Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1787

Cover Renegade Immortal 1

1787. ข้าอยากจะอยู่กับภรรยาไปตลอดชีวิต

เพียงเสียงเอ่ยขึ้นมาดังกึกก้อง ร่างซวนลั่วค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงตำแหน่งที่ หวังหลินโค้งคำนับไป

วินาทีที่ซวนลั่วปรากฏตัว สีหน้าของปรมาจารย์เต๋าความฝันและต้าเสินได้เปลี่ยนไป แต่ละคนหรี่ตาแคบและมีท่าทีเคร่งขรึมยิ่ง

พวกเขาไม่ได้สังเกตซวนลั่วผู้ปรากฏตัวอย่างลึกลับเลย แม้แต่ตอนนี้ถึงจะมองเห็นแต่หากหลับตาก็ไม่สามารถตรวจเจอได้

ซวนลั่วไม่ได้มองต้าเสินหรือปรมาจารย์เต๋าความฝัน เขามองหวังหลินด้วยรอยยิ้มสนใจแทนและรอคอยคำตอบของหวังหลิน เขาไม่ประหลาดใจที่หวังหลินรู้ว่าเขา ซ่อนตัวอยู่ตรงไหน แต่อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าหวังหลินไปรู้ชื่อเขาได้อย่างไร

ซวนลั่วยิ้มและเอ่ยขึ้น “ข้ารู้แล้ว ในดอกไม้ดอกแรกตรงจุดที่เจ้าพยัคฆ์ขาวน้อยได้ตั้งกฎเอาไว้ เจ้าจับวิญญาณจากเซียนดาวเบญจธาตุตัวน้อยนั่น! จากนั้นเจ้าก็ลอบค้นวิญญาณเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นบนดาวเบญจธาตุหลังจากที่เจ้าจากไป!”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ และพยักหน้าเล็กน้อย ความจริงเป็นตามที่ซวนลั่วพูด หวังหลินรู้ชื่อเขาจากวิญญาณของร่างอวตารซึ่งเป็นเซียนจากดาวเบญจธาตุ

ความทรงจำจากวิญญาณของร่างอวตารนั้นไม่สมบูรณ์และมีเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานเท่านั้น แต่นั่นก็ยังรวมตอนที่ซวนลั่วปรากฏตัวหลังจากหวังหลินจากไป

เรื่องนี้ได้ยืนยันข้อสงสัยของหวังหลินตอนที่เห็นเซียนจากดาวเบญจธาตุอีกด้วย นอกจากนั้นเขาก็ไม่เห็นชายชราที่พูดเรื่องเผ่าเต๋าโบราณด้วยความดูถูกเลย!

กล่าวให้ชัดก็คือตอนที่หวังหลินวางกับดักใส่เซียนเต๋าสีรุ้ง เหล่าตาปลาที่หายไปทำให้เขาตกตะลึงมาก จึงครุ่นคิดหาสาเหตุอย่างละเอียดและค้นพบในวิญญาณของร่างอวตาร

พอดอกไม้ดอกที่สอง หวังหลินจึงตระหนักบางอย่างได้ จากนั้นในสุสานโบราณเขาจึงยืนยันสิ่งที่ตัวเองคิด ตอนที่เขาถอยมาด้านหลังซวนลั่วและปล่อยให้ซวนลั่ว ลงมือ หวังหลินจึงยืนยันได้ว่าสิ่งที่เขารู้เป็นเรื่องจริง

“เหตุผลที่เจ้าสามารถตรวจจับตำแหน่งข้าได้แม่นยำน่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าตาปลา…ข้าลืมนึกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตาปลาตัวผู้กับตัวเมียไปเลย” ซวนลั่วส่ายศีรษะ เขาประมาทเรื่องนี้ไปจริงๆ

อย่างไรก็ตามหวังหลินก็สามารถหาเขาเจอได้และรู้ตัวตนอีกด้วย จากมุมมองนี้หวังหลินได้ก้าวข้ามการทดสอบของเขาและได้ผลลัพธ์อย่างที่น่าพอใจยิ่ง

