Skip to content

Swallowed Star 32

ตอนที่ 32 คำเชิญของสำนักสายฟ้า

ที่ประตูทางเข้าเมืองสัตว์ประหลาด เหล่าเตรียมนักสู้ต่างก็ ทยอยกันออกมา แทบจะเปรอะคราบเลือดตามเนื้อตัวกันถ้วนหน้า ทั้งเลือดของตนเองและเลือดสัตว์ประหลาด กระทั่งบางคนก็ถึงกับ ต้องหิ้วปีกกันออกมาก็มี

“ตี๊ด…ตี๊ด….”

เสียงสัญญาณแสบแก้วหูดังขึ้น แล้วรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ แล่นออกมาจากเมือง ทุกคันเต็มไปด้วยซากศพของสัตว์ประหลาด

“เฮ้…ในนี้เป็นศพของเตรียมนักสู้ เดี๋ยวคงมีคนมารับไป” รถบรรทุกขนาดใหญ่จอดอยู่ตรงนั้น ในกระบะมีศพอยู่จำนวนหนึ่ง บางศพชิ้นส่วนก็ขาดหายไป เป็นที่ชัดเจนว่ามาจากฝีมือของสัตว์ประหลาด รถบรรทุกเทศพเหล่านั้นลง

“อ๊าก!”

“อาก้าน!”

“เสี่ยวอิน!”

จังหวะนั้นมีเตรียมนักสู้สองสามคนร้องออกมา บางคนก็วิ่งเข้า มาหาศพแล้วร้องครํ่าครวญ

“พวกนายร้องไห้เรื่องอะไร?” น้ำเสียงตายด้านดังมาจากนายทหาร เป็นเหตุเตรียมนักสู้สองสามคนนั้นจ้องเขม็งด้วยความแค้นเคือง แต่นายทหารคนนั้นกลับกวาดสายตามองอย่างเย็นชา “ใครบ้างที่ไม่สูญเสียจากการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด! พวก นายเลือกทางเดินสายนักสู้ ฉะนั้น จงเตรียมพร้อมตายอยู่เสมอ! สังคมให้สิทธิพิเศษกับนักสู้ ทำไมกันล่ะ? ไม่ใช่เพื่อให้พวกนายมีความสุข แต่เพราะว่าพวกนายฆ่าสัตว์ประหลาดได้มากมายซึ่งเป็น ประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติต่างหาก นั้นแหละเหตุผลที่พวกนายได้สิทธิพิเศษ

ฐานะของพวกนาย อำนาจของพวกนาย…พวกนายต้องปฏิบัติ ตัวให้สมกับที่จะได้รับสิ่งเหล่านั้น!

ในการทดสอบครั้งนี้พวกนายรับมือกับสัตว์ประหลาดที่อ่อนแอ ที่สุดเท่านั้น และพวกมันไม่ใช่ประเภทที่อยู่เป็นฝูงด้วยซ้ำ ถ้าพวกนายไม่สามารถผ่านไปได้ แล้วพวกนายยังจะหวังให้รอดจากความ ป่าเถื่อนได้ยังไง?” คำพูดของนายทหารทำให้เตรียมนักสู้ทุกคนเงียบลง เพราะพวกเขาแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด

สัตว์ประหลาดที่รับมือด้วยยากที่สุดก็คือพวกที่อยู่รวมกันเป็น ‘ฝูง’ อย่างจำพวก ‘หมาสิงโต’ ทุกครั้งที่พวกมันเคลื่อนไหวจะไปกันเป็นฝูงราวๆ 10 ตัว ฉะนั้นแม้แต่นักสู้ระดับนักรบขั้นกลางก็ยังไม่อยากเข้าใกล้พวกมัน

……….

“หูซัายสัตว์ประหลาด 2 หู คนต่อไป บาดเจ็บที่แขน”

“หลี่ว์ฟาง? โอเค หูซ้ายสัตว์ประหลาด 3 หู ไม่เลว คนต่อไป…”

ที่ประตูทางเข้าเมือง เตรียมนักสู้แต่ละคนที่ออกมาต่างส่ง ‘หู’ ของพวกเขาที่ได้จากการสังหารเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์จำนวนสัตว์ ประหลาดที่พวกเขาฆ่าได้

“ดูสิ หลัวเฟิงออกไปแล้ว”

“นั่นหลัวเฟิงคนที่สำนักขีดสุดจับตามอง”

“สงสัยจริงๆ ว่าเขาฆ่าได้เท่าไร”

“สมรรถภาพร่างกายของเขาอยู่ในระดับดี ก็ไม่ได้หมายความ ว่าการฆ่าสัตว์ประหลาดของเขาจะดีไปด้วยหรอกนะ”

