996. มาถึงแล้ว
เหล่าเซียนจำนวนมากรวมกันนอกทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออก รอคอยการเปิดประตู
เมื่อหลิงเทียนโฮวได้ยินคำพูดชายชุดม่วง แววตาก็กระพริบปิติยินดี
อย่างไรนักเขาก็ไม่ได้ถามเพิ่มเติม เขายึดตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดและมองไปยังวังวนเบื้องล่าง
เมื่อไม่มีคนอื่นมาถึง หลิงเทียนโฮวขมวดคิ้ว ถอนสายตามองออกไปไกล
ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น แม้กระทั่งชายชราบนน้ำเต้าก็ขมวดคิ้วเช่นเดียวกัน เขามองออกไปในความว่างเปล่าราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
มีเพียงเทียนหยุนเท่านั้นที่มีท่าทีเป็นปกติพลางรออย่างเงียบๆ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เทียนที่กำลังรออยู่รอบด้านเริ่มค่อยๆพูดคุยกัน บางคนรู้เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเป็นอย่างดีแต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ ทั้งหมดต่างสงสัยว่าพวกเซียนทรงพลังนี้กำลังรออะไร
ขณะที่เสียงพูดคุยดังมากขึ้น เทียนหยุนพลันเงยศีรษะมองออกไปไกล เผยท่าทีวางอุบาย
‘เขาอยู่ที่นี่…’
ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจเทียนหยุนก็สังเกตบางอย่างได้ ชายชุดม่วงมองออกไปไกลเช่นเดียวกัน เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหวังหลินมาจากหลิงเทียนโฮวแล้ว จึงชื่นชมหวังหลินอยู่ในใจ
‘คนที่สามารถทำให้เทียนหยุนรอนานเป็นคนสุดท้ายได้ต้องไม่อ่อนแอแน่นอน!’
หลังจากชายชุดม่วงก็เป็นหลิงเทียนโฮว ชายชราบนน้ำเต้า หญิงวัยกลางคนสุดสวยและชายชุดดำที่ไม่กล้าเข้าใกล้ ทั้งสี่คนมองออกไปไกลแทบในเวลาเดียวกัน
หลังจากนั้นก็เป็นเซียนเฒ่าที่เหลือและเซียนคนอื่นๆ
เสียงหวีดหวิวประหลาดดังออกมาไกล ค่อยๆจับความสนใจของทุกคน วินาทีต่อมาเหล่าเซียนทั้งหมดก็อ้าปากค้างเมื่อได้เห็นฉากที่น่าตกตะลึงเบื้องหน้า
ยักษ์สูงมากกว่าพันฟุตพุ่งเข้ามาทางนี้!
“เผ่ามารยักษ์เป็นพาหนะ!” มีคนในฝูงชนจดจำยักษ์ตนนี้ได้ทันที!
“นี่มันไม่ใช่เผ่ามารยักษ์ธรรมดา ดูร่องรอยระหว่างคิ้วสิ เขาเป็นเผ่ามารยักษ์สายเลือดราชวงศ์!” มีเซียนหลายคนด้านนอกทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออกพลันแจ้งให้ทราบและจดจำตัวตนของเล่ยจีได้ทันที!
“ต้องเป็นเซียนทรงพลังยิ่งถึงเป็นเจ้าของพาหนะเผ่ามารยักษ์ได้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกัน!”
“เผ่ามารยักษ์สูงร้อยฟุตนี้สามารถใช้ความสามารถสายเลือดได้แน่นอน พาหนะเองก็ทรงพลังยิ่ง เซียนที่สามารถนั่งบนหลังมันได้ไม่ใช่คนธรรมดา!”
“ไม่จำเป็นน่า บางทีคนที่มีมิตรภาพที่ดีกับเผ่ามารยักษ์…ระดับบ่มเพาะจริงๆก็ไม่ต้องทรงพลังมากก็ได้”
การปรากฏตัวของพาหนะเผ่ามารยักษ์ได้เกิดคลื่นลูกใหญ่ท่ามกลางเหล่าเซียนโดยรอบและเริ่มพูดคุยกัน
เมื่อพาหนะเผ่ามารยักษ์เข้ามาใกล้ หลายคนพอจะเห็นว่าใครกำลังขี่มันอยู่ เพียงแค่ชำเลืองมองก็ทำให้ทั้งหมดอ้าปากค้าง
ตอนแรกพวกเขาเห็นสี่คนอยู่บนหลังพาหนะเผ่ามารยักษ์! ทั้งหมดคือคนที่มีชื่อเสียงบนดาวเทียนหยุน
“สามพี่น้องเฉิน!”
“สามพี่น้องเฉินต่างก็เป็นขั้นส่องสวรรค์ทั้งหมดและพวกเขาก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน บ่อยครั้งโจมตีพร้อมกับจนกระทั่งเซียนขั้นส่องสวรรค์ขั้นปลายยังต้องปวดหัวเมื่อต่อกรกับพวกเขา”
“ทำไมสามคนนั่นถึงอยู่บนพาหนะเผ่ามารยักษ์? หรือพาหนะนี่จะเป็นของสามคนนั้น?”
