ตอนที่ 39 ขั้นบังคับ

หสังจากที่เปิดดูหน้าแรกของวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’…

“ความเร็ว!” หนังสือตัวใหญ่โดดเด่นอยู่บนหน้านี้ ราวกับว่า กำลังเผชิญหน้ากับดาบที่กำลังพุ่งเข้ามา หลัวเฟิงใจเต้นตึกตัก คู่มือนี้เป็นเพียงตัวคัดลอกของวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ แต่แค่คำว่า ‘ความเร็ว’ ที่ถูกคัดลอกก็ทำให้หลัวเฟิงใจสั่นแล้ว

ใครๆ ก็คงรับรู้ได้ว่าผู้สร้างคู่มือนี้น่ากลัวเพียงใด… เทพสายฟ้า

หลัวเฟิงอ่านต่อไป

“ในศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด สิ่งเดียวที่ทำลายไม่ได้คือความเร็ว

หากดาบของคุณเร็วกว่าและเข้าใกล้ขีดจำกัด คุณจะอยู่ยงคงกระพัน” หลัวเฟิงพลิกไปดูหน้าถัดไปก็เห็นตัวหนังสือเขียนไว้อย่างมีสีสัน “เหมือนกับวิชา ‘ทำลายล้าง’ ของ ‘อาจารย์หง’ พลังสูงสุด ของเขาเคลื่อนที่เข้าใกล้ขีดจำกัดของความเร็ว ในการเคลื่อนครั้งเดียว ฟ้าจะสะท้านแผ่นดินจะสะเทือน ไม่ทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังเลย

‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ที่ข้าพเจ้าคิดค้นขึ้น ความหมายลึกซึ้งนั้น มีเพียงอย่างเดียว ความเร็ว!”

หลัวเฟิงเปิดดูหน้าที่ 2

“แล้วความเร็วมีพลังการทำลายล้างได้อย่างไร?

อย่างแรก ถ้าดาบของคุณสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า ความเร็วปฏิกิริยาโต้ตอบของคู่ต่อสู้ คุณก็จะสามารถเชือดคอหอย ของเขาได้ก่อนที่เขาจะยกดาบเสียอีก! ต่อให้ความแข็งแกร่งของ คุณมีเพียง 1 ใน 10 ของคู่ต่อสู้ แต่คอหอยของเขาก็ไม่อาจ ต้านทานคมดาบของคุณได้อยู่ดี ดังนั้น ความเร็วจะทำให้คุณ โจมตีจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ได้

ข้อถ้ดไป.. .ความเร็วสามารถเพิ่มพลังให้ดาบของคุณได้

สูตรการคำนวณพลังงาน…พลังการโจมตีของดาบเท่ากับ 0.5 mv^2 หรือกล่าวง่ายๆ ในสภาวะปกติ ยิ่งดาบเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น! แม้แต่น้ำธรรมดาก็สามารถพุ่งทะลุเหล็ก ได้หากมีความเร็วมากพอ หรือแผ่นกระดาษก็สามารถตัดเหล็กได้เช่นกัน!

ความเร็ว ทำให้คุณหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้!

ความเร็ว ทำให้ดาบของคุณทำลายได้ทุกอย่าง! ไม่ว่าคุณจะ มองในมุมของการโจมตีจุดอ่อน หรือมุมของการเพิ่มพลังทำลายล้าง วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเพิ่มความเร็วของดาบนั่นเอง!”

หลัวเฟิงพยักหน้าขณะที่อ่าน นักสู้ส่วนใหญ่ในสังคมทุกวันนี้ จะเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มความเร็วให้สูงที่สุดก็จะทำให้ กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้!

“นักสู้ส่วนใหญ่เข้าใจจุดนี้ แต่คนที่สามารถนำเอาไปฝึกฝนได้ นั้นมีน้อยนัก!” คำพูดของเทพสายฟ้าที่เขียนลงในคู่มือนี้เต็มเปี่ยม ไปด้วยความมั่นใจ “วิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ที่ข้าพเจ้าคิดค้นขึ้น ทำให้ข้าพเจ้าใช้ดาบได้เร็วที่สุดในโลก! และยังทำให้ข้าพเจ้าเร็ว ที่สุดและแกร่งที่สุดด้วย!”

