Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 615

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 615

ตอนที่ 615 คนเราไม่อาจดูเพียงภายนอก

ขบวนคนตระกูลนิ่งจากไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่คนตระกูลอื่นยังคงเฝ้าอยู่นอกประตู คนไม่น้อยส่งคนไปสืบข่าวเซี่ยอวิ๋นจิ่นทั้งครอบครัว เหตุใดครอบครัวพวกเขาจึงได้เข้าไปในจวนมหาบัณฑิตหลิวได้

ทุกอย่างนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวล้วนไม่รู้ ยามนี้พวกเขาเดินตามหลังพ่อบ้านตระกูลหลิวเข้ามายังเรือนหลักของซีเฟิงย่วน ในเรือนหลักมีบ่าวรับใช้ไม่น้อย บ่าวรับใช้เหล่านี้พอเห็นครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว ต่างก็มีสีหน้าตกใจ จ้องมองพวกเขาเป็นนาน จนเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพาเด็กๆ เดินไป พวกนางจึงได้สติพากันหันมาซุบซิบกันขึ้นมาทันที

“ไหนว่าเป็นหมอเก่งกาจ เหตุใดเป็นครอบครัวที่แต่ละคนหน้าตาดีกันเช่นนี้ ราวกับก้าวออกมาจากภาพวาดเลย”

“หรือว่าพวกเขาเป็นญาติมหาบัณฑิตหลิว แต่เหตุไม่เคยเห็นมาก่อน”

“ก่อนหน้านี้มหาบัณฑิตหลิวไม่ได้ให้พ่อบ้านหลิวเชิญหมอเข้ามาหรือ พวกเขาจะใช่หมอหรือไม่”

“เป็นไปไม่ได้ ข้าดูแล้วผู้ชายหน้าตารูปงามสง่า ผู้หญิงกุลสตรีงดงาม พวกเขาจะเป็นหมอได้อย่างไร”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวตามพ่อบ้านตระกูลหลิวเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของเรือนนอนตะวันออก ได้พบกับมหาบัณฑิตหลิว

มหาบัณฑิตหลิวแค่เห็นก็จำเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นคือคนที่เขาเลือกให้เป็นเจี่ยหยวนแห่งเมืองหนิงโจว เขาจะจำไม่ได้ได้อย่างไร

แต่ยามนี้เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขากลับขมวดคิ้วไม่พอใจ มองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้ามาได้อย่างไร”

มหาบัณฑิตหลิวแค่เห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ด้านหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ความรู้สึกก็บอกเขาทันทีว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาเพื่อให้เขารับบุตรชายเขาเป็นศิษย์ ยามนี้มหาบัณฑิตหลิวไม่มีกะจิตกะใจรับศิษย์ เขาคิดแต่จะหาคนมารักษาอาการป่วยภรรยาตน ภรรยาแก่เฒ่าของเขาติดตามร่วมทุกข์กับเขามานานไม่น้อย

โดยเฉพาะต่อมาเขารับอนุอีกสอง นางต้องทนรับทุกข์อีกไม่น้อย ทุกครั้งที่มหาบัณฑิตหลิวคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ก็โมโหตนเอง ตำหนิตนเอง ในใจก็ยิ่งคิดหาคนมารักษาอาการป่วยภรรยาแก่เฒ่าของตนให้หาย

เดิมเขาอายุแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาไป่ลู่ แต่เพื่อรักษาภรรยา เขาจึงได้ขอลาออกจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษา พานางกลับบ้านเกิดที่เมืองหนิงโจว มหาบัณฑิตหลิวเดิมคิดว่าตนเองพาภรรยากลับเมืองหนิงโจวแล้ว ภรรยาย่อมจะดีกว่าเมื่อก่อน ผู้ใดจะรู้ว่ากลับแย่ลงอีก

ดังนั้นยามนี้อารมณ์เขาจึงย่ำแย่อย่างมาก อย่าว่าแต่รับศิษย์ ยามนี้เห็นผู้ใดก็ขัดตาไปหมด

แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาในตอนนี้ มหาบัณฑิตหลิวย่อมไม่พอใจเขา วาจาย่อมมีแต่ความหงุดหงิดไม่พอใจ น้ำเสียงแววตามีแต่ความรำคาญใจ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่ได้ชักสีหน้าใส่ คนผู้นี้เป็นคนไม่เลว ไม่ใช่พวกขี้ประจบสอพลอ

“อวิ๋นจิ่นคารวะอาจารย์ผู้มีพระคุณ”

นับได้ว่ามหาบัณฑิตหลิวเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของเซี่ยอวิ๋นจิ่น อย่างไรเขาก็เป็นคนเลือกให้เขาเป็นเจี่ยหยวน

มหาบัณฑิตหลิวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นเรียกขาน ก็แน่ใจว่าคนผู้นี้มาเพื่อสานสายสัมพันธ์ นำลูกๆ ตนเองมาฝากเป็นศิษย์เขา

“เอาละ รีบไปได้แล้ว ข้าไม่มีเวลาสนทนากับเจ้า”

เขากล่าวจบมองไปยังพ่อบ้านตระกูลหลิวด้านหลัง “เจ้าบอกว่าพาหมอที่ผ่าตัดต่อแขนให้ขุนพลหวังมาไม่ใช่หรือ หมอเล่า”

พ่อบ้านตระกูลหลิวชี้ไปที่ลู่เจียวด้านหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวว่า “ฮูหยินท่านนี้บอกว่าเป็นคนผ่าตัดแขนให้ขุนพลหวัง”

มหาบัณฑิตหลิวเงยหน้ามองไปยังลู่เจียวด้านหลังทันที จากนั้นหัวคิ้วก็ขมวดแน่น สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้นว่า “นี่คือฮูหยินข้าน้อย นามว่าลู่เจียว วิชาการแพทย์นางไม่เลวจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่เคยผ่าตัดต่อแขนให้ขุนพลหวัง ยังเคยรักษาอาการป่วยของท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่”

ทุกอย่างนี้ต้องใช้วิชาการแพทย์ที่เก่งกาจจึงจะรักษาได้ พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ย มหาบัณฑิตหลิวก็ตื่นตะลึง มองลู่เจียวทอดถอนใจกล่าวว่า “คนเราไม่อาจมองแต่ภายนอกได้จริงๆ ท้องทะเลไม่อาจหยั่งความลึก ร้ายกาจร้ายกาจ”

มหาบัณฑิตหลิวในฐานะบัณฑิตเหนือบัณฑิต สิ่งที่เลื่อมใสที่สุดก็คือคนมีความสามารถ ได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็มองลู่เจียวด้วยสายตาให้ความนับถืออยู่มาก เขามองลู่เจียวกล่าวว่า “เช่นนั้นก็รบกวนฮูหยินเซี่ยช่วยตรวจอาการให้ภรรยาข้าหน่อยแล้ว”

ลู่เจียวรีบยิ้มกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เกรงใจไปแล้ว ท่านเรียกข้าว่าลู่เจียวก็พอ ตามหลักแล้ว ท่านเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณท่านพี่ข้า ก็ควรเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของข้าด้วย”

นางกล่าวจบหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าหลิวบนเตียง ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวผ่ายผอมอย่างมาก ผมขาวโพลน แก้มตอบลึก และยังมีสีหน้าเหมือนทนรับความทุกข์ทรมานมาไม่น้อย ลู่เจียวพลันมีสีหน้าแปลกประหลาด

ตามหลักการแล้วฮูหยินผู้เฒ่าหลิวติดตามคนเช่นมหาบัณฑิตหลิว น่าจะได้รับดูแลรักษามาอย่างดีมาก เหตุใดนางจึงได้ดูอิดโรยเช่นนี้

ลู่เจียวมองฮูหยินผู้เฒ่าหลิวแล้วก็มองไปยังมหาบัณฑิตหลิว ถามอย่างอ่อนโยนว่า “เหตุใดฮูหยินผู้เฒ่าหลิวจึงชราภาพได้เช่นนี้”