“มีเซียนหัวโตอยู่ถัดจากพวกเขาด้วย เขาไม่ค่อยคุ้นตาแต่ก็เป็นขั้นส่องสวรรค์เช่นเดียวกัน!”
“สี่เซียนขั้นส่องสวรรค์! ต้องกล่าวว่าหนึ่งในนั้นก็พอจะสร้างคลื่นลูกยักษ์กับเซียนส่วนใหญ่ที่นี่ได้แล้ว พวกเขามาด้วยกันต้องมีความลับบางอย่างซ่อนเอาไว้!”
เมื่อเหล่าเซียนเห็นคนบนหลังพาหนะเผ่ามารยักษ์ชัดเจนขึ้น การพูดคุยก็หยุดลงและทั้งหมดตื่นตะลึง!
แม้กระทั่งหลิงเทียนโฮวและพรรคพวกก็ตกตะลึง สายตาแต่ละคนส่องประกายเจิดจ้า
ขณะที่เล่ยจีเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ได้เห็นผู้อาวุโสชุดแดงด้านหลังสามพี่น้องเฉินและหัวโต ร่างกายใหญ่โตราวกับภูเขาเนื้อดูน่าตกตะลึง ระดับบ่มเพาะขั้นชำระสวรรค์ชั้นต้นแพร่กระจายออกมาสั่นสะเทือนความคิดทุกคนที่มีระดับบ่มเพาะต่ำต้อย
“จ้าวสายลมหวน!”
จ้าวสายลมหวนมีชื่อเสียงมากรอบๆดาวเทียนหยุน พอเขาปรากฏตัวจึงมีหลายคนจดจำได้
‘ไม่คาดคิดว่าจ้าวสายลมหวนจะกลายเป็นผู้ช่วยของหวังหลิน!’ ชายวัยกลางคนบนน้ำเต้าดวงตาส่องสว่างขึ้นเล็กน้อย หากเพียงแค่สามพี่น้องเฉินและเซียนหัวโตคงไม่เป็นภัยคุกคามพวกเขาได้ แต่กับจ้าวสายลมหวนนั้นต่างกัน!
ด้านข้างจ้าวสายลมหวนคือสตรีคนสวย สายตาเต็มไปด้วยประกายแห่งปัญญา กลิ่นอายดุดันราวกับกรรไกรคู่ที่สามารถตัดสัมผัสวิญญาณที่ยื่นออกมาทั้งหมดได้!
“ชำระสวรรค์ชั้นต้นอีกคน!” เซียนรอบด้านกู่ร้องออกมาอีกครั้ง
ทว่าด้านหลังสตรีชุดเงินออกไปไม่ไกล ร่างดือด้านของซ์อถูหนานและท่าทางเยาะเย้ยดูถูกดูแคลนได้ทำให้เซียนรอบด้านตกตะลึงอีกครั้ง!
“เซียนขั้นชำระสวรรค์คนที่สาม!”
“ข้ารู้จักเขา เขาพึ่งมีชื่อเสียงบนดาวเทียนหยุน ซือถูหนาน จ้าวตำหนักชมพู!”
สตรีคนสวยขมวดคิ้วและเผยสีหน้ารังเกียจ แม้นางจะไม่ได้อาศัยอยู่บนดาวเทียนหยุนนางก็ได้ยินเรื่องราวอื้อฉาวอยู่บ้าง นางไม่เข้าใจว่าทำไมเซียนขั้นชำระสวรรค์อันทรงพลังถึงทำเรื่องแบบนั้น
เทียนหยุนสงบนิ่งมองออกไปจนบอกไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
สามเซียนขั้นชำระสวรรค์ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ กว้างใหญ่ยิ่งกว่าสี่เซียนขั้นส่องสวรรค์!
“สี่เซียนขั้นส่องสวรรค์และสามเซียนขั้นชำระสวรรค์ ใครกันถึงมีความสัมพันธ์ได้เจ็ดคนนี้มาช่วยเหลือ?”
เล่ยจีชะลอลงเล็กน้อยก่อนก่อนที่ร่างหวังหลินจะปรากฏเบื้องหน้าสายตาทุกคน!
