Skip to content

พลิกปฐพี 92-5

ตอนที่ 92-5

ลาก่อนป๋ายซีเยวี่ย มีคนรนหาที่ตายอีกแล้ว

เมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีลังเล สายตาของฉินจิ่นซิวก็พลันมืดลง จึงรีบพูดว่า “หมานอ๋องอย่าได้เป็นกังวลไป นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ท่านมหาปราชญ์ทำในขณะที่ บังเอิญผ่านมาเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นท่านมีปฏิสัมพันธ์อันใดกับตระกูลมู่อีกเลย คงเป็นเพราะหลังจากที่รู้ว่ามู่ชิงเกอเป็นเพียงท่อนไม้ท่อนหนึ่งที่ไร้ประโยชน์จึงหมดซึ่งความสนใจไป”

“แต่ว่า ท่านบอกว่าอยู่ๆ เขาก็สามารถฝึกพลัง ได้ คงไม่ใช่เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านมหาปราชญ์หรอกนะ” ในใจของเฮ่อเหลียนป๋ายังคงมีความกังวลและลังเลอยู่เล็กน้อย

“หมานอ๋อง ท่านกลัวอันใดกัน” ฉินจิ่นซิวขมวดคิ้วและพูดว่า “เราสู้กันด้วยความเสมอภาค มิได้ใช้วิธีสกปรกแต่อย่างใด หากมู่ชิงเกอมีความสามารถไม่เพียงพอ แล้วต้องจบชีวิตลงกลางสนาม จะโทษใครได้ หมานอ๋องลองตรองดู มหาปราชญ์ได้พบเจอยอดฝีมือมามากมายเพียงใด พบเจอเรื่องราวมามากเพียงไหน จะสนใจมู่ชิงเกอไปเพื่ออะไรกัน บางทีในขณะที่เรากำลังกลัว ท่านอาจจะลืมคนที่ชื่อมู่ชิงเกอไปแล้วก็ได้”

“นี่…” เฮ่อเหลียนป๋าราวกับถูกฉินจิ่นซิวค่อยๆ โน้มน้าวใจ

เมื่อเห็นเช่นนี้ฉินจิ่นซิวก็พูดเสริมอีกว่า “ที่ข้าและเขาอยู่บนโลกใบเดียวกันไม่ได้อีกต่อไป เป็นเพราะเขาฆ่าพระมาตุลาของข้า หากกล่าวในภาพรวมแล้ว มันเป็น ความแค้นของครอบครัว ทว่าระหว่างตระกูลมู่และแคว้นถูนั้นคือความแค้นระหว่างแคว้น หากหมานอ๋องสามารถฆ่าหลานชายคนเดียวของมู่ซงได้ ท่านก็จะ กลายเป็นวีรบุรุษในใจของประชาราษฎร์แคว้นถูในทันใด รวมทั้งสามารถเพิ่มอำนาจได้อย่างที่หวังด้วย”

เฮ่อเหลียนป๋าพลันเปลี่ยนสายตา คำพูดของฉินจิ่นซิวราวกับเป็นยาพิษร้ายแรงก็ไม่ปาน ทำให้เขาไม่อาจต้านทานความต้องการและต้องยอมรับข้อเสนออันแสนเย้ายวนนี้

เมื่อไตร่ตรองทบทวนแล้ว เขาจึงกัดฟันและตัดสินใจพูดว่า “ใช่! เรื่องทั้งหมด ควรดำเนินไปตามแผนที่ได้วางเอาไว้”

“หมานอ๋อง ท่านช่างเก่งกาจไร้ที่เปรียบ” เมื่อฉินจิ่นซิวบรรลุเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้จึงกล่าวชมเชย

ทั้งสองพร้อมใจกันยิ้ม แล้วจบการสนทนาโดยที่ไม่ทำให้คนรอบข้างรับรู้ได้

หมานอ๋องแห่งแคว้นถูจะลงมือกับตนเองอย่างไรนั้น มู่ชิงเกอไม่อาจทราบได้ ถึงแม้ว่าจะทราบ นางก็ไม่สนใจ นางกวาดสายตามองรอบๆ งานเลี้ยง แขกที่มาร่วมงาน ในวันนี้ไม่ถือว่ามากนัก แต่ก็ล้วนเป็นผู้ที่มีหน้ามีตาภายในแคว้นฉิน

