Skip to content

Swallowed Star 29

ตอนที่ 29 เมืองสัตว์ประหลาด

ภายในกองทัพดูครึกครื้นทีเดียว ในขณะเดียวกันก็มีการ จัดเตรียมอาหารชั้นยอดสำหรับมื้อกลางวันเอาไว้ให้เหล่าเตรียม นักสู้ที่มาเข้าร่วมการทดสอบการต่อสู้จริงในครั้งนี้ด้วย

ในช่วงบ่าย

นักสู้ทั้ง 1,680 คนก็มายืน ณ ลานกว้าง ที่แผนกต้อนรับของลานนั้น มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพส่วนเหนือแห่งนครเจียงหนาน สำนักสายฟ้ากับสำนักขีดสุดนั่งดูอยู่

“เตรียมนักสู้ที่ถูกเรียกชื่อ ให้ออกมาและรับเอาเครื่องแบบกับ อาวุธไป”

“เหยียนจัว”

“เฮ่อเฟิง”

“หวังปิงเจียง”

…………

มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 10 คนนั่งอยู่ที่โต๊ะคอยตะโกนเรียกชื่อ คนต่อคน เตรียมนักสู้ผู้ที่ถูกเรียกชื่อก็ออกไปรับเอาเครื่องแบบกับอาวุธ

“หลัวเฟิง”

พอเสียงเรียกดังขึ้น หลัวเฟิงก็พุ่งออกไปทันที

“นี่คือชุดต่อสู้ นี่รองเท้าต่อสู้ และดาบปีศาจอีก 2 แบบที่นายต้องใช้ อันที่หนักที่สุด เราเตรียมไว้ที่ 98 กิโลกรัม เราไม่มีอันที่หนักกว่านี้แล้ว” เจ้าหน้าที่ส่งของชุดนั้นมาให้หลัวเฟิง “นี่คือนาฬิกาสื่อสาร นายสามารถส่งข้อความและสัญญาณจีพีเอสได้ ส่วนนี่คือโล่หกเหลี่ยม”

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพูด เขาก็รู้สึกสงสัยขณะที่สบตาหลัวเฟิง….อันที่จริงเตรียมนักสู้มักจะบ่นเรื่องดาบปีศาจขนาดใหญ่แบบนี้ มันค่อนข้างแปลก…

หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยและพุ่งห่างออกไปทั้งที่ยังแบกสัมภาระที่ หนักเกือบ 200 กิโลกรัม

……….

ภายในลานกว้างนั้น นักสู้ทั้ง 1,680 คนต่างก็ได้รับอาวุธตาม ข้อกำหนด ซึ่งส่วนมากก็จะเหมาะมือกับพวกเขาพอดี แต่ละคน ต่างก็ได้อาวุธเย็น! นี่เป็นข้อกำหนดสำหรับการเข้าทดสอบการต่อสู้จริง อาวุธร้อนถูกกำหนดห้ามใช้ หลังจากที่พวกเขาได้รับสิ่งของมา ทุกคนก็กลับไปที่พักและทำการเปลี่ยนชุดและอุปกรณ์ต่อสู้

………..

เกิดเสียงหัวเราะขึ้นทั่วทั้งลานกว้างนั้น

ในตอนนี้ หลัวเฟิงก็สวมรองเท้าบูทเหล็กสำหรับต่อสู้ กางเกง มาตรฐานกองทัพ และเสื้อกั๊กสำหรับต่อสู้ซึ่งมีเหล็กโครห์นฝังอยู่ด้านใน เขายังมีโล่หกเหลี่ยมและดาบปีศาจติดอยู่ทางด้านหลังอีก และขณะเดียวกันเขาก็คุยกับนักสู้ที่อยู่ข้างๆ อย่างสนุกสนานไปด้วย

“ถ้าลองคำนวณดูทุกอย่างที่ฉันใส่อยู่เนี่ย ฉันว่ามันน่าจะมี ราคาอย่างน้อย 7 พัน ถึง 1 หมื่นเลยนะ” วัยรุ่นหัวเกรียนชี้ไปที่ชุด ของตัวเองอย่างตื่นเต้น “กางเกงและเสื้อกั๊กนี้ไม่ใช่ที่ดีสุดที่นักสู้ใช้หรอก เขาแค่เบิกมาให้เราใช้สำหรับการเข้าทดสอบการต่อสู้จริงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม มันก็สามารถป้องกันกรงเล็บของสัตว์ประหลาดในระดับ H ที่อ่อนแอที่สุดได้ ซึ่งก็ดีกว่าเสื้อเกราะกันกระสุนห่วยๆ ที่เขาใช้กันอยู่ในตัวเมือง กระสุนทั่วไปไม่สามารถเจาะทะลุเสื้อกั๊กนี้ได้ และสัตว์ประหลาดระดับ H ก็ไม่สามารถฉีกเสื้อกั๊กนี้ได้เหมือนกัน”

“ฉีกไม่ได้เหรอ!”

