216. ร่างหลัก ปรากฎตัว!
ก่อนที่หวังหลินจะเข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เขาได้วางกฎเกณฑ์ซ่อนไว้เพื่อป้องกันคนเข้ามาในห้อง แม้พวกเขาจะเข้ามาได้ ร่างหวังหลินก็จากไปแล้วดังนั้นจึงไม่สามารถค้นหาสิ่งใดพบ
นอกจากนั้นแม้ว่าขั้นตัดวิญญาณอย่างตวนมู่จะพบการคงอยู่ของมิติฝืนลิขิตฟ้า แต่สำนักเมฆาฟ้ามีเพียงขั้นวิญญาณแรกกำเนิดดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหาอะไรเจอได้เลย
หวังหลินเคารพครอบครัวและซือถูหนาน จากนั้นนั่งลงฝึกฝนเล็กน้อย ถัดมาเขานำเม็ดยาสร้างพื้นฐานออกมาวางไว้ด้านข้างและหยิบหนึ่งเม็ดเข้าไปในปาก
ขณะที่เม็ดยาสร้างพื้นฐานเข้าไปในปาก มันเปลี่ยนเป็นพลังปราณบริสุทธิ์ หวังหลินจึงกระตุ้นกลยุทธ์เทพโบราณอย่างสงบนิ่ง
ภายใต้การควบคุมของเขา พลังปราณที่ถูกกลยุทธ์เทพโบราณดูดซับไปไม่ได้เข้าสู่ร่างกายแต่สร้างเป็นน้ำวนในท้องเขา
หลังจากเศษพลังปราณจากเม็ดยาสร้างพื้นฐานเข้าไปในน้ำวน มันขยายตัวออกทันทีและเริ่มขยับขึ้นไปข้างบน
ตอนนี้หวังหลินไม่ใช่เซียนมือใหม่อีกต่อไป เขารู้ว่าน้ำวนนี้จะหมุนเป็นวงกลมผ่านทั้งร่างกายจากนั้นการเข้าสู่ขั้นพื้นฐานลมปราณนับว่าสำเร็จ หากเขามีพรสวรรค์เพียงพอ น้ำวนจะไม่มีปัญหา
แต่หากพรสวรรค์ของเขาไม่เพียงพอมันจะดูเหมือนมีสิ่งอุดตันที่มองไม่เห็นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำวนผ่านไปรอบร่างกายและยิ่งผ่านยากขึ้นไปอีก
น้ำวนในร่างเขาเริ่มหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น น้ำวนเป็นเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่กระจายรากของมันผ่านร่างกายหวังหลิน
แต่หวังหลินมีอุปสรรค์มากมายในร่างกาย น้ำวนจึงเหมือนกับคลื่นปะทะกับโขดหินในชายฝั่ง ครั้งแรกมันทำลายอุปสรรคหลายอย่างแต่น้ำวนเริ่มช้าลงในไม่ช้าและรู้สึกเหมือนมันกำลังหดตัว
หวังหลินสูดหายใจลึก เขากินเม็ดยาสร้างพื้นฐานอีกเม็ดทันที ทันใดนั้นน้ำวนได้รับพลังพรั่งพรูขึ้นและเริ่มกระจายอีกครั้ง
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับหวังหลินที่กำลังทะลวงผ่านขั้นพื้นฐานลมปราณ หลังเวลาผ่านไปจนไม่รู้เท่าไหร่ หวังหลินกินเม็ดยาสร้างพื้นฐานเม็ดที่แปด
ตู้ม!!
