Skip to content

Swallowed Star 10

ตอนที่ 10 การทดสอบเตรียมนักสู้

“พ่อครับแม่ครับ ผมจะไปที่สำนักซักหน่อย บางทีผมอาจจะไม่ กลับมากินข้าวเที่ยงวันนี้” หลัวเฟิงลุกขึ้นหลังจากที่ซดข้าวต้มไป ถ้วยใหญ่กับเนื้ออีกสามชิ้น “วันนี้แค่รอข่าวดีของผมก็พอ หลังจากสอบผ่าน ผมจะโทรมาบอกทันทีนะครับ”

กงซินหลานหัวเราะและชำเลืองไปทางหลัวหงกั๋ว “หงกั๋วคุณได้ ยินมั้ย? พกมือถือเอาไว้ตลอดนะคุณ ไม่งั้นหลัวเฟิงจะติดต่อคุณไม่ได้นะ”

“ได้สิพ่อจะพกไว้ตลอดเลย” หลัวหงกั๋วหัวเราะ “โอเค งั้นผมไปก่อนนะครับ”

หลัวเฟิงขยิบตาให้หลัวฮว๋า ผู้ซึ่งหัวเราะและยกนิ้วตอบกลับมาให้

………….

แต่เช้าตรู่ หลัวเฟิงออกจากชายฝั่งเล็กๆ ทางตอนใต้ของชุมชน แล้วเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินหมายเลข 11 ‘สถานีจงอัน’ แล้วเปลี่ยนต่อสาย 1 มุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางเมืองหยางโจว หลังจาก ลงสถานีปลายทางเขาก็เดินต่อไปอีกราว 10 นาที ก่อนที่จะมาถึง สำนักงานใหญ่สำนักขีดสุดประจำเมืองหยางโจว…ที่ทำการสมาคมขีดสุด

หลัวเฟิงออกจากบ้านราวๆ 6 โมงเช้า และมาถึงที่นี่ตอนเกือบจะ 8 โมงเช้าพอดี

“นี่คือเขตหมิงเยว่ที่พูดถึงกันสินะ?” หลัวเฟิงยืนอยู่หน้าประตู บานใหญ่ของเขตอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง เขตนี้ชื่อว่า ‘เขตหมิงเยว่’ และที่ทำการสมาคมขีดสุดก็ตั้งอยู่ในนี้นี่เอง

“คุณครับ ที่นี่คือเขตหมิงเยว่ ห้ามเข้าใกล้”

เพียงแค่ทางเข้าเล็กๆ ของเขตนี้ กลับมีทหารในเครื่องแบบถึง หกนายพร้อมอาวุธครบมือยืนเรียงแถวกันอยู่ สามารถรู้ได้จาก เครื่องแบบของพวกเขา….ว่าพวกเขาไม่ใช่ตำรวจ แต่พวกเขาคือ ทหารแน่ๆ ทหารหนึ่งในนั้นพูดเสียงห้าวดัง “กรุณาถอยกลับไป หากคุณก้าวเข้ามาในเส้นสีเหลือง พวกเรามีสิทธิ์หยุดคุณด้วย กระสุนจริงทันที!”

“เหมือนที่รํ่าลือกันเลยแฮะ” หลัวเฟิงคิดในใจ

เขตหมืงเยว่ในหยางโจวก็คือที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สำนักขีด สุดนั่นเอง!

ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของที่ทำการสมาคมขีดสุด แต่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านักสู้อีกด้วย

“ตามที่เขาลือกัน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในนี้ล้วนเป็นพวกนักสู้กับ ครอบครัวของพวกเขาทั้งนั้น! แม้แต่ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่ได้ ตามอำเภอใจด้วยซ้ำ” หลัวเฟิงอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

“ทุกท่าน” หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงทางเข้าเล็กๆ ของเขตและเอ่ยขึ้น “ผมเป็นสมาชิกระดับหัวกะทิของ ‘สำนักขีดสุด’ นามว่า ‘หลัวเฟิง’ ผมมาที่นี่วันนี่ก็เพื่อทำการทดสอบเตรียมนักสู้ครับ” ทางที่ทำการ สมาคมขีดสุดจะทำการทดสอบเตรียมนักสู้ในทุกๆ วันที่ 1 ของทุก เดือนอยู่แล้ว

“โอ้?”

