Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1798

Cover Renegade Immortal 1

1798. ร่างอวตารที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคต

มันผ่านการเปลี่ยนแปลงร่างกายไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังและใช้โอกาสเสี่ยงมหาศาลเพื่อผ่านการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว มันถึงกับกลืนกินพวกพ้องของตัวเองด้วยจุดประสงค์เดียวคือการตามหาหวังหลิน ตามหาเจ้านาย!

มันส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังกึกก้องในความว่างเปล่า มันไม่มีร่างกายอีกแล้วและเป็นแค่หมอกควัน เคลื่อนร่างผ่านความว่างเปล่าไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ค้นหามันยิ่งกระวนกระวาย มันหยุดชะงักไปชั่วจังหวะและร่างกายจึงแตกสลายอย่างสมบูรณ์

สายหมอกเปลี่ยนกลายเป็นเศษจำนวนหนึ่งแสน จากนั้นเปลี่ยนเป็นอสูรยุงแสนตัว เข้าค้นหาทิศทางหนึ่งแสนเส้นทาง พวกมันทั้งหมดส่งเสียงร้องเพื่อเรียกหาเจ้านาย!

ลึกไปภายในความว่างเปล่า มีร่างศพและโลงศพลอยอยู่ตรงนั้น แขนขวาของ ร่างศพจับโลงไว้แน่นหนา แม้แขนแตกหัก ร่างศพก็ไม่ยอมปล่อย

ร่างศพลอยอยู่ในความว่างเปล่านี้มาเป็นสิบปี

แสงสีขาวเบาบางค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนร่างศพนี้ แสงสีขาวเป็นเหมือนแสงที่ หวังหลินดูดซับมาจากสองร่าง มันรวมกันในหน้าอกของร่างศพและเป็นพลังลึกลับที่มาจากความว่างเปล่า

ในวันนี้ ขณะที่ร่างศพและโลงศพลอยไป อสูรยุงขนาดเท่าฝ่ามือตัวหนึ่งได้บินผ่านมา มันทำการร้องคำรามอย่างต่อเนื่อง มันผ่านร่างศพและโลงศพไปเพียงพริบตา ทว่า ไม่นานเจ้ายุงก็สั่นสะท้าน หันกลับมาจ้องมองร่างและโลงศพอยู่ไกลๆ

มันส่งเสียงคำรามด้วยความตื่นเต้นดังกึกก้อง เจ้ายุงพุ่งเข้าหาร่างจนดูบ้าคลั่ง พอเข้าไปใกล้มันกลับส่งเสียงร้องดังเข้าหาร่างใบหน้าผอมบางของร่างศพนั้น

มันไม่สามารถพูดได้เหมือนคนแต่เสียงร้องไห้ทดแทนคำพูดไปจนหมด มันส่งเสียงคำรามด้วยความเศร้า ร้องเรียกหาด้วยความสิ้นหวัง

ขณะที่มันร้องคำราม ควันหลายเส้นสายโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า แต่ละสายมีอสูรยุงอยู่ข้างใน มันรวมกันหนึ่งแสนเส้นเพื่อกลายเป็นร่างราชายุงของหวังหลิน!

ดวงตาของราชายุงเป็นสีแดงโลหิต ขณะที่มันส่งเสียงร้อง ปากขนาดใหญ่เข้าสัมผัสใบหน้าหวังหลินเบาๆ ราวกับพยายามปลุกให้หวังหลินตื่น แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้งไป

เกิดเป็นความพยายามนับครั้งไม่ถ้วนและความล้มเหลวมากมาย ร่างเจ้าราชายุงเกิดการสั่นเทาและส่งเสียงร้องแหบพร่าจากความสิ้นหวัง มันพยายามอย่างหนักและค้นหามานานจนกระทั่งมาเจอเจ้านาย แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงร่างศพ

ราชายุงมีความคิดเรียบง่ายว่ายอมรับไม่ได้ มันคว้าหวังหลินและโลงศพพุ่งทะยานออกไปไกล

ความว่างเปล่าแห่งนี้คงเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเจ้าราชายุงที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาถึงห้าครั้งกลับไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ มันพาหวังหลินและ โลงศพผ่านระยะทางกว้างใหญ่เพียงชั่วพริบตา

หลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงไปถึงห้าครั้ง มันจึงมีความทรงจำเลือนลางเกี่ยวกับที่นี่ มันรู้สึกว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่สามารถทำให้เจ้านายตื่นขึ้นมาได้

แต่สถานที่ที่ว่านี้ถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี และใช้เวลานานมากกว่าจะหาเจอ

มันบินไปไม่รู้ว่าใช้เวลาและระยะทางแค่ไหน ราชายุงค้นหาอยู่นานมากจนในที่สุดก็เห็นขอบเขตแผ่นดิน!

