะยอมปล่อยโอกาสให้นางได้อย่างไร?
วินาทีที่กระบี่โลหิตแทงใส่หน้าอก หวังหลินปรากฏตัวเบื้องหน้าซื่อเจีย ส่งแก่นแท้ของตัวเองพุ่งออกไป!
ซื่อเจียไม่มีเวลาตอบโต้เลย แก่นแท้เพลิงเปลี่ยนกลายเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์ ขนาดยักษ์และห่อหุ้มนางเอาไว้
พลังเพลิงโหมกระหน่ำรุนแรง อำนาจของมันมิอาจต้านทาน!
ต่อจากเปลวเพลิงก็เป็นแก่นแท้สายฟ้าที่เปลี่ยนกลายเป็นมังกรสายฟ้า มันพุ่งตามหลังวิหคศักดิ์สิทธิ์เข้าหาซื่อเจีย!
จากนั้นเป็นแก่นแท้ชีวิตและความตาย เวรกรรม และจริงเท็จ เส้นโลหิตผุดขึ้นในตาหวังหลินและแผ่กระจายออกมาล้อมรอบทั่วทุกมุมของซื่อเจียไม่ให้นางได้ถอยหนี
ท้ายที่สุดแก่นแท้สังหารได้เข้าไปในมือของหวังหลินจนมือเขากลายเป็นอาวุธที่สามารถสังหารได้ทุกชีวิต!
วินาทีที่แก่นแท้สังหารปรากฏ ดาราจักรดวงดาวจึงเยือกเย็น เกล็ดหิมะสีแดง ก่อตัวขึ้นและเริ่มตก เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตาที่แก่นแท้ทั้งเจ็ดพุ่งออกไป ซื่อเจียกระอักโลหิตอยู่สามครั้ง จนตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถนำสมบัติออกมาได้!
นางไม่มีเวลาแม้แต่การสร้างผนึก นางมองดูฝ่ามือยักษ์ทะลุผ่านแก่นแท้เข้ามาร่อนกลางหน้าผากพร้อมกับเสียงดังลั่น
ซื่อเจียกระอักโลหิตอีกครั้ง เส้นโลหิตจำนวนมากผุดขึ้นรอบกายนาง จนดูราวกับร่างกายกำลังฉีกขาด!
ความเจ็บปวดผุดออกมาจากหัวใจ แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าซีดเผือดและเกิดความสิ้นหวัง
ทว่าในวินาทีนั้น ร่างของนางที่กำลังทรุดโทรมพลันหยุดกึกราวกับกฎที่ตั้งไว้ไม่ให้เหาะเหินเริ่มหายไป แต่นี่คือส่วนหนึ่งของแผนหวังหลิน ขณะที่มันกำลังหายไปนั้น หวังหลินเข้าประชิดและชี้ไปที่ซื่อเจีย!
“หยุด!”
ชี้คราเดียวหยุดร่างกาย หยุดความคิด หยุดวิญญาณ! หยุดฟ้าดิน!
ร่างซื่อเจียถูกห่อหุ้มด้วยวิชายับยั้ง แม้แต่กฎได้หายไปแล้วนางก็ยังร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง นางไม่สามารถนำสมบัติออกมาได้สักชิ้นเดียว ความคิดยังถูกหยุดไปด้วย!
หวังหลินระงับพลังสะท้อนและเข้าประชิดซื่อเจีย รีบชี้ไปที่นางถึงเก้าครั้ง! แต่ละครั้งซื่อเจียจะสั่นเทาเนื่องจากหวังหลินส่งพลังผนึกเข้าใส่นาง
หลังจากทั้งเก้าจุดร่อนลงไป ผนึกจึงสมบูรณ์แบบ!
เขตอาคมคล้ายใยแมงมุมปรากฏขึ้นรอบซื่อเจีย ผนึกนางเอาไว้อย่างสิ้นเชิง!
หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ ร่างซื่อเจียหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยและถูกหวังหลินจับเอาไว้! การต่อสู้ครั้งนี้สะอาดหมดจด ใช้เวลาไม่ถึงสิบลมหายใจ!
หวังหลินไม่ได้สังหารซื่อเจียเพราะนางมีหลายอย่างที่เขาสนใจ การจับนางเอาไว้จะทำให้เขาสามารถสังหารเมื่อใดก็ได้!
แสงโลหิตแล่นวาบและกลับคืนสู่หวังหลิน หวังหลินก้าวเท้าออกไปปรากฏวังวนขึ้นด้านล่าง เขาหายเข้าไปข้างในทันที!
‘มีคนเข้ามาในโลกนี้สามรอบแล้ว การต่อกรในครั้งที่สี่นับว่ายาก ดังนั้นข้าต้องออกไป!’
