836. ความลับอสรพิษพิฆาตจันทร์
เสียงคำรามดังสะท้อน ใบหน้าหวังหลินซีดเผือดรู้สึกถึงความเจ็บปวดในวิญญาณดั้งเดิมราวกับกำลังถูกแยกเป็นชิ้นๆ ถ้าเขายังอยู่ในเกราะหนังเทพโบราณมันคงไม่รุนแรงนักแต่ความเจ็บปวดตอนนี้ทำให้โลหิตชะโลงออกมานอกทวาร
เมื่อสัมผัสถึงอันตราย หวังหลินยิ้มบิดเบี้ยวและตบกระเป๋านำเกราะหนังเทพโบราณออกมาห่อหุ้มดวงวิญญาณ ราวกับมีม่านกั้นก่อตัวขึ้นรอบหู แม้เสียงคำรามยังคงรุนแรงแต่ผลกระทบใส่ดวงวิญญาณลดลงถึงจุดที่หวังหลินสามารถทนรับมันได้
แต่กลิ่นอายจากเกราะหนังเทพโบราณทำให้หนวดทั้งหมดบนตัวอสรพิษน้อยต่างกระดิกไปมาด้วยความตื่นเต้น พวกมันพุ่งเข้าหาหวังหลินอย่างบ้าคลั่ง
หวังหลินรู้สึกหนังศีรษะด้านชา เขาติดอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ถ้าถอดเกราะหนังออก ดวงวิญญาณจะแตกสลายภายใต้เสียงคำรามนี้ แต่ถ้าสวมเกราะหนัง เขาก็จะได้รับความสนใจจากอสรพิษตัวน้อยมากมาย
หวังหลินถอนหายใจ สีหน้าเปลี่ยนทันที กลิ่นอายเยือกเย็นผุดออกมาจากพื้นทรายด้านหน้า รอยร้าวหนึ่งปรากฏขึ้นและอสรพิษตัวยาวมากกว่าร้อยฟุตพุ่งเข้าหาหวังหลิน จากมุมมองเขา ปากใหญ่ๆของมันไม่ได้จะกลืนกินกลิ่นอายจากเกราะหนังได้ง่ายๆ
หวังหลินไม่ได้มีนิสัยปลอบประโลมตัวเอง เขาไม่คิดว่าอสรพิษตัวนั้นไม่ได้จะจดจำเขาเป็นเจ้าของเพียงเพราะกลิ่นอายเทพโบราณ!
ขณะนั้นสีหน้าหวังหลินก็เคร่งเครียด ดวงตาเย็นเยียและรีบล่าถอย อสรพิษพุ่งเข้าหาเขาและกลืนกินกลิ่นอายที่ออกมาจากร่างหวังหลินอย่างต่อเนื่อง
เหล่าเซียนไม่อาจสัมผัสกลิ่นอายนี้ได้ เหล่าอสูรที่สืบทอดมาจากยุคโบราณก็ไม่สามารถตรวจจับได้เช่นกัน มีเพียงสิ่งมีชีวิตน้อยนิดเช่นอสรพิษพิฆาตจันทร์เท่านั้นที่สามารถตรวจจับกลิ่นอายเทพโบราณได้
ดวงตาหวังหลินยิ่งเย็นเยียบมากขึ้น เป็นไปได้ว่าตอนที่อสรพิษตัวนี้กำลังกลืนกินกลิ่นอายเทพโบราณ มันก็จะกลืนกินเขาไปด้วย!
ขณะกำลังล่าถอย กลิ่นอายเย็นเยียบกว่าก็ล้อมรอบบริเวณ หวังหลินเปลี่ยนทิศทางทันที
รอยร้าวหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนพื้นด้านหลังเขา อสรพิษพิฆาตจันทร์ยาวพันฟุตอีกตัวพุ่งออกมา อสรพิษตัวนี้มีหนวดทั้งหมดห่อหุ้มรอบร่างและอ้าปากกว้างราวกับกำลังตื่นเต้น น้ำลายจำนวนมากไหลออกมาจากปากพร้อมกับพยายามกลืนกินหวังหลิน
หวังหลินเปลี่ยนทิศทางพร้อมกับเสียงแตกร้าวดังออกมาจากทุกที่ รอยร้าวมากกว่าสิบแห่งและมีอสรพิษขนาดแตกต่างกันพุ่งเข้าหาหวังหลิน
หวังหลินสงบสายตานิ่ง ขณะล่าถอยพลางรวบรวมพลังปราณในร่างกายและพุ่งออกทันที ก่อเกิดเป็นวังวนแตกสลายทำให้เขาล่าถอยไปได้เร็วขึ้น
อสรพิษจำนวนมากกำลังไล่ล่าเขา ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแต่ภายใต้สายตานั้นมีสายตาที่น่ากลัวอยู่ด้วย
พวกมันต้องการกลืนกินกลิ่นอายของเกราะหนัง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต้องการกินหวังหลินด้วยเนื่องจากสามารถปลดปล่อยกลิ่นอายที่ตื่นเต้นพวกนั้นได้!