เตรียมนักสู้ส่วนใหญ่ทยอยกันออกมาแล้ว และทุกคนต่างก็จับตามาที่หลัวเฟิงที่เพิ่งเดินออกมาจากทางประตูใหญ่ หลัวเฟิง ว่านตง และหม่าเสี่ยว 3 คนนี้เป็นเตรียมนักสู้ที่ถูกจับตามอง จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย เกือบจะทุกคนที่นี่รู้จักหลัวเฟิงและสองคนนั่น

“หือ?” ทันทีที่เขาเดินออกมา เขาก็ถูกจับตามองจากบรรดา เตรียมนักสู้จำนวนมาก หลัวเฟิงทำตัวไม่ถูกได้แต่โบกมือให้

“หลัวเฟิงใช่ไหม? ส่งหูซ้ายสัตว์ประหลาดมาสิ” มีเจ้าหน้าที่ 3 คนนั่งอยู่ต่อหน้า และสองคนในนั้นกำลังใช้แลปท็อปขณะที่อีกคน หนึ่งกำลังมองมาที่หลัวเฟิง

“ครับ”

หลัวเฟิงพยักหน้าและวางกระเป๋าของเขาลง ขณะนั้น บรรดาเตรียมนักสู้จำนวนมากที่เข้ามามุงอยู่รอบๆ ก็จ้องเขม็งมายังกระเป๋าของหลัวเฟิง พวกเขาต่างก็อยากรู้อยากเห็น…ว่าหลัวเฟิงจะ ฆ่าสัตว์ประหลาดได้เท่าไหร่

“พลั่ก!” หลัวเฟิงคว่ำกระเป๋าและเทหูสัตว์ประหลาดจำนวนมาก ใส่หม้อโลหะ หูเหล่านั้นกองกันเกินครึ่งหม้อ

“เยอะขนาดนี้เลย?”

“เจ้านั่นฆ่าไปได้เท่าไหร่” เหล่าเตรียมนักสู้พอได้เห็นก็ถึงกับช็อค

ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่กำลังนับหูเหล่านั้น และซักครู่หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มพลางมองมาที่หลัวเฟิง “หลัวเฟิง ไม่เลว ได้ทั้งหมด 36 หู จนกระทั่งถึงตอนนี้ นายถือว่าฆ่าได้เยอะที่สุดแล้ว อืม..แถมยังไม่บาดเจ็บอีกด้วย”

“คนต่อไป” เจ้าหน้าที่มองคนที่กำลังเดินเข้ามา แล้วหลัวเฟิงก็ ยิ้มเดินออกไป

“หลังจากที่ผ่านการทดสอบการต่อสู้จริง เราก็จะได้กลายเป็นนักสู้จริงๆ เสียที” หลัวเฟิงมีความสุขมาก

หลังจากนั้น หลัวเฟิงก็เข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มคนแล้วคอยดูตอนที่นักสู้คนอื่นๆ เอาหูมาส่งเช่นกัน มีบางคนที่ไม่บาดเจ็บเลยก็มี แต่ ส่วนใหญ่ก็จะบาดเจ็บเล็กน้อย พักราวๆ 10 ถึง 15 วันก็น่าจะดีขึ้น แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน

“หยางอู่ อืม… ไม่เลว ได้ 3 หู มีแผลเล็กน้อยที่ไหล่ซ้าย คนต่อไป”

หยางอู่ก็กลับมาอย่างปลอดภัยเช่นเดียวกัน

“พี่หยาง” หลัวเฟิงตะโกนเรียก

“เจ้าบ้า” หยางอู่หัวเราะเสียงดังขณะที่ตรงเข้ามา “เป็นไงบ้าง? ฆ่าได้เท่าไหร่?”

“36” หลัวเฟิงและหยางอู่เดินตรงไปที่มุมหนึ่ง

“36?…เจ้าบ้านายนี่มันบ้าชัดๆ สัตว์ประหลาดฆ่ายากจะตาย” หยางอู่ชำเลืองมอง “โดยเฉพาะหมาพยัคฆ์มันเร็วกว่าฉันและมันยังไม่ได้เริ่มใช้พลังด้วยซ้ำ! ระดับเท่ากัน แต่พลังของมันมากกว่าพวกนักสู้ซะอีก ฉันตั้งใจเอาไว้แล้วยังไงต้องฆ่าให้ได้ 3 ตัว”

หลัวเฟิงหัวเราะ อันที่จริง ไม่สามารถดูแคลนสัตว์ประหลาดระดับ H ได้อยู่แล้ว แม้แต่นักรบขั้นกลางก็ยังต้องเจอปัญหาหาก ต้องเผชิญหน้ากับพวกมัน 7-8 ตัวพร้อมกัน

ที่หลัวเฟิงสามารถฝึกฝนได้แบบนี้ก็เพราะมีพลังจิต

“ว่านตง!”

