ตอนที่ 590 พ้นทุกข์
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เจียวลืมตาขึ้นมาก็เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นนอนตะแคงจ้องมองนางด้วยแววตาเชื่อมหวานเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ลู่เจียวเห็นเขา ก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนวานนี้ขึ้นมา ยามนี้นางอดเขินอายไม่ได้ แต่เห็นใบหน้าซูบผอมของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ทนปวดใจไม่ไหว ยื่นมือออกไปลูบแก้มเขา
“เจ้าผอมลงมาก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือออกไปลูบแก้มนาง “เจ้าเองก็ผอมลง”
ลู่เจียวยิ้มละไมพลางส่ายหน้า “ไม่เป็นไร วันหน้าพวกเราก็จะดีขึ้น”
“ใช่ ไม่มีผู้ใดแยกครอบครัวพวกเราจากกันได้”
กล่าวถึงตรงนี้ ใบหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เปี่ยมไปด้วยความสุข แววตาทั้งสองทอประกายเจิดจ้า
ลู่เจียวเห็นเขาดีใจ ก็ดีใจตาม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันกล่าวว่า “เจียวเจียว เมื่อวานตอนข้าสลบไป ข้าฝัน ข้ารู้สึกว่านั่นควรเป็นเรื่องราวชีวิตเดิมของข้าที่ควรเกิดขึ้น”
คำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำให้ลู่เจียวนึกสนใจ นางจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านี้ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นสลบไป เขาได้ฝันไปจริงๆ ในความฝัน เขาเห็นชีวิตนี้ของเขาอีกแบบหนึ่ง
เจียวเจียวไม่ได้ทะลุมิติมา ร่างเดินครั้งนั้นลื่นล้มตายไป เขานอนอยู่บนเตียงขยับตัวไม่ได้ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ร่ำไห้อยู่ข้างกาย พ่อลูกน่าอนาถอย่างที่สุด สุดท้ายฮูหยินผู้เฒ่ารองข้างบ้านทนดูไม่ไหว จึงหาอาหารให้พวกเขากิน
ต่อมาผู้ใหญ่บ้านรู้เรื่องนี้ ก็ส่งคนไปแจ้งเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อ ปรากฏตระกูลเซี่ยไม่มีผู้ใดสนใจเขา ผู้ใหญ่บ้านก็ไร้หนทาง จึงได้เปิดประชุมหารือกับคนในหมู่บ้านให้ทุกครอบครัวส่งอาหารมาให้พวกเขากิน
ต่อมาหันถงมาที่หมู่บ้าน ได้รู้เรื่องนี้ เขาไม่เพียงแต่ส่งของกินมามากมาย ยังเลือกคนรับใช้จากตระกูลหันส่งมารับใช้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่โดยเฉพาะ ต่อมาหันถงหาหมอทหารมาผ่าตัดรักษาเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้
การผ่าตัดครั้งนั้นเกือบเอาชีวิตเซี่ยอวิ๋นจิ่น แม้ว่าต่อมาเขารอดมาได้ แต่ขากลับมีบาดแผลน่าเกลียดราวกับไส้เดือนตัวหนึ่ง บาดแผลนั้นจะปวดอย่างที่สุดทุกครั้งที่ฝนตก
ตอนนั้นเพราะเรื่องนี้ทำให้เขากลายเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็กลายเป็นคนขี้ขลาดหวาดกลัวเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาได้รับการเลี้ยงดูมาไม่ดี สารอาหารไม่ครบ ดังนั้นจึงผอมและแคระแกร็น แม้ว่าต่อมาเติบโตขึ้นได้ แต่ก็ผอมแห้งอ่อนแอราวกับสตรี
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นบุตรชายเช่นนี้ก็ยิ่งโหดเหี้ยมเยียบเย็น พร้อมกับรู้สึกผิดต่อบุตรชาย ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่แต่งภรรยาอีกชั่วชีวิต ต่อมาเขาได้พบกับอ๋องเยียน อ๋องเยียนรู้ว่าเขาคือศิษย์น้องเฉินอิง จึงดูแลเขาเป็นพิเศษ
