Skip to content

พลิกปฐพี 880

ตอนที่ 880

จูงมือพิชิตยอดแสงแห่งวิถี

“ข้าพร้อมแล้ว” มู่ชิงเกอกล่าว

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเดินออกมา ดำเนินพิธีด้วยตัวเอง ราชาเทวะหลายคนก็รวมพลังเปิดแสงแห่งวิถี ชั่วพริบตาแสงแห่งวิถีที่ร่วงกระจายอยู่ทั่วฟ้านั้นก็รวมตัวกัน อีกครั้ง โปรยลงมาจากอากาศ

บนเกาะโหลวหลาน แม้ว่าคนจะเยอะอย่างยิ่ง แต่ว่าในวินาทีนี้กลับเงียบสงัดอย่างถึงที่สุด

ได้มีโอกาสนี้พวกเขาต่างก็ดีใจอย่างถึงที่สุด ตั้งตารอสุดขีด

และภายในสามวันนี้ เฟิงหลินเยี่ยตู้ก็กระจายตัวออกไปเงียบๆ อีกครั้ง โอกาสร่วมอาบแสงแห่งวิถีครั้งนี้ที่มู่ชิงเกอช่วงชิงมาได้ทำให้กลุ่มบุคคลชั้นยอดเหล่านี้ ซาบซึ้งอย่างยิ่ง ชื่อเลียงของมู่ชิงในแผ่นดินเทพสี่สมุทร หรือว่าดินแดนมาร ล้วนโด่งดังขึ้นอีกชั้นโดยปริยาย

นอกจากนี้ การอาบแสงแห่งวิถีครั้งนี้ มู่ชิงเกอยังเป็นบุคคลสำคัญ

การเดินในแสงแห่งวิถีสองครั้งก่อน พรสวรรค์ที่มู่ชิงเกอแสดงออกมาเรียกได้ว่าฝืนชะตาฟ้า ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้คาดหวังให้มู่ชิงเกอเดินขึ้นไปถึงชั้นที่ 99 หวังเพียงแต่ว่านางจะรักษาระดับก่อนหน้านี้ เดินไปถึงชั้นที่ 98 เช่นนี้พวกเขาทั้งหมดก็จะสามารถรับผลประโยชน์ที่มากกว่าครั้งก่อนได้นี่จึงจะเป็นจุดประสงค์แท้จริงที่พวกเขากระตือรือร้นเช่นนี้

บันไดในแสงแห่งวิถี ปรากฎต่อหน้าทุกคนช้าๆ พวกเขากลั้นหายใจ รอคอยอยู่เงียบๆ

ตอนที่เท้าของมู่ชิงเกอ ก้าวขึ้นไปบนบันไดชั้นแรก จู่ๆ ซือมั่วก็เดินเข้าไปในแสงแห่งวิถี ภายใต้สายตาทั้งหมดที่จับจ้อง ประสานนิ้วมือทั้งสิบกับนาง “ให้ข้าไป เป็นเพื่อนเจ้า”

มู่ชิงเกอยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ

ตอนที่คนทั้งหมดยังไม่ได้สติกลับมา ทั้งสองก็เดินขึ้นไปบนชั้นที่ 20 แล้ว

“เขาตามไปได้อย่างไร!” เมื่อได้สติกลับมา เฝินไห่ก็กล่าวอย่างร้อนใจ

“ไปแล้วก็ไปเถอะ ขอเพียงไม่ส่งผลกระทบก็พอ” เซียนเหนี่ยวกล่าวอีกหนึ่งประโยค

แต่เฝินไห่กลับกล่าวโต้แย้ง “พูดง่าย ใครจะรู้เมื่อมีเจ้าแห่งมารอยู่ข้างกาย นางจะยังรักษาระดับปกติได้อยู่หรือไม่”

“ตอนนี้ไม่ไปก็ไปแล้ว หากพวกเราไปขัดขวาง ไม่แน่ว่าผลกระทบอาจจะมากขึ้น” ราชาเทวะสือฟางกล่าวอย่างหงุดหงิด

“ไม่เป็นไร พวกเขาทั้งสองล้วนเป็นผู้เก่งกาจเหนือใคร ไปด้วยกัน หากพบปัญหาใดๆ ยังร่วมกันแก้ไขได้” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกล่าวอย่างเย็นชาหนึ่งประโยค ยุติคำตำหนิที่ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียวลง

นอกแสงแห่งวิถี คนนับไม่ถ้วนต่างก็มองคนสองคนที่จูงมือกันในแสงแห่งวิถีอย่างตื่นตระหนก เงาร่างสีดำสีแดงสองสายนั้น เสริมจุดเด่นซึ่งกันและกัน เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ตอนนี้เวลานี้พวกเขาลืมฐานะของคนทั้งสองในแสงแห่งวิถีไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่สวมเสื้อคลุมสีดำผู้นั้นไม่ใช่เจ้าแห่งมาร ผู้ที่สวมชุดเกราะกระโปรงแดงผู้นั้น ก็ไม่ใช่ราชาเทวะเช่นกัน

พวกเขา เป็นเพียงคู่สร้างคู่สมที่ขอเคียงคู่จนแก่เฒ่า ไม่สนจะเป็นเทพเซียน ความรักจริงใจชนิดนั้นระหว่างคนทั้งสองแผ่ขยายออกไปอย่างไม่รู้ตัว ส่งความรู้สึกไปถึงคนทั้งหมดบนเกาะโหลวหลาน กระทั้งคนที่อยู่บนเรืออากาศ

“ในที่สุดชิงเกอก็พยายามจนสำเร็จ” ซีเซียนเสวี่ยเงยหน้ามองคนทั้งสองที่จูงมือกันในแสงแห่งวิถี ในดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉา แต่กลับซ่อนความหดหู่ไว้จางๆ เหยาชิงไห่ยืนอยู่ข้างกายนาง ได้ยินนางบ่นเสียงตํ่าประโยคนี้ก็ละสายตามองนาง คำพูดร้อยพันต่างเก็บซ่อนไว้ในดวงตา เพียงแต่น่าเสียดาย ความสนใจของซีเซียนเสวี่ยในตอนนี้ล้วนอยู่บนร่างมู่ชิงเกอไม่ได้สังเกตเห็นสายตาซับซ้อนแฝงความรู้สึกคู่นั้นข้างกาย

“ไม่คิดว่าลูกพี่ข้าจะเป็นสตรี ซํ้ายังเป็นสตรีแสนวิเศษผู้เป็นหนึ่งทั่วหล้า ไม่เพียงเท่านี้ ยังจัดการเจ้าแห่งมารอยู่หมัด ยอดเยี่ยมจริงๆ! ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!” ถงเถิงกล่าว ด้วยความตื่นเต้น เขายกมือตบบ่าจวงซาน ยักคิ้วหลิ่วตากล่าว “ศิษย์พี่จวงซาน ท่านเห็นด้วยหรือไม่”

จวงซานออกแรงพยักหน้า ในใจมีความซาบซึ้งพรั่งพรูออกมาไม่หมดไม่สิ้น ใครจะคาดเดาได้มู่ชิงเกอที่โดดเด่นเช่นนี้มู่ชิงเกอที่สุกสกาว คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสตรี

“ศิษย์พี่จวงซาน ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะหาเวลาไปพูด กับราชาเทวะเพื่อออกจากแดนฮ่วนเยวี่ย ไปช่วยเหลือลูกพี่ข้าที่เก้าชั้นฟ้า แม้ว่าแดนฮ่วนเยวี่ยจะดีต่อข้าอย่างยิ่ง แต่ข้ารู้จักลูกพี่ก่อน เรื่องทุกเรื่องเป็นไปตามลำดับก่อนหลัง ดังนั้นข้าจึงทำได้เพียงขอโทษแดนฮ่วนเยวี่ย” ถงเถิงพร่ำสาธยาย

ประโยคนี้ทิ่มแทงหัวใจจวงซาน เขามองถงเถิง กล่าวกับเขาอย่างตั้งใจ “เจ้าไปแล้ว ฝากบอกชิงเกอแทนข้าด้วย บอกว่าชีวิตนี้ของข้านางช่วยไว้ถือเป็นของนาง แม้ข้าจะไม่อาจออกจากแดนฮ่วนเยวี่ยได้ แต่ขอเพียงนางมีงานมอบหมาย ข้าจะต้องบุกนํ้าลุยไฟ แม้นตายก็ไม่ปฏิเสธ!”

