Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1061

ตอนที่ 1061 ทำใจยอมรับไม่ได้

แม้อู่ซิ่วไม่ได้สนิทสนมกับรัชทายาทเซียวหวง เพราะรัชทายาทมักจะเดินทางไปมาระหว่างเมืองหลวงกับเมืองหนิงโจว ไม่ค่อยอยู่ร่วมงานเลี้ยงพบปะกับบรรดาสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ดังนั้นพวกนางไม่ค่อยมีโอกาสได้ใกล้ชิดรัชทายาท

แต่นางรู้ว่ารัชทายาทรูปโฉมงดงามและฉลาดมาก ลงมือก็โหดเหี้ยมไม่น้อย

เดิมอู่ซิ่วไม่ได้สนใจคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ แต่ตอนนี้ได้ยินว่ารัชทายาทดีต่อคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้ อู่ซิ่วก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา หากแย่งชิงคนผู้นี้มาจากรัชทายาทได้ ใช่ว่าจะสะใจยิ่งหรอกหรือ

แม้ว่าอู่ซิ่วไม่ได้เคยคุยกับเซียวหวง แต่ลึกๆ ในใจแอบริษยาที่นางจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งฮ่องเต้หญิง เป็นสตรีเช่นกัน เหตุใดนางจึงได้รับเลือกเป็นฮ่องเต้หญิง ส่วนนางต้องบรรจงสร้างชื่อเสียงให้ตนเองเพื่อจะได้แต่งกับผู้ชายที่ดี เรื่องนี้ทำให้นางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าทำใจยอมรับไม่ได้ หากแย่งชิงคนมาจากมือรัชทายาทได้ ก็ไม่เลวอย่างมาก

อู่ซิ่วครุ่นคิดแล้วก็มองไปยังพระชายาอ๋องผิงหลิง กล่าวว่า “ในเมื่อฝ่าบาทมีราชโองการ เช่นนั้นก็ให้เขามาพบข้า หากข้าพอใจ ก็จะแต่งกับเขา”

พระชายาอ๋องผิงหลิงได้ฟังอู่ซิ่วรู้ความเช่นนี้ก็สงสารนาง ยื่นมือโอบกอดบุตรสาวตนเอง “บุตรสาวที่น่าสงสารของข้า ไยต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ด้วย ฝ่าบาทใจร้ายมาก ไม่อยากให้บุตรสาวตนเองแต่งกับคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นั้น ก็มาให้บุตรสาวข้าแต่ง ยังมีเหตุผลชอบธรรมอีกหรือไม่”

“ซิ่วเอ๋อร์วางใจ แม้ว่าเจ้าแต่งกับบุตรชายขุนนางเล็กๆ แต่ท่านแม่ถามมาแล้ว คุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้ อายุไม่มากก็สอบซิ่วไฉได้ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่อาจเข้าสอบต่อได้ ตอนนี้เขาหายดีแล้ว ย่อมต้องไปเข้าสอบต่อ หากเขาสอบจิ้นซื่อได้ ก็จะให้ท่านพ่อเจ้าหาทางให้สักหน่อย วันหน้าเขาย่อมประสบความสำเร็จ อีกอย่างพวกเรานับว่าได้ช่วยฝ่าบาท ในพระทัยฝ่าบาทย่อมทรงจดจำไว้ วันหน้าย่อมต้องให้การสนับสนุนบุตรเขยท่านแม่คนนี้เป็นแน่”

อู่ซิ่วได้ยินก็ขมวดคิ้ว นางยังไม่ตัดสินใจแต่ง ท่านแม่นางคิดอันใดกัน

“ท่านแม่รอไว้พบกันก่อนค่อยว่ากัน”

หากนางไม่เข้าตา ก็ไม่มีทางแต่งกับชายผู้นั้นแน่

หากไม่ใช่เพราะรัชทายาทให้ความสำคัญกับเขา นางไม่มีทางแม้แต่จะเหลียวมองเขา

อู่ซิ่วเห็นด้วยแล้ว แต่ตระกูลฟู่ทางนั้น ฟู่หลินได้ยินฮูหยินฟู่เอ่ยเรื่องนี้ ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดทันที เอ่ยขึ้นว่า “ตอบกลับไปว่า ข้าไม่มีทางแต่งกับหญิงผู้นั้น”

ฮูหยินฟู่มองไปยังใต้เท้าฟู่ สองสามีภรรยาสบตากันอย่างระมัดระวังทีหนึ่ง “บุตรชายข้า จวิ้นจู่จวนอ๋องผิงหลิงผู้นี้ได้ชื่อว่ามีความสามารถ เป็นคนมีเมตตา หากเจ้าแต่งกับนาง ก็จะเป็นผลดีต่อเจ้า”