หลัวเฟิงตาเป็นประกายขณะที่อ่าน

“วิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ รวมความว่องไว ‘หลิวกวง'[1] เต๋าอิน ‘แหล่งรวม 9 ขั้น’ และเทคนิคดาบ ‘ดาบสายฟ้า’ ในสามอย่างนี้ เต๋าอินสำคัญที่สุด!

มีเพียงเต๋าอินเท่านั้นที่สามารถทำให้คุณเพิ่มพลังให้ร่างกาย ได้อย่างถึงที่สุด!

สมรรถภาพร่างกายคือหัวใจหลัก!

เทคนิคดาบและความว่องไวจำเป็นต้องใช้การฝึกฝนอย่าง ต่อเนื่องและความเข้าใจอย่างถ่องแท้!”

หลัวเฟิงเปิดหน้าถัดๆ ไป ในคู่มือนี้มีเต๋าอินอยู่ 3 บท ตามที่ คู่มือบรรยาย เต๋าอินใน ‘แหล่งรวม 9 ขั้น’ มีอยู่ 9 บท ด้วยเหตุผลนี้คู่มือนี้จึงมีเทคนิคดาบและเทคนิคความว่องไวเพียง 3 ขั้นแรก หลัวเฟิงอ่านทั้งหมดทีละคำๆ

หลังจากเงยหน้าขึ้น…

แสงแดดร้อนจ้าของพระอาทิตย์เดือนสิงหาก็ส่องผ่านหน้าต่าง เข้ามาแผดเผา ทำให้ทั่วทั้งโรงฝึกสว่างจ้าจนแสบตา

“น่าอัศจรรย์…น่าอัศจรรย์จริงๆ”

หลัวเฟิงถูกดึงดูดเข้าไปในวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ที่เทพ สายฟ้าคิดค้นขึ้น แม้ว่าเขาจะมีอยู่แค่ 3 ขั้นแรก วิชานี้ก็สามารถทำให้หลัวเฟิงอ้าปากค้างได้ เมื่อเปรียบเทียบตัวอย่างใน อินเตอร์เน็ตกับคู่มือนี้แล้ว มันช่างต่างกันราวหิ่งห้อยกับดวงตะวัน

“ลองฝึกเทคนิคดาบหน่อยดีกว่า”

หลัวเฟิงวางคู่มือไว้ที่มุมของโรงฝึกอย่างขึงขังและก็นำดาบ ปีศาจออกมา “ชิ้ง” เสียงดาบปีศาจถูกชักออกจากฝัก ดาบปีศาจ ยาว 101 เซนติเมตร ตัวดาบยาว 78 เซนติเมตร และกว้าง 5.2 เซนติเมตร ใบดาบแหลมคมและถูกสร้างจากเหล็กโครห์นเกรด 2 เป็นวัตถุดิบหลัก

แม้จะเป็นครึ่งราคา ดาบนี้ก็ราคาถึง 3 ล้าน และหนักถึง 112 กิโลกรัม

“เริ่ม!”

“ฟิ้ว!”

“วูบ!” เห็นเพียงหลัวเฟิงยืนอยู่กลางโรงฝึก แต่ดาบใน มือของเขายังคงแกว่งไปรอบๆ อย่างต่อเนื่อง

วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นต้องอาศัยวิธีพิเศษในการออกแรง

เมื่อบุคคลทั่วไปกวัดแกว่งดาบ ก็อาจจะใช้พลังไป 100% แล้ว! แต่ในการฝึกวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ จะใช้พลังเพียงแค่ 70% ใน การแกว่งดาบ หลังจากปลดปล่อยการโจมตีขั้นแรกไปแล้ว พวก เขาก็จะบีบตัวเองให้ปลดปล่อยขั้นต่อไปออกมา 70% เช่นเดียวกัน …ถ้าสองขั้นตอนนี้รวมเข้าด้วยกันก็จะเท่ากับพลัง 140%!

วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น มีทั้งหมด 9 ขั้นตามชื่อ

ในขั้นที่ 1 สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อีก 1 ขั้น ซึ่งจะ เทากับพลัง 140% !

ในขั้นที่ 2 สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อีก 2 ขั้น ซึ่งจะ เท่ากับพลัง 210% !

ในขั้นที่ 3 สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อีก 3 ขั้น ซึ่งจะ เท่ากับพลัง 280% !