เสียงดังมาจากห้องประจำการของทหารยาม… ชายสูงวัยศีรษะ ล้านเดินออกมาพร้อมกับโน้ตบุ๊กในมือ “เจ้าหนุ่ม นายมาแต่เช้าเลยนะ นี่ยังไม่ถึง 8 โมงด้วยซ้ำ การเข้าทดสอบเตรียมนักสู้ตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ อนาคตของนายจะไร้ขีดจำกัดเลยล่ะ… โอเค ขอบัตรประชาชน และบัตรสมาชิกระดับหัวกะทิหน่อยซิ”

หลัวเฟิงส่งบัตรให้เขา

“ปี๊บ!”

ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอหลังจากการสแกนบัตรประจำตัว

“อายุ 18 ปี?” ชายสูงวัยศีรษะล้านมองดูหลัวเฟิงอย่างตกใจ แล้วก็หัวเราะออกมา “กล้าหาญมากเลยนะที่มาเข้าทดสอบเตรียมนักสู้ตั้งแต่อายุ 18 ปีแบบนี้ ฉันหวังว่าวันนี้นายจะผ่านการทดสอบ ได้แล้วกันนะ”

“ขอบคุณครับ” หลัวเฟิงกล่าวตอบ

“ให้เขาเข้าไป” ซายสูงวัยศีรษะล้านโบกมือ

ประตูอิเล็กโทรนิกส์บานเล็กๆ ของเขตเปิดออกโดยอัตโนมัติ และตอนนั้นเอง ทหารนายหนึ่งพร้อมไรเฟิลจู่โจมในมือก็ก้าว ออกมาพร้อมเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวผมจะนำคุณไปที่ที่ทำการสมาคมขีด สุดเองครับ หลังจากที่คุณเข้าไปในพื้นที่ กรุณาอย่าวุ่นวายนะครับ! คุณมีสิทธิ์เพียงเข้าไปในที่ทำการสมาคมขีดสุดเท่านั้น ห้ามเข้าที่พักอาศัยของนักสู้ หากคุณละเมิดกฎนี้ แม้ผมจะไม่ทำอะไรคุณ แต่ก็จะมีพวกลาดตระเวนจัดการคุณอยู่ดี” ทหารคนนั้นยิ้มเยาะขณะที่บอกเขา

“ครับ ไม่มีปัญหา” หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมพยักหน้าให้ แต่ ก็ประหลาดใจอยู่ลึกๆ เหมือนกัน

แน่นอนว่ามีความร่วมมือระหว่างประเทศกับสำนักขีดสุด เหตุนี้ศูนย์กลางของสำนักขีดสุดจึงมีการคุ้มกันและรักษาความ ปลอดภัยหนาแน่นเช่นนี้

“ว้าว ทุกหลังคือคฤหาสน์เดี่ยวทั้งนั้นเลย” หลัวเฟิงมองไปรอบๆ ..นอกจากศูนน์กลางของพื้นที่ ซึ่งเป็นตึกใหญ่โตสูงเด่นแล้ว ทุกที่ล้วนเป็นคฤหาสน์เดี่ยวทั้งนั้น และระหว่างคฤหาสน์น่แต่ละหลังก็ มีภูเขาจำลอง สระน้ำและสนามหญ้าด้วย

………

ภายในที่ทำการสมาคมขีดสุดของเขตหมิงเยว่ พอหลัวเฟิง ก้าวเข้าไปในลอบบี้ของที่ทำการสมาคมขีดสุด ทหารคนนั้นก็หันหลังกลับในทันที

