ตอนที่ 443 ขายหน้าจริง
ท่านย่าหลิวกล่าวจบ คนโดยรอบก็พากันอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีคนตบมือชมว่า “เยี่ยม”
พวกนายอำเภอหูกับสวี่เซี่ยนเว่ยมองทุกอย่างด้วยความตกใจ พวกเขาเป็นบิดามารดาหลิวโส่วฝู่ ตอนนี้บิดามารดาหลิวโส่วฝู่รับลู่เจียวเป็นหลานสาว เช่นนั้นโส่วฝู่แคว้นต้าโจวก็คือบิดาบุญธรรมลู่เจียว
นายอำเภอหูกับสวี่เซี่ยนเว่ยมองลู่เจียวอย่างนึกอิจฉา สุดท้ายก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยซิ่วไฉดวงดีไม่เลว อืม ไม่เพียงแต่ได้รู้จักอ๋องเยียน ภรรยาเขายังรักษาขุนพลหวังอะไรนั่นหาย ตอนนี้ยังรักษาบุตรชายโส่วฝู่แคว้นต้าโจวหาย วันหน้าเขาจะก้าวเดินไปได้อย่างราบรื่นเพียงใดกัน
นายอำเภอหูกับสวี่เซี่ยนเว่ยนึกอิจฉาดวงเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในใจก็แอบตัดสินใจแล้วว่าวันหน้าจะต้องเกาะติดเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้ดี
ลู่เจียวนึกลังเล หากท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวเป็นคนธรรมดา นางรับไว้ก็ไม่เป็นไร แต่คนเขาเป็นถึงบิดามารดาโส่วฝู่แคว้นต้าโจว หากนางรับก็เท่ากับทะเยอทะยานไปสัมพันธ์กับโส่วฝู่แคว้นต้าโจว เหมือนไม่ค่อยจะดีนัก
ลู่เจียวกำลังลังเล ท่านย่าหลิวยิ้มมองนาง “เจียวเจียวไม่ยินยอมรับยายแก่อย่างข้าหรือ”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่ใช่ เพียงแต่…”
ท่านย่าหลิวรู้นางกังวลสิ่งใด ก็คงเพราะเจ้าลูกไม่ได้เรื่องของนาง
แต่ท่านย่าหลิวขี้เกียจจะคิดมากกับเรื่องบุตรชายตนเอง นางกล่าวอย่างเอาแต่ใจว่า “ตกลงเช่นนี้แล้ว วันหน้าเจ้าก็คือหลานสาวข้า มา เรียกท่านย่าสักคำ”
ท่านปู่หลิวเองก็เดินออกมา พยักหน้ากล่าวว่า “ใช่ วันหน้าเจ้าก็คือหลานสาวข้า”
ความจริงท่านปู่หลิวท่านย่าหลิวทำเช่นนี้ก็มีจุดมุ่งหมายของตนเอง พวกเขาอายุมากแล้ว ไม่แน่ว่าวันไหนจากไป หลานชายตนเองจะทำอย่างไร ความสัมพันธ์เขากับบิดาและแม่เลี้ยงผู้นั้นดังคนมีความแค้นต่อกัน วันหน้าพวกเขาจากไปแล้ว ก็เหลือเขาตัวคนเดียวอยู่บนโลกนี้
ดังนั้นท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวก็คิดรับลู่เจียวเป็นหลานสาว วันหน้ากับจะได้ไปมาหาสู่กับหลานชายตนเอง ประเด็นก็คือหลานชายตนเองก็ยอมสนิทสนมกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียว นี่เป็นเรื่องดี
สุดท้ายลู่เจียวได้แต่ยอมรับท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิว นางโขกศีรษะให้ทั้งสอง ทั้งสองมอบกำไลหยกเนื้อดีเลิศคู่หนึ่งให้นางเป็นของขวัญ
หลิวจื่อเหยียนเองก็เข้ามาเรียกลู่เจียวว่าพี่เจียว ยังเรียกเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่าพี่เขย
หลิวจื่อเหยียนเป็นดังน้องชายที่เลื่อมใสเซี่ยอวิ๋นจิ่น ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลายเป็นพี่เขยบุญธรรมเขา เขาดีใจอย่างบอกไม่ถูก รอยยิ้มบนใบหน้าก็เบิกบานกว่าปกติ
ท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวเห็นแล้วก็ดีใจ รู้สึกว่าหลานสาวคนนี้รับไว้ไม่เสียเปล่า สองผู้เฒ่าไม่เพียงแต่ดีกับลู่เจียว ยังรักเอ็นดูเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นพิเศษ
งานเลี้ยงตระกูลหลิวครึกครื้นอย่างมาก
ปกติชาวบ้านในอำเภอไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับนายอำเภอหู แต่วันนี้ได้พบกัน ก็พบว่านายอำเภอก็เป็นคนที่ดีเช่นกัน ยังใกล้ชิดสนิทสนมง่ายอีกด้วย
ดังนั้นแต่ละคนก็ยกสุราเข้ามาคารวะนายอำเภอหู
เพราะนายอำเภอหูมีความสุขมาก จึงไม่ปฏิเสธสักคน สุดท้ายดื่มจนเมามาย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งสองคนไม่ได้ดื่มเหล้าขาว แต่ดื่มสุราผลไม้ที่ท่านย่าหลิวหมักเอง รสหวานอร่อยมาก
เดิมเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวคิดว่าไม่เมา ปรากฏทั้งสองคนดื่มกันจนรู้สึกเมาอยู่บ้างแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงยหน้ายิ้มมองลู่เจียว “เจียวเจียว เจ้าอย่าเอาแต่โยกไปโยกมาสิ”
ลู่เจียวค้อนใส่เขาอย่างไม่พอใจ “ข้าไม่ได้โยก เจ้านั่นแหละโยก และข้ายังรู้สึกว่าเจ้ามีสองคนไหม หรือว่าเจ้าเองก็มีแฝด”
