937. คุกปฐพี
ขณะควบคุมกระบี่เหิน ควบคิดหนึ่งแล่นผ่านในหัว ‘ข้าต้องหาทางทำให้อสูรเฒ่าพวกนั้นใช้พลังดั้งเดิมของตัวเองให้ไวขึ้น! อีกทั้งข้าต้องหาทางออกให้ตัวเองด้วย!’
หวังหลินตบกระเป๋าโดยไม่ลังเล กระบี่เหินมากกว่าสิบเล่มลอยออกมา เขาได้รับพวกมันมาจากสงครามก่อนหน้านี้ ฝ่ามือสร้างผนึกและควบแน่นพลังดั้งเดิมเข้าไป หากมีกระบี่เล่มไหนระเบิดก็จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบพลางโบกสะบัดแขน กระบี่เหินทั้งหมดลอยออกไปดุจสายฟ้าเข้าหาจุดอ่อนไหวทั้งหมดของอสรพิษพิฆาตจันทร์ตามที่หวังหลินรู้มา
‘ด้วยวิธีนี้ ข้าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างอสรพิษพิฆาตจันทร์ได้!’
วิธีนี้มีแค่หวังหลินสามารถทำได้เท่านั้น หากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักเจ้าอสรพิษดีพอจะยิ่งรู้จัดอ่อนไหวของมันได้น้อยกว่านี้เพื่อเตรียมรับมือ
ขณะที่กระบี่สัมผัสวิญญาณหวังหลินเข้าไปใกล้หวังวน พลังดั้งเดิมพุ่งกระโจนออกมาจากข้างในวังวน
หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนสี สัมผัสวิญญาณละทิ้งกระบี่เหินโดยไม่ลังเลเพื่อหลีกเลี่ยง ทว่าพลังสายนี้แข็งแกร่งเกินไป ดุนน้ำหลากที่สร้างผลกระทบต่อกระบี่ทันที
ปลายกระบี่แตกสลายทีละนิ้วไล่มาจนมิดด้าม ทว่าสัมผัสวิญญาณของหวังหลินตอบสนองเร็วกว่าจึงทิ้งกระบี่ไว้และหลบหนีมาได้
แม้จะเป็นเช่นนั้นสัมผัสวิญญาณหวังหลินยังถูกพลังดั้งเดิมเข้าสัมผัสจนแตกสลายไปก้อนใหญ่
หวังหลินใบหน้าแดงซีดและนั่งลงใกล้กระดูกอสรพิษ ใช้เวลาฟื้นฟูอยู่สักพัก
‘พลังดั้งเดิมแข็งแกร่งนั่นมันอะไรกัน หากมันไม่ได้หลุดผ่านวังวนมา สัมผัสวิญญาณข้าคงไม่มีเหลือ!’ แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ เขารู้ว่าพลังดั้งเดิมที่พุ่งออกมานั้นเป็นแค่เศษเสี้ยว
สิ่งสำคัญกว่าก็คือวังวนแห่งนั้นมีพลังดึงดูดทรงพลังซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาเจ้าอสรพิษพิฆาตจันทร์ หากพลังข้างในต้องการออกมา มันคงถูกวังวนขัดขวางไปหลายเท่า แม้จะหลุดออกมาได้ส่วนหนึ่งก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง
หวังหลินตบกระเป๋านำกระบี่เหินอีกเล่มออกมา ใช้สัมผัสวิญญาณห่อหุ้มเอาไว้ กระบี่เปลี่ยนเป็นลำแสงและพุ่งตรงเข้าไปอีก
ชั่วขณะต่อมาเขาก็มาถึงใกล้กับวังวนอีกครอบ กระบี่เหินหยุดชั่วขณะเพื่อสังเกตการณ์ว่าไม่มีพลังผันผวนอันใดอีก มันจึงพุ่งเข้าไป
ต้องขอบคุณพลังดึงดูดอันแข็งแกร่ง มันจึงทำให้หวังหลินเข้าไปโดยแทบไม่ได้รับผลกระทบ หลังจากที่กระบี่หวังหลินเข้าไปไม่นานก็ปรากฏในอุโมงค์ที่เขาคุ้นเคย!
