Skip to content

Tales of Herding Gods 269

ตอนที่ 269 การต่อสู้ของหมอเทวดา

“ศิษย์น้องดูเหมือนจะระวังป้องกันข้า!” ราชาพิษน้อยยิ้มกล่าว “แม้ว่าพวกเราจะเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ก็ไม่เคยพบกันมาก่อน พวกเราควรสนิทสนมกันให้มากกว่านี้”

ฉินมู่ลดมือที่ขวางหลิงอวี้จิวเอาไว้ลงไป เขาเคยได้ยินคํารํ่าลือเกี่ยวกับราชาพิษน้อยมาก่อนและได้ยินพระพันปีหลวงพูดถึงเขาด้วยเช่นกัน สาเหตุที่ท่านปู่นักปรุงยาต้องเฉือนใบหน้าตนเองออก และหนีไปซ่อนในแดนโบราณวินาศก็เพราะคนผู้นี้ด้วย

ราชาพิษน้อยเป็นศิษย์เอกของนักปรุงยา แต่กระนั้นก็ยังทรยศนักปรุงยาและปล่อยข่าวว่ายอดรักหน้าหยกจริงๆ แล้วก็คือราชาพิษ ให้รั่วไหลไป

ก่อนหน้านั้นในยุทธภพนับว่ายอดรักหน้าหยกกับราชาพิษเป็นคนละคนกัน คนแรกนั้นเป็นนักรักมากเสน่ห์ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาสุดๆ เขานั้นสูง หล่อ ห้าวหาญ และปฏิบัติต่อผู้คนอย่างสุภาพราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ มีคนรักไปทุกหนทุกแห่ง เขาไม่จําเป็นต้องเกี้ยวพาสตรี เพราะพวกนางมาหาเขาเองทั้งนั้น ทุกคนลุ่มรักและชื่นชมเขา แม้บุรุษส่วนใหญ่จะอิจฉาเขา แต่ก็ไม่มีใครเกลียดเขาจริงๆ จังๆ

แต่ทว่าราชาพิษเป็นผู้ที่มีใบหน้าอันชั่วร้ายน่ากลัว และวิธีการลงมือของเขาก็อํามหิต คํารํ่าลือถึงความร้ายกาจของเขาแพร่กระจายไปไกล เขาเคยสังหารยอดฝีมือไปนับไม่ถ้วน และแม้กระทั่งทําลายล้างสํานักในฝ่ายเที่ยงธรรม วางยาพิษทุกคนในสํานักนั้น ไม่เหลือใครรอดสักคนเดียว

แม้แต่สํานักเต๋าและวัดใหญ่ฟ้าคํารามก็มียอดฝีมือที่ตกตายเป็นเหยื่อพิษของเขามากมาย
วรยุทธ์ของราชาพิษไม่ค่อยสูง แต่ความสามารถของเขานั้นน่ากลัวสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นยาพิษหรือแมลงพิษ ความสําเร็จของเขาก็ถึงขั้นสุดยอด ทั้งฝ่ายเที่ยงธรรมและฝ่ายมารต่างก็เคยวางกําลังล้อมจับเขาหลายต่อหลายครั้ง แม้กระทั่งช่วงใช้ยอดฝีมือระดับจ้าวลัทธิด้วย แต่ไม่มีใครจัดการเขาได้ ล้วนแต่ตายจากการถูกพิษทั้งสิ้น

ราชาพิษสวมหน้ากากสีเขียวที่มีเขี้ยวโง้งงัดขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักโฉมหน้าที่แท้จริง จนกระทั่งศิษย์ของเขาราชาพิษน้อย เผยแพร่ข่าวออกไป ผู้คนถึงได้รู้ว่าราชาพิษก็คือยอดรักหน้าหยกนั่นเอง

เมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผย เรื่องราวก็กลายเป็นซับซ้อน บางคนก็อยากจะสังหารเขา และสตรีหลายคนก็ต่อสู้กันแย่งชิงเขา แม้แต่สตรีที่ทรงอํานาจอย่างพระพันปีหลวงก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย นี่ทําให้นักปรุงยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฉือนใบหน้าของตนออกไปและสะบั้นหนี้รักทั้งหมด จากนั้นเขาก็หนีไปซ่อนตัวในแดนโบราณวินาศ ไม่กล้าออกมาจากที่นั่นไปกว่าครึ่งชีวิต

