ตอนที่ 127-3
ยาและพิษเป็นสิ่งเดียวกัน!
มู่ชิงเกอยิ้มอย่างเย็นเยียบ “การจะถามชื่อใคร จะต้องบอกชื่อตนเองก่อนมิใช่หรือ”
ชายผู้นั้นเงียบ
และลูกศิษย์ที่อยู่รอบๆ ล้วนวิจารณ์คำพูดของมู่ชิงเกอ
จูหลิงมองมู่ชิงเกอด้วยความตื่นตระหนก ราวกับคิดไม่ถึงว่า นางจะคิดและพูดทุกอย่างโดยไม่กลัวเช่นนี้
ความเย็นเยียบของจ้าวหนานซิงได้กลับไปอบอุ่นเหมือนเคย เขามองแผ่นหลังของมู่ชิงเกอ พลันเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ศิษย์น้องมู่ ศิษย์พี่นับถือเจ้าเลย!”
คนรอบข้างไม่กล้าพูด ก็ให้เขาเป็นตัวแทนชื่นชม
ซางจื่อซูมองมู่ชิงเกอ ในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน
“ข้าราชาปีศาจสะท้านฟ้า หลี่เฉิงฟง!” ยอดฝีมือสายนํ้าเงินบอกชื่อของตนเองกับมู่ชิงเกอด้วยนํ้าเสียงอันเย็นเยียบ
“ราชาปีศาจสะท้านฟ้าอย่างนั้นหรือ ตั้งขึ้นเองล่ะสิ” มู่ชิงเกอยักคิ้วหัวเราะเยาะ
ไม่สนใจความโกรธของหลี่เฉิงฟง นางพูดต่อว่า “ข้าลูกศิษย์เล็กๆ แห่งโรงโอสถ มู่เกอ”
“หึ! เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ธรรมดา ยังกล้ามาอวดดีกับข้า!” สายตาของหลี่เฉิงฟงสาดความเย้ยหยัน
“ไอ้หนุ่ม เจ้าไสหัวกลับบ้านไปดื่มนมเถิด! พี่ใหญ่ของเราเป็นถึงยอดฝีมือสายนํ้าเงิน แค่จามก็ทำให้เจ้าตกใจตายได้!”
“ไอ้หนุ่มคนนี้ดูถูกยอดฝีมือสายนํ้าเงิน จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไร ข้าว่าให้เขาคุกเข่าลง โขกหัวสำนึกผิดต่อหน้าพี่ใหญ่ของเรา และดูว่าพี่ใหญ่ของเราจะให้อภัยการล่วงเกินในครั้งนี้หรือไม่”
“ราชาปีศาจสะท้านฟ้า ใต้หล้าไร้ผู้ต่อกร! คนที่กล้าล่วงเกิน ล้วนไม่ตายดี!”เหล่าสมุนต่างแย่งกันพูด ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก เหตุใด นางจึงรู้สึกราวกับว่า ตัวเองกำลังอ่านนิยายจอมยุทธ์ของท่านปู่จิน ที่บรรดาคนของสำนักชิงเซ่อต่างพากันไปประจบประแจงเฒ่าประหลาดของสำนักก็ไม่รู้
“ลูกน้องของเจ้า ล้วนเป็นพวกสวะที่เลี้ยงเปลืองข้าวสุกเช่นนี้หรือ” มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะ
สีหน้าของหลี่เฉิงฟงเปลี่ยนไป รอบตัวมีแสงสีนํ้าเงินส่องประกายออกมา “รนหาที่ตาย!”
ได้ยินกับเห็นด้วยตามันเป็นคนละเรื่องกัน!
เมื่อหลี่เฉิงฟงปล่อยพลังสายนํ้าเงินออกมากดดัน สีหน้าของลูกศิษยํโรงโอสถก็เปลี่ยนไป ถอยหลังไปอย่างไม่คิดชีวิต
จูหลิงและทุกคนล้วนหน้าซีด
“ศิษย์น้องมู่วู่วามเกินไปแล้ว!” จูหลิงกัดริมฝีปาก และเคร่งเครียดจนกัดริมฝีปากแทบขาด
ท่านพ่อของเว่ยกว่านกว่านและเว่ยฉี เหว่ยหลินหลางเป็นยอดฝีมือสายนํ้าเงิน สำหรับความกดดันจากพลังของยอดฝีมือสายนํ้าเงินจึงไม่ใช่ว่าไม่คุ้นชิน ได้ยินคำพูดของจูหลิง ทั้งสองที่มีความเชื่อในตัวของมู่ชิงเกออย่างเหลือเชื่อรีบพูดว่า “ศิษย์พี่จูวางใจเถิด มู่เกอรับมือได้!”
จูหลิงกระวนกระวาย “รับมือได้ อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือสายนํ้าเงิน เขาจะเอาชนะได้อย่างไร”
พี่น้องตระกูลเว่ยมองหน้ากัน แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก
ตรงกันข้าม ในใจของพวกเขา มู่เกอเป็นผู้ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้!