…………

ในขั้นที่ 9 สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อีก 9 ขั้น ซึ่งจะ เท่ากับพลัง 720% ! และเป็นความแข็งแกร่งที่มากกว่าปกติถึง 7 เท่า

สิ่งนี้แสดงถึงอะไร?

มันหมายความว่าถ้านักรบขั้นต้นสามารถเรียนรู้วิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ได้ถึง 9 ขั้น เขาจะสามารถต่อกรกับแม่ทัพขั้นต้นได้เลยทีเดียว!

“ยากมาก เหมือนอย่างที่เขาลือกันเลย การฝึกวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ยากสุดๆ แม้แต่บทเริ่มต้นยังยากขนาดนี้” หลัวเฟิง ยังคงกวัดแกว่งดาบของเขาต่อไปนับร้อยๆ ครั้ง ด้วยการกวัดแกว่ง แต่ละครั้ง เขาพยายามยกระดับพื้นฐานขึ้นเพื่อจะได้ปลดปล่อยวิชา ดาบขั้นถัดไปออกมา แต่เขาก็ยังคงทำไม่ได้

ยากไปแล้ว!

ต้องรู้ไว้ว่า การกวัดแกว่งดาบจะจบลงภายในเวลาไม่นาน ในจังหวะนี้ หลังจากใช้พลังกวัดแกว่งดาบครั้งแรกไปแล้ว จะต้องฝืน ออกแรงต่ออีกครั้ง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

“ดูเหมือนว่าเราคงไม่สามารถละโมบเกินไปได้ ในขั้นแรกของวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ มีเทคนิคที่แตกต่างกันถึง 18 อย่าง ตามที่คู่มือบอก ถ้าเราฝึกเทคนิคทั้ง 18 อย่างนี้ เราก็น่าจะรู้ทริคปลดปล่อยขั้นแรกของ ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ได้” หลัวเฟิงพยักหน้า ” ‘หลังจากอ่านหนังสือครบร้อยรอบ ความหมายก็จะปรากออกมาเอง’ คำกล่าวนี้มีเหตุผล”

หลังจากฝึกฝนเทคนิคทั้ง 18 อย่างหลายๆ ครั้ง ความหมายที่อยู่เบื้องหลังวิชานั้นก็จะแสดงตัวออกมา

“เสี่ยวเฟิง ได้เวลาทานข้าวแล้ว”

“เสี่ยวเฟิง มาเร็วเข้า”

เสียงพ่อกับแม่เรียกมาจากด้านล่าง

“ครับกำลังไป” หลัวเฟิงเสียบดาบปีศาจลงในฝักแล้วแขวนไว้ที่ ข้างกำแพง หลังจากนั้น เขาก็วางคู่มือ ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ไว้ในห้องส่วนของเขา หลังจากนั้นก็เดินลงไปข้างล่าง

………..

เวลาล่วงเลยไป และถึงแม้ว่าหลัวเฟิงจะพร้อมกับการเข้าร่วม ทีมค้อนอัคคีแล้ว พวกเขาก็อยู่ในช่วงหยุดพักอยู่ หลัวเฟิงจึงใช้ โอกาสนี้ขัดเกลาความว่องไว เต๋าอิน และเทคนิคดาบ ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ของเขา ทั้งนี้การฝึกฝนพลังพันธุกรรมของเขาก็เห็นผล

ออกมาชัดเจนแล้ว และระดับสมรรถภาพร่างกายของเขาก็เพิ่ม มากขึ้นมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับเทคนิคดาบและความว่องไวของ ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ หลัวเฟิงยังคงไม่สามารถผ่านขั้นแรกได้เลย

ถึงเขาจะยังเรียนได้ไม่สำเร็จ แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลัวเฟิงมีความว่องไวมากขึ้น การควบคุมดาบและพลังของเขาก็มี การพัฒนาเพิ่มขึ้นมาก

“ถึงเราจะยังปลดปล่อยขั้นต่อไปออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเรา ก็ควบคุมกล้ามเนื้อได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก” หลัวเฟิงยืนอยู่คน เดียวเพียงลำพังภายในโรงฝึก และเริ่มสวมชุดต่อสู้ของเขาอย่างเงียบๆ เขาใส่มีดปา 5 เล่มไว้ในกระเป๋าตรงต้นขา จากนั้นก็สวมรองเท้าบูทต่อสู้โลหะ