พอเขาสอบได้ตำแหน่งเจี่ยหยวนเข้าเมืองหลวงมาร่วมการสอบหุ้ยซื่อเช่นครั้งนี้ ก็ได้พบกับโจรปล้น ในความฝันหลินหรูเยว่ก็ปรากฏตัวออกมาช่วยเขาในครั้งนี้
แต่ตอนนั้นจิตใจเขาเยียบเย็น ไม่รับน้ำใจนาง และไม่สนใจนางแม้แต่น้อย
ต่อมาหญิงผู้นี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขารู้ความคิดนางได้ทันที แต่เขาไม่คิดแต่งภรรยา ดังนั้นจึงทำเป็นไม่เห็นการแสดงน้ำใจของหลินหรูเยว่
ต่อมาหญิงผู้นี้เปลี่ยนแผน หันไปเอาใจเจ้าหนูน้อยทั้งสี่แทน เพราะเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ขาดความรัก ร้องหาความรักอย่างมาก พอเขารู้ตัว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ชอบหลินหรูเยว่ไปแล้ว เอาแต่ต้องการให้เขาแต่งกับหลินหรูเยว่
เขาไม่แต่ง พวกเขาก็เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด พากันอดอาหาร ต่อมาเขาแต่งกับหลินหรูเยว่เพื่อเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ แต่กลับไม่แตะต้องนาง ในเมื่อนางอยากเป็นมารดาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ก็ให้นางได้เป็น แต่เขาไม่สนใจนาง ดังนั้นจึงไม่แตะต้องนาง
เดิมเขาคิดว่านางหากจริงใจดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ดี ก็จะเป็นสามีภรรยากับนางแต่ภายนอก ผู้ใดจะรู้ว่าหญิงผู้นี้กลับมีจิตใจโหดเหี้ยมชั่วร้าย เพราะเขาไม่แตะต้องนาง ในใจก็เกิดความแค้น ถึงกับมีใจคิดทำร้ายเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
น่าแค้นใจที่ตอนนั้นเขาทุ่มเทกับการทำงาน ไม่ทันได้สังเกตพฤติกรรมนาง พอพบเรื่องนี้ ก็พบว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ถูกนางอบรมจนเอาแต่ใจไร้ขื่อไร้แป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยังมั่นใจคิดว่านางรักพวกเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับรู้สึกรับรู้ได้ถึงความคิดชั่วร้ายของนาง เห็นชัดว่า นางคิดจะตามใจให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก่อเรื่อง เลี้ยงดูพวกเขาให้เป็นดังคนพิการที่ไม่รู้จักเรียนรู้ศึกษาวิชา
นางคิดว่ารอให้ถึงตอนนั้น เขาก็จะแตะต้องนาง มีลูกของพวกเขาเอง น่าเสียดายเรื่องทั้งหมดถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นอ่านทะลุปรุโปร่ง เขาสั่งการให้คนกรอกยาไร้บุตรให้นางชามหนึ่ง แม้ไม่แตะต้องนาง เขาก็ต้องให้นางได้เจ็บปวด หากไม่ใช่เพราะเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบนาง เขาก็คงสังหารนางทิ้งไปนานแล้ว
เรื่องราวในความเดิมของเซี่ยอวิ๋นจิ่นต่อเนื่องมาถึงตรงนี้ก็หยุดลง เพราะตอนนั้นลู่เจียวจุมพิตเขา ขัดขวางเรื่องราวถัดไปในฝันของเขา