หวังหลินรู้ว่าโลกที่ล้มเหลวทั้งสามร้อยใบนั้นเชื่อมต่อกับและเขาสามารถโผล่จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งได้ แม้จะไม่รู้ผนึกหวังหลินก็สามารถทะลวงข้ามผ่านไปได้
ด้านหนึ่งในโลกที่ล้มเหลวใบหนึ่ง วังวนปรากฏขึ้นส่งเสียงดังสนั่นจับความสนใจของคนที่นี่ทันที
ขุนพลพยัคฆ์ขาวยืนอยู่ในท้องฟ้าเหนือดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ด้านล่างเขาเป็นทหารหลายล้านคนที่กำลังสู้รบในสงครามครั้งใหญ่!
โลหิตไหลดุจสายธารและคนตายอย่างต่อเนื่อง ทหารนับล้านแผ่กระจายกำลังกันออกไปไกลสุดสายตา สงครามระหว่างคนธรรมดาแบบนี้หาดูได้ยากยิ่ง!
‘ไม่คาดคิดว่าจะเจอการสังหารมากมายขนาดนี้ขึ้นที่นี่ จงฆ่ากันอีก ยิ่งฆ่ามากเท่าไร ข้ายิ่งดูดซับจิตสังหารได้มากเท่านั้น แม้ข้าจะไม่สามารถนำมันออกไปจากที่นี่ได้ ข้าสามารถใช้มันในโลกนี้ได้!’
‘ข้าเป็นคนแรกที่เข้ามาในโลกนี้และกฎทั้งหมดข้าเป็นคนตั้งเอง! ใครที่เข้ามาที่นี่จะได้รับผลกระทบจากกฎของข้า เว้นแต่จะเป็นเซียนเต๋าสีรุ้งหรือผีเฒ่าจาง!’ ขุนพลพยัคฆ์ขาวติดตามราชันย์เทพสีรุ้งมานาน ดังนั้นจึงรู้เรื่องโลกที่ล้มเหลวทั้ง สามร้อยใบเป็นอย่างดี ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก
บนพื้นดินมีสองกองทัพที่มีแม่ทัพของแต่ละกอง ด้านหนึ่งมีแม่ทัพขี่ม้าขาวลายเสือ เขาสวมชุดเกราะสีขาว ผ้าคลุมทำขึ้นจากหนังพยัคฆ์ ดวงตาเย็นเยียบแต่เผยความตื่นเต้น
พริบตานั้นมีการเชื่อมต่อกันลึกลับและมองไม่เห็นเกิดขึ้นระหว่างเขาและ ขุนพลพยัคฆ์ขาว
ในท้องฟ้ามีชายวัยกลางคนนั่งอยู่เบื้องหน้าขุนพลพยัคฆ์ขาว สีหน้าท่าทางมืดมน ร่างกายเลือนลางราวกับโดนลมพัดก็หายไปได้ ดวงตาหลับสนิท เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากดูตื่นตระหนก
เขาคือภาพมายาเหมือนขุนพลพยัคฆ์ขาว นอกจากทั้งสองแล้วไม่มีใครสามารถมองเห็นได้
บนพื้นดินมีทหารนายหนึ่งในกองทัพที่กำลังต่อสู้กับกองทัพของขุนพลพยัคฆ์ขาว เขาดูตื่นตระหนกและร้องคำรามพลันสะบัดหอกในมือ สังหารศัตรูรอบกายแต่ร่างกายสั่นสะท้าน มองไปบนท้องฟ้าด้วยความกลัวและโกรธเกรี้ยวเป็นพักๆ
รูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนกับชายชราบนท้องฟ้าไม่มีผิดเพี้ยน!
หากหวังหลินอยู่ที่นี่คงจำได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือ ชายที่มาจากชั้นเจ็ดของหอคอยบนดาวเบญจธาตุ!
โลกนี้เป็นของพยัคฆ์ขาว และเขาเป็นคนออกกฎ!
วินาทีนั้นภาพมายาขุนพลพยัคฆ์ขาวมองขึ้นไป ดวงตาเผยแสงประหลาด ส่วนบนพื้น ขุนพลสวมผ้าคลุมพยัคฆ์เองก็มองไปบนท้องฟ้าและเยาะเย้ย
‘อีกคนกำลังมา…จะเป็นใครกัน…’
ชายวัยกลางคนพลันมองขึ้นไปเมื่อสัมผัสถึงวังวนได้ เขาเผยท่าทีโหดเหี้ยม
‘มาอีก ยิ่งคนมากขึ้นยิ่งมีโอกาสฆ่าเจ้าพยัคฆ์ขาว! และกฎบัดซบนี่!!’
