Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1769

Cover Renegade Immortal 1

1769. เข้าสุสานโบราณอีกครั้ง

ด้ายความเจ็บปวดโผล่ออกมาจากแขนซ้ายหวังหลิน คล้ายกับมีบางอย่างกำลังเจาะเข้าไปในหัวใจ หยาดเหงื่อเย็นผุดออกมาจากหน้าผาก แต่สีหน้ากลับนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ค่อยๆยกแขนขวาขึ้นมามองดูควันที่กำลังเจาะเข้าไปในแขนซ้าย

ควันที่โผล่ออกมาคล้ายไม่มีจุดจบและเข้าสู่แขนซ้ายหวังหลินอย่างต่อเนื่อง มันค่อยๆ มีผิวขรุขระและมีอักขระรูนกะพริบวาบอย่างซับซ้อน

จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งก้านธูปไหม้ ควันสายสุดท้ายก็เข้าสู่แขนหวังหลินจนหมด ความรู้สึกของการสามารถฉีกกระชากโลกให้เปิดขึ้นปะทุขึ้นในใจเหมือนตอน ได้แขนขวา

หวังหลินค่อยๆ ใช้แขนซ้ายเลื่อนทั้งห้านิ้ว เสียงกรีดร้าวดังกึกก้อง ผ่านไปสักพักจึงกำหมัดและก้าวเดินออกไป ปรากฏตัวอยู่ใจกลางบ่อน้ำแข็ง

หวังหลินยกสองแขนขึ้นมา สัมผัสได้ถึงพลังเปี่ยมล้นในร่างกาย หลังจากดูดซับแขนซ้ายของเย่โม่มาได้ ดวงดาวในตาทั้งสองข้างและกลางหน้าผากจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึง!

การเปลี่ยนแปลงนี้คือสัญญาณของดาวดวงที่เก้า วังวนปรากฏขึ้นอย่างเลือนลาง!

หวังหลินหลับตา สัมผัสถึงพลังบัญชาโบราณและพลังอันรุนแรงในร่างกาย ชั่วครู่ต่อมาจึงลืมตาขึ้นมองบ่อน้ำแข็งด้านล่าง ดวงตาเรืองแสงสีทอง สองมือยื่นเข้าหา บ่อน้ำแข็งและกระชากมันอย่างรุนแรง!

“ผ่าสวรรค์!”

หวังหลินร้องคำราม สองมือข่วนเข้าใส่อากาศว่างเปล่าและแยกออกมา โลกสั่นสะเทือน ปรากฏรอยร้าวยักษ์ขึ้นในบ่อน้ำแข็ง

ชั่วจังหวะที่รอยแยกนี้ปรากฏขึ้น เสียงแตกกระจายดังกึกก้อง ชั้นน้ำแข็งพังทลายและระเบิดออกไปทุกที่ ทั่วทั้งบ่อน้ำแตกกระจาย!

พื้นดินสั่นสะเทือนและเกิดรอยร้าวครั้งใหญ่ เสียงแตกร้าวดังเปรี๊ยะคล้าย มังกรดินกระจายกันออกไปและลึกลงกว่าเดิม

ณ แกนกลางของถ้ำ เตาหลอมได้ถูกล้อมรอบด้วยควันสีดำมีใบหน้าเต็มไปหมด ใครที่เข้าไปจะมีใบหน้าตัวเองผุดขึ้นบนเตาหลอม

ทว่าตอนนี้ใบหน้าส่วนใหญ่นั้นได้หายไปอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ใบหน้าของเซียนเต๋าสีรุ้งยังหายไป ทั้งด้านหน้าและหลังมีใบหน้าหวังหลินและผีเฒ่าจางอยู่ชัดที่สุดและล้อมรอบด้วยควันสีดำ

ณ อวกาศข้างในดอกไม้ดอกที่สอง เกิดรอยแตกร้าวบนรากของดอกไม้น้ำแข็ง รอยแตกขยายออกไปจนกระทั่งแทงไปยังดอกไม้

วิชาผ่าสวรรค์ได้เปิดโลกใบนี้ขึ้นมา หวังหลินมองไปยังโลกน้ำแข็งและก้าวออกไปโดยไม่ลังเล หายตัววับเข้าไปในพื้นดิน

‘เซียนเต๋าสีรุ้งคงไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว ตอนนี้ข้าต้องต่อกรกับผีเฒ่าจาง… เขาเป็นคนระมัดระวังและชอบสงสัย การต่อกรด้วยจึงยากมาก…’ หวังหลินปรากฏตัวขึ้นในอวกาศที่มีดอกไม้ที่สามตั้งอยู่

สถานที่แห่งนี้เป็นสีเทาและไร้ร่องรอยแห่งชีวิต มันเต็มไปด้วยความตายอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งดอกไม้ดอกที่สามเบื้องหน้าหวังหลินยังขาดแคลนน้ำและแห้งเหี่ยว

ดอกไม้แห้งเหี่ยว กลีบเน่าเปื่อย มันตายแล้ว

หวังหลินจ้องมองดอกไม้ตรงหน้าและจึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไป ดอกไม้นี้ได้ถูกทำลายมาหลายปีก่อนแล้ว

หลังจากจ้องมองอยู่สักพัก ดวงตาพลันส่องแสงสว่าง ท้ายที่สุดเขาก็ล้มเลิกการซุ่มโจมตี การซุ่มโจมตีนั้นใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากใช้รอบสอง ผีเฒ่าจางคงไม่ตกลงไปอีก

หวังหลินถอนหายใจพลางก้าวไปข้างหน้าและหายวับเบื้องหน้าดอกไม้ดอกที่สาม มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ที่มีดอกไม้ดอกที่สี่!

