286. จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง
วิญญาณเซียนลอยขึ้นมาอย่างช้าๆจนมันออกมาจากร่างหวังหลินในที่สุด วิญญาณเซียนอ้าแขนของมันและอยู่ในท่าเดียวกับร่างกาย
พลังปราณในสรวงสวรรค์พบทางออกในทันที มันรวบรวมล้อมรอบหวังหลินอย่างรวดเร็วและเกิดเป็นพายุยักษ์ที่อยู่ในภูเขาเบื้องหลังของสำนักซวนต้าว
พายุน้ำวนนี้ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงสามารถมองเห็น มันดูทรงกรวยและจุดยอดเติบโตใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น
จากนั้นท้องฟ้าได้เปลี่ยนไปขณะที่หลุมดำยักษ์ปรากฎในท้องฟ้าใสกระจ่าง ข้างในหลุมดำสามารถมองเห็นดวงดาวระยิบระยับ
หวังหลินดูเหมือนจะรับรู้ได้และวิญญาณเซียนเงยศีรษะของมันขึ้นไป สายตาพุ่งผ่านถ้ำและจ้องเข้าไปในหลุมดำ
หัวใจเขาสั่นไหวทันที เขาจำฉากเหตุการณ์นี้จากความทรงจำของเทพโบราณได้ นี่คืออวกาศข้างนอกดาวเคราะห์ซูซาคุ
เมื่อเซียนคนหนึ่งบรรลุขั้นตัดวิญญาณ วิญญาณเซียนของคนผู้นั้นผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง กระบวนการชุดนี้ต้องการพลังปราณจำนวนมาก ในระหว่างกระบวนการนี้เองคนผู้หนึ่งสามารถใช้เขตแดนของเขาเพื่อเปิดทางเดินสู่ท้องฟ้าและใช้พลังปราณไร้จุดสิ้นสุดเพื่อช่วยในการบรรลุขั้นตัดวิญญาณได้
เหตุการณ์นี้เป็นการเปลี่ยนแหลงของเซียนทุกคนที่จะบรรลุขั้นตัดวิญญาณ
การปรากฎของหลุมดำเป็นการยืนยันครั้งสุดท้ายต่อเหล่าเซียนทุกคนที่อ่านบันทึก เป็นเรื่องแน่นอนแล้วว่ามีคนกำลังบรรลุขั้นตัดวิญญาณในแคว้นจ้าวจริงๆ
พลังปราณไหลรินออกมาจากหลุมดำราวกับน้ำท่วมและถูกพายุน้ำวนดูดเข้าไป จากนั้นมันได้รับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก่อนจะเข้าไปในร่างกายหวังหลิน
วิญญาณเซียนเริ่มเปล่งประกายแสงสีรุ้งอย่างช้าๆ แสงนั้นส่องสว่างขึ้นและสว่างขึ้นจนกระทั่งปกคลุมทั้งภูเขาด้านหลัง ในไม่ช้าทั้งสำนักซวนต้าวได้ถูกปกคลุมในแสงสีรุ้งหลากสีแห่งนี้
ในตอนนี้เซียนที่อยู่รายล้อมต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและจ้องตาเขม็ง
สำหรับพวกเขามันเป็นเกียรติมหาศาลและโชคดีที่จะได้เห็นคนบรรลุขั้นตัดวิญญาณในชั่วชีวิต ซึ่งมันดีต่อระดับฝึกฝนของพวกเขาอีกด้วย
ทว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่หวังหลินเลือกที่จะบรรลุขั้นตัดวิญญาณในแคว้นจ้าว แต่เป็นเพราะเขารู้สึกถึงแรงกระตุ้นประหลาด
เหล่าเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดเนื่องจากวิญญาณเซียนแต่ละคนดูเหมือนกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป วิญญาณเซียนทั้งหมดของพวกเขาต่างออกมาจากร่างกายและเริ่มฝึกฝน
ขณะที่วิญญาณเซียนของหวังหลินดูดซับพลังปราณมากขึ้น ลำแสงสีรุ้งก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น วิญญาณของเขาเริ่มลอยขึ้นเหนือศีรษะ