จ้าวหนานซิงมาอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกออย่างรวดเร็วปานสายฟ้า พลันขวางนางเอาไว้ “ศิษย์น้องมู่พาจื่อซูกลับไปก่อน”
มู่ชิงเกอมองเขาด้วยท่าทางอันแปลกประหลาด “ศิษย์พี่ท่านลืมไปแล้วหรือว่าเรามาทำอะไร”
จ้าวหนานซิงอึ้ง และพูดอย่างประหลาดใจว่า “พวกเรามาทำอะไรหรือ”
มู่ชิงเกอถอนหายใจและส่ายหน้า พลันตบไหล่ของเขา จากนั้นก็เดินอ้อมตัวเขาไป พูดอย่างแนบนิ่งว่า “ยาและพิษคือสิ่งเดียวกัน!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของนาง จ้าวหนานซิงก็ได้ยินเสียงอาวุธกระทบลงพื้น
เขามองด้วยความแปลกใจ เห็นเพียงแค่สมุนของหลี่เฉิงฟงล้มลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง และร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแผ่วเบา
ในตอนนี้สีหน้าของหลิ่เฉิงฟงก็ดูแย่มาก ไม่เพียงแค่ขาวซีดดั่งขี้เถ้า รวมทั้งพลังลีนํ้าเงินของเขาก็อ่อนลง ราวกับกำลังจะจางหายไป
“เจ้า เจ้าทำอะไรข้า” หลี่เฉิงฟงที่สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองเอ่ยถามมู่ชิงเกอ เขาสัมผัสได้ว่าพลังเวทของตนเองสูญเสียไปจำนวน มาก และระดับพลังของตนเองก็กำลังลดลงเรื่อย ๆ มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าในมุมสี่สิบห้าองศา ระหว่างคิ้วฉายความแน่วแน่จางๆ พลันพูดเองเออเอง ว่า “อืม ลมทิศตะวันออกเฉียงใต้ช่างเป็นโอกาสการวางยาที่ดีเสียจริง”
ทั้งไม่เป็นอันตรายต่อคนของตนเอง ยังสามารถทำให้ยาพิษเข้าสู่ร่างกายของฝ่ายศัตรูได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
“เจ้าวางยา!” ในขณะที่หลี่เฉิงฟงพูดคำเหล่านี้ออกมา ด้วยนํ้าเสึยงที่แหบแห้ง แสงสีนํ้าเงินในตัวของเขาก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
เขารู้สึกเพียงแค่ว่า ร่างกายอ่อนแรง ไม่สามารถปล่อยพลังได้แม้แต่เสี้ยวเดียว
ล้มลงพื้นอย่างตุปัดตุเป๋ เขารู้สึกว่าในตอนนี้แม้จะมีเด็กสามขวบถือมีดเล่มหนึ่งมาก็สามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย!
“เหตุใดจึงตกใจมากถึงเพียงนี้” มู่ชิงเกอถามด้วยความแปลกใจ พลันก้มหน้ามองเขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ข้าก็แค่ป้องกันตัว เจ้าเป็นถึงยอดฝีมือสายนํ้าเงินเชียวนะ”
“เจ้าลอบทำร้ายข้า! ต่ำช้า!” หลี่เฉิงฟงโกรธแค้นมู่ชิงเกอ
หากว่าสายตาสามารถฆ่าคนได้ไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอตายไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
“ชมเกินไปแล้ว ข้าเองก็เรียนมากจากเจ้า ยังมีอะไรขาดตกบกพร่องไปมาก ครั้งหน้าจะปรับปรุง” มู่ชิงเกอเผยรอยยิ้ม ด้วยท่าทางที่ดูเจียมเนื้อเจียมตัว
รอยยิ้มนั่นส่ายไหวไปมาตรงหน้าหลี่เฉิงฟง ทำให้เขาแทบจะอดไม่ได้ที่อยากจะเข้าไปฉีกให้แหลก
“ศิษย์น้องมู่ เจ้าวางยาตั้งแต่เมื่อไหร่ เหตุใดข้าจึงไม่รู้เลย” จ้าวหนานซิงเดินเข้าไปถามมู่ชิงเกอด้วยความตื่นเต้น
มู่ชิงเกอยกมือขึ้นแตะคางของตนเองหลายที “ก็ในตอนที่ลูกน้องของเขาบอกว่าเขามีความสามารถมากเพียงใด”
“วางยาอย่างไร” จ้าวหนานซิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
มู่ชิงเกอกลับหรี่ตาลง เผยให้เห็นท่าทางที่ฉายความสูงส่ง “โอกาสอันดี ไม่สามารถป่าวประกาศได้”
สามารถล้มยอดฝีมือสายนํ้าเงินได้อย่างง่ายดาย ยาพิษ ของมู่ชิงเกอเก่งกาจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
ในขณะที่สายตาอันเย็นเยียบของมู่ชิงเกอกวาดผ่านลูกศิษย์โรงโอสถ และเห็นพวกเขากลัวราวกับกำลังหนีงูยักษ์พลันแอบยิ้มอย่างเย็นเยียบทีหนึ่ง แล้วนางจึง เคลื่อนสายตากลับมา
จูหลิงมองภาพนี้ด้วยความตื่นตระหนก ราวกับยังไม่ได้สติ