ตอนที่ 1053 เขตเพลิงของดวงดาวช่างฝีมือ
หลัวเฟิงในชุดดำ ใช้เทคนิคเปลี่ยนร่าง พลังงานสีดำได้ห่อล้อมรอบและร่างก็เปลี่ยนเป็นหิน แล้วจากนั้นเขาก็ตกลงไปด้านล่าง
ก้อนหินได้ตกลงไปกระแทกส่วนลึกของภูเขา หินที่ตกลงสู่พื้นได้กระแทกเข้ากับกำแพงหินร้อนก่อนที่จะหยุด
หินได้เปลี่ยนเป็นกลับเป็นหลัวเฟิงชุดดำ
“สวยจริงๆ” เขาหลุดเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้
นี่คือสภาพหินด้านในของภูเขา หลัวเฟิงเห็นสิ่งแปลกๆ สีดำ ที่อยู่เหนือหัวเขา 6 กิโลเมตร มันถูกแขวนไว้กลางอากาศ รูปร่างของมันเหมือนน้ำเต้าสูง 10 เมตร ปากของมันหันขึ้นไปด้านบน ขณะที่ปล่อยเปลวเพลิงอันไม่สิ้นสุด เพลิงถูกแผ่ออกไปด้านนอกจนเกือบเต็มไปทั้งภูเขา ศิษย์ของเจ้าแห่งช่างฝีมือได้หลอมอาวุธขึ้นมาด้วยเปลวไฟเหล่านี้
น้ำเต้าสีดำได้ลอยอยู่กลางอากาศจากโซ่ที่มองไม่เห็น มันได้เชื่อมต่อกันกับพื้นที่ แม้ว่ามันจะมองไม่เห็นแต่ก็ยังมีเปลวไฟอยู่บนโซ่เหล่านั้น
โซ่เหล่านี้ออกมาจากปากน้ำเต้ากระจายไปยังรอบๆ
“โซ่ทั้งหมด 36 เส้น” หลัวเฟิงกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว
“น้ำเต้าสีดำ เหมือนจะรวมเข้ากับอวกาศอันไร้ขีดจำกัด มันดูดซับและกักเก็บพลังงานไฟอย่างต่อเนื่อง นี่อาจเป็นวิธีรักษาความสามารถในการผลิตไฟชั่วนิรันดร์”
หลัวเฟิงเป็นเจ้าของหอคอยดวงดาวที่คอยดูดซับพลังงานจักรวาล และสร้างเป็นวังวนอยู่ต่อเนื่อง เมื่อหลัวเฟิงมองที่น้ำเต้าสีดำ เขาก็ตัดสินได้ว่ามันเป็นอย่างเดียวกัน
“เปลวไฟที่อยู่ใกล้ปากน้ำเต้าต้องใช้พลังในระดับผู้ยิ่งใหญ่ป้องกันมัน”
“เปลวไฟที่ไม่สิ้นสุดนี้ได้แผ่กระจายออกไปเกือบ 100 กิโลเมตร ไฟนี้แข็งแกร่งพอที่จะทำลายดวงดาว พลังงานเหล่านี้จะต้องมีแหล่งที่มาของมัน”
หลัวเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังงานเปลวไฟที่เกิดขึ้นถูกส่งมาโดยโซ่ทั้ง 36 เส้นที่มองไม่เห็น
หลัวเฟิงสงสัยว่าเจ้าแห่งช่างฝีมือใช้วิธีใดรักษากระบวนการด้านพลังงาน เขาคงไม่โง่ที่จะใช้พลังงานของตัวเอง มันจะต้องมีแหล่งที่มาเช่นเดียวกับหอคอยดวงดาว
ดวงตาของหลัวเฟิงส่องประกายเหมือนกับรับรู้อะไรบางอย่าง หลัวเฟิงคิดว่ามีเพียงดวงดาวช่างฝีมือเท่านั้นที่ทำได้ มันจะต้องเป็นสมบัติที่แท้จริงที่เจ้าแห่งช่างฝีมือสร้าง ด้วยขนาดของมันทำให้การดูดซับพลังงานราวกับไร้ขีดจำกัด
น้ำเต้านี้จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของดวงดาวช่างฝีมือ
หลังจากทำการสังเกตเล็กน้อยหลัวเฟิงก็ได้สรุปว่าเป็นไปตามที่เขาคิด
“เพียงแค่ปรับปรุงดวงดาวช่างฝีมือขนาดใหญ่” หลัวเฟิงมองไปที่น้ำเต้าสีดำ
“แต่ว่าแผ่นโลหะสีดำอยู่ในน้ำเต้า จะทำยังไงดี?”