การปรากฎของหลุมดำเหนือแคว้นจ้าวได้ทำให้คนทั่วไปยิ่งศรัทธา ราวกับแรงกดดันแห่งสรวงสวรรค์ได้ชำระล้าง ลบเลือนสิ่งกวนใจทั้งหมดออกไปและให้พวกเขามุ่งสมาธิไปที่การเคารพต่อแรงกดดันแห่งสรวงสวรรค์ครั้งนี้
ยิ่งคนทั่วไปคนใดอยู่ใกล้หลุมดำเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากเท่านั้น โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงสำนักซวนต้าว เด็กทุกคนจ้องหลุมดำอย่างมึนงง หากมีเซียนคนหนึ่งอยู่รอบๆพวกเขาจะสามารถเห็นสายบางๆเหนือหน้าผากแต่ละคนที่เชื่อมต่อกับหลุมดำ
ในความเป็นจริงเมื่อไหร่ที่เซียนคนหนึ่งกำลังจะบรรลุขั้นตัดวิญญาณในแคว้นอันดับสี่ พวกเขาจะกลับไปแคว้นของคนเอง ทุกครั้งที่เซียนบรรลุขั้นตัดวิญญาณ หลุมดำนั้นจะปรากฎทำให้คนทั่วไปที่อยู่รอบๆเปลี่ยนไป
พวกเขาที่ไม่มีรากวิญญาณจะสามารถรับได้ไป!
นี่คือหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมแคว้นเซียนอันดับสี่หลายแห่งสามารถข่มแคว้นอันดับสามได้อย่างหมดจด ทุกครั้งที่เซียนผู้หนึ่งบรรลุขั้นตัดวิญญาณ พวกเขาจะสร้างคนธรรมดาที่สามารถฝึกฝนได้ดีเยี่ยมจำนวนมาก
หวังหลินไม่รู้เรื่องนี้เลย ตอนนี้เขารวมเข้ากับเขตแดนวิญญาณและความตายอย่างสมบูรณ์เพื่อพบเจอประสบการณ์ของกฎแห่งสวรรค์
ยิ่งพลังปราณเข้าไปในวิญญาณเซียนของหวังหลินมากเท่าไหร่ วิญญาณเซียนของเขาก็ยิ่งพุ่งขึ้นสูงขึ้นและสูงขึ้น กำแพงหินไม่ได้หยุดวิญญาณเซียนของเขาเลยและวิญญาณเซียนค่อยๆลอยออกไปจากภูเขาด้านหลัง
เซียนรอบๆทั้งหมดที่เห็นสิ่งนี้จะไม่มีวันลืม พวกเขาเห็นคนตัวเล็กซึ่งเล็ดลอดจากแสงสีรุ้งและนั่งขัดสมาธิลอยขึ้นไปบนอากาศ
จังหวะที่วิญญาณเซียนปรากฎ พลังปราณโดยรอบพวยพุ่งเข้าหาวิญญาณเซียน ฝ่ามือของวิญญาณเซียนเริ่มเคลื่อนไหวรวดเร็วให้สร้างผนึกแตกต่างกันหลายแบบ
กระบวนการนี้กินเวลายาวนาน…
วิญญาณเซียนของหวังหลินเริ่มสร้างผนึกให้เร็วขึ้นพร้อมกับพลังปราณไหลรินเข้าใส่เขา จนในที่สุดเริ่มสร้างภาพติดตา แสงสีรุ้งรอบๆวิญญาณเซียนค่อยๆเริ่มมาบรรจบกันกลับเข้าไปจนมันบรรจุอยู่ในวิญญาณเซียน
หลังจากนั้นไม่นานวิญญาณเซียนของหวังหลินโปรงใสราวกับจะหายไปได้ทุกเมื่อ
หลุมดำในท้องฟ้าพ่นพลังปราณเล็กน้อยออกมาจากนั้นปิดลงอย่างช้าๆและหายไป
พลังปราณสุดท้ายนี้ลดต่ำลงมาราวกับมังกรและเข้าไปในวิญญาณเซียน เสี้ยวพลังปราณส่วนหนึ่งออกมาจากวิญญาณเซียน
ทั้งวิญญาณเซียนเปลี่ยนจากโปร่งใสให้เป็นรูปร่างอีกครั้ง มันค่อยๆเติบโตขึ้นจนมีขนาดเท่าคนธรรมดา หากมองเข้าไปใกล้ๆจะเห็นได้ว่าวิญญาณเซียนนี้ดูเหมือนกันกับร่างกายของเขา
ถึงจุดนี้วิญญาณเซียนลืมตาขึ้น ไม่มีอารมณ์ใดอยู่ในแววตา เขาดูเหมือนสายตาของคนธรรมดาทั่วไปแต่คลื่นความหนาวเย็นแผ่ออกมา ขณะนั้นทุกคนที่เห็นวิญญาณเซียนนี้ได้เห็นภาพมายาหนึ่งซึ่งแสดงได้ว่าหลังวิญญาณเซียนได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายอย่าง มันกลายเป็นตัวตนอันลึกลับที่เหนือกว่าเหล่าเซียนไปแล้ว
