Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 341

Cover Renegade Immortal 1

341. สามข่าวสารจากภูเขาซูซาคุ

ผู้ส่งสาส์นคนนั้นรวดเร็วมาก ดังนั้นในไม่นานจึงมาถึงเบื้องหน้าทั้งหกคน เขาหยุดกึกเล็กน้อยชั่วขณะพลันดวงตาสีเขียวกวาดผ่านพวกเขา

นอกจากผู้เฒ่าฮู่และผู้เฒ่าชุดคลุมดำ หัวใจทุกคนสั่นเทาและก้มศีรษะลงต่ำ

“มีเซียนขั้นตัดวิญญาณสองคนอยู่ที่นี่!” ลำแสงหายไปเผยเป็นบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่ง

แม้ว่าหญิงสาวที่มากับผู้เฒ่าฮู่จะก้มศีรษะลงต่ำทว่าก้มนางยังแดงระเรื่อเล็กน้อย บุรุษผู้นี้เป็นชายที่หล่อที่สุดที่นางเคยพบ

“พวกเจ้าจะไปที่ไหน?” น้ำเสียงบุรุษหนุ่มยังสงบนิ่งแต่ไม่ได้ซ่อนรัศมีอันน่าเกรงขามเลย

ผู้เฒ่าสามารถบอกได้ทันทีว่าระดับฝึกตนของบุรุษหนุ่มผู้นี้อยู่ที่ขั้นตัดวิญญาณระดับต้นสูงสุด เขาเยาะเย้ยในใจแต่ใบหน้าท่าทางไม่ได้เปลี่ยนไป “เรากำลังไปสุสานอมตะ”

สายตาบุรุษหนุ่มจรดลงบนหญิงสาวผ้าคลุมหน้าสีขาวและเอ่ยขึ้น “นำผ้าคลุมหน้าของเจ้าออก”

ผู้เฒ่าชุดคลุมดำก้าวไปเบื้องหน้า “ท่านผู้ส่งสาส์น นายหญิงของข้าได้รับคำสั่งจากครอบครัวใหญ่ว่านางไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้ง่ายๆ ข้าหวังว่าท่านผู้ส่งสาส์นจะเข้าใจ”

สายตาบุรุษหนุ่มที่จ้องมองพลันสว่างขึ้น หลังขบคิดเล็กน้อยเขาโบกแขนเสื้อและเหาะเหินออกห่างไป

ทั้งหกคนครุ่นคิดชั่วครู่ ผู้เฒ่าฮู่มีแววตาสว่างและจากนั้นติดตามบุรุษหนุ่มไป เขาต้องการดูว่าทำไมผู้ส่งสาส์นแห่งซูซาคุถึงมาที่แคว้นซู

หลังเขาเคลื่อนไหว ฉิวซื่อผิง ซิ่วลั่วและหญิงสาวติดตามไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวผ้าคลุมหน้าหันไปมองผู้เฒ่า นางกัดฟันแน่นและติดตามพวกเขาไป ท่านผู้เฒ่าถอนหายใจและติดตามนางด้วย

ทุกคนตามหลังบุรุษหนุ่มแต่จากระยะไกลแล้วทั้งหมดเห็นเขาเหาะเหินไปทางทิศเหนือ ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเขาก็คือสุสานอมตะเช่นกัน

ผู้เฒ่าฮู่ลอบคิด ‘หรือจะมีสมบัติบางอย่างปรากฎในสุสานอมตะ?’

แต่ขณะที่ความคิดนั้นแล่นผ่านหัวสมอง ใบหน้าพลันเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นบุรุษหนุ่มเหาะเหินผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บุรุษหนุ่มดูเหมือนจะเจอพลังรุนแรงสายหนึ่งและถูกผลักกลับไปมากกว่าร้อยฟุต เขาเผยใบหน้าตกใจ

ผู้เฒ่าฮู่ร่อนลงภูเขาใกล้เคียง คนอื่นที่ติดตามมามองไปยังบุรุษหนุ่ม

เขาขมวดคิ้วพลันนำหินหยกออกมาเพื่อตรวจสอบ คำแนะนำภายในหินหยกนำทางมาสู่สถานที่แห่งนี้

เขาขบคิดเล็กน้อยก่อนจะก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว จากนั้นสัมผัสแรงกดดันอันน่าหวาดกลัวได้ทันทีดังนั้นท่าทางจึงเปลี่ยนไปและรีบถอยกลับ

