Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 444


ตอนที่ 444 แอบเปลี่ยนหนังสือหย่า

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ได้ปฏิเสธ ทุกคนเดินเข้าบ้านตระกูลเซี่ย

เดิมหลินตงประคองเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปเรือนด้านหน้า เฝิงจือประคองลู่เจียวไปเรือนด้านหลัง ปรากฏเซี่ยอวิ๋นจิ่นยืนยันจะตามลู่เจียวไปเรือนด้านหลัง หลินตงได้แต่ประคองเขา พาทั้งสองคนไปส่งห้องเรือนด้านหลัง

ยายเฒ่าชิวเห็นทั้งสองคนดื่มไปมาก ก็รีบสั่งการหลินอันไปห้องครัวให้ฮวาเสิ่นเตรียมน้ำแกงแก้เมาให้ทั้งสองคนคนละชาม

หลินอันรีบวิ่งไปห้องครัวให้ฮวาเสิ่นต้มน้ำแกงแก้เมา

เฝิงจือเกลี้ยกล่อมให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไป ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งสองคนนอนพักผ่อนบนเตียงสักครู่

แต่พอทั้งสองคนนอนลงบนเตียงกลับไม่ได้หลับ กำลังลืมตาโพลงสบตากันอยู่

เซี่ยอวิ๋นจิ่นตะแคงไปมองลู่เจียว สีหน้าเต็มไปด้วยความยินดีและเบิกบานใจ “เจียวเจียว เจ้างามจริง”

ลู่เจียวยิ้มตอบว่า “เจ้าก็หล่อจริง เป็นแบบที่ข้าชอบ”

หากเป็นยามปกติ ลู่เจียวไม่มีทางกล่าวเช่นนี้ แต่ตอนนี้สมองนางเลอะเลือน ดังนั้นจึงกล่าวไปตามสัญชาตญาณ

แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้เมาจนเลอะเลือน พอได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ดีใจอย่างที่สุด “จริงหรือ”

ลู่เจียวเห็นเขาดีใจก็พยักหน้าเต็มแรง “ใช่ ข้าชอบคนหน้าตาแบบเจ้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบยิ้มกล่าวว่า “ข้าก็ชอบแบบเจียวเจียว ดังนั้นเจ้าไม่ต้องลดน้ำหนักแล้ว อย่างนี้ดีมาก”

เขากล่าวจบก็ยื่นมืออกไปลูบใบหน้าลู่เจียว “มีเนื้อหนังนิดหน่อยทั้งน่ารัก ใบหน้ากระจ่างสว่างสดใส ผอมแห้งไร้เนื้อหนังไม่สวยสักนิด”

ลู่เจียวก็ยกมือลูบใบหน้าตนเองด้วยสัญชาตญาณ สีหน้าสงสัย “เช่นนี้หรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่ เช่นนี้”

เขากล่าวจบ คิดถึงว่าตอนนี้ลู่เจียวไม่ใช่ลู่เจียวคนเดิม ก็อดไล่ถามต่อไม่ได้ว่า “เจียวเจียว แท้จริงแล้วหน้าตาเจ้าเป็นอย่างไร”

“ก็เหมือนตอนนี้ แต่ผอมมาก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังก็อดปวดใจไม่ได้ ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าลู่เจียว “วันหน้าอย่าลดน้ำหนักอีกเลย ผอมไปไม่สวย”

ลู่เจียวรับปากไปอย่างนั้น “ได้สิ”

นางกล่าวจบรู้สึกว่าตนเองเริ่มง่วง ดังนั้นตาจึงเริ่มปิด

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่รู้สึกง่วง กล่าวต่อว่า “เจียวเจียว วันหน้าข้าจะดีกับเจ้าไปชั่วชีวิต ไม่รับอนุ ไม่มองหญิงอื่น ไม่ทำให้เจ้าโมโห และไม่ดูแคลนเจ้า ข้าจะสอบเคอจวี่เป็นขุนนาง วันหน้าผู้อื่นเห็นเจ้าก็ต้องให้ความเคารพเจ้า ไม่กล้าดูแคลนเจ้าอีก”