แต่ทว่า ตระกูลของเจ้าอ้วนเช่า กลับไม่ได้อยู่ในรายชื่อแขกที่ได้รับเชิญ

รุ่ยอ๋องเองก็มาแล้ว ร่างในชุดสีดำยาว ทำให้มู่ชิงเกอประหลาดใจ

ราวกับว่า หลังจากคำพูดเมื่อตอนเย็นของนาง ชายคนนี้ก็ดูมีความมื่นใจตั้งแต่ยังไม่ได้รบ ราวกับโลกทั้งใบนี้อยู่ในกำมือของเขา

กวาดสายตาผ่านฉินจิ่นห้าว มู่ชิงเกอไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยร่างนั้น

ฉินจิ่นเฉินไม่ได้ปรากฏตัวในงาน

ไม่ได้รับคำเชิญหรือปฏิเสธคำเชิญ?

ในขณะที่มู่ชิงเกอกำลังคิดวิเคราะห์ทันใดนั้นก็มีทหารฝ่ายในนายหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ในขณะที่นางกำลังรินเหล้า เขาก็โยนท่อนไม้ไผ่ท่อนเล็กท่อนหนึ่งบนเสื้อของนาง

มู่ชิงเกอที่นั่งอยู่ ท่อนไม้ไผ่จึงตกลงอยู่บนชุดบริเวณระหว่างขาของนาง

ขมวดคิ้วทีหนึ่ง มู่ชิงเกอกำท่อนไม้ไผ่นั้นเอาไว้โดยไม่ให้ ผู้ใดรู้ออกแรงบีบท่อนไม้ไผ่จนแตกออก เผยให้เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ม้วนเก็บในท่อนไม้ไผ่เอาไว้เป็นอย่างดี

เมื่อคลี่กระดาษออก เนื้อความภายในกระดาษทำให้มู่ชิงเกอหรี่ตาทั้งคู่ลง

ท่อนไม้ไผ่นี้ ฉินจิ่นห้าวเป็นคนสั่งคนให้เอามาให้

เนื้อหาภายในท่อนไม้ไผ่บอกว่า รัชทายาทฉินจิ่นซิวร่วมมือกับหมานอ๋องแห่งแคว้นถูต้องการจบชีวิตของนางภายในงานเลี้ยงคืนนี้ให้นางคอยระวังเอาไว้และยังแนะให้นางใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มความขัดแย้งระหว่างฮ่องเต้และรัชทายาท เพื่อเร่งเรื่องราวทั้งหมดให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

อ่านเนื้อความในกระดาษจนจบอย่างเงียบๆ มู่ชิงเกอพลางขยำกระดาษในมือ แล้วยิ้มอย่างเย็นเยียบในใจ

‘ฉินจิ่นห้าวยังคงเป็นฉินจิ่นห้าว ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับจากเรื่องนี้เป็นลำดับแรก’

เมื่อคลายมือออกอีกครั้ง กระดาษแผ่นที่อยู่ในกำมือของมู่ชิงเกอก็ได้กลายเป็นเศษผงสีขาวไปแล้ว

นางเทเศษผงสีขาวลงในกระถางธูปหอมที่วางอยู่ข้างๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้มีใครเห็น

“น้อมรับเสด็จฮ่องเต้! ฮองเฮา! เจียงกุ้ยเฟย! องค์หญิงฉางเล่อ!” ภายในงานเลี้ยง เสียงอันกึกก้องดังขึ้นไม่ขาดสาย

ภายในงานเลี้ยง ขุนนางชั้นสูงของราชวงศ์เแคว้นฉิน ต่างก็ลุกขึ้นต้อนรับ

มีเพียงราชทูตแคว้นถูที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ราวกับไม่มีความคิดที่จะลุกขึ้นยืน

หลังจากที่ฉินจิ่นซิวแอบส่งสายตา เฮ่อเหลียนป๋าจึงต้องนำคนของตนเองลุกขึ้นอย่างจำยอม

ฉินชางพาทุกคนเข้าไปภายในงานเลี้ยง จากนั้นก็เดินขึ้นไปนั่งบนที่ประจำตำแหน่ง ฮองเฮาและเจียงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของเขาตามลำดับ โดยมีฉินอี้เหยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เสด็จแม่ของตนเอง

