ตอนที่ 38 ทีมค้อนอัคคี
จางเจ๋อหู่เดือดดาลขึ้นทันที เขาไม่คิดเลยว่านักสู้หน้าใหม่อย่างหลัวเฟิงจะไม่ไว้หน้าเขาอย่างนี้
“50 ล้านเท่านั้น?” จางเจ๋อหู่จ้องเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อคนได้
และหลัวเฟิงไม่สนใจสักนิด
เขาอ่านโพสต์ใน ‘บ้านแห่งขีดสุด’ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเยอะ และ เขาก็รู้ว่าใครก็ตามที่ยอมก้มหัวก่อนก็คือการยอมรับความพ่ายแพ้! และในสถานการณ์แบบนี้ โดยเทคนิค ถ้าทั้งสองฝ่ายมีสถานะเท่ากัน ฝ่ายที่เป็นคนทำผิดกี่ควรเป็นฝ่ายขอโทษ
แต่จางเจ๋อหู่ยังคงดื้อดึงอยู่ เพราะคิดว่าได้เปรียบเนื่องจากหลัวเฟิงเป็นนักสู้หน้าใหม่อยู่
น่าเสียดาย…หลัวเฟิงกลับไม่สะทกสะท้านเลย
“โอเค..งั้นฟังฉันหน่อย” อาจารย์ใหญ่อูทงแห่งสำนักขีดสุดกล่าว “หลัวเฟิงและพยัคฆ์ภูเขา ถอยหลังกันคนละครึ่งทางนะ 30 ล้านหยวน! จางเจ๋อหู่ 30 ล้าน ไม่มากสำหรับนายหรอก จ่ายมา ตามนี้แล้วเราก็จบเรื่องนี้กัน หลัวเฟิง นายไม่คัดค้านอะไรนะ”
หลัวเฟิงพยักหน้า “ผมเอาตามนั้นครับอาจารย์”
“พยัคฆ์ภูเขา นายล่ะ?” อูทงมองจางเจ๋อหู่
ทุกคนจ้องมองไปที่จางเจ๋อหู่ เขาลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะออกมา “จะให้ฉันยอมก้มหัวให้กระต่ายน้อยตัวนี้งั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ! สหายหลี่ พวกเรา ไปกันเถอะ!”
“ถ้านายไม่อยากจ่ายเพื่อแก้ปัญหานี้ นายจะต้องจ่าย 100 ล้านเพื่อปกป้องหลานของนาย” อูทงหัวเราะเบาๆ
“ฉันยอมจ่ายให้ประเทศ 100 ล้าน ดีกว่าจ่าย 30 ล้านเพื่อ แก้ปัญหานี้!!!” จางเจ๋อหู่จ้องมายังหลัวเฟิงอย่างเย็นชาและเยาะเย้ย “ไอ้หนู การเป็นนักสู้มันไม่ง่ายนักหรอก! เมื่อใดที่นายออกไปนอกเมือง นายจะเห็นว่าสัตว์ประหลาดน่ากลัวเพียงใด สถานการณ์ที่น่ากลัวสุดๆ จะเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว และสัตว์ประหลาดในค่ายทหารนั่นมันเทียบไม่ได้เลย พวกมันเป็นพวกที่อ่อนแอที่สุด ฉันหวัง ว่านายจะไม่ตายซะก่อนล่ะนะ แล้วเราจะได้มาเล่นกัน เอาล่ะให้ฉัน เตือนนายซักหน่อยละกัน ตอนนี้ฉันเข้าใกล้ระดับแม่ทัพแล้ว นาย ล่ะเหลืออีกนานหรือเปล่า? หรือว่าบางทีนายจะรอดไปถึงตอนนั้นไหม?”
หลัวเฟิงหัวเราะ “ขอบคุณคุณจางเจ๋อหู่ครับสำหรับความห่วงใย คุณควรคิดเรื่องการเตรียมเงิน 100 ล้านเพื่อช่วยหลานของคุณดีกว่านะ”
“หึ” จางเจ๋อหู่สีหน้าเจื่อนลง “ไปกันเถอะ!”
“ร้อยล้านล่ะร้อยล้าน” ปืนใหญ่อัคคีเฉินกู่ ตะโกนเย้ยไปให้ได้ยิน
กลุ่มของจางเจ๋อหู่ไม่กล่าวสิ่งใดอีกแล้วก็จากไป
พอเห็นกลุ่มนั้นจากไป นักสู้จากสำนักขีดสุดก็เริ่มเสียงดังเอะอะขึ้น
“อารมณ์จางเจ๋อหู่นี่เป็นอย่างที่เขาลือกันจริงๆ แย่สุดๆ เลย เห็นชัดๆ ว่าหลานของเขาผิดแต่เขาก็ยังไม่ยอมลดราวาศอกอีก” อูทงหัวเราะขณะที่ส่ายหัว “เขายอมบริจาค 100 ล้าน แทนที่จะจ่าย 30 ล้านเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้!”