“คุณคะ คุณมาเพื่อเข้าทดสอบเตรียมนักสู้หรือเปล่าคะ?” ภายในที่ทำการสมาคมนั้น หญิงสาวหน้าตาสะสวยยิ้มทักทายเขา “คุณคะ เชิญนั่งทางนี้ก่อนค่ะ พอ 10 โมงเช้า ก็จะเริ่มทำการสอบพร้อมกับคนอื่นๆ นะคะ”

หลัวเฟิงพยักหน้าและเดินไปที่ด้านข้าง1ของลอบบี้ มีที่นั่งเล็กๆ พร้อมทั้งบริกรและบาร์เทนเดอร์ประจำการอยู่ที่นั่นด้วย

“หือ?” หลัวเฟิงมองดูคร่าวๆ ก็เห็นมีคนสามคนนั่งรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว สองคนกำลังนั่งคุยกันและอีกคนกำลังนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา

“ดูคฤหาสน์พวกนั้นสิ นั่นแหละคือสิ่งที่จะได้จากการเข้าร่วมกับทางสำนักขีดสุดในฐานะนักสู้” ชายหนุ่มในชุดเสื้อสีขาว กางเกงขายาวเอ่ยขึ้น “เมื่อไหร่ที่ได้เป็นนักสู้และเข้าร่วมกับทางสำนักขีดสุด ก็จะได้คฤหาสน์เดี่ยวฟรีและอาศัยอยู่ที่นี้ได้….เอ้ มองดูรอบๆ สิ น่าอยู่มากทีเดียวล่ะ”

“แน่นอนที่สุด พื้นที่ของนักสู้แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ เยอะ ดูสิ มีคนหน้าใหม่กำลังมา” สามคนตรงนั้นหันมามองหลัวเฟิง หลัวเฟิง พยักหน้าให้เล็กน้อยและนั่งลงบนโซฟาข้างๆ นั้น

ไม่มีใครรู้จักกัน จึงไม่มีการโต้ตอบใดๆ เกิดขึ้น

ขณะที่เวลาผ่านไป ก็มีคนเข้ามาเพิ่มอีกสามคน ซึ่งหลัวเฟิงก็ ไม่รู้จักอีกตามเคย อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตดู..ทั้งสามคนดู ค่อนข้างจะแก่กว่าเขา บางทีอาจจะอายุเกิน 30 และหนึ่งในนั้น น่าจะเกิน 40 ด้วยซ้ำ

“ฮ่าๆ หลัวเฟิง” มีเสียงดังแว่วมา

หลัวเฟิงสะดุ้งหันหน้าไปดู แล้วก็เห็นชายร่างกำยำพร้อมกับ รอยแผลเป็นกำลังเดินตรงมายังเขา “นายก็มาเข้าทดสอบเตรียมนักสู้ด้วยเหรอเนี่ย?”

“พี่หยาง?” หลัวเฟิงลุกขึ้นแล้วทักทายตอบ

“น่าขายหน้าไปสักหน่อย เมื่อเดือนที่แล้วฉันก็มาแต่แย่จริง…. ความเร็วของฉันแค่ 24.9 เมตรต่อวินาที ขาดไปแค่ขีดเดียวเท่านั้น!” หยางอู่พูดอย่างเสียมิได้ อันที่จริง หยางอู่ผ่านการทดสอบพลังหมัดและปฏิกิริยาโต้ตอบไปนานแล้ว แต่ก็เหลือแค่ความเร็วของเขาที่ยังเป็นจุดอ่อน

อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นปีนี้ ความเร็วของหยางอู่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น 24.9 เมตรต่อวินาทีกับ 25 เมตรต่อวินาทีที่จริงก็ไม่นับว่าแตกต่างมาก หากไม่มีอะไรติดขัด เขาน่าจะแตะหลัก 25 เมตรต่อวินาทีได้เสียที