วังวนหมุนติ้วและมีร่างเลือนลางโผล่ขึ้นมา พอร่างนั้นเริ่มชัดเจน วังวนรอบๆจึงเริ่มหายไป
ขณะที่วังวนกำลังหายไปอย่างสมบูรณ์ มีแสงสีโลหิตกะพริบวาบ กระบี่โลหิตพุ่งออกไปกวาดผ่านบริเวณ แสงสีโลหิตสาดกระจายจนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยจิตสังหารเข้มข้น
หวังหลินยืนมองออกไปข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง
พอสัมผัสวิญญาณแผ่กระจายออกไป ขุนพลพยัคฆ์ขาวและชายวัยกลางคน มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ขุนพลพยัคฆ์ขาวมีดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นรุนแรง เขาเริ่มหัวเราะเสียงดังไปยังท้องฟ้า
“เขามาที่นี่จริงๆ สวรรค์อยู่ข้างข้า!!”
ชายวัยกลางคนตกตะลึงไปเช่นกันและขบคิดเงียบๆ แต่เผยท่าทีเยาะเย้ยราวกับกำลังมองดูใครสักคนกำลังวิบัติ
หวังหลินแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปยังดวงดาว
โลกใบนี้ใหญ่กว่าโลกที่หวังหลินใช้ มันมีขนาดเท่ากับดาราจักรฟ้ากระจ่างและ ทุกชั้นฟ้ารวมกัน แต่ก็ยังมีดาวเคราะห์เก้าดวงเท่านั้น!
หลังจากกระจายสัมผัสวิญญาณ หวังหลินค้นพบกลิ่นอายของขุนพลพยัคฆ์ขาวและชายวัยกลางคน ทว่าเขากลับไม่สามารถตามหาร่างของทั้งสองได้
หวังหลินขมวดคิ้วและสำรวจดาราจักรแห่งนี้อย่างละเอียด
‘กฎถูกตั้งไว้ที่นี่แล้ว…ข้าแค่ไม่รู้ว่ากฎนั้นคืออะไร…และเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงหาขุนพลพยัคฆ์ขาวและอีกคนไม่เจอ…’ สัมผัสวิญญาณของหวังหลินรวมกันไปบนดาวเคราะห์ดวงที่สามและจับจ้องไปยังการเข่นฆ่ากันของทหารหลายหมื่นนาย
สายตาพลันหรี่แคบ ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงเข้าใจ
‘เป็นแบบนี้เอง!’ หวังหลินยืนอยู่ตรงนั้นและไม่ได้ก้าวออกมา ด้วยวิธีนี้เขาจึงยังอยู่นอกผลของกฎที่ตั้งเอาไว้ หลังจากเห็นทุกอย่างแล้วจึงสามารถตัดสินใจไ้ด้ว่าจะอยู่หรือไป
‘ใครตั้งกฎไว้และใครเป็นคนได้ประโยชน์ ข้าต้องลองไปดู!’ หวังหลินสะบัดแขน วังวนที่หายวับไปพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
หากใครมาเห็นแบบนี้คงคิดว่าหวังหลินกำลังจะหนี
“สหายเซียนหวัง ทำไมรีบจากไปเร็วนักเล่า? ข้าเป็นคนตั้งกฎไว้ที่นี่ขึ้นเอง หากเจ้ากล้าเข้ามา เรามาเดิมพันกันสักครั้ง!” น้ำเสียงของขุนพลพยัคฆ์ขาวดังกึกก้องไปทั่วดาราจักรและเข้าถึงจิตใจหวังหลิน
หวังหลินมีสีหน้าเรียบนิ่งแต่เยาะเย้ยในใจ เขาได้รับคำตอบที่ต้องการแล้ว!
“เดิมพันอะไร?”
“เดิมพันว่าเจ้าจะแพ้ให้กับกฎของเข้าหลังจากเจ้าเข้ามา!”
“โอ้? เช่นนั้นเจ้าเดิมพันกับอะไร?” หวังหลินกระจายสัมผัสวิญญาณอย่างช้าๆ
“หากเจ้าแพ้ วิญญาณดวงที่สามกลายเป็นของข้า! หากเจ้าชนะ ข้าจะเอ่ยคำสาบานว่าจะกลายเป็นทาสของเจ้าไปหมื่นปี! ข้าจะทำสัญญาด้วยสายโลหิตเทพด้วย!” น้ำเสียงขุนพลพยัคฆ์ขาวดังกึกก้องทั่วดาราจักร
หวังหลินมีสีหน้าเหมือนเดิม มีเพียงรอยยิ้มที่มิอาจมองเห็นผุดขึ้นบนใบหน้า