“สิ่งที่พูดถูกหรือไม่?” ซวนลั่วยิ้มและมองมาที่หวังหลิน

หวังหลินมีสีหน้าประหลาดใจและพยักหน้าอีกครั้ง

“ซึ่งทำให้ไม่เพียงเจ้ารู้ชื่อข้า เจ้ายังรู้ตัวตนของข้าด้วยใช่หรือไม่?” ซวนลั่วยิ้มกว้าง เขาซ่อนตัวอยู่ข้างหวังหลินมานานแล้ว ตอนนี้อารมณ์ดีมาก เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้และรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่หวังหลินน่าจะค้นพบเขาหลังจากนี้ อีกเล็กน้อย

หวังหลินครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย “หนึ่งในเก้าตะวันแห่งแผ่นดินเซียนดารา มหาชั้นฟ้าบัญชาโบราณ!” ตอนที่เขาค้นพบเรื่องนี้จากวิญญาณอวตาร ในใจเกิด คลื่นรุนแรงขึ้นมา แต่เขาก็ซ่อนมันไว้ได้อย่างดีจนไม่มีใครมองออก

หวังหลินมองซวนลั่วและเอ่ยปาก “ที่เซียนจากดาวเบญจธาตุรวมกลุ่มกันต่อสู้เพื่อวิญญาณดวงที่สามก็เป็นเพราะผู้อาวุโส พวกเขามาช่วยก็เพราะผู้อาวุโส ผู้น้อยขอบคุณมาก”

ยิ่งซวนลั่วมองมาที่หวังหลินยิ่งรู้สึกมีความสุข เขาพอใจในตัวหวังหลินมาตลอดทาง ยิ่งได้ยินคำพูดจาของหวังหลินจึงต้องหัวเราะ

เขายิ่งชื่นชมมากขึ้นตอนที่หวังหลินรู้ว่ามีซวนลั่วอยู่และไม่ได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ช่วงเวลาการต่อสู้ในแกนกลางของโลกถ้ำ หวังหลินจัดการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ด้วยตัวเอง

ซวนลั่วไม่ลังเลที่จะถามไถ่หวังหลินให้เป็นศิษย์เขาคนเดียว

“ตามข้ากลับไปที่ดินแดนบัญชาโบราณในแผ่นดินเซียนดารา กลายเป็นศิษย์ของข้าและปกป้องเผ่าบัญชาโบราณ สหายน้อย เจ้ายินดีหรือไม่?” ซวนลั่วมองหวังหลินด้วยสายตาอ่อนโยน น้ำเสียงไม่ได้สั่งการแต่เป็นเหมือนผู้อาวุโสกำลังสนทนาบางอย่างกับผู้น้อย

ท่าทีและน้ำเสียงของเขาได้ทำให้ในใจหวังหลินมีแต่ความอบอุ่น อย่างไรก็ตามหวังหลินไม่ได้ตกลงในทันทีและเริ่มครุ่นคิด

ซวนลั่วสังเกตหวังหลินอยู่นานและเข้าใจหวังหลิน พอเห็นหวังหลินขบคิดจึงคาดเดาไปต่างๆ นาๆ

ซวนลั่วขมวดคิ้วและมองประตูทองพร้อมกับถอนหายใจ เขาไม่ได้ขมวดคิ้วไปที่หวังหลินแต่คาดเดาว่าหวังหลินกำลังคิดอะไรอยู่

“บนแผ่นดินเซียนดารามีโลกถ้ำหลายแห่ง กล่าวได้ว่าสำนักใดที่ขยายตัวได้จะมีโลกถ้ำเป็นของตัวเอง ถึงกระนั้นตั้งแต่ยุคโบราณกาล หายากนักที่จะมีคนโผล่ออกมาจากโลกถ้ำได้ สังหารเจ้าของโลกถ้ำยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่!”

ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งกระจัดกระจายออกไป เขาก็คงไม่โดนผนึก ซวนลั่วมองหวังหลินและเอ่ยขึ้น

“เจ้ารู้ไหมว่าทำไม? มันเป็นเพราะกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา!”