“ผมมั่นใจว่าพี่ต้องผ่านได้แน่ๆ พี่หยาง” หลัวเฟิงพูดยิ้มๆ

“คนแซ่หยางคนนี้พยายามมาแล้วหลายครั้ง ยังไม่เคยผ่านเลย ฉันพนันเลยก็ได้ว่าครั้งนี้นายก็จะไม่ผ่านอีก” เสียงดังเข้าหูมาจากด้านข้าง

หลัวเฟิงหันไปดูก็เห็นชายหนวดเคราเฟิ้มที่กำล้งพูดยืนอยู่ หยางอู่จ้องเขม็งทันที “คนแซ่ถง นายกล้าพูดกับฉันอย่างนี้ นาย เองก็สอบตกมาสองครั้งไม่ใช่เหรอเหรอพวก? ดูจากความเร็วตอบโต้ของนาย เกรงว่าต้องฝึกหนักไปอีกสองสามปีแหละ”

“เงียบหน่อย” นํ้าเสียงเยือกเย็นดังมาจากศูนย์กลางของล็อบบี้

ทั้งแปดคนหัวขวับไปมองแล้วก็เห็นชายวัยกลางคนซึ่งมาใน ชุดประจำสำนักฝึก “ไปเถอะ ทุกคนตามฉันขึ้นไปแล้วจะได้เข้าสอบเสียที จำเอาไว้ สำรวมกันด้วยตอนขึ้นไปด้านบน เพื่อนเก่าของพวกเราจากสำนักงานใหญ่ของเมืองหยางโจวมาเยี่ยมเยือนด้วยวันนี้ เพราะงั้น อย่าสร้างปัญหากันเด็ดขาด”

“ครับ” ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนวดเฟิ้มจอมยโส หยางอู่ หรือ หลัวเฟิง ทุกคนต่างได้ยินและก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี

“เพื่อนเก่าจากสำนักงานใหญ่?” หลัวเฟิงอดคิดในใจไม่ได้

ต้องรู้ไว้ว่า เมืองหยางโจวมีสำนักขีดสุดและที่ทำการสมาคมขีดสุด อยู่ 12 แห่ง แต่ละพื้นที่ของสำนักขีดสุด ครูฝึกจะถูกเรียกว่า ‘อาจารย์’ ส่วนครูฝึกของที่ทำการสมาคมขีดสุดจะถูกเรียกว่า ‘อาจารย์ใหญ่’

หลังจากที่เข้ามาในลิฟต์ชายวัยกลางคนในชุดฝึกตัวโคร่งก็กดที่ชั้น ‘6’

“ตี๊ง” ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ 6

“ครืด”

ประตูลิฟต์เปิดออกและสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าคือโรงฝึกขนาด ใหญ่ยักษ์พร้อมกับคนอีกราวๆ หนึ่งโหลอยู่ในนั้น หลัวเฟิงพอจะ รู้จักอยู่หนึ่งคน นั่นก็คืออาจารย์ ‘เจียงเหนียน’

“พวกเขามาแล้ว หยุดสนทนากันได้แล้ว” ชายผมยาววัยกลางคนในชุดฝึกพูดขึ้นและพวกเขาก็พากันหันมาที่กลุ่มของหลัวเฟิง เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น กลุ่มของหลัวเฟิงก็พา กันเกร็งขึ้นมาทันที พวกเขารู้..ว่าคนที่ปรากฏตัวในที่ทำการสมาคมขีดสุด นอกจากเจ้าหน้าที่บริการแล้ว ทุกคนเป็นนักสู้

นั่นก็คือคนเหล่านี้ล้วนก็เป็นนักสู้ทั้งนั้น! เพราะที่นี่ก็คือสำนักงานใหญ่แห่งสำนักขีดสุดในเมืองหยางโจวนั่นเอง

“เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าทดสอบ” ชายผมยาววัยกลางคนในชุดฝึกออกคำลัง

หลัวเฟิงเคยเห็นชายคนนี้ทางอินเตอร์เน็ตมาก่อน เขาคือครู ฝึกประจำที่ทำการสมาคมขีดสุด อาจารย์ใหญ่แห่งเมืองหยางโจว ‘อูทง’

“เข้ามาทีละคนแล้วส่งบัตรประจำตัวมา” นักสู้คนที่นำกลุ่มของ หลัวเฟิงขึ้นมารับบัตรประจำตัวของทุกคนและนำไปส่งให้อาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ พลางหัวเราะ “หัวหน้า วันนี้คนค่อนข้างน้อยนะครับ แปดคนเอง!”

