Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 776


ตอนที่ 776 โง่เง่า

เซียวเหวินอวี๋คิดไปก็ยกมือกดหัวเผยอวี่ไว้ ให้นางขยับไปมาไม่ได้

จนกระทั่งยาในตัวเผยอวี่ค่อยๆ เจือจางลง นางก็ได้สติคืนมา

นางลืมตามาก็พบว่าตนเองยืนอยู่บนต้นไม้ และใต้ต้นไม้ก็ยังมีสาวใช้ตนเองไม่ไกลนัก เอ่ยเรียกอย่างระมัดระวัง “คุณหนู ท่านอยู่ที่ไหน คุณหนู ท่านอยู่ที่ไหน”

เผยอวี่ส่งเสียงเรียกด้วยสัญชาตญาณ เซียวเหวินอวี๋พบว่านางกำลังเคลื่อนไหว รีบยื่นมือไปอุดปากนางไว้อีกครั้ง เตือนน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “อย่าส่งเสียง”

เผยอวี่จึงได้สังเกตเห็นว่าข้างกายตนเองยังมีอีกคน นางตกใจหันไปมองก็พบแววตาในความมืดสลัว ชายหนุ่มกำลังมองนางด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

พอเห็นเขา เผยอวี่ก็พลันใจเต้นรัวขึ้นมาทันที นางจำได้ว่าคนที่ยืนข้างกายนางก็คือองค์ชายรองเซียวเหวินอวี๋ที่ฝ่าบาทเพิ่งจะต้อนรับกลับเข้าวัง

เดิมเผยอวี่ดีใจมาก แต่พอเห็นองค์ชายรองคว้ามือตนเองยืนอยู่บนต้นไม้ ยังอุดปากตนเองไว้ สีหน้าเผยอวี่ก็อดแปรเปลี่ยนไม่ได้ องค์ชายรองคิดทำอันใด เขาจะทำอันใดกับนาง

เซียวเหวินอวี๋มองออกว่าคุณหนูตระกูลผู้นี้เผยกำลังคิดอันใด เขาหรี่เสียงให้เบาลงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เก็บคืนความคิดของเจ้าซะ ข้าไม่ได้นึกสนใจเจ้า”

เขากล่าวจบก็หรี่ตามองเผยอวี่ กล่าวว่า “เผยโส่วฝู่เฉลียวฉลาดมีปัญญา เป็นขุนนางใหญ่แห่งแคว้นต้าโจว เหตุใดมีหลานสาวเลอะเลือนเช่นนี้ได้”

เผยอวี่ไม่เข้า จึงมองเขา “อันใดหรือ”

เซียวเหวินอวี๋กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าถูกคนวางยา เกือบจะทำลายความบริสุทธิ์ตนเองแล้ว”

เซียวเหวินอวี๋เห็นสาวใช้เผยอวี่กับหลินจิงเดินไปแล้ว เขาก็ดึงเผยอวี่ลอยตัวลงจากต้นไม้ พร้อมกับปล่อยมือจากปากนาง เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “รีบกลับไปงานเลี้ยง และอย่าได้บอกผู้ใดว่าคืนนี้ได้พบข้า”

เขากล่าวจบก็หันหลังก้าวออกจากงานเลี้ยงในวังไป

เผยอวี่มองตามแผ่นหลังชายหนุ่มรูปงามเย็นเยียบไปอย่างตื่นตะลึง คิดถึงวาจาเขาก่อนหน้านี้ ใจนางก็เต้นแรง ทั้งหวาดกลัวทั้งตื่นตระหนก และยังมีความหวานล้ำเล็กๆ

เผยอวี่เป็นหลานสาวตระกูลเผย แต่เล็กได้การอบรมมาอย่างดี ย่อมไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่นางไม่ได้ระวังตัวกับหลินจิงที่ดีกับนางมาตลอด หลินจิงจะเป็นคนลงมือกับนางจริงหรือ

สีหน้าเผยอวี่เย็นเยียบ หันหลังเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง

คืนนี้หากไม่ใช่องค์ชายรองช่วยเหลือ เกรงว่านางก็คงสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว ตระกูลเผยก็คงโดนคนหัวเราะเยาะไปด้วยเพราะนาง