แม้ว่าลู่เจียวจะง่วง แต่ได้ยินวาจาเหล่านี้ของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ดีใจมาก ตอบกลับทันทีว่า “ดีเลย เจ้าพูดแล้วต้องทำได้นะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเต็มแรง “ข้าต้องทำได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเจียวเจียว พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ”

กล่าวจบเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พลันคิดถึงว่าหนังสือหย่าฉบับนั้นว่ายังอยู่ในมือลู่เจียว อย่างไรก็ทำให้เขารู้สึกไม่อาจวางใจได้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันกระซิบถามว่า “เจียวเจียว เจ้าซ่อนหนังสือหย่าไว้ที่ไหน”

ลู่เจียวยามนี้สมองเลอะเลือน ลืมคิดให้มาก พอได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นถาม ก็ควักลงไปในแขนเสื้อด้วย สัญชาตญาณ ความจริงก็คือคว้าหนังสือหย่าออกจากห้วงอากาศ คว้าหนังสือหย่าออกมาได้ก็โบกไปมา “อยู่นี่ไง ข้าเก็บไว้อยู่นี่ไง”

ยามนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่มีเวลาคิดว่าทำไมหนังสือหย่าถูกเก็บไว้ในแขนเสื้อตลอดเวลา

ตอนนี้เขาเห็นหนังสือหย่า ก็รู้สึกเพียงแค่ใจเต้นโครมครามรุนแรง

หากเขาเอาหนังสือหย่าคืนมา วันหน้าเจียวเจียวคิดจากไปก็ไปไม่ได้ ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรจึงจะหลอกเอาหนังสือหย่านี่มาได้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้นด้วยสัญชาตญาณว่า “เจียวเจียว ข้าดูหนังสือหย่าหน่อยได้ไหม”

ลู่เจียวตาปิดไปแล้ว พอได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นถามก็อู้อี้ตอบว่า “เอาไปๆ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบยื่นมือไปรับหนังสือหย่ามาเปิดออก เป็นหนังสือหย่าที่ก่อนหน้านี้เขามอบให้ลู่เจียว

เวลาที่ระบุไว้ในหนังสือหย่า แม้ว่าอีกครึ่งปี แต่ตอนนี้นับดูแล้วก็เหลือแค่ไม่ถึงสองเดือน ก็หมายความว่าอีกสองเดือน พวกเขาก็จะเป็นคนที่หย่าขาดจากกันแล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้วแม้แต่น้อย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันทีด้วยสัญชาตญาณ

เขาหยิบหนังสือหย่ามาถือไว้ การเคลื่อนไหวก็ไวกว่าสมองสั่งการ

เขาถือหนังสือหย่า เดินไปที่โต๊ะในห้องลงนั่ง

ยามนี้เขารู้สึกว่าใจเต้นแรงมาก เหมือนดังว่าเขาเป็นโจร

นอกประตู เฝิงจือกำลังยกน้ำแกงแก้เมาเข้ามา แต่เพราะในห้องมีคุณชายอยู่ ดังนั้นเฝิงจือต้องเคาะประตูก่อน

เสียงเคาะประตูทำเอาเซี่ยอวิ๋นจิ่นสะดุ้งตกใจ เขาแค่นเสียงฮึเยียบเย็นอย่างโมโหถามออกไปว่า “มีอะไร”

เฝิงจือเอ่ยขึ้นเสียงเบายิ่งว่า “คุณชาย น้ำแกงสร่างเมามาแล้ว”

“เจ้ารอสักครู่”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นในใจตื่นเต้น มือที่หยิบพู่กันก็สั่น เป็นนานกว่าจะเขียนหนังสือหย่าอีกฉบับออกมาได้ จากนั้นก็เขาเอาหนังสือหย่าเดิมไปซ่อน

