ตอนที่ 177 : การมาถึง…

“แฟนหนุ่ม?” สวีซิน มองไปที่พี่ชายของเธอ สวีกัง ดวงตาของเธอเปิดกว้าง พี่ชายของเธอไม่ทราบ…ว่าเธอและหลัวเฟิงยังไม่ได้ยืนยัน

ความสัมพันธ์ของพวกเขา

“แฟนหนุ่ม?” หลัวเฟิงรู้สึกแปลกๆ ในขณะที่เขายังคงนิ่ง

อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของสวีกังดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าพี่เขยคนนี้จะให้ความสำคัญกับตำแหน่งและอำนาจมากเกินไป แต่เขาก็ไม่สามารถ

ตำหนิเขาได้ เพราะจริงๆ แล้ว สวีกังก็ทำเพื่อน้องสาวของเขา! และ

ตอนนี้เขากระตือรือร้นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ของพวกเขา…

มันไม่ใช่เรื่องยากที่น้องเขยจะสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้

“หลัวเฟิง” สวีกังกล่าวต่อ “ผมค่อนข้างไม่สุภาพในระหว่างการพบกันครั้งแรก ผมหวังว่าสามีน้องสาวของผมจะมองข้ามสิ่งนั้นได้…”

ภายในพริบตา ภาพลักษณ์ของหลัวเฟิงได้รับการเปลี่ยนแปลงจากแฟนหนุ่มของสวีซินไปเป็น ‘สามี’

“พี่!!!!” สวีซินรีบตะโกนด้วยความตกใจ

“อา” สวีกังพูดด้วยน้ำเสียงเบาลงว่า “น้องสาวผมเป็นคนขี้อาย หลัวเฟิง ไว้เราค่อยพบกันใหม่ ตอนนี้ผมจะต้องกลับไปพร้อมกับคุณลุงและคนอื่นๆ ดังนั้นเราจะไม่รบกวนคุณทั้งสอง” ขณะที่เขากล่าวจบ เขาดึงแขนของซันโจว ขณะที่เขาลากเขาออกไป “ซันโจว พวกเรารีบไปกันเถอะอย่าไปยุ่งกับโลกของพวกเขาเลย”

ซันโจวรู้สึกประหลาดใจและอึดอัดขณะที่ถูกลากออกไป

…..

ซันโจว สวีกัง และครอบครัวของพวกเขา ออกจากสนามบินโดยรถของตระกูลจำนวน สามคัน

ในรถลีมูซีนที่หรูหราสง่างาม

ซันโจวและสวีกังนั่งอยู่แถวหลัง สวีกังไม่ได้มีความกระตือรือร้นเท่าที่เคยขณะที่เขามองไปที่ซันโจวเงียบๆ ” ซันโจว คุณอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับน้องสาวผมและหลัวเฟิงอีก…”

“เราเติบโตขึ้นมาด้วยกัน ดังนั้นผมในฐานะพี่ชาย ผมจะเตือนคุณ ผู้

อาวุโสในตระกูลสวีของเรา ตัดสินใจสนับสนุนความสัมพันธ์ของ

น้องสาวผมและหลัวเฟิงอย่างเต็มที่ อย่าเข้ามาขัดขวางเรื่องนี้ แม้ว่าคุณพ่อของคุณจะปกป้องคุณ แต่มันก็ใช่เรื่องที่ดี” สวีกังพูดต่อเบา ๆ “ความสัมพันธ์ของน้องสาวผมและหลัวเฟิง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของตระกูลเรา”

ซันโจวยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นไม่นาน ซันโจวก็ถาม “สวีกัง หลัวเฟิงคนนี้ใช่…หลัวเฟิง จากสำนักขีดสุด หรือไม่?”

“โอ้ คุณก็รู้จักเขา” สวีกังหัวเราะ

“สองวันก่อน พ่อที่อยู่ต่างประเทศโทรหาผมและกล่าวถึงหลัวเฟิงคนนี้ เขากล่าวว่า หลัวเฟิง คนนี้มีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ขณะอยู่ในพระราชวังเทพสงคราม” ซันโจว ถอนหายใจลึกๆ ” ที่สนามบินตอนนั้น คำพูดของคุณทำให้ผมรู้สึกแย่ อย่างไรก็ตามผมเพิ่งจะนึกออก ว่าเคยได้ยินชื่อหลัวเฟิงมาก่อน และผมจำหลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว”

สวีกังหัวเราะขณะที่เขามองไปที่ซันโจว “ยังคงต้องการที่จะแย่งชิง

น้องสาวของผม?”

“แย่งชิงเพื่อ?”

