510. ล่มสลาย! พังทลาย!
สองผู้อาวุโสสำนักกระบี่ต้าหลัวมองหน้ากันเองจากนั้นคนที่ตัวเตี้ยกว่ายื่นมือออกไป ชายชุดขาวที่อยู่ข้าเฉียนฉินอุทานออกมาและร่างกายถูกโยนเข้าไปในหุบเขาด้วยพลังล่องหน
ขณะที่เขาถูกโยนเข้าไปในหุบเขา เสียงแหลมแทงทะลุผ่านสรวงสวรรค์ดังก้องภายในหุบเขา พริบตาเดียวจุดสีแดงจำนวนมากออกมาจากใบไม้แห้งและเริ่มรวมตัวกัน มองไกลๆแล้วภาพวิวทิวทัศน์น่าหวาดกลัวอย่างมาก
“ศิษย์พี่!” เฉียนฉินหันกลับมา นางมองไปที่คนของสำนักกระบี่ต้าหลัวและร้องเสียงหลง “นี่มันหมายความว่าอะไรท่านอาวุโส!?”
ขณะที่เฉียนฉินเอ่ยจบ แสงสีแดงนับไม่ถ้วนพลันเริ่มไหวรวมตัวกันเกิดเป็นก้อนเมฆสีแดงขนาดใหญ่ มันเริ่มส่งเสียงซี่ๆและเคลื่อนเข้าหาชายหนุ่มชุดขาว
มันเคลื่อนไหวเร็วเกินไปราวกับประกายสายฟ้าสีแดงและล้อมรอบชายหนุ่มชุดขาวในทันที ชั่วขณะนั้นฉากเหตุการณ์ทำให้ทุกคนตกตะลึงแต่ผู้อาวุโสสองคนเผยแต่ความเงียบงัน
แสงสีแดงนับไม่ถ้วนทะลวงผ่านเสื้อผ้าชายชุดขาวและเจาะเข้าไปในร่างกาย ในเวลาเพียงแค่สามลมหายใจเสื้อผ้าก็ย้อมไปด้วยสีแดงโลหิต
เสียงกรีดร้องอันหวาดกลัวระเบิดออกมาและทองออกมาจากปาก ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาขูดขีดร่างกายตัวเอง ลิ่มกระดูกปรากฎขึ้นออกมานอกร่างกาย
ร่างของเขาสั่นไหวและกลิ้งไปในหุบเขาอย่างรุนแรง ดวงตาเผยความสิ้นหวังและความเกลียดชังที่ไม่อาจจินตนาการได้
“ศิษย์พี่…“ เฉียนฉินสั่นสะท้านและเผยรอยยิ้มน่าเวทนา
ขณะนั้นจุดสีแดงเกือบทุกจุดในหุบเขาปรากฎขึ้นและเข้าไปร่างกายชายหนุ่ม ดวงตาของเขาหมองลงอย่างช้าๆและเสียงกรีดร้องค่อยๆอ่อนแอลง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมากแต่ก็เป็นเรื่องน่าตกใจด้วยเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ท่าทางทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดน่ากลัว
“เรื่องวันนี้เป็นเพราะข้า หากศิษย์พี่ของเฉียนฉินไม่ตายก็คงดีและจะไม่มีความแค้นเคืองกันระหว่าเรา…” จิตสังหารของหยินเชาฉิงมองไปทางเฉียนฉิน
สำหรับสตรีอีกคนผู้เรียกกั๋วฉิงยี่ว่าศิษย์พี่ ใบหน้านางซีดเผือด มือเล็กๆกุมปากตัวเองและกำลังจะอ้วก ร่างกายของนางสั่นเทาซึ่งนางพึ่งเห็นเรื่องน่ากวาดกลัวที่เกิดขึ้น
มีเพียงชายหนุ่มชุดสีฟ้าครามที่ยกย่องกั๋วฉิงยี่ เขาไม่แสดงอาการอะไรบนใบหน้าแต่กลับมองไปทางหุบเขาด้วยท่าทางมึนเมาแทน
ซีฟางแห่งสำนักกระบี่ยิ้มให้ผู้อาวุโสตัวเตี้ยและเอ่ยออกมา “ดูเหมือนเราสองคนไม่ต้องสังหารใครอีก คนนั้นล่อแมลงจิ่วลี่ส่วนใหญ่เข้าไปในร่างกายแล้ว”
ผู้อาวุโสตัวเตี้ยยิ้มออกมา “พี่ฉีใช้กฎเกณฑ์ได้ดีเยี่ยม ข้าหวังว่าท่านจะไม่ออมมือ เมื่อเราได้รับผลทองคำพิสุทธิ์ เรายังต้องรายงานกลับไปที่สำนัก”
ซีฟางหัวเราะ เขาตบกระเป๋าและหินหยกสีแดงปรากฎในฝ่ามือ ฝ่ามือขวาสะบัดสร้างเป็นรูปกระบี่และชี้ไปที่หินหยก “กฎเกณฑ์ผนึกกระบี่ จงเกิด!”