“ยังมีข้า ตอนแรกแพ้ให้นางแล้วก็กลายเป็นผู้ติดตามของนาง หลายปีมานี้ หน้าที่ผู้ติดตามข้ายังทำได้ไม่ดี หากนางมีงานมอบหมาย ข้าเองก็รับคำสั่งได้ทุกเมื่อเช่น กัน” ไม่รู้ว่าเมื่อไรเซียนสุ่ยก็เดินมาอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง กล่าวกับถงเถิง

“ได้ข้าจะบอกให้แน่นอน!” ถงเถิงรับปากอย่างไม่ลังเล เขาพูดเองเออเองหนึ่งประโยค “มักจะรู้สึกว่า เพียงอยู่ข้างกายลูกพี่จึงจะมีชีวิตที่ตื่นเต้นเร้าใจได้”

ในกลุ่มบุคคลชั้นยอดแดนจงซาน เป่ยเหยียนอยู่ในแถว เขาแหงนหน้ามองมู่ชิงเกอ ถอนหายใจในใจ คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นผู้หญิง หากรู้ก่อนละก็… ดวงตาเขามีความเสียใจและเสียดายปรากฎออกมา คล้ายรู้สึกโศกเศร้าที่ตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไป

คนนอกแสงแห่งวิถี มองตนเองอย่างไร และเกิดเรื่องอะไรขึ้น มู่ชิงเกอไม่รู้ทั้งสิ้น ตอนนี้นางกับซือมั่วจูงมือเดินไปถึงชั้นที่ 52 แล้ว

“นี่ก็คือความสูงที่เจ้าเดินมาถึงในครั้งแรกที่เข้ามาในแสงแห่งวิถี” ซือมั่วละสายตามองนางแล้วยิ้มกล่าวด้วยความรักใคร่

มู่ชิงเกอยิ้มน้อยๆ พยักหน้า “ตอนนั้น ยืนอยู่ตรงนี้ ข้ายังมีแรงเหลือ เพียงแต่รู้สึกว่าเดินเร็วเกินไปไม่มีประโยชน์กับตัวเองจึงหยุดลง ส่วนครั้งที่สอง เดิมข้าคิดว่าจะขึ้นไปถึงชั้นที่ 99 แต่คาดไม่ถึงว่า ตอนที่อยู่ชั้นที่ 98 จะถูกแรงสกัดมหาศาล ท้ายที่สุดก็ไม่สำเร็จ”

“ครั้งนี้มีข้าอยู่ข้างกายเจ้า พวกเราจะต้องขึ้นไปถึงยอด เข้าไปในชั้นที่ 99 ได้แน่นอน” ซือมั่วจับมือนางแน่นแล้วกล่าว

ในดวงตาที่ใสสะอาดของมู่ชิงเกอ มีความเชื่อมั่นเต็มเปีjยมกะพริบวาบ พยักหน้า

ทั้งสองขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ ตามบันได

คนทั้งหมดนอกแสงแห่งวิถีที่ไม่ได้ตามพวกเขาขึ้นไปต่างก็เป็นกังวลขึ้นมาหนึ่งส่วน

โชคดี ทั้งสองต่างก็คล้ายเดินเล่นอยู่ในสวนที่เงียบสงบ ผ่อนคลายสบายใจ ไม่ได้ปรากฎท่าทียากลำบาก นี่ทำให้คนทั้งหมดที่ตื่นตระหนกต่างก็สบายใจเล็กน้อย

บนเกาะโหลวหลาน เป็นครั้งแรกที่ปรากฎภาพการอยู่ร่วมกันของเทพมารสองเผ่า และไม่มีเหตุการณ์ลงมือต่อสู้กันเกิดขึ้น

แม้ว่า ในดวงตาของพวกเขาแต่ละฝ่ายจะมีความตื่นตัว และไม่เป็นมิตร แต่กลับยังคงรักษาสภาพการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ นี่เป็นเพราะว่า ผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งสองคนในเผ่าเทพมารสองเผ่า กุมนิ้วทั้งสิบแน่นเดินอยู่ในแสงแห่งวิถี

ในที่สุดมู่ชิงเกอและซือมั่วก็เหยียบอยู่บนบันไดชั้นที่ 98 แล้ว

เมื่อยืนอยู่ตรงนี้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสกัดบนชั้นที่ 99 ได้รางๆ แล้ว

‘ถอยไป! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าควรมา!’ เสียงนั้นดังขึ้นอีก

ซือมั่วหรี่ตา ส่วนมู่ชิงเกอก็เลิกคิ้ว นางกล่าวกับเขา “ครั้งก่อน มันก็พูดเช่นนี้กับข้า”

ซือมั่วยิ้มขึ้น “เช่นนั้นครั้งนี้พวกเราก็ไม่ต้องฟังมันแล้ว”

พูดจบ เขายกมือขึ้น ผลักไปยังชั้นที่ 99

เมื่อเขาขยับ บนชั้นที่ 99 ก็ปรากฎการตอบสนองรุนแรงทันที คิดอยากจะผลักเขาออก พลังไร้รูปทรงหนึ่งกลุ่ม พันเกี่ยวฝ่ามือของเขา ก่อตัวเป็นคลื่นหนึ่งลูกเบื้อง หน้าคนทั้งสอง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version