เขาสวมเสื้อเกราะ เปิดช่วงไหล่ และสวมสนับแขนทั้ง 2 ข้าง

เขามีกระเป๋าสัมภาระ โล่หกเหลี่ยม และดาบปีศาจเสียบไว้ที่ ด้านหลัง บนสนับข้อมือขวามีนาฬิกาสื่อสารทางยุทธวิธี ในกระเป๋า มีนํ้าและอาหารพลังสูงเตรียมไว้พร้อม

“วันนี้ 28 สิงหาคม เป็นวันแรกที่เราจะได้ออกจากเมืองและเริ่ม ภารกิจอย่างเป็นทางการ” หลัวเฟิงสูดหายใจเข้าลึก

ถูกต้องแล้ว….

วันนี้ เป็นวันที่ทีมต้อนอัคคีจะออกเดินทาง!

“หลัวเฟิง!” เสียงปืนใหญ่อัคคีเฉินกู่ตะโกนมาจากด้านนอก

“มาแล้วครับ” หลัวเฟิงตอบ เขาวิ่งลงบันไดไปแล้วก็เห็นพ่อกับ แม่กำลังยืนอยู่ในห้องโถง น้องชายของเขานั่งอยู่บนวีลแขร์และ กำลังมองมายังเขาเงียบๆ พวกเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันที่หลัวเฟิงกำลัง จะออกไปข้างนอกเมืองและเข้าไปในแดนเถื่อน

แดนเถื่อน..เป็นสิ่งที่ผู้คนเรียกกันว่าเป็นพื้นที่นอกเมือง ซึ่ง รวมถึงซากเมือง ชานเมือง ภูเขา ป่าไม้ หนองคลองบึง เป็นต้น

“หลัวเฟิง ระวังตัวด้วยนะ” กงซินหลานอดบอกลูกไม่ได้

“ไม่ต้องกังวลหรอกครับแม่” หลัวเฟิงหัวเราะ เขาพยักหน้าให้ พ่อและสุดท้ายก็มองไปที่หลัวฮว๋า

“พี่ครับ ไม่แน่นะตอนพี่กลับมา พี่อาจจะได้กินลูกอมแต่งงาน ของผมก็ได้” หลัวฮว๋าพูดยิ้มๆ

“ลูกอมแต่งงาน? จะเร็วไปไหม? นายรู้จักสาวคนนั้นยังไม่ถึง 2 เดือนเลยนะ” หลัวเฟิงหัวเราะ

“มีสัมพันธ์ที่ดี จะสนเรื่องเวลาไปทำไมล่ะ?” หลัวฮว๋าหัวเราะ อย่างภูมิใจ

“เอาล่ะๆ พี่จะกลับมากินลูกอมแต่งงานของนายก็แล้วกัน ถ้างั้น ก็เลือกอันอร่อยๆ ไว้ให้พี่ด้วยนะ” หลัวเฟิงหัวเราะและลูบหัว น้องชายของเขา “โอเค พ่อครับแม่ครับผมไปล่ะ เดี๋ยวอีกสองสาม วันผมจะกลับมา” หลังจากกล่าวจบ หลัวเฟิงก็วิ่งตรงไปที่ประตู เฉิน กู่ยืนอยู่ตรงประตูบ้านของเขา

ครอบครัวของหลัวเฟิงมองดูเขาในชุดต่อสู้ที่กำลังจะออกไป กับจอมโหดผู้มีอุปกรณ์พร้อมอย่างเงียบๆ อยู่นาน

“ไปกันเถอะ หลัวเฟิง เดี๋ยวไปตลาดของพันธมิตรใต้ดินเพื่อ รวมตัวกับหัวหน้าและคนอื่นๆ แล้วเราก็จะออกไปตะลุยแดนเถื่อนด้วยกัน”

“ครับ พี่เฉิน”

หลัวเฟิงตรงไปที่รถยนต์ประจำสำนักขีดสุดกับเฉินกู่และชาย อีกคนที่มีหอกเป็นอาวุธติดหลังมาด้วย รถเคลื่อนที่ออกไปอย่างเร็ว

………….

[1] หลิวกวง แปลตรงๆ ว่า แสงไหล ในที่นี้น่าจะหมายถึงว่องไวเหมือนแสง