แต่ทว่า วันคืนของราชาพิษน้อยก็ไม่ได้ดีเช่นกัน พระพันปีหลวงและสตรีคนอื่นๆ ระบายความโกรธแค้นใส่เขาและไล่ล่าหมายชีวิตเขาไปทุกแห่งที่ ราชาพิษน้อยก็แทบถูกบีบให้หนีไปซ่อนในแดนโบราณวินาศ แต่โชคดีที่ราชครูรับเขาไว้ใต้ปีก

เรื่องประสบการณ์ชีวิตของนักปรุงยา ฉินมู่ได้ยินเพียงแต่คํารํ่าลือ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ทว่า เขารู้ว่าราชาพิษน้อยผู้นี้ได้สืบทอดวิชาคําสอนของนักปรุงยา และความสําเร็จของเขาในด้านพิษนั้นก็ทัดเทียมตามทันท่านปู่นักปรุงยาแล้ว

จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงยิ้มและกล่าว “จ้าวลัทธิ ข้าเชิญเจ้าและราชาพิษน้อยมาเพราะทั้ง 2 คนเป็นศิษย์ของราชาพิษหน้าหยก คนหนึ่งเชี่ยวชาญในการใช้พิษและอีกคนเชี่ยวชาญในการรักษาเยียวยา ด้วยพวกเจ้าทั้ง 2 ร่วมมือกัน อาจจะช่วยรักษาราชครูและข้าได้”

ฉินมู่เผยยิ้ม “ตามที่ฝ่าบาทบัญชา ข้าเองก็อยากจะเห็นฝีมือของศิษย์พี่อยู่เหมือนกัน”

ราชาพิษน้อยตรวจดูอาการของจักรพรรดิและดูผลลัพธ์ในการรักษาของฉินมู่ เมื่อเขายิ้มหูดบนหน้าเขาก็ยิ่งดูน่าเกลียดน่ากลัว “ฝีมือเจ้าก็ไม่เลว สามารถถอนพิษพันโอกาสได้ภายในคืนเดียว”

อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่ตรวจดูราชครู หลังจากกลับมายังเมืองหลวง ราชาพิษน้อยเป็นคนรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่ราชครู เขากล่าวอย่างไม่ยินดียินร้าย “เจ้าเองก็ไม่ใช่ย่อย วิธีที่เจ้าใช้พิษพันโอกาสนั้นอัศจรรย์อยู่”

หูดที่อยู่ใกล้แขนของราชาพิษน้อยพลันแตกออกมาดังปุและมีแมงมุมโปร่งใสจํานวนหนึ่งไต่ออกมา แมงมุมเล็กๆ เหล่านี้พ่นใยไปยังหว่างคิ้วจักรพรรดิเอี้ยนเฝิงจากนั้นก็ไต่ไปตรงนั้นผ่านใยแมงมุม แล้วมุดเข้าไปในสมบัติเทวะทารกวิญญาณของเขา

“ข้าไม่ได้ต้องการจะวางยาพิษนางให้ถึงตาย แต่ด้วยฝีมือข้าจะวางยาจ้าวลัทธิก็ไม่ใช่เรื่องลําบาก” ราชาพิษน้อยกล่าวอย่างเรียบเรื่อย “ไม่ว่าจะเป็นจ้าวลัทธิของลัทธิไหน จะวางพิษเขาก็ไม่ใช่เรื่องลําบากสําหรับข้า”