สาวห้าวที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะมา “ถึงแม้สัตว์ประหลาดจะฉีก เจ้าชุดนี้ไม่ได้ แต่แรงกระแทกก็หักกระดูกและทำลายอวัยวะภายใน ของนายได้อยู่ดี”

“พี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะน้องสาว” วัยรุ่นหัวเกรียน พูดเย้ยและจ้องลาวห้าวคนนั้นเขม็ง

“ไม่งั้นแม่สาวน้อย ลองไปทดสอบความแข็งแกร่งของพี่หน่อย ไหมล่ะ?”

“พอได้แล้ว” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว

“ได้..พี่หลัว นี่ผมเห็นแก่พี่หลัวนะเนี่ย” วัยรุ่นหัวเกรียนหัวเราะ

ข่าวที่หลัวเฟิงกำลังถูกจับตามองจากสำนักขีดสุดแพร่สะพัด ออกไปจากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อยภายในกลุ่มของเตรียมนักสู้ จากเตรียมนักสู้ทั้งหมด 1,680 คน มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ได้รับ คัดเลือกจากทั้งสำนักขีดสุดและสำนักสายฟ้า! เหล่าเตรียมนักสู้ ต่างก็รู้ว่าทั้ง 3 คนนั้นต้องมีความพิเศษแน่ๆ

“หลัวเฟิงๆ” เสียงตะโกนดังมาจากที่ไกล นั่นคืออาจารย์ใหญ่ แห่งที่ทำการสมาคมขีดสุด อูทง

“อาอู”

หลัวเฟิงวิ่งตรงเข้าไปหาเขาหลังจากที่บอกหยางอู่และเพื่อนที่ อยู่ข้างๆ กัน ในเดือนที่ผ่านมา หลัวเฟิงอาศัยอยู่ในเขตหมิงเยว่ ดังนั้นเขาจึงสนิทกับอาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ ที่อาศัยอยู่ในเขตเดียวกัน ไปโดยปริยาย เขาเรียกอย่างคุ้นเคยว่า ‘อาอู’

“หลัวเฟิงมากับฉัน” หลังจากที่กล่าว เขาก็นำเดินออกไปทันที

หลัวเฟิงรู้สึกงงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร… พวกเขามาถึงชั้นที่ 2 ของอพาร์ทเมนต์อันเงียบสงบอย่างรวดเร็ว ภายในห้องนั่งเล่นบนชั้นที่ 2 มีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่บนนี้ด้วย หลัวเฟิงมองดูไปรอบๆ…

ในบรรดาคนเหล่านี้ มีอยู่หนึ่งคนที่เขารู้จัก หนึ่งในบิ๊กโฟร์ของสำนักงานใหญ่สำนักขีดสุดแห่งนครเจียงหนาน…จูเก่อเทา!

“หัวหน้า” หลัวเฟิงทักทายเสียงดัง

“อืม หลัวเฟิง ไปนั่งกับอูทงตรงนั้นนะ” จูเก่อเทาผู้สวมชุดต่อสู้ สีดำพร้อมกับเหรียญเงินเปล่งประกายวาววับกล่าวขึ้นขณะที่หัวเราะเบาๆ

“จูเก่อ นี่เหรอหลัวเฟิงที่ท่านกำลังพูดถึง? ดูๆ แล้ว เมื่อเทียบกับทางสำนักสายฟ้าของเรา เขาก็คงจะไม่เท่าไหร่หรอก” ชายร่างอ้วนในชุดต่อสู้สีม่วงเข้มซึ่งนั่งตรงข้ามกับจูเก่อเทาเอ่ย ขณะที่พูดนํ้าเสียงดูเหมือนจะก้องอยู่ในหน้าอกของเขา “สำนักสายฟ้าของ พวกเราคัดเลือกมาแล้ว 2 คนก่อนหน้านี้ คนหนึ่งระดับสมรรถภาพ ร่างกายเท่ากับหลัวเฟิง และอีกคนยิงปืนได้ฉมังนัก”

ชายร่างอ้วนมองไปที่เด็กหนุ่ม 2 คนข้างๆ เขาที่ลุกขึ้นยืนขาน รับในทันที

“ผมชื่อว่านตง” เด็กหนุ่มท่าทางเคร่งขรึมที่มีไฝสีม่วงบน ใบหน้าแนะนำตัว

“ผมชื่อหม่าเสี่ยว” เด็กหนุ่มอีกคนยิ้มให้บางๆ เขาดูน่ารักมาก! ใช่ เราสามารถใช้คำว่า ‘น่ารัก’ กับหนุ่มคนนี้ได้เลย เพราะถ้าเขาเป็นผู้หญิง ผู้ชายก็คงจะชิงกันวุ่นวายทีเดียว