วินาทีที่เข้าไปในั้น คลื่นกระแทกตามทางเดินแคบๆแห่งนี้ทรงพลังเพียงพอให้สมาธิหวังหลินหลุดลอยราวกับต้องการทำลายทุกสิ่งอย่าง
ภายใต้พายุวังวนมีหนวดหลายเส้นในอุโมงค์แตกสลาย ร่างศพจำนวนมากเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผงและสลายไป
กระบี่สัมผัสวิญญาณหวังหลินเข้าไปดุจหนามทิ่มแทงและพักอยู่ใกล้กับผนังเนื้อ จังหวะที่หนวดหนึ่งในนั้นแตกสลายได้สร้างรอยเปิดขึ้นมาบนผนัง กระบี่จึงเข้าไปทันที
ด้วยการทำแบบนี้เท่านั้นจึงจะหลบเลี่ยงคลื่นกระแทกที่วังวนสร้างขึ้นมาได้
ข้างในมีสองร่างอยู่ตรงข้ามกันและกัน ทั้งคู่ใช้วิชาหลากหลายอย่างกระพริบวูบวาบ มันคือฉิงชุ่ยและมังกรทองกำลังสู้กันอยู่
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ แต่วิญญาณดั้งเดิมของซวนเป่าไม่ได้เป็นมังกรทองอีกแล้ว มันถูกหนวดสิบเส้นพัวพันเอาไว้แทน ทำให้ดวงตาปิดลงและดูเหมือนอ่อนแอมาก
พลังเทพดั้งเดิมจำนวนมากกำลังถูกหนวดพวกนั้นดูดซับ พวกมันส่ายไปมาอย่างมีชีวิตชีวา สั่นระริกมากกว่าปกติ ใครที่เห็นคงตกตะลึง
ห่างออกไปไกลมีฟองน้ำจำนวนมากล้อมรอบเย่มู่จื่อ หวู่ต้าวซานไล่ทันเขาและต่อสู้พัวพัน
อย่างไรก็ตามหลังจากหวังหลินเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้จึงพลันขมวดคิ้ว
อุโมงค์แห่งนี้มีความยาวแค่ครึ่งเดียวจากก่อนหน้าและสามารถเห็นปลายสุดอุโมงค์เพียงชำเลืองสายตามอง เส้นทางไปสู่ร่างเทพโบราณเด็กถูกผนึกอย่างสมบูรณ์!
หวังหลินนิ่งเงียบพลางซ่อนตัวเองและเฝ้าดูการต่อสู้อย่างระมัดระวัง
ขณะที่มังกรทองคำราม มันหมุนวนรอบตัวซวนเป่า ยันต์สีเหลืองทั้งห้าใบหมุนเป็นวงกลมรอบเศียรมังกร ฉิงชุ่ยยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีไม่แยแส ดวงตากระพริบสีแดงและยิงลำแสงเปลี่ยนกลายเป็นประกายสายฟ้าสีแดงวาบพุ่งเข้าใส่เจ้ามังกรทอง!
ขณะที่มังกรทองร้องคำราม เกล็ดบนร่างมันกระพริบวูบวาบ กลิ่นอายโบราณโผล่ออกมาจากเสียงคำราม “โลหะทำลาย!”
เจ้ามังกรทองร้องคำราม เกล็ดหลายร้อยชิ้นหลุดออกมาจากร่างกายและรวมตัวกัน พริบตาเดียวปรากฏกระบี่เกล็ดมังกรขึ้น!