เขาสวมชุดคลุมสีขาวหิมะ เส้นผมพริ้วไหวไปตามสายลม สายตาไม่แยแส ดวงตาแฝงดวงตะวันและจันทราพลางยืนสงบนิ่ง สายตาเหล่าเซียนทุกคนรวมมาที่เขา
วินาทีที่หวังหลินปรากฏตัว เซเบลดวงดาวบนไหล่ชายชุดม่วงพลันเงยศีรษะขึ้นทันที ในแววตาแห่งปัญญามีแสงประหลาด ร่างสั่นเทาและกำลังจะเคลื่อนไหว หวังหลินมองออกไปด้วยรอยยิ้มพลางคำนับฝ่ามือให้ชายชุดม่วง
ชายชุดม่วงยิ้มออกมาและพยักหน้าก่อนจะวางความคิดไปบนเซเบลดวงดาวบนไหล่ เขาเลี้ยงดูมันตั้งแต่ยังเล็กและชอบมันจริงๆ ปฏิกิริยาอันประหลาดของมันตอนนี้ทำให้เขาสนใจ
อย่างไรก็ตามขณะนั้นเจ้าเซเบิลดวงดาวดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติ ไม่แสดงอาการอันใดอีก ทำให้ชายชุดม่วงรู้สึกงุนงง
หวังหลินไม่เปลี่ยนสีหน้าท่าทางอันใดภายใต้สายตาของทุกคน เขาคำนับฝ่ามือให้แก่เทียนหยุนและคนอื่นๆก่อนจะเอ่ยเสียง “คำนับเทียนหยุน เซียนกระบี่และเหล่าผู้อาวุโส การได้รับสารเชิญเกิดความล่าช้า ข้าจึงสายไปเล็กน้อย”
หลิงเทียนโฮวจ้องหวังหลินและในสายตามีร่องรอยความหวาดกลัว เขาไม่มีวันลืมเลือนลำแสงนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลบหนีรวดเร้วและสังเกตได้ว่ามีลำแสงอื่นดูดซับพลังดั้งเดิมไปเพียงพอ เขาคงไม่ได้ยืนที่นี่วันนี้
มุมมองที่เขามีต่อหวังหลินเปลี่ยนไปและไม่อยากไปล้ำเส้นหวังหลิน เขายิ้มและส่ายศีรษะ “สหายเซียนหวังสุภาพไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกข้า ‘ผู้อาวุโส’ หรอก แค่เรียก ‘หลิงเทียนโฮ’ ก็พอ”
หลังเอ่ยขึ้นมา ท่ามกลางเหล่าเซียนเกิดความโกลาหล มองไปหาหวังหลินด้วยสายตาไม่เชื่อ
หลิงเทียนโฮวเป็นเซียนที่แข็งแกร่งมีชื่อเสียงเป็นอันดับสองรองเทียนหยุน มีน้อยคนที่คู่ควรจะถูกเขาเรียกว่า “สหายเซียน”
เพียงแค่คำว่า “สหายเซียน” จากหลิงเทียนโฮวก็ทำให้ความคิดจิตใจเซียนรอบด้านตกตะลึงได้แล้ว!
เทียนหยุนมองหวังหลิน ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบสีหน้าเขาไม่เปลี่ยนไปเลยราวกับเรื่องราวหลายเดือนก่อนนั้นไม่ได้เกิดขึ้น เขาพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไร”
หวังหลินหรี่สายตาพลางคำนับฝ่ามือและคารวะชายชราบนน้ำเต้าและหญิงวัยกลางคนสุดสวย จากนั้นยิ้มให้กับชายชุดดำไกลๆ คำนับเป็นการทักทาย
ชายชุดดำคำนับฝ่ามือให้หวังหลินเช่นเดียวกันแต่สีหน้ายังคงเยือกเย็น
“เมื่อทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็จะเปิดทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออก!” เทียนหยุนโบกแขนเสื้อ ลำแสงเจ็ดสีรวมกันสร้างเป็นเหรียญขนาดเท่าฝ่ามือแต่เรืองแสงเจ็ดสี วิสัยทัศน์ทุกคนพร่ามัวด้วยแสงสว่างนี้ เหรียญพลันพุ่งเข้าหาวังวน
ครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออกแบบธรรมดา ดังนั้นปกติสายธารทรงพลังดึงสมบัติจากทุกแห่งหนกลับกลายเป็นเหรียญตกลงสู่วังวน ปรากฏวังวนกลับด้าน!
วังวนกลับด้านนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็วและเปิดหลุมดำขึ้นมา กลิ่นอายดินแดนวิญญาณปิศาจที่หวังหลินคุ้นเคยผุดออกมาจากภายใน
“เมื่อเปิดสี่ถ้ำเทพได้ ถึงจะเปิดถ้ำที่ห้าได้ใช่ไหม? ข้าจะเข้าไปเป็นคนแรกแล้วจะรอฟังข่าวดีจากทุกคน!” เทียนหยุนปกคลุมตัวเองอยู่ในลำแสงเจ็ดสีพลางเข้าไปในหลุมดำพร้อมกับยืนอยู่บนตรีศูล
หวังหลินหวาดสายตาผ่านไปบนตรีศูล เขาสังเกตตรีศูลนี้ได้ มันมีกลิ่นอายอันคุ้นเคยออกมาซึ่งทำให้เขามั่นใจว่ามันคือสมบัติที่ตู่ซือหลอมขึ้น!