“นี่ไงว่านตง เตรียมนักสู้อัจฉริยะที่ถูกจับตาจากสำนักสายฟ้า สงสัยจริงๆ ว่าเขาจะฆ่าได้เท่าไร สงสัยจริงๆ ว่าเขากับหลัวเฟิงใคร จะแกร่งกว่ากัน”

“ใช่ มีเพียงคนเดียวที่พอจะทาบกับหลัวเฟิงได้ก็วิคือว่านตงคน นี้แหละ”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังระงมไปหมด ทำให้หลัวเฟิงกับหยางอู่ที่ หลบมุมอยู่ข้างหลังต้องลุกขึ้นดูด้วยความประหลาดใจ หยางอู่ กล่าวขึ้นด้วยความตกใจ “นั่นว่านตงออกมาแล้วเหรอ เจ้าบ้า เห็นได้ชัดว่าสมรรถภาพร่างกายของว่านตงคนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่านายเลย ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะฆ่าได้เท่าไหร่”

ในตอนนี้ บรรดาเตรียมนักสู้ต่างก็ไปยืนออคอยจ้องดูกระเป๋า ของว่านตง แล้วเตรียมนักสู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ได้ยินอย่างใกล้ชิด

“มีหูสัตว์ประหลาดเป็นพวงเลย”

“ดูท่าทางจะเยอะทีเดียว”

เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจระงมไปหมด จากนั้นก็ได้ยินเสียง เจ้าหน้าที่ประกาศขึ้น… “ว่านตง อืม.. 51 หู ฮ่าๆ นายเยอะกว่าหลัวเฟิง และเป็นเตรียมนักสู้ที่ฆ่าได้มากที่สุดในตอนนี้ชั่วคราว”

“51?”

“มากกว่าหลัวเฟิงอย่างนั้นเหรอ?”

“ว่านตงคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ ฆ่าได้ 51 ตัวนี้มันสุดยอดไปเลย”

เตรียมนักสู้ที่เพิ่งเผชิญกับสัตว์ประหลาดมากับตัวต่างพากันตกใจ

“เจ้าบ้า หมอนั่นฆ่าได้มากกว่านายซะอีกนะ” หยางอู่ตกใจ

“จะได้ประโยชน์อะไรกับการฆ่าได้จำนวนมาก?” หลัวเฟิง หัวเราะออกมาอย่างไม่สนใจ เขาใช้เวลาทั้งคืนในการฝึกฝนเทคนิค ถ้าเขาต้องการจะฆ่าสัตว์ประหลาดระดับ H ที่อ่อนแอที่สุดพวกนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของหลัวเฟิง เขาสามารถเลือกจัดการกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ตัวเดียวได้ หากทำเช่นนั้น ต่อให้ฆ่าซักร้อยตัวภายในคืนเดียวก็ไม่ได้แปลกสำหรับเขาเลย

“หลัวเฟิง” มีเสียงเรียกดังขึ้น

หลัวเฟิงหันไปดูก็เห็นนายทหารหนวดงามคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่ “มากับฉัน มีเพื่อนอยากพบนาย ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้องพักรับรองข้างหน้านี้”

“หือ” หลัวเฟิงมีท่าทางเลิ่กลั่ก…

“พบผม?”

แต่หลัวเฟิงก็ไม่ได้รอช้ารีบตามชายหนวดงามคนนั้นไปที่ ห้องพักรับรอง ก่อนที่เขาจะเข้าไป หลัวเฟิงถอดชุดที่เปื้อนคราบ เลือดออกแล้วก็เช็ดมันนิดหน่อย จากนั้นก็เปลี่ยนชุดใหม่แล้วเข้า ไปด้านใน

…………

ในห้องพักรับรองนั้น ชายร่างอ้วนนั่งหลับตานิ่งอยู่ ทันใดนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นแล้วมองมายังหลัวเฟิงตาเป็นประกาย

“เขาคนนั้น?” หลัวเฟิงช็อคไป

ชายคนนี้เขารู้จัก นี่คือคนที่เคยพูดกับหัวหน้าใหญ่จูเก่อ และ เขาก็เป็นหนึ่งในบิ๊กโฟร์ที่มาจากสำนักสายฟ้าแห่งนครเจียงหนาน

“ฉันชื่อหวังเหิง และฉันเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งสำนักสายฟ้า” ชายคนนั้นหัวเราะ “หลัวเฟิง นั่งสิ”

นั่งเผชิญหน้ากับหัวหน้าใหญ่เลยงั้นเหรอ?