“เอาน้ำเต้าออกไป?” ความคิดนี้ที่เข้ามาในใจถือเป็นความคิดที่น่าหัวเราะ
น้ำเต้านี้เป็นส่วนหนึ่งของดวงดาว ที่สำคัญที่สุด เจ้าแห่งช่างฝีมือจะต้องรู้แน่ๆ ถ้าเขาเอามันไป
หลัวเฟิงที่ไม่ใช่เจ้าของของมัน การที่จะเอาน้ำเต้าไปเขาจะต้องเอาไปทั้งดวงดาว มันเป็นเหมือนกับการที่จะเคลื่อนย้ายแม่น้ำพันสมบัติ เช่นเดียวกับหอคอยดวงดาวที่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดไม่อาจนำออกไปได้
“จะต้องไม่ขยับน้ำเต้า ถ้าไปตามเส้นทางของไฟตรงปากขวดเปิดมันน่าจะไม่มีอะไรมาขวางทาง” หลัวเฟิงกล่าว
แม้ว่าหลัวเฟิงจะมีความคิดแบบนี้ เขาก็ยังไม่หายสงสัยว่าข้างในนั้นว่างเปล่า มันอาจจะเต็มไปด้วยเปลวไฟที่น่ากลัวยิ่งขึ้น
“แผ่นโลหะสีดำอยู่ในน้ำเต้า มีเพียงแค่ต้องเข้าไปเท่านั้น” หลัวเฟิงกล่าว
ร่างกายอมตะของหลัวเฟิงได้แยกออกเป็นสองคน หนึ่งเป็นร่างกายเผ่าโมชาน ส่วนอีกหนึ่งเป็นร่างมนุษย์โลก
“ลองให้ร่างเผ่าโมชานก่อน”
ร่างเผ่าโมชานได้เทคนิคพรสวรรค์แล้วไปโผล่ยังปากขวดน้ำเต้าทันที
เมื่อเริ่มต้นก้าวเข้าหาเปลวไฟ ร่างของเผ่าโมชานก็ไม่มีแม้ช่วงเวลาที่จะมองไปรอบๆ เพียงแค่เริ่มต้นก็ถูกทำลายลงทันที แม้แต่เส้นผมทุกเส้นก็ติดไฟ
ร่างเผ่าโมชานที่ได้หายไปในทันทีจากเปลวไฟ ไม่มีแม้เวลาในช่วงเสี้ยววินาทีจะตอบโต้ในตอนที่ถูกทำลาย
หลัวเฟิงในร่างมนุษย์โลกกำลังยืนศึกษาโซ่ทั้ง 36 เส้น ร่างของเขาปล่อยพลังงานอมตะฟื้นฟูร่างเผ่าโมชานกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ขนาดของร่างเผ่าโมชานเท่ากับมนุษย์โลกแต่มีความแตกต่างด้านคุณภาพ
“เวลานี้ควรจะลองใช้ร่างมนุษย์โลก ร่างนี้เทียบได้กับร่างของอัศวินระดับกลาง”
หลัวเฟิงโยนแหวนโลกออกไปให้กับร่างเผ่าโมชาน แล้วเขาก็เข้าไปยังแหวนโลกโดยที่ร่างเผ่าโมชานเป็นผู้ถือ
ร่างเผ่าโมชานที่พกแหวนโลกได้ใช้เทคนิคพรสวรรค์อีกครั้ง
เขาได้เดินไปยังปากน้ำเต้าสีดำ
ภายในแหวนโลก
หลัวเฟิงที่อยู่ภายในแหวนโลกได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มีรอยแตกเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน
ไฟที่น่ากลัวทำให้หลัวเฟิงรู้ว่าแหวนโลกของเขากำลังเริ่มละลายจนทำให้ด้านในแหวนโลกพังทลาย
ไม่นานหลัวเฟิงก็พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ
“นี่คือภายในน้ำเต้า?” หลัวเฟิงกล่าว
ทันทีที่หลัวเฟิงปรากฎตัวท่ามกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยไฟ ความรู้สึกแรกที่เขาได้รับรู้คือความร้อนที่ลวกเขา
“แผ่นโลหะสีดำ!”
หลัวเฟิงรู้สึกราวกับทุกเซลล์ในร่างกายของเขากำลังเดือดแทบบ้า เขามองต่ำลงไปด้านล่างที่มีวัสดุมีค่าจำนวนมากอยู่ด้านล่าง บางอันเป็นของที่หาได้ยาก แล้วทุกอันสามารถทนอุณหภูมิในนี้โดยไม่มีปัญหา
ในกองวัสดุเหล่านั้นมี…โลหะสีดำ!