น้ำวนพรั่งพรูผ่านทั้งร่างกาย ทันใดนั้นมีจุดแสงเรืองรองขึ้นนับไม่ถ้วนในร่างและที่ของเหลวสีดำเริ่มออกมาจากรูขุมขนทั้งหมด
ผ่านไปนานหวังหลินลืมตาขึ้นทันที ประกายแสงในแววตาราวกับสายฟ้าและเขาพบว่าตันเถียนของเขาเกือบโปร่งแสงและมันมีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า แม้กระทั่งร่างหลักของเขาก็ไม่พบเจอประสบการณ์เช่นนี้ตอนที่บรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณ
หวังหลินขบคิดชั่วขณะ เขาไม่มั่นใจว่าทั้งหมดเกี่ยวกับกลยุทธ์เทพโบราณหรือไม่ นอกจากนั้นกลยุทธ์เทพโบราณเป็นวิชาเซียนที่ดูดซับพลังปราณและเม็ดยาสร้างพื้นฐานเป็นเหมือนเม็ดยาเพ่ยหยวนที่รุนแรงกว่า ผลลัพธ์ของมันเพียงแค่เพิ่มขึ้นหลายเท่าเท่านั้น
พลังปราณที่ระเบิดออกมาได้ชำระร่างกายทั้งร่างเพื่อให้เหมาะสมกับการฝึกฝนมากขึ้น ซึ่งเป็นความหมายที่แท้จริงของขั้นพื้นฐานลมปราณ
แต่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้เกิดขึ้นภายใน ขณะที่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของเทพโบราณเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายนอก ความจริงทั้งสองสิ่งคล้ายกันมากเพียงแค่เทพโบราณใช้พลังปราณเพื่อเปลี่ยนร่างกายภายนอกให้ดูดซับพลังปราณดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงภายในของเหล่าเซียนเพื่อให้สัมผัสพลังปราณสวรรค์และปฐพีได้ดีขึ้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
หนึ่งคือการฝึกฝนภายในขณะอีกอย่างคือการปรับปรุงร่างกายภายนอก ถนนแตกต่างแต่ปลายทางเหมือนกัน
ร่างหลักของหวังหลินจงใจป้องกันร่างอวตารดูดซับพลังปราณและผลักมันเข้าแกนพลังของตนเอง แต่หลังจากร่างกายเขาผ่านการปรับโครงสร้างมาหนึ่งครั้งและดวงดาวปรากฎบนหน้าผากเขา ร่างหลักจึงได้อยู่บนเส้นทางการปรับปรุงร่างกายภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว
เขาจึงดูแลเอาใจใส่อย่างมากตอนที่สร้างร่างอวตารของตัวเองขึ้น ดังนั้นแม้ว่ามันจะไม่ได้ผ่านการปรับโครงสร้างร่างกาย เขายังต้องให้ความสนใจมันตั้งแต่เริ่มดังนั้นร่างอวตารของเขาจึงเดินบนเส้นทางของการฝึกฝนภายใน
หวังหลินหยิบขวดหยกขึ้นมา มีเม็ดยาพื้นฐานลมปราณหลงเหลืออยู่ห้าเม็ด เขาขบคิดชั่วขณะจากนั้นโยนเม็ดยาทั้งหมดเข้าไปและเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พลังปราณที่อยู่ในเม็ดยาสร้างพื้นฐานทั้งห้าเม็ดระเบิดออกภายนอก คนธรรมดาจะไม่สามารถบรรจุพลังปราณจำนวนมากขนาดนี้ได้ หากไม่ตายก็คงสูญเสียพลังปราณทั้งหมดในร่างกาย