หลัวเฟิงหวั่นใจอยู่ลึกๆ

เขาเข้าใจดีว่าชายผู้นี้มีอำนาจมากเพียงใด พลังอำนาจของ หัวหน้าใหญ่ของสำนักสามารถเทียบเท่ากับเทพสงคราม! พวกเขา มีพลังอย่างน่าอัศจรรย์สามารถพูดได้เลยว่าเจียงหนานทั้งนครอยู่ ในกำมือของชายผู้นี้

“ทำไมไม่นั่งล่ะ กลัวฉันกัดนายงั้นเหรอ? ฮ่าๆ…” ชายร่างอ้วน เริ่มหัวเราะเสียงดัง

หลัวเฟิงหัวเราะและนั่งลงต่อหน้าเขาแล้วกล่าวว่า “คุณหวังครับ คุณมีอะไรเหรอครับ?”

“ก็ง่ายๆ เลยล่ะ”

ชายร่างอ้วนยิ้ม “ฉันสืบสถานการณ์ครอบครัวของนายมา นายมาจากครอบครัวธรรมดา พ่อของนายทำงานในบริษัทรับเหมา ส่วนแม่ของนายทำงานเป็นแคชเชียร์ในซุปเปอร์มาร์เกต พื้นเพ ของนายไม่ค่อยดีนัก และนายเองก็เป็นนักสู้ได้ตั้งแต่อายุแค่ 18 ปี ซึ่งหาได้ยากมาก”

หลัวเฟิงยิ้มเจื่อนๆ อันที่จริงเขาฝึกฝนอย่างหนักมานาน มากกว่าจะถึงวันนี้

“ฉันชื่นชมนายมาก และก็คิดว่านายจะมีอนาคตที่ดีมาก

ฉันขอเชิญนายอย่างเป็นทางการ ให้มาเข้าร่วมกับทางสำนักสายฟ้า หลัวเฟิง!” ชายร่างอ้วนมองมาที่หลัวเฟิง

“ผม…ผมเซ็นสัญญากับทางสำนักขีดสุดไปแล้วครับ” หลัวเฟิง ยิ้มขณะที่ส่ายหัว

ขายร่างอ้วนส่ายหัวอย่างไม่อยากจะเชื่อหูแล้วพูดว่า “สัญญา? ถ้าเป็นสัญญา นายก็ฉีกมันได้นี่! นายก็แค่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎของนักสู้ ค่าชดเชยจะไม่เกิน 100 ล้าน ฉันเชื่อว่านายมีค่ากว่านั้นมาก สำนักสายฟ้าของเรายินดีจ่ายเงินจำนวนนั้นเพื่อนาย!

และถ้านายเข้าร่วมกับเรา ฉันจะมอบสัญญาการฝึกพิเศษ สำหรับนายในสำนักงานใหญ่ของสำนักสายฟ้าทั่วโลก!” ชายร่างอ้วนหัวเราะ “ทุกๆ ปี นักสู้ไม่เกิน 10 คนจะได้รับคำเชิญนี้ แต่ละคน จะเป็นหนึ่งในอัจฉริยะแต่ละประเภท ยิ่งกว่านั้น เราเพิ่งส่งคำเชิญไป แล้วเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นภายในปีนี้ หนึ่งในนั้นเป็นระดับนักรบขั้นสูงอายุ 20 ปีจากสหภาพยุโรป และอัจฉริยะอีกคนเป็นนักอ่านจิตจากอเมริกาใต้! และคนที่ 3 มาจากเมืองจิงฮว๋าของจีนเรา เขาเป็น ระดับนักรบขั้นกลางที่มีอายุเพียง 16 ปี แล้วนายก็จะเป็นคนที่ 4!”

หลัวเฟิงตกตะลึงไป

แต่ละคนต่างก็แข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ชัดเจนว่า ‘ว่านตง’ และ ‘หม่าเสี่ยว’ ที่ถูกจับตาดูอยู่ไม่ดีพอสำหรับคำเชิญนี้

แต่ว่าตนดีพอเหรอ?

อันที่จริง เพียงแค่ระดัมสมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิง เขา คงไม่ดีพอสำหรับคำเชิญนี้แน่ แต่เขายังมี…ยังมีความรู้ในเทคนิคประณีต! นี่ก็คงเพียงพอสำหรับหลัวเฟิงที่จะได้รับคำเชิญของการฝึกพิเศษนี้ เพราะหลัวเฟิงอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แต่กลับสามารถเรียนรู้เทคนิคประณีตได้อย่างน่าอัศจรรย์

“หากนายเข้าร่วมกับทางสำนักสายฟ้า ฉันจะให้สัญญากับ นายและส่งนายไปฝึกกับสำนักงานใหญ่ของพวกเราทั่วโลก นาย อาจจะได้มีโอกาสฝึกพิเศษกับตำนานอย่าง ‘เทพสายฟ้า’ ก็เป็นได้” ชายร่างอ้วนยิ้มขณะที่พูด “หลัวเฟิง สำนักสายฟ้าของเรา ขอเรียนเชิญนาย มาร่วมกับเรา!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version