ในใจเผยอวี่เกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ยามนี้งานเลี้ยงในวังมาถึงช่วงท้ายงานแล้ว ฮองเฮากับพระสนมซูเฟยและบรรดานางในวังหลังกลับไปแล้ว

องค์ชายใหญ่ไม่รู้ว่าหายไปไหน บรรดาขุนนางเห็นเชื้อพระวงศ์ไปกันแล้ว ก็พากันเตรียมตัวกลับ

ยามนี้เซียวเหวินอวี๋เดินเข้ามาในพระที่นั่ง ขุนนางด้านในพระที่นั่งเห็นเขาก็พากันถวายคำนับ

แม้แต่ขุนนางที่ไม่ให้ความสำคัญกับเซียวเหวินอวี๋ก็คำนับนอบน้อม

หากวันใดองค์ชายรองขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว หากตอนนี้พวกเขาไม่เคารพ ไม่ใช่เป็นการหาเรื่องให้อีกฝ่ายเอาไว้คิดบัญชีภายหลังหรือ

ดังนั้นที่ควรนอบน้อมก็ต้องนอบน้อม

“ถวายบังคมองค์ชายรอง”

“ฝ่าบาททรงพักผ่อนแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเหวินอวี๋สีหน้านิ่งเฉยไม่แปรเปลี่ยน ตอบรับคำขุนนางในราชสำนัก จากนั้นก็เดินไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว

ขุนนางโดยรอบเห็นเขาเช่นนี้ก็ พากันหลบไปอย่างรู้ความ บ้างก็เดินออกไป

เซียวเหวินอวี๋มองเซี่ยเหวินอวี้กับลู่เจียว อมยิ้มกล่าวว่า “ข้าส่งใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินเซี่ยออกจากวัง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้า “รบกวนองค์ชายรองแล้ว”

เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังคำพูดลู่เจียว ความจริงในใจเสียใจมาก แต่ตอนนี้เขาเป็นองค์ชายรอง ไม่เพียงแต่ฮองเฮากับองค์ชายใหญ่จ้องมองเขา ไทเฮาจ้าวก็จ้องมองเขา แม้แต่เสด็จพ่อที่เพิ่งจะรับเขาก็ล้วนกำลังดูท่าทีเขาต่อตระกูลเซี่ย

เซียวเหวินอวี๋ได้แต่ฝืนเก็บงำความเศร้าในใจ ยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “ฮูหยินเซี่ยเกรงใจไปแล้ว ท่านเลี้ยงดูข้ามา ข้าไปส่งท่านก็สมควรอยู่”

ขุนนางที่กำลังสังเกตการเคลื่อนไหวทางนี้ได้เห็นการกระทำขององค์ชายรอง แอบพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าองค์ชายรองจัดการเช่นนี้ดีมาก

แม้เขาเข้าวังเป็นองค์ชายรอง แต่ตระกูลเซี่ยเลี้ยงดูเขามา นับว่าเป็นบิดามารดาที่ได้เลี้ยงดู การปฏิบัติต่อบิดามารดาที่เลี้ยงดูมาอย่างดี จึงจะนับได้ว่าเขามีคุณธรรม

เซียวเหวินอวี๋ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกำลังเดินออกไป นอกประตู เซียวเจินก็พาคนก้าวเข้ามา

สองพี่น้องพบกันที่หน้าประตูพระที่นั่ง สองคนแอบสบตากัน แม้ว่าดูแล้วสีหน้าสุขุมเรียบเฉย แต่มีเพียงพวกเขาสองคนที่มองเห็นเงาแสงกระบี่ในแววตาอีกฝ่าย ระหว่างพวกเขาหากไม่ตายไม่มีวันเลิกรา

องค์ชายใหญ่เซียวเจินคิดไม่ถึงว่าหลินจิงจะทำพลาด สีหน้าเขาไม่ดีอย่างมาก แต่พอเห็นขุนนางโดยรอบ เขาก็ได้แต่พยายามระงับโทสะในใจตนเอง ทักทายกับคนรอบข้างด้วยสีหน้านิ่งสงบ