ฉินมู่ไม่แม้แต่จะเลิกคิ้ว 2 ชั้นสวรรค์ปรากฏในม่านตาของเขาเมื่อเขาใช้เนตรสวรรค์เขียวตรวจดูอาการบาดเจ็บของราชครู “แม้ว่าเจ้าจะวางยาพิษจนร่างนางตายไป ข้าก็ยังคงสามารถเก็บรักษาดวงวิญญาณนางเอาไว้แล้วค่อยถอนพิษได้ ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวลัทธิมิใช่ตัวตนที่เจ้านึกจะวางพิษก็วาง สําหรับจ้าวลัทธิแล้ว ไม่จําเป็นต้องพบหน้าเพื่อฆ่าเจ้าเลยด้วยซํ้า ยิ่งลัทธิฝ่ายมารยิ่งมีวิธีเป็นร้อยเป็นพันที่จะปลิดชีวิตผู้คนอย่างมิอาจคาดหยั่งราวกับว่าตายไปอย่างนั้นก็ปกติดี เมื่อศิษย์พี่พบว่าตนเองทอดร่างเป็นศพในคูนํ้าวันไหนขึ้นมา ก็คงเข้าใจความนี้เองล่ะ”

“อย่างนั้นหรือ” ราชาพิษน้อยมีสีหน้าเย็นเยียบชั่วร้าย และรอยยิ้มเขาก็อัปลักษณ์ยิ่งกว่าใบหน้ารํ่าไห้

“แบบนั้นแหละ” ฉินมู่ยิ้มเหมือนดอกไม้บาน ทั้ง 2 คนมองตากันเปรี๊ยะปร๊ะ จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงและราชครูสันตินิรันดร์สั่นเทิ้มด้วยความหวาดผวา ในวินาทีที่ทั้งคู่มาพบเจอกัน พวกเขาก็เริ่มต่อสู้ด้วยวาจา และจิตสังหารของพวกเขาก็พวยพุ่งออกมามากขึ้นทุกที

หลิงอวี้จิวกะพริบตาปริบ นางมอง 2 คนนั้นไปๆ มาๆ นางรู้สึกว่าเรื่องราวกําลังจะหลุดการควบคุม จึงแย้มยิ้มแล้วกล่าว “ราชาพิษน้อย จ้าวลัทธิฉิน การรักษายังสําคัญกว่านะ”

ราชครูสันตินิรันดร์กระแอมไอ และจักรพรรดิก็กระแอมไอเช่นกัน “อวี้จิว ถอยออกไปก่อน”

หลิงอวี้จิวรับคําและเดินออกไปจากโถง หูดบนใบหน้าของราชาพิษน้อยปะทุออกและแมลงอันดูเหมือน

ปลาบินออกมามุดเข้าไปในสมบัติเทวะอื่นๆ ของจักรพรรดิ

หลังจากที่ตรวจดูอาการบาดเจ็บที่นั่น เขาก็กล่าว “เจ้านี่ก็ใช้ได้อยู่ ขจัดอันตรายซ่อนเร้นในสมบัติเทวะของฝ่าบาทออกได้หมด อาการบาดเจ็บที่ร่างเนื้อและดวงวิญญาณของเขาก็รักษาจนหายดี แต่น่าเสียดายที่ทักษะวิชาแพทย์ของเจ้ายังคงขาดพร่องและไม่อาจเยียวยาสมบัติเทวะได้”

ฉินมู่มองไปยังเศษซากทักษะเทวะในร่างกายของราชครูสันตินิรันดร์และเห็นว่าราชาพิษน้อยใช้สารพิษที่เขาเปลี่ยนมันเป็นวิชาไหมวิญญาณละลายเพื่อม้วนพันรอบๆ เศษซากเหล่านั้น เขาพ ยายามจะละลายมันให้อ่อนแรงลง ในเมื่อไหมพิษนี้มีความสามารถในการละลายวิชา ทักษะเทวะและแม้กระทั่งปราณ ชีวิต แต่ทว่าผลลัพธ์ยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรต่อทักษะเทวะของเทพเจ้า

“วิชาพิษของเจ้าฝึกถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เขตขั้นที่มีทั้งเนื้อสารภายนอกและวิญญาณภายใน วิชาไหมวิญญาณละลายนี้ใช้ได้อย่างน่าทึ่ง แต่มันยังไม่พอ ข้าสามารถพัฒนาต่อได้อีกระดับ” ฉินมู่ยิ้ม

สายตาของทั้งคู่ปะทะกันอีกครั้ง

จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงและราชครูสันตินิรันดร์ขนหัวลุกวาบ หากว่าหมอเทวดา 2 คนนี้จะต่อสู้กัน พวกเขาคงใช้พิษและยาบนตัวผู้ป่วยทั้ง 2!