สำนักมีคะแนนสะสม ประเทศก็มีคะแนนสะสมเช่นกัน!
ใครที่เสียสละให้กับประเทศก็จะได้รับคะแนนสะสมโดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำด้วย 10,000 คะแนนเท่ากับ 1 ดาว 100,000 คะแนนเท่ากับ 2 ดาว….ซึ่งก็เหมือนกับระบบของสำนักขีดสุด ในตอนนั้น ที่ต่งหนานเปียวช่วยชาวเมืองเอาไว้ถึงพันคนโดยการล้มมังกรหัวพยัคฆ์ เขาก็ได้รับเหรียญฮีโร่ระดับ 4 ดาวเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับการบริจาคให้กับทางสำนัก บริจาคให้กับประเทศ ก็รับคะแนนสะสมได้เช่นกัน
1 หมื่นหยวนเท่ากับ 1 คะแนน
100 ล้านหยวนเท่ากับ 1 หมื่นคะแนน ซึ่งก็เท่ากับระดับ 1 ดาว นั่นเอง!
ถ้าจางเจ๋อหู่ไม่ต้องการเจรจากับทางหลัวเฟิง ทางออกที่เหลือ ก็คือการบริจาค 100 ล้านให้กับทางประเทศเพื่อหลานของเขา และ จะทำให้หลานของเขาได้รับคะแนน 1 ดาว คะแนน 1 ดาวสำหรับ ชาวเมืองธรรมดา จางฮ่าวไป๋ก็จะได้รับสิทธิพิเศษ เขาไม่ต้องเข้า คุกนานนักเพราะเหตุที่ทะเลาะกับหลัวเฟิง
“ถ้าเขาบริจาค 100 ล้านให้กับประเทศเพื่อให้หลานของเขาได้ คะแนน 1 ดาว แต่ชาวเมืองที่มีคะแนน 1 ดาวกลับกล้าหาเรื่องนักสู้ แถมไม่ยอมเจรจา ยังไง ก็ต้องติดคุก 3-5 เดือนอยู่ดี!” ปืนใหญ่ อัคคีเฉินกู่กล่าวพลางส่ายหัว
“เขาไม่ยอมก้มหัวเอง จะไปโทษใครได้ล่ะ?”
“เขาคงไม่สนหรอกมั้ง เพราะมีเงินนี่นา”
บรรดานักสู้ของสำนักขีดสุดหัวเราะกันเสียงดัง
“หลัวเฟิง” อาจารย์ใหญ่อูทงหัวเราะ “ตามคำสั่งของหัวหน้าจูเก่อ เราจะต้องเตรียมการเพื่อให้นายเข้าสู่ทีมนักสู้ระดับแม่ทัพ คราวนี้นายจะฝึกฝนตัวเองนอกเมืองได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าด้วย! ฉันขอไว้ให้นายและเตรียมการให้นายเข้าร่วม ‘ทีมค้อนอัคคี’ ไว้แล้ว”
“ทีมค้อนอัคคี?” หลัวเฟิงพยักหน้าเบาๆ
หัวหน้าใหญ่จูเก่อคงเห็นคุณค่าของเขาจริงๆ เริ่มแรก ก็ให้เขา เข้าร่วมกับทีมของนักสู้ระดับแม่ทัพ
ทีมที่ออกจากเมืองแล้วเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์ประหลาดที่ ระดับไม่เท่ากัน โดยปกติถ้าในทีมประกอบไปด้วยนักสู้ระดับแม่ทัพ เพียง 1 คน ก็ถือว่าทีมนั้นเป็นทีมระดับแม่ทัพแล้ว
“หลัวเฟิง” ปีนใหญ่อัคคีเฉินกู่ตบไหล่หลัวเฟิงแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฉันเป็นรองหัวหน้าของทีมค้อนอัคคี! ฉันจะปกป้องนายถ้านายอยู่กับฉัน แต่หลัวเฟิง ฉันต้องบอกอะไรที่ไม่ค่อยรื่นหูให้ฟังก่อนนะ สมาชิกของทีมค้อนอัคคีเราจะให้โอกาสนายฝึกฆ่าสัตว์ประหลาด
เสียก่อน นายจะต้องฝึกหนักมาก และจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากสมาชิกคนอื่นๆ เลย ถ้านายผ่านภารกิจแรกไม่ได้…เราก็สามารถเตะนายออกจากทีมได้ทันที”
“พี่เฉิน ผมเข้าใจครับ” หลัวเฟิงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า
นักสู้ในทีมล้วนอยู่บนเส้นความเป็นความตาย ถ้าทีมมีภาระขัดแข้งขา จะส่งผลอย่างใหญ่หลวง
“ถ้านายเข้าใจแล้วฉันก็เบาใจหน่อย แล้ว….” ปืนใหญ่อัคคี หัวเราะพร้อมกับพูด “นายซื้ออาวุธกับอุปกรณ์หรือยัง?”