สิ้นคำ หินหยกเริ่มส่งเสียงซี่ๆและลอยเข้าไปในหุบเขากลายเป็นลำแสงสีแดง
เมื่อหินหยกแดงลอยเข้าไปในหุบเขา เสียงซี่ๆเปลี่ยนเป็นดังขึ้นและแพรสีแดงหลายเส้นออกมาจากหินหยก จากนั้นเสียงคำรามดึก้องและหินหยกแดงเริ่มขยับด้วยรูปแบบลึกลับ ในพริบตาการเคลื่อนที่ของมันก็เพิ่มขึ้นจนดูคล้ายหลอมละลายไปกับเส้นสีแดงนับไม่ถ้วนนั้น เส้นสีแดงเหล่านี้พุ่งเข้าหาชายหนุ่มที่กำลังอดทนดิ้นรน
แพรสีแดงเคลื่อนไหวเร็วมากและมาถึงเบื้องหน้านชายหนุ่ในพริบตา มันไม่ได้เข้าไปในร่างเขาแต่พัวพันกลายเป็นตาข่ายล้อมรอบชายหนุ่มบนพื้นแทน
ดวงตาผู้อาวุโสซีฟางส่องสว่างขึ้นและร้องตะโกน “ผนึก!”
ด้วยคำว่า ‘ผนึก’ ตาข่ายแดงก็เริ่มเรืองแสงสีแดงพลันเกิดเสียงแตกร้าวตลอดทั้งตาข่ายสีแดงก่อเกิดเป็นผนึกอันทรงพลัง
หลังเสร็จสิ้นเรื่อง ผู้อาวุโสตัวเตี้ยเดินเข้าไปในหุบเขาทันที ขณะที่เขาเข้าไปเสียงจากใบไม้และจุดสีแดงปรากฎขึ้นมา ทว่าคราวนี้ไม่ได้มีมากมายนัก
ผู้อาวุโสตัวเตี้ยยกมือขวาขึ้นและพลิกนิ้วด้วยท่าทีเฉยเมย ทุกครั้งที่เขาพลิกฝ่ามือจะส่งปราณกระบี่ออกไปและจุดสีแดงจำนวนมากถูกทำลาย
ตามจริงแล้วหากมีแมลงจิ่วลี่มากขึ้นกว่านี้มันจะทำให้เขารับมือได้ยากมาก แต่ตอนนี้มีพวกมันไม่มากเท่าไหร่จึงทำให้เขาต่อกรกับมันได้ง่ายดาย
ซีฟางแห่งสำนักกระบี่ต้าหลัวเหินร่างเข้าสู่หุบเขา เมื่อมีเขามาช่วยเหลือ เหล่าแมลงที่เหลืออยู่ก็ถูกทำลายทันที
คนที่สามที่เข้ามาในหุบเขาคืออาจารย์ลุงของกั๋วฉิงยี่ และหลังจากเขาก็เป็นคนอื่นๆ ส่วนเฉียนฉินนั้นใบหน้าโกรธเกรี้ยวของนางหายไปและหลงเหลือแต่เพียงความสงบนิ่งที่กำลังหวาดกลัว
หลังจากผู้อาวุโสตัวเตี้ยส่งปราณกระบี่ชุดสุดท้ายเพื่อทำลายแมลงจิ่วลี่ที่เหลืออยู่ ดวงตาพลันส่องสว่างขึ้นและร่อนลงบนทุ่งดอกไม้สีทอง
“ลิ่วซ่งยี่ ไปเอาผลทองคำพิสุทธิ์พวกนั้นมา!” น้ำเสียงผู้อาวุโสตัวเตี้ยเต็มไปด้วยความองอาจที่ไม่อาจมีใครปฏิเสธได้
ลิ่วซ่งยี่เป็นชายชราขั้นตัดวิญญาณซึ่งเป็นอาจารย์ลุงของกั๋วฉิงยี่ หลังได้ยินคำสั่งนี้เขาพยักหน้าทันทีและกำลังจะเข้าไปเก็บผลทองคำพิสุทธิ์
ทว่าชั่วขณะนั้นสายลมเบาบางเข้าไปมาในหุบเขา ครั้งแรกสายลมนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนใหญ่มันแค่พัดใบไม้บนพื้นดินออกไป
ทว่าเมื่อสายลมนี้พัดไปบนผู้อาวุโสสองคน ใบหน้าพวกเขาเปลี่ยนแปลงทันที
ซีฟางหันศีรษะกลับมาและดวงตาส่องสว่างมองออกไปนอกหุบเขา ใบหน้าผู้อาวุโสตัวเตี้ยมืดมัว เขาวางฝ่ามือขวาไว้บนกระเป๋า ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
การเคลื่อนไหวนี้ได้เปลี่ยนบรรยากาศในหุบเขาทันที ตอนนี้มีจิตสังหารเข้มข้นรายล้อมหุบเขา
เป็นผลให้ลิ่วซ่งยี่ที่กำลังเข้าไปเก็บเกี่ยวผลไม้พลันหยุดชะงักและเผยใบหน้าตื่นตกใจ
ส่วนคนอื่นๆก็มีท่าทีเดียวกัน มีเพียงดวงตาของเฉียนฉินที่สงบนิ่งมองร่างศิษย์พี่ของตัวเองที่ตายไปแล้ว ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวนางไม่มีสิ่งใดที่นางทำอะไรได้