หลัวเฟิงยิ้มและพยักหน้าให้ “หลัวเฟิงครับ ทุกคนคงทราบกันแล้ว”

“หลัวเฟิง” เด็กหนุ่มท่าทางเคร่งขรึมกล่าว “นายมีอะไรมาแข่งล่ะ? คืนนี้ในการทดสอบการต่อสู้จริง มาดูซิว่าใครจะได้ที่หนึ่ง!” วัยรุ่นท่าทางเคร่งขรึมนั่นตาเป็นประกาย ราวกับว่าเขามองเห็น อาหารอันโอชะมารออยู่ตรงหน้าแล้ว

“ฉันไม่สนใจน่ะ” หลัวเฟิงส่ายหัว

วัยรุ่นท่าทางเคร่งขรึมนั่นถึงกับตกใจ แต่แล้วก็หัวเราะเยาะ ออกมาแล้วไม่กล่าวคำใดอีก

จูเก่อเทาและชายร่างอ้วนจากสำนักสายฟ้านั้นก็หัวเราะออกมา “จูเก่อ เจ้าหนูของเจ้าดูน่าสนใจทีเดียว เขานิ่งมาก อย่าปล่อยให้หัวรัอนก็แล้วกันนะยามที่ถูกยั่ว! ฉันค่อนข้างจะชอบเด็กหนุ่มแบบนี้ หลัวเฟิง ไม่คิดจะเข้าร่วมกับสำนักสายฟ้าบ้างหรือ…”

“ไปๆๆ” จูเก่อเทาจ้องเขม็ง

“ล้อเล่นแค่นั้นเอง อย่าถือสานักเลย” ชายร่างอ้วนหัวเราะ

จูเก่อเทาจ้องเขม็ง “เราเองก็ต้องไปเดี๋ยวนี้ การทดสอบการต่อสู้จริง กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”

……….

หลัวเฟิงกับเหล่าเตรียมนักสู้อีก 1,680 คน เดินไปเป็นเวลา อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงภายใต้การนำของทหาร แล้วพวกเขาก็มาถึง เขตชั้นนอกของเมือง เป็นเวลาพลบค่ำพอดี และดวงอาทิตย์ก็ลับ ขอบฟ้าไปแล้ว

“กรี๊ซ….”

เวียงโหยหวนต่างๆ ที่ชวนเขย่าขวัญลอยมาจากในตัวเมือง ตัวเมืองถูกล้อมรอบด้วยลวดหนามและทหารติดอาวุธอีกจำนวน มากก็คอยลาดตระเวนไม่ขาดสาย

“เร็วเข้า ยังมีสัตว์ประหลาดในนี้ไม่มากพอ เอาหมูป่าขนเหล็ก มาเพิ่มอีก 1,200 ตัว แมวเงาพิฆาตอีก 300 ตัว และหมาพยัคฆ์อีก 500 ตัว” ขณะที่คำสั่งกระจายออกไป หลัวเฟิงกับคนอื่นรออยู่ไม่ นานก็เห็นขบวนรถบรรทุกวิ่งเข้ามา รถบรรทุกแต่ละคันล้วนมีเสียง ขู่คำรามอย่างดุร้ายดังลั่นออกมา

หลัวเฟิงและเหล่านักสู้เคลื่อนตัวเข้าไปดูใกล้ๆ….

ในรถบรรทุกแต่ละคันล้วนบรรทุกกรงมา และแต่ละกรงก็ขัง สัตว์ประหลาดเอาไว้ เสียงคำรามอย่างดุร้ายสร้างความสั่นสะท้าน ให้กับเหล่านักสู้ดาวรุ่งผู้ยังอ่อนประสบการณ์

“หลัวเฟิง”

อาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ หัวเราะอยู่ข้างๆ หลัวเฟิง “ถึงแม้ว่าเธอจะมีทั้งทักษะและความแข็งแกร่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะฆ่าสัตว์ ประหลาดได้! เมื่อคนเห็นเลือดและเผชิญหน้ากับความตาย พวกเขาก็ไม่สามารถแม้แต่จะนำเศษเสี้ยวของความแข็งแกร่งออกมาให้ได้ เพราะงั้น สำหรับการทดสอบนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อการฝึกพลังใจ เธอจะต้องทุ่มกำลังสู้กับพวกสัตว์ประหลาดโดยไร้ความปรานี”

“เข้าใจแล้วครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า

“อืม…สัตว์ประหลาดพวกนี้เป็นสัตว์ประหลาดระดับ H เป็น ระดับที่ต่ำที่สุด พวกมันเหมาะสมกับนักสู้ในระดับ ‘นักรบขั้นต้น’ อูทงกล่าว “จุดอ่อนของพวกมันคือสติปัญญาต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของพวกมันก็คือพวกมันก้าวร้าวและดุร้ายมาก ดังนั้นในการทดสอบการต่อสู้จริงทุกครั้ง จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้เตรียมนักสู้ตายอยู่เสมอ”

หลัวเฟิงพยักหน้า ไม่มีทางเลยที่จะเข้าปะทะกับพวกสัตว์ ประหลาดพวกนี้อย่างปลอดภัย

………..