ซันโจวนึกถึงที่สวีกังกล่าว “น้องสาวของคุณไม่เคยสนใจผม และไม่เคยเคารพผมแม้แต่น้อย… ผมแค่คิดว่า ผมยังไม่ได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกับเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่มากับพวกคุณในครั้งนี้ แต่ใครจะรู้ว่าแฟนของสวีซินคือหลัวเฟิง ผมไม่สามารถแย่งชิงได้ และถ้าผมพยายามจะแย่งชิงจริงๆ พ่อของผมอาจจะทุบตีผมจนขาหักได้!”

พ่อของซันโจวคือนักสู้ระดับเทพสงคราม! เขาคือหนึ่งในแขกของ

ตระกูลสวี เนื่องจากตำแหน่งพ่อของเขา ซันโจวจึงมีสิทธิ์ที่จะดูแลธุรกิจภายในตระกูลสวีในอเมริกา ซันโจวเข้าใจเป็นอย่างดี…หลัวเฟิงคนนี้แข็งแกร่งมาก ดังนั้นเขาจะกล้าไปแย่งชิงกับเขาได้อย่างไร? หากเขาคิดจะทำเช่นนั้น เขาคงกำลังรนหาที่ตาย?

“และคุณ สวีซินมีแฟนคือหลัวเฟิง และคุณก็ไม่คิดจะเตือนผมล่วงหน้า” ซันโจว กล่าวด้วยความไม่พอใจ

“เฮ่ คุณโทษผม? กำหนดการของผมแน่นมาก และผมต้องช่วยดูแล

ธุรกิจของตระกูลเราในอเมริกา ตั้งแต่ต้นจนจบผมพบคุณเพียงสามครั้งในอเมริกา ผมควรรู้ว่าคุณกลับมาที่ประเทศ เพื่อตามจีบน้องสาวของผม คุณไม่ได้บอกว่า… ว่าคิดถึงบ้านและอยากไปเยี่ยมพ่อแม่ของคุณหรอกหรือ” สวีกังจ้องมอง

ซันโจวไม่พูดอะไร

นี่เป็นข้อแก้ตัว … ฉันรู้ว่าหากฉันไม่บอกว่าจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ ฉันจะไม่ได้กลับมา สำหรับสวีซิน แม้เขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อเขานึกถึงตำนานของหลัวเฟิง นั่นทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว…ว่าคนที่แต่งตัวประหลาดนั้นเป็นเทพสงคราม ‘ระดับอยู่ยงคงกระพัน’ ที่สามารถฆ่าฉันได้ง่ายเหมือนเขากำลังดื่มน้ำ

………..

ประมาณ 20.00 น. ในยามค่ำคืน แสงสลัวจากไฟถนนกระจายอยู่ทั่วทางเท้า

หลัวเฟิงและสวีซินเดินเคียงข้างกัน พวกเขากินข้าวเย็นด้วยกัน และตอนนี้หลัวเฟิงกำลังเดินไปส่งเธอที่บ้าน!

“คนร่ำรวยนี้ดีนะ ที่ดินในเมืองใหญ่เป็นสถานที่ล้ำค่า และยังเป็น

สถานที่ที่คนร่ำรวยอาศัยอยู่ มันทั้งเงียบและสงบ ไม่มีใครอยู่ที่นี่” หลัวเฟิงยิ้ม “ถ้าอยู่ในเขตของพื้นที่อื่นแล้วถนนนี้จะเต็มไปด้วยรถยนต์และผู้คนจำนวนมาก ในเขตของคนรวยแทบจะไม่มีใครเลย”

สวีซินเหลือบมองที่หลัวเฟิง และกล่าวว่า “คุณกำลังพูดถึงคนร่ำรวย? คุณไม่มีเงินเหรอ? แม้จะใช้เงินทั้งหมดของตระกูลฉัน มันยังไม่พอที่จะซื้อเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของคุณเลย!”

แม้ว่าตระกูลสวีจะเป็นหนึ่งในสิบสองตระกูลระดับประเทศและรวยมาก แต่เงินส่วนใหญ่ของพวกเขาได้ลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ทุน เงินที่พวกเขาสามารถใช้จริงไม่เพียงพอที่จะซื้อเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของหลัวเฟิง

“คุณรู้เรื่องเครื่องบินเจ็ทได้อย่างไร?” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ

เมื่อพวกเขากินอาหาร หลัวเฟิงรู้ว่าสวีกังและคนอื่นๆ พยายามหาข้อมูลของเขาในขณะที่อยู่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม…กระดาษไม่สามารถห่อไฟได้ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านประมูลในพระราชวังเทพสงคราม หลัวเฟิงก็ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น สวีซินรู้เรื่องนี้ผ่านฟอรัมการสนทนาภายในของพันธมิตร HR