———-
ที่ตีนภูเขาช่างฝีมือ
ทุกอย่างสงบลงเหมือนเช่นเดียวกับวันอื่นๆ ท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างมากมายที่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลมารวมกัน
ร่างมหาสมุทรของหลัวเฟิงกำลังยืนอยู่ที่ประตูของสิ่งก่อสร้าง
“ร่างเผ่าโมชานถูกทำลายโดยไม่มีเวลาแม้จะตอบสนอง ร่างมนุษย์โลกยังพอมีเวลาเล็กน้อยก่อนที่สติสัมปชัญญะจะหายไป” หลัวเฟิงคิด ร่างมหาสมุทรถอนหายใจ “มันไม่น่าแปลกที่ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถต้นทานเปลวไฟนี้ ไฟที่อยู่ในน้ำเต้าน่ากลัวกว่าภายนอกมาก”
หลัวเฟิงกลับเข้าไปในที่พักก่อนที่จะนั่งไขว้ขาแล้วคิดเงียบๆ
พื้นที่แห่งไฟในน้ำเต้า เต็มไปด้วยวัสดุมีค่า มันอาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เจ้าแห่งช่างฝีมือเป็นเจ้าของ
หลัวเฟิงเข้าใจว่าวัสดุแต่ละอย่างมีความแตกต่างกัน ไม่มีวัสดุชนิดใดต้องอยู่ในพื้นที่เต็มไปด้วยความร้อน มันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ วัสดุบางชนิดจะผูกเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องตัววัสดุนั้น
หลัวเฟิงคิดจะเลียนแบบพลังของหนึ่งในสามศิษย์ที่เขาเห็น ร่างมหาสมุทรที่มีพลังงานอมตะขนาดใหญ่ได้แบ่งมันลงไปยังร่างเผ่าโมชาน หลังจากเตรียมพร้อม ร่างมหาสมุทรก็นำร่างเผ่าโมชานไปที่ภูเขาช่างฝีมือ เขาทำการลอบเข้าไปยังด้านในอีกครั้ง
———-
ร่างเผ่าโมชานที่แอบเข้าไปในภูเขา ครั้งที่สองเขาทำได้ง่ายกว่าครั้งแรก เขามาถึงบริเวณน้ำเต้าสีดำ ที่อยู่กลางอากาศ
“พลังงานนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อคว้าโลหะสีดำ และบินกลับ”
ร่างเผ่าโมชานได้กลับเข้าไปยังน้ำเต้าอีกครั้ง เมื่อเข้าไปถึงด้านในร่างเผ่าโมชานก็ถูกทำลายในทันที แหวนโลกที่เขานำไปได้ถูกทำลาย
ร่างมหาสมุทรที่ได้ออกมาจากแหวนโลก ได้ทำการเร่งความเร็วในการลงไปยังด้านล่างภายในหนึ่งการเคลื่อนไหว
เปลวไฟสีแดงได้เผาร่างอมตะ มหาสมุทรอย่างบ้าคลั่ง ด้วยระยะทางไปถึงได้เพียงครึ่งเดียว จากวัสดุที่อยู่ด้านล่างก็ถูกทำลายร่างทั้งหมดลง
———-
3 พันปีแสงจากดาวช่างฝีมือในดินแดนลับหยินฟา มียานอวกาศบินอยู่ ในห้องควบคุมมีอสูรเขาทองความยาว 3 เมตรกำลังนอนอยู่บนโซฟา ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความขับข้องใจและพ่นลมหายใจออกมา
“รู้อยู่แล้วว่ามันจะไม่ง่าย ไฟนั้นทรงพลังมากเกินไป ดวงดาวช่างฝีมือสามารถทำลายร่างอมตะของข้าได้ง่ายๆ”
“ร่างมหาสมุทรที่มีขนาดใหญ่ยังถูกทำลายในช่วงเวลาไม่นาน พลังในการเผาไหม้นั้นน่ากลัวมาก มันมีพลังยิ่งกว่าการโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่ แน่ใจว่ามันจะเกินขีดจำกัดเกราะสมบัติที่แท้จริงขั้นกลาง”
อสูรเขาทองส่ายหัว “แม้ว่าจะเสียพลังไปหนึ่งในสิบก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านไฟเหล่านั้น ไฟที่มาจากน้ำเต้านั้นแตกต่างจากไฟที่อยู่ภายนอก”
อสูรเขาทองนอนเยียดยาวได้ปล่อยเสียงคำรามเป็นระยะ
“รู้อยู่แล้วว่าต้องไม่ง่าย…”
“จะต้องใช้เกราะพลังด้วยไหม? ถ้าผิดพลาดจะต้องเสียมันไป”
หลัวเฟิงที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ถือแก้วไวน์ขึ้น กับอสูรเขาทองที่นอนเยียดยาวอยู่บนโซฟา ทั้งสองกำลังจมอยู่กับความคิด