หลังจากฝูงสัตว์ประหลาดระดับ H พวกนั้นถูกขนส่งเข้าไปในเมือง จำนวนสัตว์ประหลาดภายในตัวเมืองก็เพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ

“นักสู้ทุกคน”

เสียงปลุกดังขึ้นกระทบโสตประสาทของเตรียมนักสู้ทุกคน หลัวเฟิงและเตรียมนักสู้ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองดู และพวกเขาก็เห็นนายทหารคนหนึ่งกำลังยืนอยู่บนซากอพาร์ทเมนต์ขนาด 3 ชั้นซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ขณะเดียวกันเขาก็พูดขึ้น “การทดสอบการ ต่อสู้จริงครั้งนี้จะมีกฎเหมือนกับครั้งล่าสุดที่ผ่านมา! จาก 18.30 น. เย็นนี้ เราจะเริ่มต้นการทดสอบ และการทดสอบจะจบลงที่ 6.00 น. ในพรุ่งนี้เช้า!

ยิ่งสังหารสัตว์ประหลาดได้มากเท่าไหร่ คะแนนก็ยิ่งได้มากเท่านั้น เมื่อสังหารสัตว์ประหลาดได้ ให้ตัดหูซ้ายของมันเอาไว้เป็น เครื่องพิสูจน์ด้วย

จำเอาไว้ เตรียมนักสู้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้กับนักสู้คนอื่น ทุกการเคลื่อนไหวและทุกการกระทำของทุกคนจะถูกจับตามอง จากพวกเรา หากใครแหกกฎจะถูกใช้กระสุนจริงสังหารทันที!

ทั้ง 1,680 คน กลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุด 60% แรกจะได้กลายเป็นนักสู้! และที่เหลืออีก 40% จะไม่ผ่านการทดสอบและ จะต้องมาเข้าทดสอบใหม่ครั้งหน้า” เสียงของนายทหารผู้นั้นกลับกลายเป็นเย็นเยือกลง “หรือจะพูดง่ายๆ จากทั้งหมด 1,680 คน 1,008 คน จะผ่านการทดสอบ และอีก 672 จะไม่ผ่านการทดสอบนี้!”

เหล่าเตรียมนักสู้ที่ได้ยินจำนวนก็อดพูดคุยกันไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่า 40% จะไม่ผ่านการทดสอบ!

“จำเอาไว้ง่ายๆ โดยปกติถ้าใครสังหารสัตว์ประหลาดได้ 3 ตัว คนนั้นก็ถือว่าผ่าน ถ้าใครฆ่าได้แค่ 2 ตัว ก็ตัองดัดดวงกันอีกที” เสียงนายทหารคนนั้นก้องอยู่ในหูของทุกคน “ถ้าคะแนนเท่ากัน เราจะนับเวลาในการฆ่าสัตว์’ประหลาดและอาการบาดเจ็บเป็นตัว จัดลำดับที่ ดังนั้น เมื่อฆ่าสัตว์ประหลาดได้ตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้แล้ว ให้รีบออกมาจากตัวเมืองทันที

จำเอาไว้ ถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ให้กดปุ่มฉุกเฉินที่นาฬิกาสื่อสาร จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยทันที….แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้จะหมายถึงสิ้นสุดการทดสอบด้วย” นายทหารผู้นั้นกระโดดลงไป

“วูบ!”

จากยอดตึกนั้นลงสู่พื้นอย่างน้อยก็ราว 10 เมตร และกระโดดต่อมาอีก 2 ครั้ง จากนั้นเขาก็ออกมาจากตัวเมือง

“เตรียมนักสู้ทุกคน ออกมา แล้วลุยเข้าไปในเมืองสัตว์ประหลาด” นายทหารผู้นั้นโบกมือเป็นสัญญาณ

เตรียมนักสู้ทั้ง 1,680 คนพุ่งกันออกมาเหมือนคลื่นทะเลคลั่ง และก็ทยอยกันเข้าไปในเมืองสัตว์ประหลาดนั้น

“ปิดประตู!” นายทหารสั่งการ

“เอี๊ยดด..” ประตูใหญ่เพียงหนึ่งเดียวถูกปิดเอาไว้

การทดสอบการต่อสู้จริง เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version