ซีฟางขบคิดเล็กน้อยและร้องตะโกน “สหายเซียนที่พึ่งมาถึงนั้น ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวหรือแกล้งทำ ข้าเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักกระบี่ต้าหลัว ซีฟาง ข้าขอให้สหายเซียนออกมาพูดคุยกันก่อน!” สองผู้อาวุโสมองหน้ากันเองและความตกใจในแววตาแต่ละคน
ชั่วขณะที่สายลมพัดผ่าน ความรู้สึกจากเบื้องหน้านั้นเพิ่มพูดขึ้นหลายเท่า คราแรกมันเหมือนกับมีอสูรดุร้ายอยู่ห่างออกไปไกลแต่จากนั้นในพริบตาอสูรตัวนั้นก็อยู่เบื้องหน้าสายตาเขา
การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วเช่นนั้นทำให้จิตใจผู้อาวุโสสองคนสั่นเทารุนแรง
ควันสีเทาอันแน่นหนาออกมาเข้าหาหุบเขา ควันสีเทานี้ไม่สามารถเห็นคนที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน มันหยุดลงด้านนอกหุบเขา
ขณะที่ควันสีเทาปรากฎ ใบหน้าซีฟางก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง
ผู้อาวุโสตัวเตี้ยก็เช่นกัน เขากล่าวขึ้นมาทีละคำ “ท่านคือ?”
เมื่อกล่าวจบ เขาไม่รอให้ตอบสนองจึงพลันร้องคำราม ฝ่ามือสัมผัสกระเป๋าปรากฎกระจกทองแดง กระจกถูกโยนออกไปกลางอากาศและขยายออกมากว้างสามฟุต มันปลดปล่อยแสงสีเขียวล้อมรอบควันสีเทา
จังหวะที่ผู้อาวุโสตัวเตี้ยโยนกระจกออกไป ซีฟางผู้ต่อสู้ร่วมผู้อาวุโสตัวเตี้ยมาเป็นเวลานานและเข้าขากันได้ดี เขาสร้างผนึกในสองฝ่ามือโดยไม่ลังเลและกระบี่สมบัติด้านหลังลอยขึ้นสู่อากาศ กระบี่ลอยในแนวดิ่งขึ้นเหนือศีรษะปรากฎภาพมายากระบี่ขนาดใหญ่ด้านหลัง
ซีฟางตะโกน “ฟัน!”
ขณะที่สองผู้อาวุโสโจมตี ลิ่วซ่งยี่ผู้เป็นชายชราขั้นตัดวิญญาณพลันเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าและพุ่งเข้าหาผลทองคำพิสุทธิ์อย่างรวดเร็ว เขาบ่มเพาะมาช้านานและรู้จังหวะและโอกาส เพราะเข้าอยู่ใกล้ผลไม้อยู่แล้วดังนั้นจึงมาถึงในพริบตา
แสงจากกระจกทองแดงราวกับกฎเกณฑ์ที่ล้อมรอบควันสีเทา ในเวลาเดียวกันกระบี่ของซีฟางก็เหมือนกับยอดเขาสวรรค์ ก่อนที่กระบี่จะเข้ามาใกล้มันถึงกับเกิดคลื่นเสียงกระแทกผ่านกำแพงเสียงอีก
สำนักกระบี่ต้าหัวมีชื่อเสียงด้านกระบี่ ดังนั้นพลังของกระบี่แต่ละคนไม่อ่อนแอ!
แต่ว่า!
ขณะที่ปราณกระบี่พุ่งเข้ามา ควันสีเทาเคลื่อนไหวทันที การเคลื่อนไหวนี้ราวกับม้านับหมื่นตัว ราวกับคลื่นสึนามิสูงเทียมฟ้า ควันสีเทาพุ่งผ่านทุกสิ่งทุกอย่างและล้อมรอบทั้งหุบเขาในทันที
ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้มีเสียงเยือกเย็นออกมาจากภายในควันสีเทา
“แสงหิ่งห้อยจะเทียบกับดวงจันทราอันส่องสว่างได้อย่างไร?!”
น้ำเสียงเยือกเย็นสุดขั้วและขณะที่ร่อนถึงหูทุกคน มันทำให้พวกเขาทั้งหมดสั่นเทา แสงสีเขียวล้อมรอบควันสีเทาแตกสลายกลายเป็นละอองแสงนับไม่ถ้วนทันทีก่อนจะเลือนหายไป
กระจกทองแดงพลันเกิดเสียงแตกร้าวกลางท้องฟ้าก่อนจะ ตูมมมมม!
ปราณกระบี่ของซีฟางแตกสลายด้วยเช่นกัน!