หวังหลินถูกไล่ล่าจนหนังศีรษะด้านชา เขายิ้มบิดเบี้ยวและหยุดตัวลง รอยร้าวหลายร้อยแห่งปรากฏเบื้องหน้า อสรพิษจำนวนมากพุ่งออกมา พอรวมกับอีกกลุ่มด้านหลังเขาจึงทำให้เกิดอสรพิษกลุ่มใหญ่กักขังเขาเอาไว้
ขณะที่อสรพิษเหล่านี้พุ่งออกมากลืนกินหวังหลิน หวังหลินเผยสายตาดุร้าย ร้องคำรามเสียงดังสะท้อนไปทั่วร่างอสรพิษ
เมื่อเสียงคำรามดังกึกก้อง อสรพิษตัวน้อยทั้งหมดที่กำลังพุ่งมาหาพลันหยุดลง พวกมันล่าถอยก่อเกิดเป็นเส้นทางหนึ่ง
หวังหลินหรี่ตาแคบแต่ขณะนั้นเกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นมา อสรพิษตัวใหญ่พลันโผล่ออกมาจากทางเดินนั้น มันมีกลิ่นอายที่ไม่ด้อยไปกว่าของบรรพชนโลหิตและรวดเร็วมาก พริบตาเดียวมันก็ทำให้สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปมหาศาล
อสรพิษตัวนั้นพุ่งออกมาด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ กลืนกินหวังหลินตรงๆ จากนั้นเจาะทะลวงเข้าไปในพื้นดินและหายไป
อสรพิษทั้งหมดตามหลังออกไปไกล
อสรพิษตัวนั้นเป็นสีเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด มันเร็วมากเกินไปโดยเฉพาะตอนที่อยู่ในร่างแม่ของมัน เพียงห้านาทีพวกมันก็มาถึงสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง
ที่นี่ไม่มีพื้นดินทราย มีแต่เพียงวังวนขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่โคจรเสร็จสิ้นไปหนึ่งรอบจะปลดปล่อยพลังเย็นเข้าสู่พื้นที่รอบๆ
ถ้าหวังหลินมาเห็นวังวนนี้ก็จะนึกออกว่ามันคือตรงส่วนที่หัวอสรพิษตั้งอยู่! ทั้งยังเป็นจุดที่แกนจันทราตั้งอยู่ด้วย!
หลังมาถึงที่นี่ อสรพิษพิฆาตจันทร์อ้าปากและพ่นออกมาทันที หวังหลินโผล่ออกมา เขาไม่มีโอกาสได้ต่อต้านอันใดก่อนที่จะหายเข้าไปในวังวน
อสรพิษจำนวนมากนอนลงและนิ่งงันไร้การเคลื่อนไหว
หลังจากหวังหลินเข้ามาในวังวน ดวงตาพลันส่องสว่างขึ้น ตอนที่เขาถูกอสรพิษกลืนกินเข้าไปนั้น พลังลึกลับสายหนึ่งแทรกเข้ามาในร่างกายและหยุดพลังดั้งเดิมไม่ให้ทำงาน ราวกับวิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกตัดออกจากร่างกายและเขาเปลี่ยนจากเซียนเป็นคนธรรมดา!
นี่ทำให้ความคิดหวังหลินสั่นสะท้านรุนแรง ทว่าเขากลับสังเกตว่าเกราะหนังเทพโบราณปลดปล่อยพลังดึงดูดที่ดูดซับพลังลึกลับสายนั้นทันที
เป็นผลให้พลังดั้งเดิมของเขาทำงานได้ต่อ
หลังจากหวังหลินถูกโยนเข้ามาในวังวน ในที่สุดเขาก็เห็นรอบด้านได้ชัดเจน สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องสูดลมหายใจหนาวเหน็บและตกตะลึง
ที่นี่คือมิติยาวและแคบ หนวดมากมายยื่นออกมาจากความว่างเปล่าและส่ายไปมาแผ่วเบา หวังหลินเห็นขอบเตาขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่งมีหนวดยื่นออกมาราวกับพวกมันกำลังดูดซับกลิ่นอาย จุดนูนๆเคลื่อนผ่านหนวดเป็นบางครั้งบางคราว
เตาหลอมนี้เคยเป็นของกรีด!
เตาหลอมนี้ทำให้หวังหลินต้องสูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าไปเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือผู้คนที่ถูกหนวดพันกันยุ่งเหยิง
ผู้คนทั้งหมดเปลือยกายและผอมบาง มีทั้งชายและหญิง คนแก่และวัยเยาว์ ถูกมัดกันอย่างแน่นหนา หนวดเกือบทุกเส้นจะห่อหุ้มรอบคนหนึ่งคน!
ทั้งหมดดวงตาปิดสนิทและแทบจะเป็นร่างกายไร้ชีวิตดุจซากศพ ชัดเจนว่าหนวดที่ห่อหุ้มพวกเขากำลังดูดซับพลังชีวิต!