แต่หวังหลินมีกลยุทธ์เทพโบราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่ล้มล้างทุกวิชาที่มี สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลยุทธ์เทพโบราณน่ากลัวก็คือพลังปราณไม่ว่าจะมีพลังปราณมากแค่ไหนพลังปราณที่เม็ดยาสร้างพื้นฐานทั้งห้าเม็ดสร้างมาจะถูกดูดซับไปก่อนจะทำให้ร่างกายได้รับอันตราย
ระดับฝึกฝนของหวังหลินทะยานขึ้นจากการบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณไปสู่ขั้นพื้นฐานลมปราณระดับต้นสูงสุด
แต่หวังหลินไม่พอใจ เขาครุ่นคิดชั่วขณะและนำเตาปรุงยาออกมา เตาปรุงยาดูธรรมดามาก มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือกระดาษสีเหลืองผนึกมันไว้
เตาปรุงยานี้เป็นสิ่งหนึ่งที่หวังหลินได้รับมาจากหยุนเฟย เป็นสิ่งที่นางใช้เพื่อให้คนอื่นปลดปล่อยกฎเกณฑ์บนตัวนางออก ทว่าทุกสิ่งที่นางทำไปได้ถูกปิศาจติดตามเห็นทั้งหมดจนจบลงที่นางเสียชีวิต
เตาปรุงยานี้จึงตกลงสู่มือหวังหลินโดยธรรมชาติ
เขาพยายามวิเคราะห์มันก่อนหน้านี้แต่ไม่มีเวลามากนัก ตอนนี้เม็ดยาเขาหมดแล้วจึงต้องออกไปข้างนอกเพื่อปรุงเพิ่มขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ในมิติลูกปัดก็คือเตาปรุงยาชิ้นนี้
ขณะที่จ้องเตาปรุงยา ดวงตาหวังหลินสั่นเทาเล็กน้อย หวังหลินรู้ได้ว่าเตาปรุงยานี้ไม่ธรรมดาเพียงแค่ประโยคที่ผนึกไว้ก็ทำให้ขนลุกแล้ว
หวังหลินครุ่นคิดชั่วขณะ เขานำเตาปรุงยาออกมาและเขย่ามัน เสียงอู้อี้ดังออกมาจากข้างใน ชัดเจนว่ามีบางสิ่งอยู่
ฟังจากเสียงมีเพียงสิ่งเดียวอยู่ข้างใน หากมันถูกใส่ไว้ในเตาปรุงยา มีโอกาสสูงที่มันจะเป็นเม็ดยา
ทำไมถึงได้แปะกระดาษเหลืองไว้บนเตาปรุงยากัน? อย่างนั้นจะใช้กระดาษเหลืองนี้เพื่ออะไร? เขายังไม่ได้เปิดเตาปรุงยาเพราะไม่รู้ว่ากระดาษเหลืองนี้ไว้ทำอะไร หากมันเป็นกฎเกณฑ์และเขาเปิดมันด้วยกำลัง นั่นจะทำให้เกิดเหตุการณ์ลูกโซ่ที่ควบคุมไม่ได้
หลังครุ่นคิดชั่วขณะ เขาสะบัดแขนและเสี้ยวพลังปราณปรากฎบนปลายนิ้ว หวังหลินถอนหายใจและพลิกนิ้วมือ พร้อมกันนั้นเสี้ยวพลังปราณร่อนลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
ขณะนั้นเองเหตุการณ์ประหลาดได้กางออกเบื้องหน้าเขา เมื่อพลังปราณเข้าใกล้กระดาษเหลือง มันเพิ่มความเร็วขึ้นทันทีและหายไปอย่างไร้ร่องรอยเข้าไปในกระดาษเหลือง
ดวงตาหวังหลินกระพริบวาบ เขาวางเตาปรุงยาไว้บนพื้น ฝ่ามือสร้างผนึกหลายอย่างและตะโกน “กระจายออก!”