“ทุกคนนั่งลงเถิด” ฉินชางยกมือขึ้น อารมณ์ในตอนนี้ถือว่าไม่เลว

มู่ชิงเกอนั่งลง กวาดสายตาผ่านฉินอี้เหยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เจียงกุ้ยเฟย นางยังคงสวมชุดสีฟ้าฉายแววเย็นเยียบดั่งเจ้าหญิงน้ำแข็ง ทำให้คนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้

ใบหน้าของนางงดงามไร้ที่เปรียบ หว่างคิ้วยังมีการวาดลายด้วยทองคำบริสุทธิ์ เพิ่มความน่าเย้ายวนให้กับนางหลายระดับ แต่ทว่า ใบหน้าของนางกลับไร้ซึ่งความรู้สึก ดั่งรูปปั้นที่งดงามสมบูรณ์แบบ ไม่แสดงให้เห็นถึงความโกรธเลยแม้แต่น้อย

มู่ชิงเกอแปลกใจครู่หนึ่งแต่ยังคงเก็บอาการ

“ในวันนี้ ทุกท่านต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ ข้ามีข่าวดีจะมาประกาศเรื่องมงคลให้กับทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกัน” ฉินชางพูด “ครานี้ ราชทูตแคว้นถูมาเยี่ยมเยือนแคว้นฉิน จากแคว้นถูอันห่างไกลเพื่อที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น รัชทายาทแคว้นถูมาสู่ขอจากใจจริง ข้าคิดทบทวนอย่างรอบคอบและได้ตัดสินใจว่าจะยกองค์หญิงฉางเล่อพระราชธิดาอันเป็นที่รักของข้าให้กับรัชทายาทแคว้นถู เพื่อความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน สามวันให้หลังจากนี้องค์หญิงฉางเล่อจะกลับแคว้นถู พร้อมราชทูตแคว้นถูเพื่อจัดงานอภิเษกสมรส ”

การอภิเษกสมรสระหว่างองค์หญิงฉางเล่อและแคว้นถูนั้น ไม่ใช่ความลับในวงศ์ตระกูลที่มีฐานะสูงส่ง

แต่ว่าการที่ฮ่องเต้เป็นผู้ตรัสออกมาเอง ก็ยังคงทำให้คนจำนวนไม่น้อยมองมู่ชิงเกออย่างคลุมเครือ ราวกับกำลังจะบอกว่าภรรยาที่ควรจะเป็นของเจ้าในตอนแรก ตอนนี้ได้เป็นของรัชทายาทแคว้นถูแล้ว ขอถามหน่อยว่ารู้สึกอย่างไร?

หรืออาจจะกำลังหัวเราะเยาะรัชทายาทแคว้นถูที่ได้องค์หญิงที่เคยมีสัญญาการหมั้นหมายไปครอบครอง

สายตานั้น มู่ชิงเกอไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

ในขณะที่เฮ่อเหลียนป๋าลุกขึ้นแสดงความขอบคุณ นางก็จ้องสายตาไปที่ฉินอี้เหยา ซึ่งฉินอี้เหยายังคงไม่แสดง ความรู้สึกอันใดราวกับว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย

ยังไม่ทันที่นางจะได้ดึงสายตากลับมา ก็พลันได้ยินเสียงคำท้าทายดังขึ้นข้างหู

“องค์ฮ่องเต้แคว้นฉิน ข้าและท่านแม่ทัพตระกูลมู่แคว้นฉินของท่านก็ถือว่าเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมานาน ได้ข่าวว่าเขามีหลานชายสุดที่รักอยู่คนหนึ่ง ข้าเองก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามานานและบังเอิญเป็นอย่างยิ่งที่ในกลุ่มคนที่ข้าพามาเยี่ยมเยือนแคว้นฉินในคราวนี้ก็มีคนหนุ่มมากพรสวรรค์อยู่คนหนึ่ง ความสามารถเก่งกาจ เขาเองก็ชื่นชมคุณชายตระกูลมู่มานานแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ในวันนี้ฮ่องเต้แคว้นฉินจะประทานพระราชานุญาติให้พวกเขาทั้งสองแลกเปลี่ยนฝีมือกันสักหน่อย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version