หรือมากกว่าคำว่าแผ่นดิน มันคือ แท่นขนาดใหญ่

รูปทรงของแท่นนี้ไม่เป็นระเบียบและดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งบางอย่าง มันมีความว้างราวแสนฟุตและไม่ใหญ่มาก เปล่งแสงสีขาวออกมาเหมือนแสงที่ หวังหลินดูดซับจากร่างกายสองคนก่อนหน้า

แท่นแห่งนี้ว่างเปล่าแต่มีม่านที่มองไม่เห็นเข้าป้องกันไม่ให้สิ่งใดเข้าไป

ม่านพลังนี้ถูกสร้างขึ้นจากกฎของแผ่นดินเซียนดาราอย่างสมบูรณ์ ลืมหวังหลิน ไปได้เลย แม้แต่ซวนลั่วก็ยังทำลายม่านพลังเข้าไปได้ยากมาก

มีเพียงบรรพชนเทพ บรรพชนโบราณและอสูรประหลาดเก้าตัวที่ถือกำเนิดจากกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราจึงจะสามารถเข้าไปในม่านพลังได้

ในความทรงจำอันเลอะเลือนของราชายุง มันเห็นบรรพชนของมันถือกำเนิดอยู่ขอบเขตแท่นเช่นนี้…ดังนั้นเมื่อเจ้านายของมันได้เข้าไปในแท่นเช่นนี้ได้ เจ้านายก็จะตื่นขึ้นแน่นอน!

ราชายุงพาหวังหลินและโลงศพไปอยู่ตรงขอบแท่น ราชายุงเข้าไปแต่หวังหลินและโลงศพหยุดอยู่ข้างนอก

ราชายุงตกตะลึงและโผล่ออกมาทันที มันพาหวังหลินไปและพยายามอีกครั้ง แต่ก็ล้มเหลวอยู่หลายรอบ

ทำให้เจ้าราชายุงกระวนกระวายและเริ่มร้องไห้ มันดึงผมเส้นหนึ่งของหวังหลินเข้าไปในปากและพุ่งไปข้างในอีกครั้ง แต่เส้นผมกลับถูกขวางกั้นไว้ข้างนอก

ราชายุงเกิดความบ้าคลั่งและพุ่งออกไปจากแท่น มันลอยอยู่ข้างหวังหลินและคำรามใส่แท่น ชั่วขณะต่อมาแววตาเกิดความบ้าคลั่งขึ้นมาและหดปากให้แคบลง แทงทะลุร่างหวังหลินและพยายามดูดหยดโลหิตที่แห้งเหือดออกมาอย่างระมัดระวัง

หยดโลหิตถูกราชายุงกลืนเข้าไปและปกป้องไว้ด้วยชั้นหมอกข้างในร่างหลายชั้น มันพุ่งเข้าหาแท่นอีกครา คราวนี้หลังจากเข้าไปได้ครึ่งทางมันก็ชะงัก ปล่อยเสียงร้องเจ็บปวดและติดอยู่ตรงนั้น มันไม่สามารถเข้าไปได้เว้นแต่จะพ่นหยดโลหิตออกมา

ราชายุงส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์และพยายามเข้าไป ทว่าม่านพลังแข็งแกร่งมาก ราชายุงเข้าไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น ไม่ว่ามันจะพยายามอย่างไร ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ไกลกว่านี้

หลังจากพยายามหลายครั้ง ดวงตาเจ้าราชายุงจึงแดงฉาน ร่างหมอกของมันหดลงราวกับควบแน่นแก่นทั้งหมดไปรอบหยดโลหิต มันอ้าปากและพ่นหยดโลหิตออกไป

ครึ่งร่างส่วนหน้าอยู่ข้างในม่านพลัง ส่วนนี้รวมถึงปากยาวๆของมันด้วย มันพ่นโลหิตออกไปและโลหิตนั้นได้เข้าสู่ชั้นในของม่านพลัง

ทว่าม่านชั้นในไม่ยอมให้สิ่งใดจากด้านนอกเข้ามา โลหิตของหวังหลินจึงเริ่มระเหย ขณะที่มันกำลังจะหายไปนั้น ราชายุงพุ่งร่างเข้ามา มันใช้ร่างของตัวเองปกป้องโลหิตและส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด

ร่างของมันเผยสัญญาณการแตกสลายและหดลงไปอย่างมาก ทว่าภายใต้ การปกป้องของมันนี้ ถึงแม้โลหิตจำนวนมากระเหยออกไป ยังมีเศษเสี้ยวหนึ่งร่อนลงบนแท่นรูปทรงวงกลม!