พอลู่เจียวกล่าว ในใจท่านอาจารย์หลิวก็เจ็บปวดขึ้นมา เอ่ยอย่างปวดใจว่า “ทุกอย่างเป็นความผิดข้า ข้าทำให้นางอิดโรยแก่ชราเช่นนี้”

พอท่านอาจารย์หลิวกล่าว ในใจลู่เจียวก็เข้าใจกระจ่าง แน่ใจว่าเป็นเพราะนายผู้เฒ่ารับอนุ หากผู้หญิงปล่อยวางให้ผู้ชายรับอนุได้ก็ไม่เป็นไร ความจริงก็ไม่ได้มีอันใด มีชีวิตอย่างไรก็มีชีวิตไปอย่างนั้นดังเดิม

แต่หากผู้หญิงรักผู้ชายมาก แต่ผู้ชายกลับไปกกกอดอนุ สำหรับหญิงผู้นี้แล้วเรียกได้ว่าเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ชีวิตนางย่อมไม่มีทางมีความสุข ย่อมตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์

ลู่เจียวรู้กระจ่างแล้วก็หันเดินไปที่เตียง มหาบัณฑิตหลิวกลับให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยว่า “อวิ๋นจิ่น หากเจ้าไม่คิดทำร้ายจิตใจฮูหยินตน ก็อย่าได้รับหญิงอื่นเข้าจวน ที่ใดมีผู้หญิง ที่นั่นก็มีเรื่อง”

ฮูหยินมหาบัณฑิตหลิวเกิดที่เมืองหนิงโจว นิสัยค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ถนัดการแก่งแย่งในจวนหลัง แต่อนุที่เขารับเข้าจวนมากลับเติบโตในเมืองหลวง ชินชากับการแก่งแย่งในจวนหลัง ดังนั้นฮูหยินตนจึงเสียเปรียบอนุเหล่านั้น แต่ตอนนั้นเขายังไม่รู้ เอาแต่ตำหนินาง ทำให้นางทุกข์ใจอย่างมาก

มหาบัณฑิตหลิวไม่กล้าแม้แต่จะหวนคิดถึงช่วงเวลานั้น ทุกครั้งที่หวนคิดถึงก็คิดจะทุบตนเองให้ตาย แต่ในโลกนี้ไม่มียารักษาความสำนึกเสียใจภายหลังขาย ดังนั้นในฐานะคนที่ผ่านมาแล้ว มหาบัณฑิตหลิวจึงได้เอ่ยต่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นเช่นนี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบประสานมือรับคำสอนทันที กล่าวว่า “ศิษย์จดจำคำสอนอาจารย์ผู้มีพระคุณไว้แล้ว”

มหาบัณฑิตหลิวไม่สนใจอีกเขา หันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าหลิวบนเตียง

ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวนอนกลางวันตื่นแล้ว ยามลืมตามาเห็นคนข้างเตียง ก็ตกใจสะดุ้งถดตัวเข้าในเตียงทันที

ลู่เจียวกล่าวทักทายนางอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องตกใจ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่มาเยี่ยมท่านเท่านั้น”

ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวสูญเสียความทรงจำ และไม่ยอมพูดจา โมโหหงุดหงิดง่าย แต่ยังคงรับรู้แยกแยะเจตนาดีร้ายของคนได้ ดังนั้นนางเห็นสีหน้าลู่เจียวอ่อนโยน พูดคุยกับนาง ก็รู้สึกสงบลงมาก

ลู่เจียวยิ้มมองนาง ให้นางยื่นมือออกมาให้นางตรวจชีพจร

ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเองก็ยื่นมือออกมาอย่างเชื่อฟัง มหาบัณฑิตหลิวตกใจกล่าวว่า “หาได้ยากที่นางจะยินยอมให้ความร่วมมือ เมื่อก่อนนางไม่ยอมให้หมอตรวจชีพจร”

“แม้ว่านางสูญเสียความทรงจำ และไม่ยอมพูดจา แต่ยังคงรับรู้เจตนาได้ หากไม่หวังดีต่อนาง นางก็จะรับรู้ได้ จึงได้ระเบิดอารมณ์โมโหใส่”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version