กระบี่เล่มนี้ปลดปล่อยคลื่นแรงกดดันทรงพลังและกลิ่นอายมังกรตัวจริง มันพุ่งออกเข้าหาฉิงชุ่ย
ฉิงชุ่ยยังคงแววตาเย็นเฉียบ สายฟ้าสีแดงเข้มหนาเท่าแขนพุ่งเข้าใส่กระบี่เกล็ดทอง เพียงพริบตาเดียวทั้งสายฟ้าและกระบี่ก็เข้าปะทะกัน
แรงระเบิดสั่นสะเทือนฟ้าดินไปทั่วร่างอสรพิษและเกิดพายุกวาดผ่านอุโมงค์ทางแคบ วินาทีนี้อุโมงค์ถูกบังคับให้กว้างขึ้น ช่องว่างเปิดบนผนังเนื้อและมีโลหิตสีเขียวหยดออกมา!
มังกรทองร้องคำรามโหยหวน ถูกบังคับให้ต้องถอยจากแรงกระแทก แต่มันก็ขดตัวรอบซวนเป่าเหมือนอสรพิษและปกป้องผู้เป็นนาย
ซึ่งทำให้ร่างของมันเริ่มแตกออกเนื่องจากแรงกระแทก โลหิตสีทองสาดกระจาย
ฉิงชุ่ยถอยกลับไปเช่นกัน ชั่วจังหวะนั้นเสียงคำรามอู้อี้ดังออกมาจากภายในร่างอสรพิษ เสียงคำรามดังออกมาจากข้างในตัวมันเอง!
อุโมงค์เริ่มสั่นไหวรุนแรงและเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ขึ้นเหนืออุโมงค์ โลหิตสีเขียวจำนวนมากไหลออกมาพร้อมกับกลิ่นอายชั่วร้ายมหาศาล เสียงคำรามหนาแน่นยิ่งขึ้นและดูเหมือนกับต้องการพุ่งออกมาจากรอยร้าว
แววตาฉิงชุ่ยส่องสว่างขึ้นมา เขาหยุดถอยและพุ่งไปข้างหน้า เส้นผมยาวพริ้วไหวในสายลม ฝ่ามือสร้างผนึกและร้องตะโกน “ดินแดนสังหาร!”
วินาทีที่เอ่ยคำนั้น เส้นผมกระจายด้วยตัวเอง ลำแสงสีแดงปรากฏใต้ฝ่าเท้าและเริ่มแพร่กระจาย ดินแดนสังหารคือวิชาที่ฉิงชุ่ยสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
ลำแสงสีแดงใต้ฝ่าเท้าแพรวพราวยิ่งและเมื่อมันส่องไปบนมังกรทอง แทบทำให้เจ้ามังกรมีสีสันที่แตกต่าง
ขณะฉิงชุ่ยเข้าไปใกล้ เศษดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาจากแสงสีแดง พวกมันมีมากมายมหาศาลซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเข่นฆ่าของฉิงชุ่ย
เจ้ามังกรทองร้องคำรามใส่ฉิงชุ่ย ยันต์เซียนห้าใบเหนือศีรษะหมุนวนอย่างรวดเร็วและร้องคำรามออกมา
‘โลหะทำลาย พฤกษาลงโทษ วารีบรรณาการ อัคคีพิษ กลบปฐพี ห้าธาตุผกผัน!’
ยันต์ห้าใบรอบเศียรของมันหยุดหมุน ตกลงประทับใส่เศียรของมันดุจเส้นด้ายทีละชิ้น
กลิ่นอายทรงพลังยิ่งยวดระเบิดออกมาจากมังกรทอง จากนั้นมันมองเข้าหาฉิงชุ่ย อ้าปากพ่นลำแสงห้าสายทันที ลำแสงทั้งห้าสายนี้เปลี่ยนกลายเป็นโลหะเหลว ไม้แห่งการลงโทษ สายน้ำบรรณาการ พิษอัคคีซ่อนและปฐพีฝังเทพ!
เมื่อห้าธาตุผกผันจึงดูเหมือนพื้นที่แยกตัวออกมาและมีโลกเป็นของตัวเอง! กระทั่งเย่มู่จื่อและหวู่ต้าวซานที่กำลังต่อสู้กันไกลๆยังต้องถอยและมองเข้ามา
ฉิงชุ่ยกระพริบแววตาเย็นเฉียบ ดินแดนสังหารใต้ฝ่าเท้าเคลื่อนไหว ยกแขนขวาขึ้นมากดลงไป “คุกปฐพี!”
หกวิชาของจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านคือพื้นฐานของฉิงชุ่ย แต่เขาเป็นคนมีพรสวรรค์สูงส่งและสร้างวิชาเทพของตัวเองขึ้นมา พื้นฐานทั้งหมดอยู่บนดินแดนสังหารของเขา เปิดขึ้นมาอีกจักรวาลและเปลี่ยนพื้นดินให้กลายเป็นแหล่งจองจำ!
ทุกหนแห่งที่มันผ่านไปจะกลายเป็นสถานที่จองจำอยู่ในใจ!
ไม่ว่าจะมีวิชาน่าอัศจรรย์เพียงใด ก็ไม่สามารถหนีพ้นคุกปฐพีนี้ไปได้ วินาทีที่ฉิงชุ่ยชี้ออกไป พลังอำนาจแห่งกฏอันทรงพลังปรากฏขึ้นมา มันคือกฏแห่งการจองจำ!
วินาทีนั้นฉิงชุ่ยอยู่ใจกลาง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกพลังผนึกล่องหนเข้าปกคลุม กระทั่งห้าธาตุผกผันยังถูกติดกับ
ฉิงชุ่ยเคลื่อนร่างดุจสายฟ้า เข้ามาใกล้มังกรทอง ฝ่ามือยื่นออกไปคว้าวิญญาณของซวนเป่าที่ถูกห่อหุ้มไว้ในมังกรทอง
เพียงสั่นฝ่ามือ หนวดนับไม่ถ้วนรอบซวนเป่าก็แตกสลาย โลหิตสีเขียวจำนวนมากสาดกระจายไปทั่วทุกที่
ซวนเป่าหลับตามานานพลันลืมตาขึ้นมาและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหนีรอดฝ่ามือดุจกรงเล็บเหล็กของฉิงชุ่ยไปด้วย
ฉิงชุ่ยกำลังจะจากไปแต่ทว่ากลิ่นอายชั่วร้ายพุ่งออกมาจากรอยร้าวเบื้องบน มันก่อตัวเป็นแขนสีแดงโลหิตและเข้ากระแทกใส่ร่างฉิงชุ่ยตรงๆ
ด้านบนกลิ่นอายชั่วร้ายหนาแน่น มันแฝงกลิ่นอายอสรพิษพิฆาตจันทร์เอาไว้ด้วย
แขนข้างนี้รวดเร็วเกินไปและบรรจุพลังอำนาจทำลายวิชาทุกอย่าง พริบตาเดียวที่เข้าปะทะใส่ร่างฉิงชุ่ยจึงทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน แม้ฉิงชุ่ยจะมีระดับบ่มเพาะอันแข็งแกร่งก็ไม่สามารถทนต้านได้และกระเด็นกลับไป กระอักโลหิตคำโตออกมา
ขณะเดียวกันแขนข้างนั้นคว้าวิญญาณของซวนเป่าและดึงมันกลับ มันกำลังจะกลับเข้าไปในรอยร้าว
เสี้ยวนาทีนี้ฉิงชุ่ยยังคงมีสายตาไม่แยแสพลันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ซวนเป่าคือเบาะแสเดียวของเขาในการจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแดนสวรรค์ ทว่าตอนนี้กลับมาถูกใครบางคนฉกฉวยออกไป นี่ทำให้ฉิงชุ่ยบ้าคลั่ง
ต้องกล่าวว่าแม้กระทั่งป๋ายฟ่านก็ไม่กล้าทำให้ฉิงชุ่ยโกรธ เขารับฉิงชุ่ยเป็นศิษย์แทนและทำให้ฉิงชุ่ยเป็นหนี้เขา แม้กระทั่งผู้คนลึกลับที่ปรมาจารย์จงเฉินเคารพอย่างมากยังไม่ต้องการไปก่อเรื่องกับฉิงชุ่ย
แต่บัดนี้ความโกรธของฉิงชุ่ยระเบิดขึ้นเมื่อซวนเป่าถูกช่วงชิง!