Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1217

บทที่ 1217 ไปแล้วเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้

ด้วยความเลินเล่อ เขาเพียงเตรียมร่างโคลนนิ่งไว้ที่นี่ แต่กลับลืมคิดไปว่าร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่อาจทนรับความเหน็บหนาวในที่แห่งนี้ได้…

แต่ภายในวังคํ้านภาที่ห่างไกลออกไปเป็นหมื่นลี้ กู้ซีจิ่วย่อมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในตำหนักนํ้าแข็งนั้น เมื่อเธอพยายามสัมผัสติดต่อกันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีผลอันใดเธอจึงยอมแพ้ และเชื่อคำพูดของตี้ฝูอีไปชั่วขณะ

เข็มฉีดยาของหลงซือเย่ก็แตกไปแล้ว นํ้ายาที่เหลือก็ไม่อาจใช้งานได้อีก พลังวิญญาณของตี้ฝูอีก็ยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ไม่สามารถสลับร่างให้เธอได้ มันทำให้เธอค่อนข้างหดหู่ ดังนั้นหลังจากที่เปลี่ยนยาให้ตี้ฝูอีเรียบร้อย เธอกำชับให้ตี้ฝูอีพักฟื้นให้ดีอีกสองสามวัน หันกายกำลังคิดจะเดินออกไปกลับถูกตี้ฝูอีดึงรั้งไว้ เธอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “มีอะไรอีกเหรอ?”

ตี้ฝูอีดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดทันที สายตาจ้องมองสายตานาง “โกรธแล้วหรือ?”

กู้ซีจิ่วหยุดชะงัก เธอส่ายหน้า “เปล่า”

ถึงแม้เขาจะขับไล่หลงซือเย่ไปอย่างโหดร้าย แต่เธอรู้ว่าเขาทำเพื่อเธอ เธอรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับโกรธ เพียงแต่ตอนนี้เธอค่อนข้างหดหู่ที่สลับคืนร่างตัวเองไม่ได้

สายตาของตี้ฝูอีฉายแววขอโทษ ทว่าพูดพลางยิ้มขึ้นมาทันใด “ไป ข้าพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง”

และลากนางออกไปโดยไม่ฟังคำกล่าวอันใด

“ไปไหน? เจ้าไม่ฝึกฝนฟื้นฟูแล้วรึ?” กู้ซีจิ่วประหลาดใจไม่น้อย เธอรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือการฝึกฝน

“ไปแล้วเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้”

ดวงจันทร์บนท้องนภากลมโตราวกับจานกลมอันใหญ่ เมฆขาวดังเส้นด้ายลอยล่อง ซ่อนเร้นกึ่งหนึ่งของดวงเดือน สงบเงียบเยือกเย็น สาดสะท้อนทะเลสาบอันกว้างไกลสุดลูกตา จากการคาดคะเนด้วยสายตาของกู้ซีจิ่ว ทะเลสาบนี้ใหญ่กว่าทะเลสาบต้งถิงเป็นเท่าทวี ชายฝั่งทะเลสาบไม่ใช่เขื่อนทะเลสาบธรรมดา แต่เป็นหาดทรายขาวผ่องสาดส่องแสงจันทร์ชนิดหนึ่ง เมื่อเหยียบเท้าลงไปแล้วรู้สึกสบายยิ่งนัก

ทะเลสาบอันกว้างไกล คลื่นนํ้ารวดเร็วดังคลื่นทะเล ระลอกคลื่นกระทบฝั่งดังครืน ครืน

ห่างจากชายฝั่งทะเลสาบไปไม่ไกลเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีม่วงอ่อนบานสะพรั่ง ลำต้นดังเหมย กิ่งก้านคดเคี้ยว ดอกที่กำลังผลิบานมีขนาดเท่ากับดอกท้อ รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่ปลายกิ่ง ยามเมื่อลมพัดกลีบดอกปลิวลอยล่อง ร่วงหล่นใต้ต้นไม้ พัดไปตามชายฝั่งทะเลสาบ ปลิดปลิวกระจัดกระจายดังสายฝนกลีบดอกไม้ ทิวทัศน์ช่างงดงามเหลือเกิน และทิวทัศน์ที่สวยงามขนาดนี้ ยามนี้กลับมีคนชื่นชมเพียงสองคน

กู้ซีจิ่วเหยียบลงบนหาดทรายขาวผ่องสาดส่องแสงจันทร์นั้นด้วยเท้าเปล่า ดังถูกทิวทัศน์เช่นนี้สะกดไว้ ที่นี่สวยงามราวกับอยู่ในความฝัน เป็นภาพลวงตา ไม่เหมือนโลกมนุษย์ เธอรู้จักทะเลสาบนี้ มันอยู่ห่างจากเมืองหลวงของอาณาจักรเฟยซิงหนึ่งร้อยลี้ ชื่อทะเลสาบแสงจันทร์ ในสายตาของผู้คน ทะเลสาบแห่งนี้คือทะเลสาบปีศาจ เพราะมีเรื่องเล่าขานกัน ว่ามีราชาปีศาจกินคนอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ กลืนกินผู้ที่กล้ามาสำรวจที่นี่ไม่เหลือแม้แต่กระดูก ผู้คนโดยรอบแทบจะบอกว่าทะเลสาบแสงจันทร์เปลี่ยนสี เธอคาดไม่ถึงว่าตี้ฝูอีจะพาเธอมาที่นี่ และยิ่งคาดไม่ถึงว่าที่นี่จะงดงามขนาดนี้!

“ท่านว่าในทะเลสาบแห่งนี้มีปีศาจจริงไหม?” กู้ซีจิ่วยืนมองออกไปไกลตรงชายฝั่งทะเลสาบ “ดูแล้วช่างเงียบสงบเหลือเกิน”

“วางใจเถิด ต่อให้มีปีศาจก็ไม่มีทางกินเจ้าหรอก” ตี้ฝูอีอมยิ้ม “เพียงแต่เงือกไม่อยากให้คนในโลกมนุษย์มารบกวน จงใจกุเรื่องขึ้นมาให้คนกลัวก็เท่านั้นเอง”

“เงือก?” กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “ในทะเลสาบนี้มีเงือก? เงือกในตำนานไม่ได้อยู่ในทะเลทั้งหมดหรือ?”

ตี้ฝูอีอมยิ้ม “อีกประเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้”

กู้ซีจิ่วเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว เธอเคยได้ยินว่ามีเงือก แต่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ตำนานเกี่ยวกับนางเงือกมากมายนับไม่ถ้วนต่างผุดขึ้นมาในหัวเธอ ที่โด่งดังที่สุดก็คือเรื่องเล่าของเงือกเรื่องนั้น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version