โดยเฉพาะเผยโส่วฝู่ตรงหน้า เขาแสดงท่าทีนอบน้อมอย่างยิ่ง

ตอนเซียวเจินคุยอยู่กับเผยโส่วฝู่ สายตากลับมองไปยังเผยอวี่หลานสาวตระกูลเผยคล้ายไม่ได้ตั้งใจ เผยอวี่เห็นสายตาเขาก็สะดุ้งเล็กน้อย เดิมนางกำลังคิดว่าเรื่องคืนนี้ ผู้ใดบงการให้หลินจิงทำ ตอนนี้ดูท่าเป็นไปได้มากว่าเป็นองค์ชายใหญ่

องค์ชายใหญ่คิดทำลายชื่อเสียงองค์ชายรองกับชื่อเสียงตระกูลเผยหรือ

เผยอวี่ได้ยินบิดาเคยเอ่ยถึงฮองเฮากับองค์ชายใหญ่ที่คิดดึงตระกูลเผยไปเป็นพรรคพวก ให้นายผู้เฒ่ารับใช้พวกเขา

แต่นายผู้เฒ่าเผยปฏิเสธทันที เขาจงรักภักดีเพียงแค่ฝ่าบาท ไม่อยากเข้าร่วมกับการแก่งแย่งของฝ่ายต่างๆ

ตอนนี้ดูท่าองค์ชายใหญ่แค้นใจตระกูลเผยแล้ว ดังนั้นจึงได้ให้ร้ายองค์ชายรองด้วยการส่งตระกูลเผยเข้าไปร่วมด้วย

หากเรื่องคืนนี้ทำสำเร็จ ไม่เพียงแต่องค์ชายรองเสื่อมเสียเกียรติ แม้แต่ตระกูลเผยเองก็เสื่อมเสียเกียรติ ไปด้วย

เผยอวี่คิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็อดสะดุ้งไม่ได้ ฮูหยินเผยยื่นมือไปดึงมือบุตรสาวตนเอง “อวี่เอ๋อร์ เป็นอันใด ไม่สบายหรือ”

เผยอวี่ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาก พยายามระงับสติอารมณ์ตนเองลง

แต่พอนางตามมารดานางขึ้นรถม้าก็ทนไม่ไหว พรั่งพรูเรื่องในคืนนี้ออกมาหมดสิ้น

สีหน้าฮูหยินเผยย่ำแย่ขึ้นมาทันที นางกัดฟันกรอดพลางด่าทอหลินจิงด้วยความโมโห

พร้อมกับแอบตำหนิตนเองที่ชะล่าใจ ความจริงนางใส่ใจการคบหาสหายของบุตรสาวมาตลอด ไม่ปล่อยให้บุตรสาวคบหากับเด็กสาวที่มีอุบายในใจพวกนั้นง่ายๆ แต่หลินจิงคบหาบุตรสาวนางมาหลายปี และเมื่อก่อนนางเองก็เคยสังเกตเห็นว่าหลินจิงเป็นคนไม่เลว

คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวเช่นนี้ถึงกับวางยาบุตรสาวตน

ฮูหยินเผยกลับถึงตระกูลเผย ก็รีบไปรายงานเรื่องนี้ต่อสามีนาง สามีนำเรื่องนี้ไปรายงานนายผู้เฒ่า

นายผู้เฒ่าเผยได้ฟังบุตรชายก็มีสีหน้าดำคล้ำลงทันที เขาคิดถึงเรื่องที่ฮองเฮากับองค์ชายใหญ่คิดดึงเขาไปเป็นพรรคพวก แต่ไม่สำเร็จ จึงคิดแก้แค้นพวกเขา องค์ชายใหญ่จิตใจคับแคบจริงๆ คนเช่นนี้หากได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว ย่อมไม่ใช่วาสนาแห่งแคว้นต้าโจว

นายผู้เฒ่าถอนหายใจหนักหน่วง สั่งการบุตรชายตนเองว่า “เรื่องคืนนี้ โชคดีที่องค์ชายรองช่วยเหลือ วันหน้าหากองค์ชายรองต้องการความช่วยเหลือ เจ้าก็แอบให้ความช่วยเหลือสักหน่อย”

“ขอรับท่านพ่อ”

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version