สายตาของมันมองตรงไปที่พื้นปฐพีและไม่ว่าจะมองดูยังไง สายตาของเขาจะหนาวเย็นเสมอราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่น่าสนใจ
ส่วนสำคัญที่สุดของขั้นตัดวิญญาณก็คือวิญญาณเซียนได้กลายเป็นวิญญาณดั้งเดิม หากวิญญาณดั้งเดิมยังเหลืออยู่ ร่างกายจะยังคงอยู่ตลอดไป เช่นเดียวกับกฎแห่งสวรรค์
ในจังหวะนี้เองวิญญาณเซียนของหวังหลินเกิดการเปลี่ยนแปลงพร้อมกับใช้พลังปราณทั้งหมดจากการบรรลุขั้นตัดวิญญาณ เปลี่ยนไปเป็นวิญญาณดั้งเดิม
หากเปรียบวิญญาณเซียนคือเด็กน้อย เช่นนั้นวิญญาณดั้งเดิมก็เหมือนกับผู้ใหญ่ที่ได้รับความสามารถในการใช้อำนาจของสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เซียนขั้นตัดวิญญาณน่าหวาดกลัว
เซียนขั้นตัดวิญญาณผู้หนึ่งคือคนที่สามารถใส่พลังของเขตแดนตนเองในการโจมตีได้ซึ่งมาจากวิญญาณดั้งเดิม วิญญาณดั้งเดิมนั้นสร้างด้วยวิญญาณเซียนเป็นพื้นฐานและเพิ่มขีดความสามารถด้วยพลังปราณแห่งสรวงสวรรค์
เป็นเพราะการมีอยู่ของวิญญาณดั้งเดิมจึงทำให้เหล่าเซียนขั้นตัดวิญญาณแข็งแกร่งมากกว่าเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดมากนัก สิ่งนี้คือเหตุผลเดียวกันที่เซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดแข็งแกร่งมากกว่าเซียนขั้นแกนลมปราณ
ความแตกต่างระหว่างสองขอบเขตคือช่องว่างที่ไม่สามารถบรรจบกันได้
คนทั่วไปสูดลมหายใจเอาพลังปราณของฟ้าดินเข้าไปทำให้ร่างกายพวกเขาเปลี่ยนไปซึ่งทำให้ฝึกฝนพลังปราณได้ดีขึ้น ยิ่งได้รับพลังปราณเข้าสู่ร่างกายมากเท่าไหร่เมื่อถึงจุดหนึ่งร่างพวกเขาจะผ่านการเปลี่ยนแปลงให้มีคุณภาพมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกกันว่าพื้นฐานลมปราณ
ตามเส้นทางของการฝึกเซียน คนผู้หนึ่งไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือภายนอกตอนที่บรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณได้ เขาต้องพยายามและพยายามอีกครั้งด้วยตนเองเพื่อเดินบนเส้นทางฝืนลิขิตสวรรค์ของการฝึกฝน
ทว่าการบรรลุขั้นตัดวิญญาณไม่ได้ยากนัก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำไมเม็ดยาฝืนลิขิตฟ้าเช่นเดียวกับเม็ดยาพื้นฐานลมปราณถูกสร้างขึ้นมา ตอนนี้หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่มีคนเพียงเล็กน้อยที่สามารถบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณได้โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเม็ดยาพื้นฐานลมปราณเลย
แม้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของสวรรค์ แต่สมาพันธ์เซียนได้พูดไว้ว่าสวรรค์สูญสิ้นไปแล้วดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแข็งขืน เวลาที่ผ่านไปนาน ผู้คนจึงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
