Skip to content

พลิกปฐพี 122-1

ตอนที่ 122-1

ผู้ชมที่ตกตะลึง!

ตุ้ม!

ควันสีดำที่ส่งกลิ่นเหม็น ได้ลอยออกจากหม้อ

ผู้ชมที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดอย่างท่านผู้อาวุโสขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ คนผู้นี้เป็นผู้ที่ทดสอบแล้วว่าพลังจิตสูงส่งที่สุดตั้งแต่ที่โรงโอสถสาขาย่อยก่อตั้งขึ้นมา หากได้รับความกระทบกระเทือนfhานจิตใจเพราะแพ้การประลองยาในครานี้ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในอนาคตของเขาหรือไม่

แต่ทว่า เรื่องนี้จะโทษใครได้เล่า

ท่านผู้อาวุโสที่ควบคุมการประลองส่ายหน้าช้า ๆ ด้วยความเสียดาย

เท่าที่เขาสัมผัสได้อายุอย่างมู่ชิงเกอ ไม่สามารถปรุงยาระดับสูงได้เป็นแน่แท้

สำหรับหัวหน้าโรงโอสถอย่างท่านหัว ท่านอาจารย์โหลว พวกท่านล้วนเก็บเกี่ยวประสบการณ์การปรุงยามาทั้งชีวิต จนได้ประสบความสำเร็จเช่นนี้ เจ้าเหมยจื่อจ้งถือเป็นอัจฉริยะที่พบได้ยากแล้ว และได้มีโอกาสใกล้ชิดกับการปรุงยามาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งมีท่านอาจารย์โหลวคอยพรํ่าสอน จึงได้มีผลงานดั่งเช่นทุกวันนี้ แล้วเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าล่ะ?

ยิ่งคิด ท่านผู้อาวุโสก็รู้สึกว่ามู่ชิงเกอไม่มีทางที่จะปรุงยาระดับสูงได้สำเร็จ แต่ว่า เขาก็ยังคงชื่นชมในตัวของมู่ชิงเกออยู่บ้าง เพราะว่าเขาอยู่ใกล้ที่สุดและเห็นทุกอย่างชัดเจนที่สุด

ล้มเหลวอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ หากเป็นคนปกติคงจะยอมแพ้ไปตั้งนานแล้ว และต้องแสดงอาการเสียดาย หากแต่เจ้าหนุ่มผู้นี้ กลับยังคงสงบและแน่วนิ่ง ไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าหากไม่ผิดพลาดก็ไม่ใช่เขา

บริเวณขอบอัฒจันทร์มีคนผู้หนึ่งที่ใช้ผ้าคลุมหน้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ เขาช่อนตัวเองอยู่ท่ามกลางผู้คน และสังเกตทุกอิริยาบทของมู่ชิงเกออย่างเงียบ ๆ เขาเข้ามาตอนที่มู่ชิงเกอพลาดในรอบแรก และเห็นว่ามู่ชิงเกอพลาดเป็นครั้งที่สอง รวมทั้งกำลังเตรียมใส่ยาชุดที่สามลงในหม้อ ในสายตาแฝงความตื่นเต้น

และในโรงโอสถอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนยากจะเข้าไปใกล้ได้ ในเรือนเล็กอันเงียบสงบ หัวซางซู่เองก็กำลังดูการประลองยาผ่านกระจกบานหนึ่ง

ในกระจกบานนั้นของเขา มู่ชิงเกอและซ่งอวี้หันหน้าเข้าหากันและต่างกำลังปรุงยา จนถึงขั้นที่สามารถเห็นใบหน้าและท่าทางของทั้งสองได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่มู่ชิงเกอปรุงยาชุดที่สาม ด้านของซ่งอวี้ได้ดำเนินมาถึงขั้นตอนการหลอมละลายซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

ในตอนนี้ เขาพยายามแยกประสาทเพื่อโจมตีมู่ชิงเกอได้บ้างแล้ว

“ศิษย์น้องมู่ นี่เป็นยาชุดสุดท้ายแล้ว มั่นใจหรือไม่ ให้ศิษย์พี่เป็นตัวแทนร้องขอความเห็นใจจากท่านผู้อาวุโสดีหรือไม่ ให้ท่านส่งคนไปเตรียมสมุนไพรมาเพิ่มอีกเสียหน่อย”