“ใช่” อูทงสุ่มหยิบบัตรประจำตัวขึ้นมาและสแกนกับ เครื่องตรวจข้างหน้าเขา

“ตี๊ด!…”

มีแสงสว่างวาบขึ้งมองดูเกือบจะโปร่งใสปรากฎขึ้นจากตัวเครื่อง พร้อมกับแสดงข้อมูลประจำตัวบุคคลออกมาให้เห็น

“คนแรก ถงกวาน” อาจารย์เรียกอย่างเฉยเมย “เริ่มจากการทดสอบพลังหมัด แม้แต่คนที่มาจากกองทัพก็ยังต้องมาทดสอบที่นี่ รู้ไว้ซะด้วย”

หลัวเฟิงซึ่งยืนฟังอยู่ข้างๆ อดยิ้มออกมาไม่ได้ สำนักขีดสุด ถูกก่อตั้งขึ้นโดยผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนปฐพีนี้ สำนักฝึกมีสาขาอยู่ ทั่วทั้งโลกและการทดสอบของสำนักเหล่านี้ก็มีมาตรฐานสูงมาก ผลการทดสอบนี้จะถูกยอมรับในทุกที่ในทุกประเทศบนโลกนี้

แม้แต่กองทัพหรือนักศิลปะต่อสู้ประจำชาติก็พากันมา ทดสอบแบบนี้ที่สำนักขีดสุด

“ทดสอบพลังหมัด” อาจารย์ใหญ่ออกคำสั่ง

“ครับ”

เจ้าคนหนวดเฟิ้มก้าวไปข้างหน้าทันที ยื่นมือซ้ายออกมา ด้านหน้าพร้อมกับนัยน์ตาที่เบิกกว้าง แล้วเขาก็ปล่อยหมัดขวา ออกมาเป็นเส้นโค้งพุ่งเข้าปะทะกับเครื่องทดสอบจนสะเทือนเล็กน้อย เครื่องทดสอบแสดงตัวเลขขึ้นทันที…. ‘986 กิโลกรัม’

“ผ่าน..คนต่อไป หลัวเฟิง” อาจารย์ใหญ่สุ่มเลือกบัตรใบที่สอง ขึ้นมาสแกนกับเครื่องตรวจ เขาอ่านดูข้อมูลประจำตัวแล้วอด ประหลาดใจไม่ได้ “หือ? อายุ 18 ปี? สหายเจียง นี่มาจากเขตอี๋อัน ของเจ้าเหรอเนี่ย? มีเด็กมีพรสวรรค์ขนาดนี้ด้วยเหรอ?”

“ฮ่าๆ” อาจารย์ ‘เจียงเหนียน’ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หัวเราะร่าออกมา

“เรายังไม่รู้เลยว่าเขาเก่งจริงๆ หรือเปล่า” ในกลุ่มของนักสู้ที่ อยู่ด้านข้างนั้น เสียงเยาะหยันดังมาจากนักสู้ร่างท้วม

“เขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และเขาอาจไม่ แข็งแกร่งเลยด้วยซ้ำ”

อาจารยเจียงเหนียนจ้องเขม็ง “ทำไม อิจฉาเหรอ? เขตทาง เหนือของพวกนายไม่มีอัจฉริยะแบบนี้ล่ะสิ หลัวเฟิง แสดงความ แข็งแกร่งของสมาชิกเขตอี๋อันให้เป็นบุญตาแขกผู้มีเกียรติหน่อยสิ”

“ครับอาจารย์'” หลัวเฟิงก้าวออกมาแล้วตรงไปยังเครื่องทดสอบพลังหมัด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version