เมื่อคนผู้หนึ่งบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณ ร่างกายจะคุ้นเคยกับการฝึกฝนพลังปราณมากขึ้นและสามารถบรรจุพลังปราณได้มากขึ้น ทว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งจะเกิดอีกคอขวดหนึ่ง
เช่นนั้นขั้นแกนลมปราณจึงเกิดขึ้นมา เป้าหมายของขั้นแกนลมปราณก็คืออัดแน่นพลังปราณในร่างกายอีกครั้งและอีกครั้งจนกว่าพลังปราณที่ไร้รูปจะกลายเป็นสัมผัสได้ เมื่อมีสัมผัสได้ไปเป็นของเหลว และสุดท้ายของเหลวไปเป็นของแข็ง ทั้งหมดคือการสร้างแกนพลัง
กระบวนการเช่นนี้ยากมากต่อเหล่าเซียนแต่ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ หากมีพรสวรรค์เพียงพอมันจะง่ายมากๆ
แกนพลังอยู่ในร่างกายและทำให้คนผู้หนึ่งดูดซับพลังปราณได้มากขึ้น ยิ่งรวบรวมพลังปราณไว้มากเท่าไหร่เมื่อเปลี่ยนไปเป็นแกนพลังจะทำให้แกนพลังเปลี่ยนไปเป็นของแข็งดียิ่งขึ้น จำนวนพลังปราณที่ควบแน่นไปเป็นแกนจะยิ่งเหนิอจินตนาการ
เหตุผลที่เหล่าเซียนขั้นแกนลมปราณเหมือนกับสรวงสวรรค์ของเซียนขั้นพื้นฐานลมปราก็นั่นก็เพราะจำนวนพลังปราณที่ขั้นแกนลมปราณมีนับว่าเหนือเกินจินตนาการต่อเซียนขั้นพื้นฐานลมปราณ
หลังเซียนผู้หนึ่งสร้างแกนพลังของตนเองและฝึกฝนไปเรื่อยๆ พวกเขาจะมาถึงคอขวดอีกแห่งนั่นก็คือขั้นแกนลมปราณระดับปลาย
ในจุดนี้การฝึกฝนพลังปราณนับว่าไม่พอเพียงอีกต่อไปแล้ว นี่ก็คือตอนที่เซียนได้รับการเปลี่ยนแปลงระดับครั้งที่สอง
ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงระดับโดยสิ้นเชิงแต่สำหรับเหล่าเซียนมันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งนี้เป็นก้าวแรกในการเป็นเซียนที่ฝืนลิขิตสวรรค์อย่างแท้จริง
แกนพลังแตกสลายและวิญญาณเซียนได้ถือกำเนิดขึ้น
วิญญาณแรกกำเนิดเป็นคำพ้องเพราะมันคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการฝึกเซียน
แกนพลังที่แตกสลายและการเกิดของวิญญาณเซียนเป็นการเปลี่ยนแปลงอันลึกลับ ราวกับลมหายใจของทารกในโลกมนุษย์
แกนพลังเหมือนกับมารดาที่ตั้งท้อง เมื่อมันแตกสลายจึงให้ชีวิตแก่เด็กทารก
สิ่งนี้จึงเกิดคำว่าวิญญาณแรกกำเนิดขึ้นมา
การแตกสลายของแกนพลังและการเกิดของวิญญาณแรกกำเนิดเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่
จำนวนพลังปราณของวิญญาณแรกกำเนิดที่สามารถดูดซับได้ไม่ได้มีขอบเขตเทียบเท่ากับแกนพลัง
หลังจากได้รับวิญญาณแรกกำเนิดมาแล้ว คนผู้นั้นจะมีความสามารถหลบหนีความตาย ต่อสู้สวรรค์และเดินบนเส้นทางฝืนลิขิตฟ้าได้
เมื่อวิญญาณแรกกำเนิดมาถึงขั้นตอนหนึ่งมันก็ถึงเวลาของขั้นตัดวิญญาณ พรสวรรค์ที่จำเป็นในการบรรลุขั้นตัดวิญญาณไม่ได้สูงนักและนั่นก็คือเข้าใจสวรรค์อย่างลึกซึ้ง