ผู้เฒ่าฮู่อยากรู้อยากเห็น เขามองไปทางหมู่บ้านและเห็นเจดีย์แห่งหนึ่ง เบื้องล่างเจดีย์มีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่แต่ไม่มีสัญญาณแห่งชีวิตออกมาจากเขา ดูเหมือนจะเป็นร่างศพตายซาก

บุรุษหนุ่มพยายามอีกสองสามครั้งแต่ไม่สามารถเข้ามาได้ในม่านลึกกว่าห้าลี้ได้ ใบหน้าท่าทางเขายุ่งเหยิงและในท้ายสุดจึงคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “ข้าเฟิ่งอยู่ชานแห่งซูซาคุ ข้าหวังจะมาทักทายสหายเซียนเซิ่งหนิว!”

“เซิ่งหนิว!” แววตาผู้เฒ่าฮู่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาตกใจโดยพลัน สายตาจับจ้องบนร่างตายซากเบื้องล่างเจดีย์โดยไม่รู้ตัว ไม่ประหลาดใจที่เขาตกใจเรื่องนี้ ชื่อเซิ่งหนิวมีชื่อเสียงอย่างมากในทะเลปิศาจ เรื่องราวเกี่ยวกับเซิ่งหนิวแทบไม่เคยจบสิ้น

มีข่าวลือหนึ่งว่าเขาได้ถูกซูซาคุฝึกฝนอย่างลับๆและอาจจะเป็นผู้สืบทอดนามแห่งซูซาคุ ไม่เช่นนั้นซูซาคุจะไม่ตอบสนองท่าทีเอาแต่ใจของเขาหลังจากตัดแขนผีเสื้อสีชาดออกไปได้อย่างไร?

รวมถึงข่าวลือที่ว่าบางทีเขาเป็นศิษย์ของอำนาจซ่อนเร้นและพรสวรรค์ของเขาสูงเกินกว่าผีเสื้อสีขาดขึ้นไปอีก ข่าวลือนั้นยังระบุด้วยว่าอำนาจลึกลับนี้มีเหล่าเซียนมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเซิ่งหนิวซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำไมซูซาคุถึงไม่กล้าเคลื่อนไหวต่อต้านเขา

รวมไปถึงมีข่าวลือที่น่าขันยิ่งกว่าว่าเซิ่งหนิวนั้นไม่ได้ฝึกฝนเซียนมากกว่าหกสิบปีด้วยซ้ำ ทำให้เขามีคุณค่าต่อซูซาคุมากกว่าผีเสื้อสีชาด

มีเรื่องราวนับไม่ถ้วนและหลายข่าวลือมักเป็นเช่นนี้

“เซิ่งหนิว!” ดวงตาหญิงสาวที่ปิดบังใบหน้าพลันสว่างขึ้นและหายใจลำบาก นางคิดได้ว่าหากเซิ่งหนิวช่วยนาง เมื่อนั้นทุกสิ่งจะน่าพอใจ

ผู้เฒ่าด้านข้างนางเผยความเคารพในแววตา

“ข้าไม่เคยคิดว่าเซิ่งหนิวผู้มีชื่อเสียงจะอยู่ที่นี่!” ฉิวซื่อผิงสูดหายใจลึก

“มิน่าเล่าผู้ส่งสาส์นจากซูซาคุถึงมาที่แคว้นซู!” ซิ่วลั่วไม่เชื่อสายตา

หญิงสาวงดงามเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ข้าสงสัยว่าเซิ่งหนิวคนนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับแคว้นซู…”

ขณะที่นางเอ่ยเช่นนี้ ผู้เฒ่าฮู่ขบคิดเล็กน้อยจากนั้นเอ่ยขึ้น “ยกเลิกคำสั่งที่จะส่งคนมาสำนักเมฆาฟ้า”

ซิ่วลั่วตกตะลึงแต่รีบตอบรับ

บุรุษหนุ่มรอคอยเล็กน้อยแต่หลังจากไม่มีเสียงตอบรับ เขาขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นมา “สหายเซียนเซิ่ง ข้าไม่ได้มาที่นี่เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของผีเสื้อสีชาดแต่เพื่อส่งสาส์นท้าประลอง ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถออกมาเพื่อพบข้าได้”

จังหวะที่เขาเอ่ยคำพูดนี้ ทั้งหกคนมีใบหน้าแตกต่างกันไป ผู้เฒ่าฮู่เผยแววตาสว่างขึ้นและมองไปทางหุบเขา

หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่ยังไม่มีเสียงตอบรับจากหุบเขา เฟิ่งอยู่ชานโกรธเกรี้ยวมาก เขาเป็นศิษย์คนหนึ่งแห่งซูซาคุดังนั้นจึงถูกผู้คนเคารพทุกที่ทุกแห่งที่เขาไป ไม่แม้กระทั่งแคว้นเซียนระดับห้ายังไม่กล้าทำกับเขาเช่นนี้

แววตาเฟิ่งอยู่ชานกลายเป็นมืดมนและเอ่ยอย่างช้าๆ “สหายเซิ่ง เรื่องดีดีแบบนี้ท่านจะเสียใจในภายหลัง ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของซูซาคุ!”

ขณะที่เขาเอ่ยจบ พลังแข็งแกร่งสายหนึ่งออกมาจากหุบเขา พลังนั้นได้สร้างแขนยักษ์พลันคว้าบุรุษหนุ่ม

เกิดเสียงรอยร้าวดังออกมาจากภายในฝ่ามือ หน้าผากเฟิ่งอยู่ชานปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อและดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ข้าเป็นผู้ส่งสาส์นจากซูซาคุ! เซิ่งหนิวอย่าใจร้อน ข้ามาที่นี่เพื่อส่งสาส์นท้าประลองเท่านั้น!”

น้ำเสียงสงบนิ่งดังออกมาจากภายในหุบเขา “วันที่!”

เฟิ่งอยู่ชานรีบตอบ “สามเดือนนับจากนี้บนภูเขาซูซาคุในอารามสวรรค์ทางตะวันตก!”

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าอยู่ที่นี่?” แม้ว่าน้ำเสียงหวังหลินจะยังสงบนิ่งแต่มีเจตนาแฝงอยู่ข้างในนั้น

เฟิ่งอยู่ชานตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ข้าไม่รู้จริงๆ เรื่องนี้ถูกส่งมาจากภูเขาซูซาคุ หากไม่ใช่พวกเขา อาจารย์ของผีเสื้อสีขาดคงค้นหาเจ้าไปแล้ว ตำแหน่งของเจ้าถูกส่งลงมาจากพวกเขาด้วย”

ในตอนนี้ใบหน้าท่าทางผู้เฒ่าฮู่เปลี่ยนเป็นประหลาดนัก เขารู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้พลันหันไปรอบๆและมองไปที่ฉิวซื่อผิงจนเห็นได้ว่าฉิวซื่อเผิงก็ตกตะลึง ดูเหมือนว่าฉิวซื่อผิงจะเดาได้เหมือนกัน

หลังหยุดกึก น้ำเสียงหวังหลินดังออกมาจากหุบเขา “ข้าไม่มีเวลา”

ฝ่ามือล่องหนรอบเฟิ่งอยู่ชานหายไปทำให้เขาได้รับอิสระ แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจความน่ากลัวของเซิ่งหนิว เดิมทีเขาคิดว่าเซิ่งหนิวเพียงแค่สามารถตัดแขนศิษย์พี่หญิงผีเสื้อสีชาดได้ก็เพราะใช้เคล็ดบางอย่าง

ตอนนี้เขาไม่คิดเช่นนั้นอีกแล้ว

การตอบสนองของหวังหลินทำให้สถานการณ์ยุ่งยาก เขาขบคิดเล็กน้อยพลันคำนับและเอ่ยอย่างเคารพ “สหายเซียนเซิ่ง มันเป็นคำสั่งของภูเขาซูซาคุที่ให้ท่านประลองกับผีเสื้อสีชาด พวกเขาแทบไม่เคยส่งข่าวสารใดออกมา ในเวลาที่ผ่านมาหนึ่งร้อยปีพวกเขาส่งข่าวสารออกมาเพียงสามอย่างเท่านั้น ครั้งแรกคือรับผีเสื้อสีชาดเป็นศิษย์หลัก ครั้งที่สองคือหยุดผู้คนไม่ให้ค้นหาท่าน ครั้งที่สามคือตอนที่พวกเขาส่งตำแหน่งของท่านออกมาและสั่งให้ท่านต่อสู้กับผีเสื้อสีชาด ข้าเชื่อว่าท่านจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลเมื่อท่านชนะได้ นอกจากนั้นจากข่าวสารทั้งสามข้อความ สองในนั้นเกี่ยวข้องกับท่าน!”