สุดท้ายเขาเอาหนังสือหย่าที่เขียนใหม่ปีนขึ้นเตียงไป ยกมือผลักลู่เจียว

ลู่เจียวดื่มสุราผลไม้มากเกินไป จึงเริ่มรู้สึกปวดหัว แม้ว่าหลับตาแต่ไม่ได้หลับ

ยามนี้ถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นผลักก็ตื่น เพียงแต่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก “ทำอะไร”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจียวเจียว นี่คือหนังสือหย่า รีบเก็บสิ”

ลู่เจียวไม่ได้หยิบมามอง ยื่นมือรับมาก็ยัดใส่แขนเสื้อไป นางหลับตาลงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางไม่อ่าน ในใจก็โล่งอก แต่เห็นสีหน้าลู่เจียวไม่ดีนัก เหมือนนอนหลับไม่สนิท ก็รู้ว่านางดื่มมากไปจนรู้สึกไม่สบายตัว จึงรีบเรียกว่า “เจียวเจียว เจ้าอย่าเพิ่งนอน ตื่นขึ้นมาดื่มน้ำแกงแก้เมาก่อน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็เรียกเฝิงจือที่อยู่นอกประตูว่า “เอาน้ำแกงแก้เมาเข้ามา”

“เจ้าค่ะ คุณชาย”

เฝิงจือเอาน้ำแกงแก้เมาข้ามา เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้นางวางไว้บนหัวเตียง

“เจ้าวางไว้ ข้าป้อนนางเอง”

“เจ้าค่ะ คุณชาย”

เฝิงจือรับคำแล้วก็วางสองชามเอาไว้ก่อนจะหันกายออกไป เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นยกชามหนึ่งมาแตะดูว่าร้อนหรือไม่ จากนั้นก็ป้อนลู่เจียวดื่ม

เฝิงจือเห็นแล้วก็อดยิ้มบางไม่ได้ กล่าวตามตรง คุณชายดีกับเหนียงจื่อจริงๆ เหนียงจื่อควรอยู่กับคุณชายต่อไป

แต่ระยะนี้เหมือนความสัมพันธ์ทั้งสองคนจะดีขึ้นมาก

เฝิงจือเดินออกไปอย่างดีใจ

ในห้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นป้อนลู่เจียวดื่มน้ำแกงแก้เมาแล้ว ตนเองก็ดื่มอีกชาม จากนั้นก็เขาดึงลู่เจียวลงนอนบนเตียง

คิดถึงว่าตนเองเปลี่ยนหนังสือหย่าลู่เจียว เขาผล็อยหลับไปทั้งที่เป็นห่วงแต่ก็โล่งอก

ทั้งสองคนหลับไปจนถึงฟ้ามืดจึงได้ตื่นขึ้นมา

หน้าเตียง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มองพวกเขาอย่างเป็นห่วง

ยามนี้ทั้งสองคนสร่างเมาแล้ว พอเห็นท่าทางเป็นห่วงของลูกๆ ลู่เจียวก็รู้สึกเขิน กล่าวรับรองกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่า “วันหน้าแม่จะไม่ดื่มมากอีกแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง”

นางคิดไม่ถึงว่าสุราผลไม้จะฤทธิ์แรงเพียงนี้ ตอนดื่มรู้สึกเพียงแค่อร่อยมาก ไม่ได้ทันสังเกตสักนิด

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็รับรอง “วันหน้าพ่อจะดื่มให้น้อยหน่อย”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยิ้มพลางพยักหน้า “อืม ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่เป็นไรก็ดี พวกท่านนอนมาตลอดบ่าย หิวไหม ลุกขึ้นมากินอะไรสักหน่อยนะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้า ทั้งสองคนลุกขึ้นพร้อมกัน

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version