“หากชีวิตใดในโลกถ้ำที่ไม่มีสายโลหิตจากแผ่นดินเซียนดารา พวกนั้นก็จะไม่สามารถผ่านกฎของแผ่นดินเซียนดาราได้”

“แม้จะเป็นกฎแต่ถือเป็นแรงกดดันทรงพลังที่สามารถแยกโลกถ้ำออกเป็นส่วนๆ สิ่งมีชีวิตใดที่ไม่มีสายโลหิตแล้วออกมาจากโลกถ้ำจะถูกบดขยี้!” ซวนลั่วเอ่ยเสียงดังกึกก้อง

“กฏจากแผ่นดินเซียนดาราเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้านทานได้! ข้าเข้าใจความคิดเจ้า เจ้าไม่ต้องการออกไปตัวคนเดียว เจ้าต้องการพาทุกคนออกไปให้เห็นแผ่นดิน เซียนดารา!” ซวนลั่วถอนหายใจ

หวังหลินขบคิดเงียบๆและเอ่ยขึ้นเบาๆ “หากพวกเขาไม่ต้องการออกไป ผู้น้อยก็จะ ไม่บังคับ แต่หากต้องการออกไป ผู้น้อยจะต้องมีความคิดนี้อยู่ในใจแน่นอน”

“นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้! ช่างมันเถอะ แต่ผู้หญิงชื่อหวานเอ๋อร์ในเต๋าความฝันของเจ้าไม่สามารถไปที่แผ่นดินเซียนดาราได้!” พอซวนลั่วพูดเช่นนี้ หวังหลินพลันเงยศีรษะขึ้นมา

“นางไปไม่ได้หรือ?”

ซวนลั่วเผยท่าทีซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก เขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับหวังหลินแค่ไหน จึงพยักหน้าออกไป

หวังหลินตกตะลึงอยู่นาน

“แต่มีคนบอกข้าก่อนหน้านี้ว่าหากมีคนในแผ่นดินเซียนดาราให้การต้อนรับ จะลดโทษจากกฎลง…”

“คนที่บอกเจ้านั่นมันโกหก! เรื่องนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เว้นแต่ทั้งเก้าตะวันจะ ลงมือในเวลาเดียวกันเพื่อช่วยต่อต้านกฎอันทรงพลังของแผ่นดินเซียนดารา!”

“กฏแห่งแผ่นดินเซียนดาราถูกสร้างขึ้นจากสายโลหิตของบรรพชนเทพและ บรรพชนโบราณ จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้!”

หวังหลินหน้าซีดราวกับสูญเสียโลหิตไปเกือบหมด เขาพยายามถอยหลังกลับมา โลหิตในร่างไหลออกมาจากมุมปาก

แสงในดวงตาหม่นหมองลงทันที ความเจ็บปวดแทงทะลุเข้าไปในหัวใจ

“ข้าได้ตรวจสอบสตรีชื่อหวานเอ๋อร์แล้ว ช่างน่าประหลาดที่วิญญาณของนาง ไม่สมบูรณ์ วิญญาณส่วนหนึ่งดูเหมือนหายไปและข้าตรวจสอบทั้งโลกถ้ำแล้วก็ไม่พบเบาะแส เรื่องนี้ประหลาดมาก”

“แต่ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร ตราบใดที่วิญญาณของนางไม่สมบูรณ์ นางก็ไม่อาจตื่นได้ หากวิญญาณของนางสมบูรณ์ ข้าอาจจะสามารถปลุกนางขึ้นมาได้!”

“เจ้ามุ่งหน้าไปที่แผ่นดินเซียนดาราด้วยตัวเองก่อน จากนั้นเมื่อเจ้ามีโอกาสค้นหาวิญญาณที่ขาดหายไป จากนั้นเจ้าค่อยกลับมา…” ซวนลั่วหยุดพูด เขาเห็นหยาดน้ำตาเป็นสายโลหิตทั้งสองตาของหวังหลิน

“จริงหรือ…เป็นไปไม่ได้…” หวังหลินก้มหน้าอย่างขมขื่น

“ข้าไม่สามารถทิ้งหวานเอ๋อร์ไว้คนเดียวที่นี่และไปที่แผ่นดินเซียนดาราได้…ที่ข้าเปิดประตูและมุ่งหน้าไปยังแผ่นดินเซียนดาราก็เพื่อนาง!!”