วาจาเมาสุราของลู่เจียว ผู้อื่นไม่คิดจริงจัง แต่สีหน้ามือปราบจ้าวร่วมโต๊ะพลันแปรเปลี่ยน จากนั้นก็เงยหน้ามองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทันที พบว่าใบหน้าทั้งสองคนแดงระเรื่อ เหมือนว่าดื่มสุราผลไม้ไปมากจนเมามายพอสมควรแล้ว
มือปราบจ้าวแอบโล่งอก ยิ้มกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่นกับลู่เหนียงจื่อเหมือนดื่มเมาแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพอได้ฟังมือปราบจ้าวก็ไม่พอใจ หันหน้าไปกล่าวว่า “เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล พวกเราไม่ได้เมา”
กล่าวจบทั้งสองคนก็สบตายิ้มให้กัน “พวกเราไม่เมาใช่ไหม”
“ใช่”
ยามนี้งานเลี้ยงถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ท่านปู่หลิวท่านย่าหลิวเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเริ่มเมา ก็เอ่ยว่า “ประคองพวกเขาสองคนไปนอนพักในห้องบ้านเราสักครู่ ดื่มน้ำแกงสร่างเมาสักชาม”
ท่านปู่หลิวเพิ่งกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ยู่ปากปฏิเสธ “ไม่ ไม่ต้อง ข้าไม่ชินกับการนอนบ้านผู้อื่น ข้าจะกลับบ้าน บ้านพวกเรา”
เขาพูดแล้วก็ลุกขึ้นยืน ยังยื่นมือไปประคองลู่เจียว
ลู่เจียวลุกขึ้นทันทีด้วยสัญชาตญาณ ยิ้มให้ท่านปู่หลิวท่านย่าหลิวกล่าวอำลา “ท่านปู่ ท่านย่า พวกเรากลับก่อน ไว้จะมาเป็นเพื่อนคุยกับพวกท่านใหม่”
“ได้ ได้ พวกเจ้ารีบเข้ามาประคองพวกเขาหน่อย”
ท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวสั่งการเฝิงจือกับหลินตงให้เข้ามาประคองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งมาเร็วกว่าผู้ใด สี่คนแบ่งออกซ้ายขวาเข้าประคองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว
“ท่านพ่อ พวกเราประคองท่านพ่อ”
“ท่านแม่ พวกเราประคองท่านแม่”
ทุกคนในที่นั้นแทบอยากจะร้องไห้ พากันพูดจากเกลี้ยกล่อมเด็กๆ “พวกเจ้าตัวแค่นี้ จะประคองท่านพ่อท่านแม่ได้อย่างไร ให้พี่เฝิงจือเจ้ากับพี่หลินตงประคองพวกเขาเถอะนะ”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เงยหน้ามองท่านพ่อกับท่านแม่แล้วก็เห็นด้วย
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ยอมให้หลินตงประคอง เขาประคองลู่เจียวเอง ทั้งสองคนเดินออกไปด้วยกัน
แม้ว่าเมาเล็กน้อย แต่ยังไม่ได้เมาจนเลอะเลือน ดังนั้นเดินเหินก็ยังไม่เป็นปัญหา
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบตามหลังพวกเขาไป กลัวว่าบิดามารดาจะหกล้ม คอยเตือนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านระวังหน่อย ระวังหน่อย”
“ช้าหน่อย ไม่ต้องรีบเดิน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวหันหน้าไปมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยิ้มกล่าวว่า “พวกเจ้าสี่ตัวน้อยบ่นราวกับคนแก่ พ่อกับท่านแม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่เป็นอะไรหรอก”
“แม่กับท่านพ่อไม่เมา พวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง ดู หน้าย่นไปหมดแล้ว ไม่หล่อแล้ว รีบยิ้มให้ท่านแม่ดูทีหนึ่ง”
ลู่เจียวจ้องมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบฉีกยิ้มให้มารดาตนทันที
ลู่เจียวพยักหน้าพอใจ ยื่นมือไปบีบแก้มเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปถามไปว่า “เจ้าลูกชายให้แม่บีบแก้มหน่อย”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบเงยหน้าให้มารดาบีบแก้มน้อย ๆ ของตนเองทันที
แม้ว่าลู่เจียวบีบแก้มน้อยของลูกทั้งสี่ แต่ไม่ได้ออกแรงมาก ดังนั้นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ไม่เจ็บ
ลู่เจียวบีบแก้มเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกหึง ยื่นมือไปปัดมือนางทิ้ง ยู่ปากส่งเสียงอู้อี้ “บีบแก้มพวกเขาทำไมกัน มาบีบแก้มข้านี่”
กล่าวจบยังคว้ามือลู่เจียวมาวางที่แก้มตน
ลู่เจียวเริ่มมึนงง ไม่ได้มีสติเหมือนยามปกติ พอได้ฟังคำเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็บีบแก้มเขา
ปรากฏคนหนึ่งยืนนิ่งให้บีบ อีกคนบีบสนุกเอาเรื่อง
เฝิงจือกับพวกหลินตงรู้สึกทนดูภาพนี้ไม่ได้ รีบเข้าไปประคองทั้งสอง “คุณชาย เหนียงจื่อ พวกเรากลับกันเถอะ”
จะบีบ พวกท่านสองคนก็กลับห้องไปบีบได้ไหม ขายหน้าหมดแล้ว