ท่านผู้อาวุโสบนเวทีประลองขมวดคิ้วเบาๆ และมองซ่งอวี้ด้วยสายตาที่ไม่สู้ดีมากนัก

การกระทำของเขา จะสร้างความกดดันให้กับมู่ชิงเกออย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้

แต่ว่า มู่ชิงเกอกลับไม่สนใจ และพูดกับท่านผู้อาวุโสว่า “ผู้อาวุโสไม่ต้องเป็นห่วงข้า ก็แค่เสียงสุนัขเห่าหอนก็เท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อข้าหรอก”

ในขณะที่พูด นางก็พลางโยนผงยาลงในหม้อ ท่าทางอันผ่อนคลายเช่นนั้น ทำให้ทุกคนต่างตื่นตระหนก

และต่างคิดว่า เขาปรุงยาเป็นจริง ๆ หริอไม่

โยนลงไปเช่นนี้ไม่กลัวหม้อหลอมระเบิดหรืออย่างไร!

แม้กระทั่งท่านผู้อาวุโสบนเวทีก็เป็นกังวลและอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยไปข้างหลังสองก้าว

แต่ว่าคำพูดของมู่ชิงเกอกลับทำให้เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง และพูดพลางกลั้นหัวเราะว่า “เจ้าหนุ่มนี่ช่างไม่ยอมคนเสียเลยจริง ๆ!”

“เจ้า! เจ้ากล้าด่าข้าว่าเป็นสุนัขเชียวหรือ” ซ่งอวี้พูดด้วยใบหน้าอันบิดเบี้ยว

มู่ชิงเกอมองเขาอย่างแนบนิ่งแวบหนึ่ง ราวกับกำลังขำที่เขายอมรับ “ข้าเพียงขอให้ศิษย์พี่ซ่งอย่าได้เป็นห่วงข้าระวังจะพลาดในตอนจบ”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของนาง ในหม้อของซ่งอวี้ก็มีเสียงดังขึ้น จากนั้น ก็มีกลุ่มควันสีดำลอยออกมา

“ห๊ะ! พลาดในตอนสุดท้ายอย่างนั้นหรือ!” ทุกคนต่างตกใจและส่งเสียงแสดงความตะลึงในทันที

“ฮ่าๆๆๆ! ใครบอกให้เขาหัวเราะเยาะมู่เกอของเราเล่า!” เว่ยกว่านกว่านหัวเราะจนปวดท้อง

มู่ชิงเกอยักคิ้วหลายที และมองซ่งอวี้ด้วยความเห็นใจราวกับกำลังบอกเขาว่า ‘ดูสิ ข้าว่าแล้ว’

พลาดอย่างนั้นหรือ!

สีหน้าของซ่งอวี้ดูแย่มาก ใบหูทั้งสองข้างแดงกํ่า

เพราะว่าเขาเข้าใกล้หม้อยามากจนเกินไปและไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าอันขาวสะอาดเลยถูกควันรมจนกลายเป็นสีดำ ในตอนนี้ เขากำหมัดทั้งสองข้างแน่นจนกระดูกส่งเสียงดังก๊อกแก๊ก

“ซ่งอวี้ ไม่รีบประลองต่ออีก รออะไรอยู่” ท่านผู้อาวุโสบนเวทีส่งเสียงเตือน

ซ่งอวี้พยายามเก็บเปลวเพลิงแห่งความโกรธเอาไว้ในใจ และทำได้เพียงแค่เริ่มบดยาอีกครั้ง เพื่อเตรียมการปรุง

ฉากตรงหน้านี้ ล้วนสะท้อนอยู่ในสายตาของบุคคลลึกลับที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์และดึงดูดความสนใจจากเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม พลันพูดอย่างเรียบเฉยว่า “น่า สนใจ”

หัวหน้าโรงโอสถหัวที่มองทุกอย่างผ่านกระจกกลับส่ายหน้ากับปฏิกิริยาของซ่งอวี้ ราวกับรู้สึกผิดหวัง อ่อ ใช่สิ ซ่งอวี้เองก็เป็นลูกศิษย์ในสำนักของหัวหน้าโรงโอสถหัว