ราชครูสันตินิรันดร์กล่าว “ทั้ง 2 คนเป็นหมอเทวดาและมาจากอาจารย์คนเดียวกัน พวกเจ้ามีทางรักษาเยียวยาหรือไม่”

ราชาพิษน้อยกล่าวทันที “ข้าเองค่อนข้างมั่นใจในการเยียวยา ฝ่าบาท ในเมื่อสมบัติเทวะของฝ่าบาทถูกทําลาย ข้าสามารถผ่าเอาสมบัติเทวะจากมนุษย์เป็นๆ คนอื่นมาเพื่อเปลี่ยนถ่ายให้ฝ่าบาทได้”

จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงขมวดคิ้ว “เจ้ามั่นใจแค่ไหน”

“นี่…” ราชาพิษน้อยลังเลและเหลือบมองฉินมู่ “ข้าเชี่ยวชาญในด้านการใช้พิษ จึงไม่อาจบอกได้ว่ามั่นใจมากแค่ไหน”

ฉินมู่กล่าว “อาการบาดเจ็บของราชครูไม่อาจแก้ไขได้เพียงวิชาไหมวิญญาณละลาย ในเมื่อรากของปัญหาอยู่ที่ว่าเศษซากทักษะเทวะที่เทพเจ้าทิ้งไว้นั้นแข็งแกร่งเกินไป ที่ข้าคิดคือเราน่าจะหายอดฝีมือระดับจ้าวลัทธิ 10 กว่าคนมาช่วยสยบเศษซากเหล่านี้เอาไว้ อันจะทําให้ราชครูสามารถใช้พลังวัตรของตนในการป่นทําลายพวกมันได้”

ราชครูสันตินิรันดร์ส่ายหน้า “จริงๆ ก็มียอดฝีมือระดับจ้าวลัทธิในเขตแดนของสันตินิรันดร์อยู่มากกว่า 10 คนแต่คงยากที่จะรวบรวมทุกคนให้มาช่วยข้า หมอเทวดาทั้ง 2 ในเมื่อพวกเจ้าคนหนึ่งใช้พิษ คนหนึ่งใช้ยา พวกเจ้าอาจจะเสริมส่งกันได้”

ฉินมู่มองไปยังราชาพิษน้อย ซึ่งก็มองกลับมายังเขาเช่นกัน

“ราชาพิษหน้าหยกอาจารย์ของข้านั้นเลิศลํ้าทั้งยาพิษทั้งยารักษา เขาสามารถใช้ยารักษาเพื่อเสริมส่งยาพิษ และสามารถใช้ยาพิษเพื่อเสริมส่งยารักษา” ราชาพิษน้อยกล่าว “เจ้าสามารถเสริมส่งพิษข้าได้กี่เท่าล่ะ”

ฉินมู่ตอบกลับไปด้วยเสียงเย็น “ก็ต้องดูว่ายาพิษของศิษย์พี่เข้มข้นรุนแรงมากแค่ไหน ข้าสามารถใช้ยารักษาเพื่อเสริมสร้างปราณชีวิตและพลังชีวิตของฝ่าบาทอย่างมหาศาลเพื่อให้ฝ่าบาทสามารถใช้ปราณชีวิตและพลังชีวิตเหล่านั้นมารักษาอาการบาดเจ็บในสมบัติเทวะของเขาได้ แล้วยาพิษเจ้ารุนแรงแค่ไหนล่ะ มันจะช่วยเสริมส่งปราณชีวิตและพลังชีวิตในยารักษาของข้าได้สักสามสิบสี่สิบเท่าได้ไหมล่ะ”

