804. เผ่าเลือกอมตะ
ผู้คนจำนวนมากเหาะเหินออกมาจากกลุ่มสิ่งก่อสร้าง มีทั้งชายและหญิงใส่ชุดเสื้อผ้าเรียบง่าย ทว่าไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้และมองดูอยู่ห่างไกล
ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างด้านล่าง มีเด็กๆหลายคนเบิกตากว้างจ้องมายังหวังหลิน
ตอนที่หวังหลินเห็นผู้คนเหล่านี้ เขาตื่นตะลึงยิ่ง เห็นได้ชัดว่านี่คือเผ่าละทิ้งสวรรค์ พวกเขาอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนไม่รู้และสืบทอดกันมาจนกระทั่งถึงตอนนี้
ขณะหวังหลินเข้าใกล้ คนที่เหาะเหินออกมาก็ล่าถอย สายตาหวาดกลัวถ้าเข้าใกล้เกินไป
ชายชราที่นำทางหวังหลินพลันหมองหม่นทันที เขาพูดด้วยภาษาประหลาดกับคนที่ลอยออกมา
พวกเขาขบคิดเงียบๆและจากนั้นกระจายตัวกันออกไป ชายชราหันกลับมาหาหวังหลินและกล่าวอย่างนอบน้อม “ท่านเหนือเทพ ทางนี้ นี่คือที่ที่ตระกูลของข้าอาศัยอยู่”
ขณะพูดขึ้นมาก็ลดตัวลงจากท้องฟ้า ร่อนลงไปยังสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดและยืนอยู่ข้างๆอย่างเคารพ
เมื่อหวังหลินร่อนลงมาถึง ดวงตาพลันส่องสว่างขึ้นและแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมา แม้จะมั่นใจว่าไม่มีอันตรายแล้วเขาก็ยังไม่เข้าไป “ที่นี่ก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าไปข้างใน”
ชายชราตกตะลึงและเผยสีหน้าขื่นขม เขาพยักหน้าและไม่ยืนกรานให้หวังหลินเข้าไป
สมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะรวมตัวกันในท้องฟ้า มองหวังหลินด้วยสายตาตึงเครียด
“ท่านเหนือเทพ…” หวังหลินขัดจังหวะคำพูดชายชราทันที “ทำไมคนพวกนี้ถึงมีสายตาหวาดกลัวตอนที่มองมาหาข้า?”
ชายชรายิ่งใบหน้าขื่นขมมากขึ้น หลังจากเงียบไปชั่วครู่เขาก็ถอนหายใจ “นี่มันก็นานมาแล้วตั้งแต่มีคนจากแดนสวรรค์มาที่นี่ราวกับราชาเทพละทิ้งพวกเรา ข้าเป็นคนที่แก่ที่สุดในนี้ แต่พูดตามตรง ท่านเป็นเทพตนแรกที่ข้าเจอ”
“ถ้าไม่ใช่ว่ามีบันทึกของเผ่าอมตะที่ถูกเลือกของข้าทิ้งเอาไว้ เมื้อนั้นข้าคงมิอาจจดจำเทพได้และปล่อยให้เผ่าอยู่อย่างโดดเดี่ยว”
หวังหลินเพียงมองเขาด้วยความสงบนิ่ง
ชายชราลังเลและกระซิบขึ้นมา “เผ่าข้าทำตามคำสั่งของราชาเทพอิสระเพื่อปกปักษ์รักษาเตาหลอมหยินลี้ลับ แต่ว่าเมื่อสามหมื่นปีก่อน เตาหยินลี้ลับได้เปิดขึ้นทุกร้อยปี ทุกครั้งที่มันเปิดจะปลดปล่อยหมอกสีดำจำนวนมากออกมา หมอกนั้นเปลี่ยนกลายเป็นอสูรร้ายและทรงพลังพอจะก่อรูปร่างเป็นร่างมนุษย์”
“คนในเผ่าของข้านับไม่ถ้วนตายไปเพราะอสูรหมอกร่างมนุษย์เปล่านี้”
“นั่นคือเหตุผลว่าสิ่งประหลาดเกือบทุกอย่างที่ปรากฏขึ้นมาคืออสูรหมอกเหล่านี้ ส่วนผู้คนของเผ่าข้าเพราะมีรอยสักอยู่ อสูรหมอกจึงไม่มีโอกาสเข้ามาหาเราได้”
“แต่กระนั้นจึงไม่มีใครนอกจากข้าที่สามารถบอกได้ว่าท่านเป็นเทพหรืออสูรหมอก แม้แต่ตอนนี้บางคนก็ไม่เชื่อคำพูดข้า…”
ชายชรากล่าวเหตุผลพร้อมกับถอนหายใจยาว
หวังหลินพยักหน้าเล็กน้อย ชายชรามีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง เมื่อรวมกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นและสีหน้าของผู้คน จึงเกิดเป็นเหตุผลบางอย่างพอดีกับต่อสิ่งที่ชายชราเอ่ยเอาไว้
หวังหลินขบคิดเล็กๆและเอ่ยถาม “เตาหลอมหยินลี้ลับอยู่ที่ไหน?”
ชายชรากล่าวอย่างนอบน้อม “อยู่ในพื้นที่ต้องห้ามของเผ่า ท่านเหนือเทพต้องการไปตอนนี้หรือ?”
หวังหลินขบคิดและพยักหน้า เขาต้องการดูให้ชัดว่าเตาหลอมหยินลี้ลับนี้คืออะไรกันแน่!