พอหวังหลินปรากฏตัวในอวกาศที่มีดอกไม้ดอกที่สี่ จึงเห็นดอกไม้สีดำด้านหลัง หยดของเหลวสีดำกำลังไหลออกมาจากดอกไม้ ผ่านไปนานหลายปี หยดของเหลวนี้ได้ก่อเกิดเป็นมหาสมุทรสีดำด้านล่าง

มหาสมุทรนี้สงบนิ่งอย่างสิ้นเชิงไร้สายลมหรือคลื่นทะเล มีเพียงดอกไม้ที่โผล่ออกมาจากมหาสมุทร

หวังหลินจ้องมองดอกไม้พร้อมกับได้กลิ่นคาวเลือด กลิ่นนี้อยู่ที่นี่มานานมาก พอสูดดมเข้าไปจึงสัมผัสถึงความเน่า

กลิ่นคาวเลือดออกมาจากมหาสมุทรแห่งความตายด้านล่าง

หลังจากขบคิดเล็กน้อยหวังหลินจึงรู้ว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เขาก้าวเข้าหาดอกไม้สีดำ ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปพลันหยุดชะงัก รู้สึกถึงเสียงคำรามเลือนลางออกมาจากดอกไม้

หวังหลินคุ้นเคยกับเสียงนี้!

‘ต้าเสิน…’ หวังหลินตกตะลึง แววตาเคร่งขรึม เขาเข้าไปดูดอกไม้สีดำใกล้ๆ ดวงตาส่องสว่างพลางร่อนไปยังกลีบสีดำกลีบหนึ่งและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

ครึ่งชั่วโมงหลังจากหวังหลินเข้าดอกไม้ไปแล้ว คนอื่นก็มาถึง พอได้เห็นทะเลแห่งความตายด้านล่าง สีหน้าแต่ละคนจึงเคร่งขรึม

แต่พวกเขาไม่ได้ลังเลมากนัก ทั้งหมดจึงเข้าไปในดอกไม้ดอกที่สี่

ท้องฟ้าในโลกมืดหม่นแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกไร้ขอบเขต ด้านล่างเองก็มีหมอกอยู่เช่นเดียวกัน เสียงคำรามดังออกมาจากในหมอกจนทำให้ความคิดสั่นไหว

มีแท่นลอยอยู่ที่แห่งนี้อยู่บางส่วนและมีอยู่หลายขนาด มีแม้กระทั่งร่างคนที่คล้ายเลือดเนื้อแห้งเหี่ยวจนเหล่าคนที่เหมือนโครงกระดูก

หวังหลินยืนอยู่บนแท่น มองไปรอบๆ ด้วยรอยยิ้มขมขื่น

เขาจำต้องยิ้มอย่างขมขื่นเพราะรู้จักที่นี่ มันคือสุสานโบราณที่เขาได้รับสืบทอดมรดกบัญชาโบราณมา!!

‘ข้าควรคิดเรื่องนี้ได้นานแล้ว…ราชันย์เทพสีรุ้งสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อฝังเย่โม่ เขาจะสร้างที่นี่โดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร? มันจึงเป็นดอกไม้ดอกที่สี่…’ หวังหลินมองที่แห่งนี้ด้วยท่าทีซับซ้อน เขาคุ้นเคยกับที่นี่อย่างยิ่ง

‘มิน่าเล่าข้าถึงคิดว่าได้ยินเสียงของตู่ซือ ไม่ใช่ว่าตู่ซืออยู่ในสุสานโบราณหรอกหรือ…’ หวังหลินขบคิดชั่วขณะก่อนจะเดินเข้าสู่จุดปลายทางของแท่นหินและมองไปยังหมอกด้านล่าง

เขาจำได้ว่าด้านล่างมีชั้นหมอกอีกหลายชั้น! กลิ่นอายด้านล่างทำให้เขาต้องหยุดชะงัก

ตอนที่ได้รับสืบทอดมรดกของเย่โม่มา เขารู้สึกเหมือนมีหัวใจอยู่ด้านล่าง! เห็นได้ชัดว่ามันคือหัวใจของเย่โม่!

‘นอกจากตาซ้ายของเย่โม่แล้ว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือหัวใจ…’ หวังหลินได้รับ สืบทอดมรดกส่วนใหญ่ของเย่โม่เข้ามา เขารู้ว่าร่างกายของเย่โม่นั้นพังทลายไปแล้ว เหลือเพียงแขนสองข้างที่ถูกตัดออก

หากสามารถดูดซับหัวใจเย่โม่จากชั้นล่างได้ การสืบทอดของเขาจะถึงระดับความสมบูรณ์ไปอีกขึ้น แน่นอนว่าความสมบูรณ์นี้ขาดตาซ้ายไปด้วย!