ฟู่หลินไม่ทันได้พูดอะไร ฟู่เซวียนก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ท่านพ่อพูดจาเหลวไหลอันใด พี่ใหญ่จะได้เป็นพระสวามีฮ่องเต้หญิงในวันหน้าแล้ว”

ฟู่ซือพยักหน้า “ใช่ ท่านพ่ออย่าได้นำเรื่องนี้ไปกล่าวต่อหน้ารัชทายาท หากกล่าวออกไปทำให้รัชทายาทโมโห พวกท่านมีกี่ศีรษะให้นางตัดกัน”

วาจาสองคนพี่น้องทำเอาใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ตกใจสะดุ้ง สีหน้าทั้งสองคนย่ำแย่อย่างมาก ถลึงตาใส่บุตรชายรองและบุตรสาวตนเองทันที

“พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน รัชทายาทบอกเมื่อใดว่าจะแต่งกับพี่ใหญ่เจ้า”

ฟู่เซวียนมองท่านพ่อกับท่านแม่กล่าวว่า “รัชทายาทดีต่อพี่ใหญ่เช่นนั้น เป็นเรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น ท่านพ่อกับท่านแม่อย่าได้ยุ่งเรื่องการแต่งงานของพี่ใหญ่ หากพี่ใหญ่ได้เป็นพระสวามีฮ่องเต้หญิง ตระกูลเราย่อมต้องได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ ถึงตอนนั้น…”

ฟู่ซือเผยรอยยิ้ม ถึงตอนนั้นนางก็คือสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ฮา ฮา คิดแล้วก็ดีใจ

ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่มองบุตรชายและบุตรสาวตนเองอย่างตกใจ สองคนนี้โง่เง่าไปแล้วหรือ แต่จะว่าไปการได้เป็นพระสวามีฮ่องเต้หญิงก็ไม่เลวเหมือนกัน

แม้ใต้เท้าฟู่เป็นขุนนางระดับห้า แต่ก็เป็นมานานหลายปี ย่อมพอจะเข้าใจฮ่องเต้องค์ปัจจุบันดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เขามองฟู่หลิน พลางพยายามเกลี้ยกล่อมว่า “หลินเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าบิดาต้องการให้เจ้าแต่งกับจวิ้นจู่ให้ได้ แต่เจ้าดูตระกูลเรากับจวนอ๋องผิงหลิง แต่ไรมาไม่เคยไปมาหาสู่ จวนอ๋องผิงหลิงอยู่ๆ คิดให้บุตรสาวแต่งกับเจ้า ด้วยสถานะจวนอ๋องผิงหลิง อย่างไรก็ไม่ตกมาถึงตระกูลเรา เรื่องนี้เห็นชัดว่าเป็นพระประสงค์ฝ่าบาท”

“ฝ่าบาทมีพระประสงค์ให้จวิ้นจู่อ๋องผิงหลิงแต่งกับเจ้า ไม่ใช่ว่าทรงไม่เห็นชอบให้เจ้าแต่งกับรัชทายาทหรือ หากเจ้าไม่อาจแต่งกับรัชทายาท จวิ้นจู่ก็ไม่เลว”

หากฟู่หลินไม่ได้รับคำเตือนจากเซียวหวงมาก่อนหน้า ยามนี้ก็คงเสียใจ แต่เขาได้ยินเซียวหวงเอ่ยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าฝ่าบาทกับฮองเฮาต้องการทดสอบเขา เขารู้ว่านี่คือการทดสอบ

ดังนั้นฟู่หลินไม่ได้รู้สึกเสียใจ เขามองใต้เท้าฟู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง กล่าวว่า “หากไม่อาจแต่งกับรัชทายาท ข้าก็จะไม่แต่งตลอดชีวิต จะรอนางเพียงผู้เดียว”

ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ได้ยินดังนี้ก็เอ่ยอันใดไม่ออก

ในห้อง ฟู่เซวียนกับฟู่ซือปรบมือ “พี่ใหญ่ทำได้เยี่ยมมาก เช่นนี้สิจึงจะทำให้รัชทายาทซาบซึ้ง และต้องการแต่งกับพี่ใหญ่”

ฟู่หลินมองสองพี่น้องเย็นเยียบทีหนึ่ง สองคนพลันเงียบราวกับไก่ ไม่กล้าเอ่ยวาจาใด

ฮูหยินฟู่มองไปยังใต้เท้าฟู่ “เช่นนั้นข้าจะไปบอกปฏิเสธที่จวนอ๋องผิงหลิงด้วยตนเอง”

ใต้เท้าฟู่จะกล่าวอันใดได้ เขาไม่กล้าตัดสินใจแทนบุตรชาย นับประสาอันใดกับเบื้องหลังบุตรชายมีรัชทายาท