“แรงเท่าที่เจ้าอยากให้แรง!” ราชาพิษน้อยยิ้มหยัน “ข้าเกรงว่ายาบํารุงเจ้าจะไม่สามารถรับมือยาพิษข้าไหว! เพื่อป่นทําลายเศษซากทักษะเทวะในตัวราชครู ข้าต้องการให้ความเป็นพิษของวิชาไหมวิญญาณละลายเพิ่มขึ้นอีกสามสิบสี่สิบเท่า ด้วยพิษร้ายแรงระดับนั้นแม้แต่เทพเจ้าก็คงโดนพิษจนตายละลายกลายเป็นโครงกระดูกเจ้ามีความสามารถนั้นไหมล่ะ”

ฉินมู่กัดฟันกรอด “ข้าลองได้!”

แมลงพิษไต่ออกมาจากร่างของจักรพรรดิเอี้ยนเฝิงและมุดกลับเข้าไปในหูดบนใบหน้าราชาพิษน้อย

“หากเจ้าไม่สามารถหลอมปรุงยาบํารุงเช่นนั้นได้ ข้าจะวางพิษเจ้าให้ตาย” เขาหัวเราะในคอ

ฉินมู่มีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย “แต่ถ้าเจ้าใช้ยาพิษผิดพลาด ข้าจะเก็บเจ้าไว้เป็นๆ นําตัวเจ้ากลับไปยังแดนโบราณวินาศ”

สีหน้าราชาพิษน้อยแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง และแค่นเสียงอย่างเย็นชา ด้วยพู่กันในมือของเขาที่ยกขึ้นมาปาดป้าย เขาก็เขียนรายนามของสมุนไพรพิษจํานวนหนึ่ง

ฉินมู่เองก็เขียนใบสั่งยาเช่นกัน

“ฝ่าบาท โปรดส่งคนไปรวบรวมสมุนไพรพวกนี้!” ทั้งคู่วางพู่กันลงและนั่งรออย่างเงียบสงบ จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงและราชครูสันตินิรันดร์หันไปมองกันด้วยความตระหนก หมอ 2 คนนี้ดูอารมณ์เดือดและไม่เหมือนกับว่าพวกเขากําลังจะรักษาอาการบาดเจ็บคนไข้ แต่ดูเหมือนว่ากําลังจะปลิดชีวิตคนไข้เสียมากกว่า

จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงกระแอมไอและเรียกหมอหลวงที่รออยู่นอกโถงเข้ามา “ไปนําสมุนไพรพวกนี้มาโดยเร็ว”

หมอหลวงรีบรับใบสั่งยาทั้ง 2 แล้วรีบเร่งไป

“ยาบํารุงเจ้าดูจะหนักอยู่นะ” ราชาพิษน้อยกล่าวด้วยสีหน้าชั่วร้าย

ฉินมู่เมินเขา และผ่านไปสักพัก หมอหลวงก็นําพิษและสมุนไพรทั้งหลายที่พวกเขาต้องการมาให้ ฉินมู่รีบลงมือและสกัดฤทธิ์พลังยาออกมา เขาขับเคลื่อนวิชากายาจ้าวแดนดินสามอมตะ และเทวาจําแลงเป็นเทพครองดาวอังคารอันมีศีรษะวัวและร่างมนุษย์ สลับกับเทพครองดาวศุกร์อันมีศีรษะพยัคฆ์และร่างมนุษย์ไปๆ มาๆ เขายังจําแลงเป็นเทพครองดาวพุธ เทพครองดาวพฤหัสบดี และเทพครองดาวเสาร์ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และปราณชีวิตของเขาเพื่อสกัดเอาฤทธิ์พลังยาทุกรูปแบบออกมา

ในขณะเดียวกัน ราชาพิษน้อยก็ใช้สมุนไพรพิษทั้งหลายมาเลี้ยงแมลงพิษของเขา เขาปล่อยให้พวกมันกินสารพิษหลากชนิด ก่อนที่จะหลอมปรุงแมลงตัวน้อยตัวนิดเหล่านั้นเป็นเม็ดยาพิษ ซึ่งเขาเอาไปป้อนแมลงพิษอื่นๆ ต่ออีกทอด ทํากระบวนการนี้ซํ้าๆ หลายรอบ ในที่สุดเขาก็เลี้ยงแมงมุมสีดําเมี่ยมตัวยักษ์ที่มี 2 ตาแดงกํ่าออกมา รอบๆ ตัวมันมีเมฆพิษก่อวนเวียนอันดูไม่มีทีท่าว่าจะจางหายไป