หวังหลินไม่รู้จักใครเลย! เขาสัมผัสได้อย่างคลุมเครือว่าในนั้นไม่ได้มีเซียนทั้งหมดแต่ยังมีคนธรรมดารวมอยู่ด้วย!
ตัวอย่างก็เช่นเด็กชายที่ดูอายุราวหกถึงเจ็ดขวบ แม้ร่างกายจะแห้งเหี่ยวไปแล้วหวังหลินก็ยังบอกได้ว่าเขาคือเด็กน้อย!
ตอนนี้เขาเหลือแต่เพียงผิวหนังและกระดูกที่ไร้สัญญาณชีวิต ใบหน้ายังคงเจ็บปวดและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง
ในใจหวังหลินเกิดความหวาดกลัวและห่อหุ้มอยู่ในใจ
สายตาจ้องออกไปส่วนลึกของพื้นที่และไร้ที่สิ้นสุด หวังหลินจินตนาการได้ว่ามีหนวดอีกมากที่นี่และทุกเส้นจะพัวพันกับคนหนึ่งคน!
“อสรพิษพิฆาตจันทร์…” หวังหลินขบคิดเงียบๆ
เขาพอจะเดาได้ว่าคนพวกนี้ถูกอสรพิษพิฆาตจันทร์จับเอาไว้ในอดีตที่ผ่านมาและกลายเป็นต้นกำเนิดชีวิตให้อสรพิษ
หวังหลินเกิดความคิดหวาดกลัวขึ้นมา
“ตอนนั้นอสรพิษพิฆาตจันทณ์อยู่บนดาวหยุนเซีย บนนั้นมีแต่ซากปรักหักพัง…ครั้งนึงดาวหยุนเซียมีเหล่าเซียนและคนธรรมดา พวกเขา…ได้อพยพไปจริงๆหรือไม่…” หวังหลินสูดหายใจลึกและเผยใบหน้าซับซ้อน
สายตายังคงอยู่บนเด็กชาย
ขณะนั้นหนวดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในความว่างเปล่าและเคลื่อนหาหวังหลินดุจสายฟ้า ดวงตาหวังหลินส่องสว่างวาบ ถ้าเขาไม่มีเกราะหนังเทพโบราณ เขาคงเป็นเหมือนคนพวกนี้ เขาคงไม่สามารถต่อต้านได้เลยตอนที่หนวดพวกนี้ดูดพลังชีวิตเขาไป
ทว่าตอนนี้แววตาหวังหลินเผยจิตสังหาร เขาไม่ได้สัมผัสหนวดแต่หลบเลี่ยงอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาเตาหลอมยักษ์
หวังหลินไม่ต้องการทำลายหนวดพวกนี้เว้นแต่ว่ามันจำเป็น ถ้าเขาทำลงไปจะถูกอสรพิาตรวจจับได้และอาจจะมีอะไรใหม่มาอีก
หวังหลินพุ่งออกไป หนวดก็พลาดเป้า หร่างหวังหลินดุจหมอกควันพุ่งเข้ามาใกล้เตาหลอมยักษ์ มันปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณกระจายออกมาอย่างช้าๆ
แววตาหวังหลินส่องสว่างวาบ กลิ่นอายในเตาหลอมยิ่งแข็งแกร่งขึ้น หนวดที่ล้อมรอบเตาหลอมเพียงแค่ห่อหุ้มไว้เท่านั้นราวกับไม่ต้องการจะเข้าไปข้างใน
ขณะนี้หนวดอีกนับไม่ถ้วนปรากฏในความว่างเปล่าและพุ่งตรงเข้าหาหวังหลิน หวังหลินพุ่งเข้าไปในเตาหลอมโดยไม่ลังเล ขณะที่เขาเข้าไปข้างใน พลังรุนแรงสายหนึ่งโผล่ออกมาจากวังวนตรงทางเข้า
หลังจากนั้นไม่นานนักเงาทรงเสน่ห์ของสตรีผู้หนึ่งปรากฏข้างในวังวน ใบหน้าซีดขาวและดวงตาปิดสนิท นางสูญสิ้นสติอย่างชัดเจน ในไม่นานที่นางปรากฏตัว หนวดกว่าครึ่งก็พุ่งเข้าด้านหลังนาง พวกมันโอบรัดนางขึ้นไปและดูดซับพลังชีวิตเรื่อยๆ
จังหวะที่หวังหลินเข้าไปในเตาหลอม เขาก็สามารถเห็นรูปลักษณ์ของสตรีนางนั้นได้ชัดเจน นางคือเหยาปิงหยุน!
เสื้อผ้าของเหยาปิงหยุนกำลังถูกกัดกร่อน แม้กระทั่งกระเป๋าก็ไม่สามารถหนีพ้นและพังทลายไป
เสื้อผ้าของเหยาปิงหยุนกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเผยผิวส่วนใหญ่ออกมา ขณะนั้นเองขนตาของนางก็สั่นและลืมตาขึ้นมา…