ไม่ว่าฝ่าบาททรงเห็นด้วยที่รัชทายาทจะแต่งกับบุตรชายเขาหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดรัชทายาทก็ให้ความสำคัญต่อบุตรชายเขา เขาไม่กล้ามีเรื่องกับรัชทายาท

“ได้ ไปเถอะ”

จวนอ๋องผิงหลิงรู้ว่าตระกูลฟู่ปฏิเสธ ทุกคนในจวนอ๋องผิงหลิงรวมถึงจวิ้นจู่ต่างโมโหแทบตาย

โดยเฉพาะอู่ซิ่ว เดิมไม่คิดแต่งกับคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ ตอนนี้ถึงกับถูกปฏิเสธ ในใจก็บังเกิดความรู้สึกว่ายอมแพ้ไม่ได้ วันรุ่งขึ้นก็นำของตรงไปตระกูลฟู่เยี่ยมฟู่หลิน

ฮูหยินฟู่ได้รับรายงานจากบ่าวรับใช้ ก็ตกใจนิ่งอึ้ง จวิ้นจู่ถึงกับมาเยี่ยมบุตรชายนางด้วยตนเอง นี่มันมากไปสักหน่อยหรือไม่

แม้ว่าฮูหยินฟู่ตกใจ แต่ก็ยังนำคนไปรอรับอู่ซิ่วที่หน้าประตู

“จวิ้นจู่มาเยือนตระกูลฟู่ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

อู่ซิ่วมักเสแสร้งต่อหน้าคนนอก มองฮูหยินฟู่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เอ่ยอย่างสนิทสนมว่า “ฮูหยินฟู่เกรงใจไปแล้ว ข้าได้ยินว่าฟู่หลินป่วย ดังนั้นจึงได้ตั้งใจมาเยี่ยมเขา”

นางกล่าวจบก็ทำทีท่าเขินอายมองฮูหยินฟู่ทีหนึ่ง กล่าวว่า “คงไม่ใช่ว่าไม่สะดวกกระมัง”โนเวลพีดีเอฟ

ฮูหยินฟู่ถูกนางทำเอาลืมไปหมดสิ้น รีบส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่ ไม่ จวิ้นจู่ เชิญ”

แต่พอทุกคนเดินถึงหน้าประตูเรือนฟู่หลิน ฟู่เซวียนกับฟู่ซือสองคนพี่น้องก็นำคนมาขวางทางอู่ซิ่ว

“คารวะจวิ้นจู่”

อู่ซิ่วไม่รู้จักฟู่เซวียนกับฟู่ซือ ถามฮูหยินฟู่ว่า “สองท่านนี้คือ?”

ฮูหยินฟู่รีบแนะนำทันที “นี่คือบุตรชายรองกับบุตรสาวคนเล็กข้า”

ฮูหยินฟู่กล่าวจบก็ถลึงตาใส่บุตรชายรองกับบุตรสาวคนเล็ก “ยังไม่หลีกทางให้จวิ้นจู่ไปเยี่ยมพี่ใหญ่พวกเจ้าอีก พวกเจ้าคิดทำอันใด”

ฟู่เซวียนกับฟู่ซือกลัวจวิ้นจู่ อย่างไรตระกูลพวกเขาเป็นเพียงขุนนางระดับห้า แต่พอพวกเขาคิดถึงรัชทายาทก็ไม่กลัวแล้ว

ตอนนี้พวกเขาทำเพื่อรักษาชื่อเสียงให้พี่ใหญ่ อย่าได้ปลอ่ยให้จวิ้นจู่ที่มีอุบายแอบแฝงทำให้ชื่อเสียงพี่ใหญ่แปดเปื้อนได้ หากหญิงผู้นี้เข้าไปทำท่าทีชิดใกล้ หรือวางยาอันใดพี่ใหญ่ ถึงตอนนั้นพี่ใหญ่ยังจะมีชื่อเสียงบริสุทธิ์อีกหรือ

ไม่ได้ ไม่ได้ พวกเขาต้องคอยจับตาดูหญิงผู้นี้ไว้

ฟู่เซวียนคิดไปก็ยิ้มไป กล่าวว่า “ตอนนี้พี่ใหญ่ข้าป่วย ไม่สะดวกให้เยี่ยม จวิ้นจู่ เชิญกลับไปก่อน”

ฟู่ซือเห็นพี่ชายตนเองออกหน้า ก็รีบก้าวออกมาแสดงท่าทีว่า “ใช่ พี่ใหญ่ข้าตอนนี้ไม่อาจโดนลมได้ จวิ้นจู่กลับไปก่อนดีกว่า ตระกูลเราคับแคบ ไม่อาจต้อนรับจวิ้นจู่ไหว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version