ทางฝั่งฉินมู่ เขานําเมล็ดพืชออกมาจํานวนหนึ่งและเริ่มเพาะปลูกต้นดอกไม้ในโถง เขาฝังเมล็ดลงไปในยาวิญญาณที่เขาหลอมปรุงขึ้นมาและใช้วิชาดินอสงไขยเสกสรรเพื่อให้เมล็ดดอกไม้ได้ดูดซับฤทธิ์พลังยาในยาวิญญาณเม็ดนั้น ไม่นานนัก ดอกไม้ก็เบ่งบานและออกผลมา

จากนั้นเขาก็เด็ดผลไม้วิญญาณที่เขาต้องการแล้วหลอมปรุงพวกมันอีกครั้ง หลังจากทําเช่นนี้ซํ้าๆ หลายครั้ง สมุนไพรที่เขากองเอาไว้เป็นภูเขาก็หดหายกลายเป็นยาวิญญาณ 7 ชนิด และยาเม็ดสีแดง 1 เม็ด

ฉินมู่นําพวกมันทั้งหมดมาและมองไปยังราชาพิษน้อย

ราชาพิษน้อยก็หลอมแมงมุมยักษ์จนตายและสร้างไหมวิญญาณเส้นหนึ่งอันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และนํ้าพิษขวดเล็กๆ 1 ขวด

ทั้ง 2 คนจ้องตากัน ฉินมู่โยนยาเม็ดสีแดงให้ราชาพิษน้อย ส่วนราชาพิษน้อยก็โยนขวดนํ้าพิษให้กับเขา

ฉินมู่เค้นรอยยิ้มออกมาและกล่าวอย่างนุ่มนวล

“ฝ่าบาท ได้เวลาทานยาแล้ว”

จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงใจเต้นตุ๊มต่อม และร่างของเขาก็กระตุกบิดเมื่อมองไปยังยาวิญญาณ 7 อย่างและขวดนํ้าพิษที่ฉินมู่ถือในมือ “ขุนนางที่รัก ยาพิษนั้น…”

“ร้ายแรงมาก” ฉินมู่ปรายตามองราชาพิษน้อย “หากว่าฝ่าบาทตายไป ข้าจะล้างแค้นให้ฝ่าบาท!”

ราชครูสันตินิรันดร์มองไปยังยาเม็ดสีแดงและใยแมงมุมตรงหน้าเขาด้วยอาการลังเล ราชาพิษน้อยกล่าว “ไม่ต้องห่วงท่านราชครู ท่านจะไม่เป็นไร ไม่เป็นไรน่า”

ร่างของฉินมู่เปลี่ยนเป็นเงาและมุดเข้าไปในสมบัติเทวะของจักรพรรดิเอี้ยนเฝิง เขาวางยาวิญญาณทั้ง 7 เข้าไปใน 7 เขตแดนสมบัติเทวะ จากนั้นเทนํ้าพิษลงไปสี่ห้าหยดลงบนทุกเม็ดยาวิญญาณก่อนจะถอยออกมา

ราชาพิษน้อยโปะเม็ดยาลงไปในร่างของราชครูสันตินิรันดร์ และใช้มือของเขาดึงเส้นใยแมงมุมออกจากปากคนไข้ เขาม้วนพันใยแมงมุมรอบๆ ยาเม็ดแดงก่อนที่จะยัดมันเข้าไปในปากราชครูสันตินิรันดร์

เสียงกึกก้องสะท้านฟ้าดังมาจากร่างของจักรพรรดิเอี้ยนเฝิง และเส้นผมเส้นขนทั้งหมดบบนร่างเขางอกยาวอย่างบ้าคลั่ง กระดูกของเขาก็งอกขยายเช่นกัน และในพริบตาเดียวนั้น พวกมันก็เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่ากางเกงเขาสวมไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ศีรษะของเขาก็โป่งพองขยายใหญ่ หนวดเครางอกรกเรื้อราวกับวัชพืชหน้าฝนและเส้นผมบนศีรษะก็แผ่สยายไปทุกทิศทุกทาง