“เพื่อปลุกนางขึ้นมา เดิมทีข้าคิดถึงการมุ่งหน้าไปยังแผ่นดินเซียนดาราเพื่อหาวิธี…หากนางไปไม่ได้และข้าจะอยู่ตัวคนเดียวไปหลายพันปี..หากนางไปไม่ได้ข้าขออยู่ในโลกถ้ำเสียดีกว่าและไม่มีวันจากไปไหนจนกว่าข้าจะตาย…” หวังหลินพึมพำพร้อมกับคราบน้ำตา หยาดน้ำตาเป็นสีแดงเล็กน้อย

หากวิญญาณตกอยู่ในความเศร้า ความคิดก็จะเศร้าไปด้วย ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างจมไปในความผิดหวัง ความโศกเศร้าและหลั่งออกมาเป็นน้ำตาแห่งโลหิต

คำพูดของหวังหลินตกเข้าไปถึงหูของปรมาจารย์เต๋าความฝัน เขาฟังคนรักของ ลูกสาวพูดถึงหญิงคนอื่น แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกโกรธเลย เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจ โศกเศร้าและคิดถึงภรรยาของตัวเอง

ซวนลั่วมองหวังหลิน ผ่านไปสักพักจึงถอนหายใจและพูดขึ้นมา

“หวังหลิน มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้! ข้าจะทุ่มสุดตัวช่วยเจ้าต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราและใช้วิชาตะวันสวรรค์ก่อกำเนิด สหายเจ้าคนใดที่ต้องการออกไปจากโลกถ้ำจะถือกำเนิดบนแผ่นดินเซียนดาราด้วยวิชาของข้า!”

“หลังจากเกิดใหม่จะกลายเป็นคนของแผ่นดินเซียนดาราและได้รับสายโลหิต แต่ความทรงจำจะถูกผนึกเอาไว้ และเจ้าจะต้องไปตามหาทีละคนเพื่อปลุกความ ทรงจำขึ้นมา!”

“กระบวนการนี้ถือได้ว่ายาวนานมาก ข้าไม่สามารถคาดคำนวณเวลาที่แน่นอนได้ บางคนอาจใช้เวลาเกิดใหม่เพียงไม่กี่ปี บางคนอาจจะยาวนานถึงพันปี”

“อีกทั้งข้าไม่สามารถกำหนดตำแหน่งการเกิดใหม่ที่แน่นอนได้ แผ่นดินเซียนดารานั้นกว้างใหญ่เกินไป เจ้าต้องเตรียมการและมุ่งมั่นที่จะตามหาทีละคน!”

“ส่วนสตรีชื่อหวานเอ๋อร์นั้น…วิญญาณของนางไม่สมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่สามารถเกิดใหม่ได้…แต่ข้าจะช่วยด้วยเช่นกัน ขณะที่ข้าต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา เจ้ามีโอกาสถึงห้าในสิบส่วนที่จะพานางเข้าไปยังแผ่นดินเซียนดาราได้อย่างปลอดภัย!”

“แต่โอกาสนี้มีครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น! เมื่อเจ้าล้มเหลว เจ้าจะตายไปพร้อมกับนาง! บอกข้ามาว่าเจ้าเลือกทางไหน!” ซวนลั่วต้องแลกสิ่งมีค่าไปมหาศาล แต่เขาก็พูดออกไปโดยไม่มีการลังเล

ในโลกนี้ไม่มีได้มาฟรีๆ และหวังหลินเข้าใจเรื่องนี้ดี มีเพียงการฝึกฝนที่แตกต่างเท่านั้นจึงจะคาดหวังผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป ดังเช่นตุ้นเทียนในอดีตและซวนลั่วตอนนี้ ถึงแม้พวกเขาจะช่วยเหลือโดยมีจุดประสงค์ของตัวเอง หัวใจหวังหลินกลับรู้สึกอบอุ่น

และหวังหลินก็ห่วงใยคนที่เขาเป็นหนี้บุญคุณ เหมือนตุ้นเทียนและซวนลั่วในตอนนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version