Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1178

บทที่ 1178 มรสุมพิธีสมรส 5

เธอแบ่งให้ตี้ฝูอีหนึ่งเล่ม ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา “พวกเราหาทางฝ่าออกไปกัน!”

เธอเองก็รู้ว่าการกระทำในตอนนี้อันตรายยิ่งนัก แต่ว่าเธอไม่สนใจอะไรแล้ว!

หนึ่งคือ เธอไม่อยากกราบไหว้ฟ้าดินกับโม่เจ้า ต่อให้เสแสร้งแกล้งทำก็ไม่ได้ เธอทำใจปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้!

ประการที่สองคือเธอรู้ว่าเมื่อพิธีสมรสเสร็จสิ้นลง โม่เจ้าจะจัดการกับตี้ฝูอีอย่างแท้จริง!

เธอมีเวลาวางแผนการทั้งหมดนี้ไม่มาก ทำไดhเพียงค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไปทีละเปลาะ สวรรค์มีตา พริบตาที่เธอฟื้นคืนความทรงจำ ยังนึกถึงสิ่งที่ตี้ฝูอีทุ่มเททำเพื่อเธอได้ หัวใจเธอร้อนรุ่ม ความทุกข์ใจระคนอบอุ่นใจเอ่อท่วมท้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยินยอมเป็นตัวประกันของโม่เจ้าเพื่อเธอ ทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน เช่นนั้นเหตุใดเธอจะไม่ยอมเสี่ยงชีวิตนี้เพื่อช่วยเขาบ้างเล่า?!

เคราะห์ดีที่ความทรงจำของเธอฟื้นกลับมาได้ทันเวลา!

เธอแทบไม่กล้าจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างหากความทรงจำกลับมาไม่ทันเวลา ได้ร่วมหอลงโลงกับโม่เจ้า และตี้ฝูอีเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธออีกครั้ง ตอนนั้นต่อให้เธอทำเช่นไรก็มิอาจนำทุกอย่างกลับคืนมาได้แล้ว!

โชคดีที่เธอตื่นขึ้นมาก็ยังไม่นับว่าสายเกินไป ยังมีความหวังที่จะเอาทุกอย่างกลับคืนมาได้ เธอคอยหาจังหวะตลอด วางแผนการทั้งหมดอย่างเยือกเย็น เพียงแค่รอให้โอกาสนี้มาถึง

เมื่อสักครู่ เธอใช้ปิ่นปักผมแทงทะลุหลอดเลือดหัวใจโม่เจ้า เธอรู้จุดแม่นยำ แต่เกรงว่าจะแทงไม่ลึกพอ หลังจากแทงเข้าไปแล้วยังพยายามหาโอกาสซัดฝ่ามือเข้าไปอีกที ให้ปิ่นปักผมฝังเข้าไปจนมิดด้าม เธอแทงทะลุหลอดเลือดของเขา ทั้งยังลึกขนาดนั้น ยามนี้คาดไม่ถึงว่าโม่เจ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะล้มลง ซํ้ายังออกคำสั่งให้ฝูงชนต่อสู้ได้อีก

ความจริงแล้วโม่เจ้าจัดพิธีมงคลสมรสครั้งนี้อย่างใหญ่โต เพื่อชดเชยเรื่องแขกภายนอก เกือบทุกคนภายในวังใต้พิภพล้วนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาไม่น้อยกว่าสามร้อยกว่าคน พลังวิญญาณของคนเหล่านี้ไม่ตํ่าต้อย หากต่อสู้กันขึ้นมา ตนเองและตี้ฝูอีคงไม่ใช่คู่มือพวกเขาเป็นแน่…

แต่แล้วอย่างไรเล่า?

ขอเพียงเธอและเขาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ต้องตายตกไปตามกันก็ไม่เป็นไร!

ฆ่าสองคนก็เท่าทุน ฆ่าสี่คนก็กำไร!

กู้ซีจิ่วคาดการณ์จากความสามารถตนในตอนนี้ มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะต่อสู้ได้สิบกว่าคน ส่วนตี้ฝูอี…

เขาถูกตรึงด้วยตรวนสลายวิญญาณมาเป็นเวลานาน พลังวิญญาณในตัวคงถูกทำลายไปเจ็ดแปดส่วนแล้ว ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างกายเธอได้โดยที่เธอไม่ต้องอุ้ม ไม่ต้องประคอง กู้ซีจิ่วก็พึงพอใจมากแล้ว ย่อมไม่คาดหวังให้เขามาต่อสู้ เมื่อทุกคนตีวงล้อมเข้ามา เธอเอียงหน้าพูดกับตี้ฝูอี “เดี๋ยวเจ้าตามติดข้ามา”

สายตาตี้ฝูอีพลันวูบไหว ก่อนพยักหน้า “ได้!”

เธอยังไม่วางใจ “เจ้ายืนไหวหรือไม่? ให้ข้าแบกเจ้าไปไหม?”

ตี้ฝูอีส่ายหน้า เขาเข้มแข็งยิ่งนัก “ข้าไหว ไม่ต้องแบกข้า”

เขาพิจารณานางอีกหลายครา “ซีจิ่ว เจ้าเหมือนจะเลื่อนขั้นแล้ว”

กู้ซีจิ่วเองกลับไม่รู้ตัว “หา?”

ตี้ฝูอีกล่าว “ดูจากฝ่ามือเมื่อสักครู่ของเจ้า เจ้าบรรลุพลังวิญญาณขั้นแปด วิญญาณทะลวงขั้นแล้ว”

เมื่อครู่กู้ซีจิ่วมัวแต่ตื่นเต้นจนไม่ทันได้สังเกตจุดนี้ ทว่าเธอรู้สึกว่าตนเองตัวเบากว่าก่อนมากจริงๆ เธอสะบัดแขน โคจรพลังวิญญาณ ปลายแหลมของกระบี่วิเศษในมือมีลำแสงขาวสว่างไสวพวยพุ่งออกมาสามฉื่อ…

เธอเบิกตากว้าง “ขั้นแปดแล้วจริงๆ ด้วย!”

เธอเลิกคิ้ว ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น

ฝ่าออกไปได้หรือไม่ได้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง พลังเธอเพิ่มมากขึ้น เช่นนั้นแพะรับบาปในการต่อสู้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นแล้ว…

“เด็กน้อย เจ้าสร้างปาฏิหาริย์แล้ว! หลับตื่นเดียวบรรลุสองขั้น!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version