นับเป็นครั้งแรกที่หยดโลหิตซึ่งไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา ได้ร่อนลงบนแท่นนี้! สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากแสงสีขาวปรากฏบนร่างหวังหลินตอนที่เขาตายหรือสลบไป

ความล้ำค่านี้เป็นเพราะเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นตอนที่เขาได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่ในการบ่มเพาะมากกว่าสองพันปีก่อน โชควาสนานี้มากพอจะสั่นสะเทือนถึงสวรรค์!

แท่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในมิติว่างของแผ่นดินเซียนดารา มีคนไม่มากนักที่จะเข้ามาที่นี่ได้และส่วนใหญ่ที่เข้ามามักจะล้มตายไม่ก็หลงทาง ตำแหน่งของแท่นจึงไม่แน่นอนเพราะมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะราชายุงมีความทรงจำบางส่วนหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง มันคงตามหาได้ยากแม้จะค้นหาไปอีกหลายปี

สองเงื่อนไขนี้ทำให้สำเร็จได้ยากแล้วและมีน้อยคนมากที่จะทำได้สำเร็จ นอกจากนั้นแท่นแห่งนี้ยังป้องกันทุกสิ่งที่ไม่ได้สร้างขึ้นจากกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราเข้าไป มันเหมือนรอยแยกกว้างๆ ที่ยิ่งทำให้ยากขึ้นไปอีก

คนที่พยายามเสี่ยงชีวิตตัวเองเข้าไปแทบไม่สำเร็จได้เลยเว้นแต่จะเหมือนราชายุง การทำให้อสูรยุงที่ไม่เคยจดจำเจ้าของได้ทำเรื่องแบบนี้นับว่าเป็นโชควาสนาจริงๆ!

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เงื่อนไขทั้งหมด เงื่อนไขอย่างสุดท้ายคือคนนั้นต้องตายหรือหลับใหลเพื่อให้แสงสีขาวปรากฎ! แสงนี้ความจริงเป็นส่วนหนึ่งของกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา มันปรากฏขึ้นบนร่างศพของคนจำนวนน้อยมากหลังจากตายไปแล้ว!

ไม่มีใครรู้เงื่อนไขเฉพาะเจาะจงให้แสงสีขาวปรากฏ!

มีเพียงการทำให้เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สำเร็จได้เท่านั้นจึงจะเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับหวังหลิน เมื่อโลหิตตกลงไปบนขอบแท่น มันจึงถูกดูดซับทันที ตลอดทั้งแท่น สั่นเทาและมีแสงที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมาเต็มความว่างเปล่า แสงสีขาวโผล่ออกมาจากทุกทิศทางและพุ่งเข้ามายังแท่น

เจ้าอสูรยุงลอยออกมาด้วยความสุขและคุ้มครองหวังหลิน

เสียงดังสนั่นขึ้นอย่างรุนแรง แท่นเริ่มขยับ มันเริ่มอ่อนยวบและตรงขอบโค้งงอขึ้นเหมือนฝ่ามือที่กำลังกำหมัดและค่อยๆ กลายเป็นกระดอง!

ข้างในกระดองมีหมอกโลหิตที่ดูดซับแสงสีขาวและกะพริบอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมีรูปร่างมนุษย์ค่อยๆ ควบแน่นขึ้นมาข้างใน รูปร่างนั้นปรากฎรูปร่างเป็นหวังหลิน!

ส่วนเงาที่ก่อเกิดขึ้นมาค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา หลังจากหวังหลินหลับใหลไปนับสิบปี เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น สัมผัสได้ชัดเจนถึงพลังที่มาจากไหนสักแห่งและปรากฏในโลหิต เข้ามาหล่อเลี้ยงร่างกาย ทำให้พลังบัญชาโบราณในร่างฟื้นฟูทันที

ขณะเดียวกันเจ็ดแก่นแท้ได้เติมพลังถึงจุดสูงสุดในพริบตา

เขาสามารถสัมผัสตัวตนของตัวเองอีกร่างหนึ่งในโลกนี้ ขณะที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา หวังหลินได้ยินเสียงร้องไห้อย่างมีความสุขของเจ้าราชายุง

เขาเห็นราชายุงกำลังตื่นเต้นและเห็นก้อนหินรูปร่างคล้ายกระดองขนาดยักษ์ ชั่วขณะนั้นเขาเห็นตัวเองอีกฝั่งหนึ่ง!

‘นี่…นี่มันอะไร…’ ชั่วจังหวะนั้นความคิดหวังหลินเต็มไปด้วยความสับสน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version