“เจียวเจียว โชคดีที่ได้พบกับเจ้า หากไม่ใช่ว่าได้พบกับเจ้า เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็จะต้องกลายเป็นคุณชายเสเพลไม่เรียนรู้วิชา พวกเขาเช่นนั้นต้องก่อเรื่องนำภัยมาสู่ตนเองเป็นแน่ หากพวกเขาเกิดเรื่อง ข้าก็ต้องช่วยพวกเขาแก้แค้น ถึงตอนนั้นข้าเองก็จะมีจุดจบไม่ดีเช่นกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโชคดีที่ลู่เจียวมา เพียงแต่เรื่องราวที่ลู่เจียวเขียนในจดหมายถึงเขาก่อนหน้านี้ บอกว่าโลกของพวกเขาคือโลกในนิยายเล่มหนึ่ง เขายังรู้สึกตกใจอย่างมาก พวกเขาถึงกับมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในนิยายเล่มหนึ่ง เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
“เจียวเจียว ตอนนี้โลกที่พวกเราอยู่ เป็นโลกในนิยายเล่มหนึ่งจริงหรือ”
ลู่เจียวอมยิ้มมองเขากล่าวว่า “ใช่ แต่แม้ว่านี่เป็นนิยายเล่มหนึ่ง แต่ก็เป็นโลกที่มีชีวิต พวกเราเป็นคนที่มีเลือดเนื้อและชีวิตแท้จริง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้ามองสตรีข้างกาย แววตาและหัวใจอัดแน่นไปด้วยความรัก เขาจุมพิตริมฝีปากนางอย่างอ่อนโยน
“เจียวเจียว ขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้าที่มาอยู่ข้างกายพวกเรา”
ลู่เจียวยิ้มตอบรับจุมพิตเขากลับไปทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าตอนนี้พวกเราน่าจะทำลายเรื่องราวเดิมในนิยายไปแล้ว เจ้าน่าจะไม่ต้องถูกเรื่องราวในนิยายบังคับแล้ว เจ้ารีบลองดู คิดว่าตนเองจะสังหารหลินหรูเยว่ ดูว่าพอคิดเช่นนี้แล้วจะเกิดแรงสะท้อนกลับจากนิยายหรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบทำตามคำลู่เจียว คิดแล้วก็ปรากฏว่าไม่มีปฏิกิริยาแม้สักนิด
ยามนี้เขาดีใจได้อย่างแท้จริงแล้ว กอดลู่เจียวกล่าวอย่างดีใจว่า “เจียวเจียว ไม่เป็นไรแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ถูกแรงสะท้อนกลับแล้ว”
ลู่เจียวย่อมต้องพลอยดีใจไปด้วย ยิ้มพลางพยักหน้า “อืม วันหน้าพวกเราจะไม่แยกจากกันอีก”
นางกล่าวจบ พลันคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาก็ผลักเซี่ยอวิ๋นจิ่นออก ลุกขึ้นนั่ง
“ในเมื่อวันหน้าพวกเราจะอยู่ร่วมกันจริงๆ แล้ว ข้าต้องบอกกับเจ้าเรื่องหนึ่ง”
ท่าทางลู่เจียวเคร่งขรึมทำเอาเซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที เขาพลิกตัวลุกขึ้นนั่งมองนาง “เจียวเจียว เจ้าว่ามา”
“ตอนนี้พวกเรากลายเป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว วันหน้ามีเรื่องอันใดไม่อาจปิดบังอีกฝ่าย และห้ามบอกว่าหวังดีกับอีกฝ่าย สิ่งที่เจ้าว่าดีไม่ได้หมายความว่าดีต่อข้าจริง ก็เหมือนครั้งก่อนเจ้าพบหลินหรูเยว่ที่หอปาซ่าน เจ้าไม่บอกข้า ปรากฏข้าเอาแต่คิดเหลวไหล ในใจข้าเจ็บปวดมาก แต่ข้าเองก็ไม่อาจเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องในนิยายพวกนั้น ไม่ได้ไปถามเจ้า ในฐานะสามีภรรยา พวกเราจะต้องทำถึงขั้นเปิดเผยซื่อสัตย์ต่อกันทุกเรื่องให้ได้ ไม่ว่าเรื่องใดไม่อาจปิดบัง”
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ร่วมกันแล้ว แต่เส้นทางวันหน้ายังอีกยาวไกล การเปิดเผยซื่อสัตย์ต่อกัน จึงจะทำให้พวกเขาเดินร่วมทางกันต่อไปได้ยิ่ง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินลู่เจียวก็รีบแสดงท่าที “เจียวเจียววางใจ วันหน้าพบเจอเรื่องอันใด ข้าก็จะหารือกับเจ้าทุกเรื่อง”