น้ำเสียงหวังหลินดังออกมาจากข้างในหุบเขา “บอกผีเสื้อสีขาดว่าหากนางต้องการประลอง มันจะต้องเกิดขึ้นในสิบปี!”

เฟิ่งอยู่ชานขบคิดเล็กน้อย เผยรอยยิ้มบูดเบี้ยวและคำนับฝ่ามือ เขาหันตัวกลับและหายไปในลำแสง

“สหายเก่าที่อยู่ในหุบเขา โปรดเข้ามาก่อน” เช่นนั้นเขตแดนของโจวยี่หายวับไป

ผู้เฒ่าฮู่หัวเราะและเดินเข้าไปในหุบเขา เบื้องหลังเป็นหญิงสาวผ้าคลุมหน้าและผู้ติดตามของนาง

ฉิวซื่อผิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะรีบติดตามไปพร้อมกับซิ่วลั่วและหญิงสาว

ข้างในหุบเขา ร่างศพตายซากขยับเขยื้อเมื่อทั้งหกคนมาถึง หลังเกิดเสียงรอยร้าวพลันดวงตาของร่างศพนั้นลืมขึ้นมา

หวังหลินสูดหายใจลึก ยืนขึ้นและเผยรอยยิ้ม เขาโบกแขนและสายหมอกหนาสีขาวรอบตัวเองหายไป หวังหลินปรากฎตัวเบื้องหน้าพวกเขาพร้อมกับชุดคลุมสีขาว

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกอยู่บนร่างเขาระหว่างช่วงเวลาการฝึกฝนได้หายไป

หวังหลินชี้ไปที่พื้นและทันใดนั้นโต๊ะหินปรากฎขึ้นมารวมถึงเก้าอี้หลายตัวด้วย

“โปรดนั่งก่อน!” หวังหลินนั่งลง สะบัดแขนและชุดน้ำชาปรากฎอยู่บนโต๊ะ

ผู้เฒ่าฮู่จ้องหวังหลินและนั่งลงตรงข้ามเขา หญิงสาวงดงามรีบคำนับหวังหลินพลันเดินเข้าไปรินน้ำชาให้ทุกคน

หวังหลินมองผู้เฒ่าชุดคลุมสีดำที่อยู่ถัดจากหญิงสาวผ้าคลุมหน้าและยิ้มขึ้น “สหายเซียน โปรดนั่ง”

ผู้เฒ่าคนนั้นมองหวังหลินอยู่นาน เขานึกได้ว่าคนผู้นี้เป็นคนเดียวกับเมื่อตอนนั้น เขานั่งลงพลันเกิดใบหน้าท่าทางอันซับซ้อน

คนอื่นๆนั่งลงเช่นกัน

ผู้เฒ่าฮู่มองหวังหลินและยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าไม่รู้ว่าข้าควรจะเรียกท่านว่าสหายเซียนหวังหรือสหายเซียนเซิ่งดี”

หวังหลินหยิบถ้วยน้ำชา ดื่มไปหนึ่งจิบและยิ้มแย้ม “ชื่อเหล่านั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่เราเรียกขานกันและกัน ไม่จำเป็นต้องกังวลมากนักหรอก”

หญิงสาวผ้าคลุมหน้ายังคงมองหวังหลิน ใบหน้านางเผยความสับสน นางไม่เคยคาดเดาว่าเซิ่งหนิวผู้มีชื่อเสียงคือคนผู้นี้

หวังหลินมองหญิงสาวและเอ่ยขึ้น “แม่นางยังคงสวยงามเหมือนเช่นก่อน ข้าเชื่อว่าเจ้ากำลังมุ่งหน้าไปสุสานอมตะเพื่อช่วยพ่อของเจ้าพร้อมกับสหายเซียนฮู่ใช่ไหม?”

หญิงสาวผ้าคลุมหน้าเอ่ยกระซิบ “ก่อนหน้านั้นเด็กน้อยคนนี้ไม่ทราบตัวตนของผู้อาวุโส ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะอภัยให้กับความหยาบคายของข้า”

ชื่อเซิ่งหนิวมีชื่อเสียงอย่างมากทุกหนแห่งในซูซาคุ แม้กระทั่งผู้เฒ่าฮู่ที่ตกใจเรื่องนี้ยังน้อยกว่านางมากนัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version