ชายชรากำลังจะเอ่ยขึ้นมาแต่มีเสียงตะโกนหนึ่งโผล่ออกมาจากฝูงชนกลางท้องฟ้า
“บรรพชนมิอาจพาเขาไปที่เตาหลอมหยินลี้ลับได้!” น้ำเสียงสะท้อนข้ามผ่านเข้ามาดุจเสียงสายฟ้า ชายผู้หนึ่งสูงเกือบสิบฟุตเดินออกมา
ร่างกายท่อนบนปกคลุมไปด้วยรอยสักที่กระจายออกมาและเกือบครอบคลุมไปทั้งร่าง แม้แต่ลำคอและใบหน้าต่างก็แทบจะปกคลุมไปเสียหมด
ระหว่างคิ้วมีต้นไม้สิบสามใบกำลังเคลื่อนไหว ทำให้เขาส่งกลิ่นอายชั่วร้ายออกมา
‘สิบสามใบ!’ หวังหลินหรี่ตาแคบ จากความทรงจำของเขา สมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะบนดาวซูซาคุที่ทรงพลังที่สุดมีแค่ สิบเอ็ดใบเท่านั้น
‘เทียบเท่าขั้นรูปธรรมหยาง…’ หวังหลินมองเขาด้วยความเยือกเย็น
ชายร่างกำยำเดินเข้ามาถึงเพียงไม่กี่ก้าว การปรากฏตัวของเขาทำให้สมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะข้างเคียงส่งเสียงเชียร์ สายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความเคารพ
ชายชราด้านข้างหวังหลินตะโกนขึ้นมาทันที “ต้าซาน จงเคารพท่านเทพเสียบ้าง!”
ร่างกำยำนั้นเผยดวงตาเย็นเยียบจ้องไปที่ชายชราและเอ่ยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ท่านบรรพชนแก่แล้ว ท่านคิดเรื่องเหล่าเทพจนบ้าไปแล้วหรือ? ในโลกนี้ไม่มีเทพหลงเหลือแล้วและบันทึกทั้งหมดที่เหล่าบรรพชนเหลือเอาไว้ก็แค่เรื่องแต่ง ถ้ามีเทพตนใด ทำไมเผ่าเราถึงไม่เคยเจอเลยตั้งแต่อดีตเล่า?”
ชายชราใบหน้ามืดมนและตะโกนกลับ “หุบปาก! เผ่าอมตะที่ถูกเลือกของเราคือผู้ส่งสาส์นของเหล่าเทพ ถ้าไม่มีเทพดำรงอยู่ เช่นนั้นเผ่าของเราจะอยู่ได้อย่างไร!? อีกทั้งหินหยกสวรรค์จากราชาเทพก็ยังอยู่ดี เจ้ากล้าไม่เชื่อมันรึ!?”
“เชื่อ? ที่เรียกว่าราชาเทพ ก็แค่เศษเสี้ยวสัมผัสวิญญาณที่เหลืออยู่จากคนที่ทรงพลังเท่านั้น มันจะทำให้ข้าเชื่อได้อย่างไร? แทนี่จะเชื่อสัมผัสวิญญาณที่หลงเหลือไว้ในอีดต ข้าเชื่อในความแข็งแกร่งของตัวเองมากกว่า” ชายร่างกำยำกำหมัดแน่น สายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“เจ้านอกรีด!” ร่างชายชราสั่นเทาพลางกัดฟันแน่น “เจ้า…”
“จะอะไรเล่าถ้านอกรีด?! เทพ เหล่าเทพ เผ่าข้าตกอยู่ภายใต้อสูรมานานหลายปีนับตั้งแต่อดีต ปกป้องคุ้มครองเตาหลอมหยินลี้ลับตามคำแนะนำของหินหยกสวรรค์ แต่เราได้อะไรกลับมากัน? กลับเป็นอสูรหมอกในเตาหลอมหยินและความตายของคนในเผ่า! ตอนที่อสูรหมอกเข่นฆ่าคนในเผ่า เทพไปอยู่ที่ไหน? ท่านบรรพชนอย่ากล่าวอ้างเหล่าเทพอีกเลย แม้เขาจะเป็นเทพจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ ข้าต้าซาน จะขอฆ่าเทพเสียเอง!”
ขณะเอ่ยออกมาสายตาพลันจับจ้องหวังหลินด้วยสายตาเย็นเฉียบ เขาก้าวมาข้างหน้าพลันปรากฏตัวด้านหน้าหวังหลินและโยนกำปั้นออกไป
ปรากฏแรงระเบิดและรอยสักหลายชุดขึ้นมา รอยสักเรียงต่อกันเป็นสายล้อมรอบต้าซานราวกับกำลังก่อสร้างค่ายกลลึกลับ
“เทพ นำพลังเทพของท่านออกมาให้ข้าเห็นว่าทำไมท่านถึงคู่ควรต่อการเรียกขานว่าเป็นเทพ!”
ดวงตาหวังหลินฉายแววเย็นยะเยือก เขาเข้าใจเผ่าละทิ้งอมตะเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ชาแมนแต่เป็นคนที่ฝึกฝนในการเพิ่มขีดความสามารถทางร่างกาย
ปล.เผื่อใครสงสัยนะครับ หวังหลินจะเรียกเผ่านี้ว่าเผ่าละทิ้งอมตะ ส่วนคนในเผ่าเรียกเผ่าตัวเองว่าเผ่าเลือกอมตะ