เหมยจื่อจ้งมองมู่ชิงเกอด้วยสายตาอันแนบนิ่ง พร้อมพูดกับจ้าวหนานซิงอย่างแผ่วเบาว่า “เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าส่วนผสมของยาระดับสูงนั้นมากกว่ายาระดับกลางอยู่มาก และการบดก็ซับซ้อนกว่า แต่ศิษย์น้องมู่กลับสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว”

จ้าวหนานซิงพยายามคิดทบทวนคำพูดของเขา และพูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนกว่า “ท่านหมายความว่าเขา…”

เหมยจื่อจ้งพยักหน้าเล็กน้อยและหลุดรอยยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าศิษย์น้องมู่ผู้นี้จะมีการปกปิดที่ลํ้าลึกนัก! ที่ข้าทำไปทั้งหมดช่างมากเกินความจำเป็นแท้ๆ”

จ้าวหนานซิงตกใจอย่างเป็นที่สุด พลันเคลื่อนสายตาไปอยู่ที่มู่ชิงเกอ และแอบคิดในใจว่า ‘เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง…นี่มันสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนมาก เกินไปแล้ว!’

“ศิษย์พี่เหมยยิ้มอย่างนั้นหรือ” จูหลิงที่สังเกตทุกอิริยาบทของเหมยจื่อจ้งอยู่ตลอดเวลา ยื่นมือออกไปสะกิดซางจื่อซู แม้ว่านางจะไม่ได้ยินบทสนทนาของเหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานซิง แต่กลับสามารถเห็นใบหน้าอันงดงามของเหมยจื่อจ้งเผยรอยยิ้มออกมาได้อย่างชัดเจน

ซางจื่อซูมองนางอย่างแนบนิ่งแวบหนึ่ง และพูดว่า “ดูการประลองเถิด”

จูหลิงกลับปฏิเสธว่า “ดูการประลองไปทำไมเล่า มองศิษย์พี่เหมยดีกว่า อย่างไรการประลองในครั้งนี้ซ่งอวี้ก็ต้องชนะแน่นอน”

ซางจื่อซูหรี่ตาลงและกล่าวเตือนว่า “เมื่อครู่นี้ ราวกับซ่งอวี้จะพลาดไปแล้วรอบหนึ่ง”

จูหลิงกลับพูดอย่างมั่นใจว่า “เพียงครั้งเดียวเองมิใช่หรือ เขายังมีโอกาสถึงสองครั้ง ด้วยระดับความสามารถของเขาแล้วไม่ใช่ปัญหาอันใดแน่ ส่วนศิษย์น้องมู่ที่ บอกว่าจะปรุงยาอย่างไม่เจียมตัว คิดว่ายาระดับสูงปรุงง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ในวันนี้เขาเหลือโอกาสเพียงหนเดียว หากผิดพลาด ก็เท่ากับพ่ายแพ้ เพียงแค่ซ่งอวี้ปรุงยาระดับตํ่าธรรมดาแค่เม็ดเดียวก็จะชนะเลย”

ซางจื่อซูไม่ตอบกลับอีก ราวกับกำลังตั้งใจดูการประลองบนเวที

“ซ่งอวี้ช่วงนี้บ้าบิ่นไปเสียหน่อย” ในขณะที่เตียวหยวนเห็นว่าซ่งอวี้ผิดพลาด จึงพูดอย่างแนบนิ่ง นํ้าเสียงเย็นเยียบไร้ซึ่งความรู้สึก

คนข้าง ๆรีบพูดว่า “เพราะมู่เกอเยาะเย้ย จึงทำให้ประมาท”

หลังจากที่ฟ่งอวี๋กุยฟังจบแล้ว จึงได้พูดว่า “ก็จริง เพราะซ่งอวี้ประมาทไป”

สายตาของเตียวหยวนกวาดผ่านพวกเขาอย่างเฉยชา ราวกับยิ้มและไม่ยิ้มในเวลาเดียวกัน “อ้อ ข้าไม่ยักรู้ว่า ซ่งอวี้จะมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีถึงเพียงนี้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version