ขนหน้าแข้งและขนหน้าอกของเขาก็หนาขึ้นมาราวกับป่าดงดิบฉีกทําลายฉลองพระองค์มังกรบนร่าง

ไม่นานนัก จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงก็กลายเป็นมนุษย์ยักษ์ที่สูง 15 วาและนอนอยู่กับพื้นไม่อาจขยับเขยื้อน ครึ่งของโถงวังนี้เต็มไปด้วยเส้นผมเส้นขนและร่างจักรพรรดิก็จมอยู่ในเส้นผมทั้งหลายของตนเอง

“เอ๋ ศิษย์พี่ พิษของท่านเข้มข้นจังนะ” ฉินมู่หางตากระตุก

อีกฟากหนึ่ง ใยแมงมุมโปร่งแสงก็พลันทะลักออกมาจากดวงตา หู จมูก ปากของราชครูสันตินิรันดร์ แม้แต่รูขุมขนของเขาก็มีใยแมงมุมย้อยออกมาม้วนพันรอบๆตัวเขา ไม่นานเขาก็ดูเหมือนเกี๊ยวลูกใหญ่ที่ถูกห่อเอาไว้อย่างแน่นหนา

ราชาพิษน้อยมองไปยังเขาด้วยสีหน้าหนักใจและกล่าว “ยาบํารุงของเจ้ามันไม่บํารุงหนักเกินไปหน่อยหรือ”

ทั้ง 2 คนมองหน้ากัน ก่อนที่จะยกพู่กันมาเขียนใบสั่งยาอีกครั้ง และเมื่อพวกเขากําลังจะเรียกจักรพรรดิให้เรียกคนไปหาสมุนไพรให้ พวกเขาถึงเพิ่งนึกได้ว่าจักรพรรดิจมอยู่กองขนและเส้นผม

ทั้งคู่จึงได้แต่กระแอมไอแก้ขวยและเรียกหมอหลวงสามสี่คนนอกโถงวังมาด้วยตนเอง

หมอหลวงที่คอยรอรับคําสั่งเหล่านั้นตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นเส้นผมหนาหนักอันแผ่สยายออกมาถึงนอกโถงวังและยืดยาวไปถึงบันได

ไม่นานนัก พวกหมอหลวงก็กลับมาพร้อมกับสมุนไพร และฉินมู่ก็เริ่มหลอมปรุงอีกครั้ง ราชาพิษน้อยเองก็เร่งรีบเลี้ยงแมลงพิษของเขา

ฉินมู่นํามีดเชือดหมู 2 เล่มของเขาออกมา และสับเส้นขนจํานวนนับไม่ถ้วนเพื่อหาตัวจักรพรรดิ ต้องใช้ความพยายามสักหน่อยหนึ่งถึงจะสามารถส่งยาเข้าไปในตัวเขาได้ ส่วนอีกด้านหูดบนใบหน้าของราชาพิษน้อยก็ระเบิดปุและแมลงพิษก็นําเอายาที่เขาหลอมปรุงเขาไปในรังไหม ส่งมันเข้าไปในร่างของราชครู

“แย่ล่ะ!” ทั้ง 2 สังเกตสถานการณ์และสีหน้าของพวกเขากลายเป็นเขียวคลํ้า “ดูเหมือนว่ายารักษากับยาพิษจะไม่สมดุล…”

แม้ว่าเส้นผมจะไม่งอกเงยขึ้นจากร่างจักรพรรดิ แต่มีสารพิษหลั่งไหลจากหูตาจมูกของเขาแทน ส่วนราชครูนั้นเริ่มมีเส้นผมและขนงอกยาว

หมอทั้ง 2 รีบยกพู่กันขึ้นมาและเขียนใบสั่งยาอย่างเร่งด่วน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version