“หลัวเฟิง ผู้ตรวจสอบที่ยอดเยี่ยม เครื่องบินเจ็ตของคุณจอดในเขตหมิงเย่า แต่นักบินไม่เคยเข้าหรือออกมาเลย เป็นไปได้มั้ยว่า คุณเป็นนักบินเอง?” สวีซินหัวเราะคิกคัก

หลัวเฟิงก็พูดไม่ออก

นักบิน? นักบินทุกคนของเครื่องบินรบ ทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรม

อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นนักบินของเครื่องบินขับไล่ได้ โดยไม่ต้องฝึกอบรม

หลัวเฟิงไม่ได้เป็นนักบิน คนของพันธมิตร HR สามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นพวกเขาสรุปว่า หลัวเฟิงต้องนั่งอยู่ในเครื่องบิน ‘เจ็ตอัตโนมัติ’ แน่นอน! นักสู้ส่วนใหญ่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ผู้ที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้นของพันธมิตร HR เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับสูงของ สำนักขีดสุด เช่น ผู้ตรวจสอบหรือผู้ตรวจการณ์ พวกเขายังต้องจ่ายเงิน 1.8 แสนล้านเหรียญ หลังจากได้รับส่วนลดในการซื้อเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติระดับจักรพรรดิ’

ประเทศอื่นๆ และพันธมิตร HR ต้องการซื้อหรือไม่?

แน่นอน!

ตราบเท่าที่คุณสามารถจ่ายเงินได้ คุณสามารถซื้อได้ในราคา 2 แสนล้าน? ในความฝันของคุณ!

“คุณสนใจจะนั่งเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของผมไหม?” หลัวเฟิงรีบถาม

สวีซินต้องการ แต่เธอมองดูนาฬิกาของเธอ “มันดึกไปแล้ว กว่าเราจะ

นั่งรถไปถึงที่นั้น อาจจะเป็นห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน มันจะดึกเกินไป”

“มันไม่นานขนาดนั้นหรอก ” หลัวเฟิงยิ้ม ขณะที่เขาสั่ง “เบอร์ 1 มาที่นี่”

“คุณกำลังทำอะไร?” สวีซินโกรธมาก

หลัวเฟิงยิ้มอย่างลึกลับ ขณะที่เขาเงยศีรษะขึ้นมองท้องฟ้า

สวีซินยังคงสับสนและยกศีรษะขึ้นมองท้องฟ้าด้วย

มีดวงไฟกะพริบอยู่บนท้องฟ้า ด้านล่างมันเป็นสีน้ำเงินเข้ม เครื่องบิน

เจ็ทรูปทรงสามเหลี่ยม มันค่อยๆ ลงระดับลงมา สวีซินมองเห็น

เครื่องบินเจ็ทรูปทรงสามเหลี่ยมในอากาศ เธออ้าปาก “มันเร็วมาก…”

“ความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์เจ็ทเร็วกว่าเครื่องบินทั่วไป 10 เท่า

ตราบเท่าที่ผมอยู่บนโลกใบนี้ ผมสามารถออกคำสั่งได้ทุกที่” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่เขาดึงมือของสวีซิน “ลองขึ้นไปเถอะ!”

ทันในนั้นชิ้นส่วนของมีดที่กระจายเป็นชุดเกราะพุ่งออกจากบริเวณลำคอของหลัวเฟิง ชิ้นส่วนทั้ง 365 ชิ้นประกอบตัวเป็นกระสวยทะยานฟ้าในทันที หลัวเฟิงก้าวขึ้นไปบนกระสวยทะยานฟ้า ก่อนที่จะใช้มือข้างหนึ่งจับมือสวีซิน และอีกมือหนึ่งโอบเอวเธอไว้

หวือ!

กระสวยทะยานฟ้าลอยขึ้นและประตูอัตโนมัติของเครื่องบินเจ็ทเปิด

ออก

“นี่ นี่…” สวีซินมองลงไปด้วยความตกใจ

เธอบิน?

หลังจากนั้น สวีซินค่อยรู้ตัวว่า หลัวเฟิงกอดเธอไว้!

