Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 760

บทที่ 760 เพราะใส่ใจถึงได้สนใจ

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชั่วขณะนั้นจู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ากู้ซีจิ่วที่อยู่เบื้องหน้าฐานะสูงส่งยิ่ง สูงส่งจนเขาทำได้เพียงก้มกราบ ไม่กล้าลามปามอีก!

สายตาของ ‘กู้ซีจิ่ว’ ในยามนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกหน้า ตกตะลึงไปชั่วขณะ

โชคดีที่ที่ตี้ฝูอีกู้สถานการณ์ได้ทันเวลา “ชุดนี้ของข้าเป็นอย่างไร? ไม่ดูดีหรือ?”

เชียนหลิงอวี่รีบตอบทันที “ดูดี! ดูดี! ซีจิ่ว เจ้าสวมชุดนี้แล้วดูดีมากจริงๆ!”

ตี้ฝูอียิ้มแล้ว “นับว่าสายตาเจ้ามีแวว! ข้าก็รู้สึกว่าชุดนี้ดูดีมาก! ดูดีกว่าเสื้อผ้าทุกชุดของข้า”

เขาหันหน้าไป บังเอิญเห็นว่าหลงซือเย่กำลังมองเขาอย่างเลื่อนลอยอยู่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลิกคิ้วขึ้นยิ้มแวบหนึ่ง เจาะจงถามหลงซือเย่เป็นพิเศษ “เจ้าสำนักหลง ข้าสวมชุดนี้ดูดีหรือไม่?”

หลงซือเย่จะว่ากระไรได้เล่า?

สีหน้าเขาซีดเซียวเล็กน้อย ทว่ายังคงพยักหน้า “ดูดีมาก”

ด้วยเหตุนี้ ตี้ฝูอีจึงยิ้มด้วยความพออกพอใจ วันนี้เขาอยู่ในร่างกู้ซีจิ่ว เขาย่อมเป็นตัวเอก ประจวบเหมาะพอดี ที่นั่งของเขาถูกจัดไว้ข้างๆ หลงซือเย่

หลงซือเย่ฝืนยิ้มเล็กน้อย “ซีจิ่ว เข้ามานั่งก่อนเถอะ”

ตี้ฝูอีเหลือบมองที่นั่งของเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นความประสงค์ต่อกู่ฉานโม่ทันที “อาจารย์ใหญ่กู่ วันนี้เป็นวันปักปิ่นของซีจิ่ว สมควรต้องนั่งถัด จากประธานในพิธีมิใช่หรือ?”

กล่าวกันตามเหตุผลแล้วสมควรเป็นเช่นนี้จริงๆ ความประสงค์นี้ของเขาไม่นับว่าเกินเลยไป และประธานในพิธีก็คือตี้ฝูอี กล่าวก็คือเธอสมควรนั่งข้างๆ ตี้ฝูอี

ตอนแรกที่กู่ฉานโม่จัดการเช่นนี้ ด้วยนึกว่านางคงไม่ยินดีนั่งร่วมกับตี้ฝูอี ดังนั้นเขาจึงจัดให้ ‘นาง’ ไปนั่งข้างๆ หลงซือเย่ด้วยความใส่ใจ ที่แท้แล้วกลับคลาดเคลื่อนไป นึกไม่ถึงว่านางจะเป็นฝ่ายร้องขอเรื่องนี้ ในเมื่อ ‘นาง’ ร้องขอด้วยตัวเองกู่ฉานโม่ ย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้น ‘กู้ซีจิ่ว’ จึงได้นั่งข้างๆ ‘ตี้ฝูอี’ อย่างสมปรารถนา

หลงซือเย่เม้มปากนิดๆ ใบหน้าซีดเซียวกว่าเดิม

กู้ซีจิ่วกลับลอบกัดฟันกรอด ส่งกระแสเสียงหาไปเขา ‘ตี้ฝูอีท่านอย่าได้เกินไปนัก!’

ตี้ฝูอีก็ส่งกระแสเสียงตอบมา ‘เกินไปตรงไหน?’

‘ท่านทำเช่นนี้จะทำให้คนอื่นคิดไปไกล จะคิดว่าตัวข้ากู้ซีจิ่วยังอาลัยอาวรณ์ท่านผู้เป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอยู่ คิดหาวิธีไปอยู่ข้างกายท่าน!’

แววตาตี้ฝูอีมืดมนลง แต่ก็ถอนหายใจเบาๆ ทันที ‘เป็นข้าต่างหากที่คิดหาวิธีไปอยู่ข้างกายเจ้า’

เธอนิ่งไปครู่หนึ่งแล้ว เอ่ยอย่างเย็นชา ‘ข้าไม่ปรารถนา!’

ตี้ฝูอีเงียบไปแล้ว

จิตใจของกู้ซีจิ่วค่อนข้างว้าวุ่น เธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับหลงซือเย่ ต้องการตัดขาดกับตี้ฝูอีให้หมดจด แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะก่อเรื่องเซ่อซ่าขึ้นมาในสถานการณ์คับขัน เธอสลับร่างกับเขา ยามนี้คิดจะตัดก็ตัดไม่ขาดแล้ว เธอกุมถ้วยชาครุ่นคิดอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเยือกเย็น ใคร่ครวญว่าตนความทำอย่างไรต่อไป

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดจนใจลอย ตี้ฝูอีก็ส่งกระแสเสียงมาอีกครั้ง ‘ซีจิ่ว ตอนนี้ข้ากับเจ้าสลับร่างกัน เรื่องนี้สำคัญที่สุด ดังนั้นไม่อาจให้ผู้ใดทราบได้ แม้แต่หลงซือเย่ก็ไม่ได้ หลงซือเย่ผู้นี้ความคิดละเอียดลออ หากข้าอยู่ข้างกายเขา ไม่แน่อาจจะเผยพิรุธเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้นจึงทำได้เพียงนั่งกับเจ้าตรงนี้ เช่นนี้พวกเราจะได้ดูแลซึ่งกันและกัน’

สิ่งที่เขากล่าวนั่นมีเหตุผล กู้ซีจิ่วคิดๆ ดูก็ว่าถูก จิตใจที่ปั่นป่วนในที่สุดก็สงบลงบ้างแล้ว

ตี้ฝูอีเห็นใบหน้านางผ่อนคลาย ก็ทราบว่าปมในใจนางคลายออกแล้ว จึงถอนหายใจเบาๆ ทว่ากลับเย้ยหยันตัวเองอยู่ในใจอีกครา ตนใช้ชีวิตอิสระไร้กฎเกณฑ์มาครึ่งค่อนชีวิตเคยต้องระมัดระวังเช่นนี้เสียที่ไหน?

เพราะใส่ใจ ถึงได้สนใจ

เพราะใส่ใจ ถึงได้ยอมเหยียบย่างบนธารนํ้าแข็งบางเฉียบ…[1]

——————————————————————

[1] เหยียบย่างบนธารนํ้าแข็งบางเฉียบ หมายถึง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version