ทันใดนั้นแสงหลายจุดลอยรอบร่างหวังหลินสร้างเป็นเศษเสี้ยวพลังปราณที่เริ่มเข้าใกล้ในเตาปรุงยา แต่ก่อนที่มันจะเข้าได้ใกล้กว่านี้พลังปราณทั้งหมดเพิ่มความเร็วขึ้นและหายไปในกระดาษเหลือง
หวังหลินขมวดคิ้ว กระดาษเหลืองนี้ประหลาดมากจริงๆราวกับมันสร้างเพื่อดูดซับพลังปราณ
ทันใดนั้นเขาคิดถึงบางอย่างและกดนิ้วมือลงบนเตาปรุงยาเบาๆ ขณะที่สัมผัสกับกระดาษเหลือง ไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เขาพยายามฉีกกระดาษออกอย่างเบามือแต่มีแรงดึงดูดออกมาจากกระดาษทำให้พลังปราณของหวังหลินเริ่มถูกดูดเข้าไปอย่างควบคุมไม่ได้
ยังดีที่หวังหลินป้องกันไว้ก่อนแล้ว ขณะที่เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดนั้นจึงถอนมืออกได้ทัน
หลังขบคิดชั่วขณะหวังหลินตัดสินใจไม่พยายามลองมันอีก เขาเก็บเตาขึ้นมาอย่างระวังและเก็บมันใส่กระเป๋า เตาปรุงยานี้ประหลาดจริง เมื่อตอนได้มาครั้งแรกหวังหลินไม่สามารถเก็บมันใส่กระเป๋าได้ แต่เมื่อสร้างร่างอวตารขึ้นมากลับเก็บเข้าไปได้
เรื่องแปลกประหลาดของเตาปรุงยานี้ทำให้หวังหลินงุนงงอย่างมาก
หลังเก็บกลับไปหวังหลินยืนขึ้นและออกจากมิติฝืนลิขิตฟ้า
เมื่อปรากฎในลานจึงรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งเปลี่ยนไป เขาได้กลิ่นโลหิตอ่อนๆ หลังมองไปรอบๆจึงจดจ้องไปที่ประตูหลัก กลิ่นลอยออกมาจากตรงนั้น
ดวงตาหวังหลินสงบนิ่งขณะเดินออกไปช้าๆไปที่ประตู เขาเห็นศพวานรวิญญาณหนึ่งตัว
ดวงตาวานรวิญญาณเบิดกว้างและสีเทา มันมีรอยแผลบนร่างหลายแห่งรวมถึงรูขนาดเท่าชามข้าวในหน้าท้อง ไม่มีโลหิตหยดออกจากร่าง มีเพียงกลิ่นโลหิตจางๆในอากาศ
หวังหลินนั่งครึ่งขาและสัมผัสกับขาขวา เขาพบว่ากระดูกทั้งหมดบนขาขวาแตกกระจาย ชัดเจนว่าวานรตัวนี้มาที่นี่หลายวันก่อนเพื่อส่งสูตรเม็ดยาสร้างพื้นฐาน
ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น รอยแผลบนหน้าท้องวานรวิญญาณถูกฉีกเปิดจากมือใครบางคน เป้าหมายคือเอาแกนพลังของวานรวิญญาณอย่างชัดเจน
หวังหลินสามารถทำสิ่งนี้ได้เช่นกัน เขาขบคิดชั่วครู่และสามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน
เขาไม่รู้ว่าหากเป็นเฉิงเซียนจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ในครึ่งปีนี้เฉิงเซียนเป็นคนไฟแรงมากและดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับวานรวิญญาณ เมื่อวานรวิญญาณออกมาส่งสูตรยาแทนเฉิงเซียน หวังหลินจึงคิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้
หากไม่ใช่เรื่องอื่น แต่เพราะความจริงเขาต้องมาส่งสูตรยาสร้างพื้นฐานกับหวังหลิน หวังหลินจึงไม่อาจเมินเฉยได้
เขาลอบถอนหายใจพลันเดินกลับไปที่ห้องโดยไม่ได้หันมามองวานรวิญญาณอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่ได้ดื่มน้ำพลังปราณใดและส่งวงกลมกฎเกณฑ์หนึ่งออกมา
วงกลมกฎเกณฑ์ร่อนลงบนพื้นดินและส่งระลอกคลื่นผ่านพื้นดิน ในไม่ช้าชายหนุ่มผมขาวเดินออกมา ขณะที่เขาปรากฎตัวพลันปลดปล่อยบรรยากาศหนาวเย็น