หากสามารถดูดซับหัวใจของเย่โม่ได้ แม้จะไม่มีตาซ้าย หวังหลินก็สามารถบรรลุได้ไปถึงเทพโบราณเก้าดาว! กระทั่งดาวปิศาจโบราณอาจจะบรรลุไปถึงเก้าดาวเช่นกัน!

ซึ่งทำให้หวังหลินจะกลายเป็นเทพโบราณเก้าดาวและมีพลังบัญชาโบราณระเบิดออก!

‘เทพโบราณเก้าดาว…หากข้าขยายร่างกายออกไปทั้งหมด มันจะใหญ่ได้สักแค่ไหน…’ หวังหลินหลับตา พิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย

ซวนลั่วอยู่ด้านตรงข้ามกับแท่นหิน เขามองดูสายหมอกด้านล่างและถอนหายใจ

“นี่คือที่ที่เจ้าเด็กเย่โม่ตาย…”

ครู่ต่อมาหวังหลินจึงลืมตาด้วยความมุ่งมั่น โชควาสนามักเจอได้ในสถานที่อันตราย หวังหลินใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์อันตรายจนบรรลุระดับบ่มเพาะในขั้นนี้ได้ พลังส่วนใหญ่ของเขาก็ได้มาจากการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทั้งนั้น

เสี่ยงอีกครั้งจะเป็นไรไป? อีกทั้งด้วยความทรงจำที่ได้มาจากวิญญาณดวงที่สาม หวังหลินคาดเดาได้ว่าในสองชั้นสุดท้ายนั้นมีกลิ่นอายน่ากลัวแค่ไหน

‘สุสานโบราณ…ตอนนั้นข้าไม่กล้าเข้าสู่ชั้นถัดไป แต่ในเมื่อข้ากลับมาแล้ว ข้าไม่ยอมละทิ้งโอกาสนี้แน่!’

หวังหลินคิดขึ้นในใจและก้าวเข้าหาสายหมอกด้านนอกแท่นหิน ร่างกายจุ่มลงไปในหมอก หัวชี้ลงพุ่งเข้าไปในส่วนลึกดุจมัจฉา ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่าเขา ก่อนหน้านั้นหวังหลินได้รับแผนที่ทั้งหมดมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับแท่นหินอีก แผนที่อยู่ในหัวรวมถึงทางเข้าสู่ชั้นถัดไปด้วย!

หากมีคนที่เข้าใจสถานที่แห่งนี้ดีเป็นอันดับสองรองจากหวังหลิน คนนั้นก็คือ นางสนมลำดับสามที่ยังบริสุทธิ์!

ตอนนี้นางสนมลำดับสามกำลังลอยอยู่ในสายหมอก มองไปรอบๆด้วยความสับสน ผ่านไปสักพักแววตาเกิดความซับซ้อนอธิบายไม่ถูก

‘ดอกไม้ดอกที่สี่คือที่นี่…’ นางสนมลำดับสามได้รับแผนที่เกือบทั้งหมดของ ชั้นแรกมาเมื่อคราวก่อน การมาที่นี่ได้ทำให้จิตใจสงบนิ่งเกิดเป็นระลอกคลื่น

ที่นี่นางได้พบเจอหวังหลิน ท้ายที่สุดก็ถูกหวังหลินส่งออกมา ดังนั้นจึงไม่ได้ถูกผนึกไว้ที่นี่ นางเหมือนตัวคนเดียวและไม่ได้พูดคุย ตอนที่นางถูกบังคับให้เป็น นางสนมของสีรุ้ง นางยอมตกลงเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของสำนักตัวเอง

บนแผ่นดินเซียนดาราสำหรับนางไม่ได้มีสหายมากนัก แม้แต่ในสำนักประตูสวรรค์ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบ่มเพาะ ด้วยนิสัยของนางแล้วมักจะพาตัวเองไปพร้อมกับเหล่านางสนม

นางบอกว่าหวังหลินเป็นคนแรกในชีวิตที่ช่วยนางความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนนี้ทำให้นางเกิดความสับสนและอธิบายไม่ถูก แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้เหตุผล

‘เขาช่วยข้าไว้ครั้งหนึ่ง ดังนั้นข้าต้องตอบแทนเขา…ข้าอยากกลับบ้าน…อาจารย์ยังอยู่ดีหรือไม่…และน้องสาวข้าอีก นางมีพรสวรรค์มากกว่าข้า…’ นางสนมลำดับสามขบคิดเงียบๆ และเกิดความรู้สึกคิดถึงบ้าน

ยามที่หวังหลินเข้าสู่สุสาน ณ ตำหนักข้างในที่เขาได้รับสืบทอดมรดกมา ผู้เป็นต้าเสินหรือตู่ซือได้ลืมตาตื่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version