“สวีซิน” หลัวเฟิงกอดเอวสวีซินไว้ขณะที่ร่างของเขาสัมผัสกับเธอ เขารู้สึกถึงอุณหภูมิที่เกิดจากร่างกายอ่อนนุ่มของสวีซิน เขาก้มศีรษะลงและมองไปที่สวีซิน หัวใจของเขาสั่นไหว จากนั้นเขาก้มศีรษะลง…และจูบ

ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ สวีซินยังไม่ทันได้รู้สึกตัว และขาดความมั่นใจ…. จูบแรกของเธอถูกขโมยไปเช่นนั้น

หลังจากที่พวกเขาจูบหลัวเฟิงก้มศีรษะลงและมองไปที่สวีซิน ซึ่งหน้าเป็นสีแดง ขณะที่เขาพูดเบาๆ ว่า “ต่อจากนี้ไปคุณ สวีซินจะเป็นแฟนของหลัวเฟิง”

“คุณมีพลังเหลือเกิน” สวีซินจ้องมอง “และถ้าฉันไม่ตกลง?”

“งั้น ผมจะปล่อยให้คุณตก” หลัวเฟิงมีรอยยิ้มที่สนุกสนานในขณะที่เขาเจตนาคลายมือของเขาเล็กน้อย

ร่างกายของสวีซินสั่นเล็กน้อยและเธอตกใจ เมื่อเห็นต้นไม้และถนน

ด้านล่าง เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอรีบกล่าวว่า “ระวัง มันสูงนะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณยังกล้าที่จะไม่ตกลง?” หลัวเฟิงหัวเราะ

“อื่ม” สวีซินหัวเราะคิกคัก “คุณต้องซ้อมพูดประโยคนี้กี่ครั้งกัน ฉัน

คิดว่าคุณจะไม่กล้าพูดเสียแล้ว” แท้จริงแล้ว…หลัวเฟิงและสวีซินมัก

พูดคุยกันด้วยระบบวิดีโอแชทบ่อยครั้ง และการแชทของพวกเขาใช้

เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอย่างชัดเจน แต่วิธีที่พวกเขาแสดงออกก็เหมือนกับคู่รักได้ทำกัน

พวกเขาเพิ่งสารภาพรัก

“เป็นเพราะในอดีตผมไม่ได้มีพลังเพียงพอ ผมไม่ต้องการให้คุณลำบาก” หลัวเฟิงตอบเบาๆ

ดวงตาของสวีซินกลายเป็นสีแดง เธอฝังศีรษะของเธอไปที่หน้าอกของหลัวเฟิง

เป็นแบบนั้น…..

เครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติลอยอยู่กลางอากาศ ข้างๆ เครื่องบินเจ็ทคือ หลัวเฟิงกำลังกอดสวีซิน ขณะที่พวกเขายืนอยู่บนกระสวยทะยานฟ้าเป็นเวลานาน…

คืนนี้เป็นคืนที่พิเศษ

………….

นอกโลก

ดวงดาวมากมาย จักรวาลที่กว้างใหญ่ ค่อนข้างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าสิ่ง

มหัศจรรย์ของจักรวาลถือกำเนิดได้อย่างไร

หวือ!

วัตถุสีทองพุ่งเข้าสู่พื้นโลกอย่างรวดเร็วจากห้วงอวกาศรอบนอก ด้วย

ความเร็วที่ใกล้เคียงกับความเร็วของแสง! ลำธารแห่งแสงสีทองนี้ทะลุ

ผ่านชั้นบรรยากาศและตกลงสู่พื้นโลก

บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์จากเกาะที่

เรียกว่า ‘หมู่เกาะฮาวาย’ ก่อนช่วงยุคมหานิพพาน

หวือ!

ลำธารสีทองพุ่งตรงสู่ทะเล สิ่งแปลกประหลาดคือ แม้ว่ามันจะพุ่งมา

ด้วยความเร็ว ที่ใกล้เคียงกับความเร็วของแสง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พื้นผิว

ของมหาสมุทรเปลี่ยนไปเลย คลื่นยังคงเหมือนกับที่เคยเป็น มหาสมุทร

ไม่เพียงแต่ไม่เปลี่ยนแปลง และยังไม่มีดาวเทียมหรืออุปกรณ์ใดที่

สามารถตรวจจับแสงสีทองได้!

ลึกลงไปในทะเล!

ความลึกประมาณ 3,000 เมตร แสงสีทองจางหายไป ทิ้งไว้เพียงไข่สีดำซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 เมตร มีเครื่องหมายสีทองแปลกประหลาดบนพื้นผิวของไข่สีดำ โปรดทราบว่า ” ไข่มังกร” ของโลกมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น

ณ ตอนนี้…

เงียบสงบ!

ดาวเทียมทุกแห่งจากทุกประเทศ และแม้แต่อุปกรณ์พิเศษจากซาก

ปรักหักพังทางโบราณคดีก็ยังทำงานตามปกติ ไม่มีใครสามารถตรวจ

พบการมาถึงของมันได้!