“ยังครับ..ผมกำลังหาซื้ออาวุธกับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพอยู่ แต่มันต้องใช้คะแนนสะสมระดับ 1 ดาวเพื่อซื้อครึ่งราคา” หลัวเฟิงส่าย หัวอย่างสิ้นหวัง
ปืนใหญ่อัคคีปล่อยก๊ากออกมาทันที “ง่ายนิดเดียว บอกมา นายอยากได้อะไร เดี๋ยวฉันจะซื้อให้! นายยังไม่มีคะแนนสะสมพอ แต่ฉันมี! ฉันเกือบจะได้ระดับ 2 ดาวแล้วตอนนี้ ฉันสามารถซื้อของ พวกนั้นได้ในราคาครึ่งหนึ่งแล้วนายก็ค่อยโอนเงินมาให้ฉันทีหลังก็ ได้จริงไหม?”
“ใช่” อาจารย์อูทงพยักหน้าเห็นด้วย “อุปกรณ์แบบเย็นหรือร้อนสามารถให้คนอื่นซื้อให้ก่อนได้ ส่วนพวกวิชาต่างๆ เท่านั้นที่ไม่สามารถให้คนอื่นซื้อให้ได้”
หลัวเฟิงพยักหน้า
กรณีนี้ ยกตัวอย่างเช่น ‘วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ที่เขาซื้อมา จะปรากฏในฐานข้อมูลของสำนักขีดสุด พันธมิตรใต้ดิน สำนัก
สายฟ้า ในฐานะที่หลัวเฟิงซื้อ 3 ขั้นแรกของวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ไป วิธีนี้หลัวเฟิงจะใช้วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่ถ้าหยางอู่ไม่ได้ซื้อวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ แต่สามารถใช้วิชาได้ ถ้าถูกจับได้ เขาจะต้องโดนจับกุม เพราะถือว่าเป็นการลอก เลียนและเผยแพร่วิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ซึ่งเป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์ของทางสำนักสายฟ้า
ถ้าไม่ได้ซื้อ ก็ไม่มีสิทธิ์ฝึก!
ถ้าให้คนอื่นซื้อวิชาให้ ฐานข้อมูลจะเป็นของคนซื้อ เพราะไม่มี ข้อมูลแสดงว่าเป็นของตน ตนก็จะไม่มีสิทธิ์ฝึกแม้ว่าจะได้มันไป แต่ อย่าไรก็ตาม อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้จัดอยู่ในข้อจำกัดนี้
“หลัวเฟิง..เขียนรายการสิ่งของที่ต้องการซื้อมา เดี๋ยวฉันซื้อ แล้วจะ เอามาให้” เฉินกู่บอก
“ได้ครับ”
หลัวเฟิงพยักหน้าแล้วก็กุลีกุจอเขียนรายการของต่างๆ ลงในกระดาษ
…………
อุปกรณ์ทั้งหมดในชุด 5 เซ็ตชุดต่อสู้ครึ่งราคาอยู่ที่ 9 ล้าน ชุดดาบปีศาจหมายเลข 2 ครึ่งราคา 3 ล้าน โล่ชุด 5 ราคา 1.5 ล้าน และมีดปาชุด 6 อีก 10 เล่ม ราคา 1.5 ล้าน รวมราคาทุกอย่าง 15 ล้าน รวมกระเป๋าและนาฬิกาสื่อสารทางยุทธวิธีด้วย
………..
ในโรงฝึก ชั้นที่ 2 ของบ้านหลัวเฟิง
ลำแสงแห่งรุ่งอรุณสาดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้พื้นที่ตรงนั้น สว่างทั่วไปหมด หลัวเฟิงอยู่ในชุดฝึกตัวโคร่งขณะที่คุกเข่าอยู่บนพื้น โรงฝึกมีขนาด 100 ตารางเมตรและโล่งกว้าง มีแค่หลัวเฟิงที่ กำลังนั่งอยู่ตรงกลางห้อง และข้างเขาตอนนี้ก็คือหนังสือวิชา….
‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’
“ได้ยินว่าวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ จะฝึกยากมาก ไม่รู้ว่ามัน ยากยังไงกันแน่” หลัวเฟิงเอื้อมมือลองเปิดดู