Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1284

บทที่ 1284 เขาทำอะไรอยู่นะ?

ความจริงแล้ว ป่วยไข้บาดเจ็บยังพอว่า อย่างไรเสียสมรรถภาพร่างกายของคนที่นี่ล้วนไม่เลวเลย ประกอบกับมีหลัวจั่นอวี่เป็นหมอคอยดูแล ทุกคนล้วนผ่านพ้นไปได้อย่างไร้ความเสี่ยง ตอนยามที่พลังวิญญาณขั้นแปดจะฝ่าทะลวงไปสู่ขั้นเก้า จะต้องใช้ยาลูกกลอนระดับเจ็ดชนิดหนึ่ง ยาลูกกลอนชนิดนั้นเรียกว่า ลูกกลอนคุ้มวิญญาณ

อย่าได้ดูแคลนการทะลวงจากขั้นแปดไปสู่ขั้นเก้า เรื่องนี้สำหรับผู้ฝึกฝนทุกคนแล้วเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง เมื่อบรรลุขั้นเก้าจึงถือว่าเข้าใกล้การเป็นเซียนแล้ว ร่างกายจะเกิดความเปลี่ยงแปลงอย่างมหาศาล ระหว่างที่ฝ่าทะลวงอยู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ร่างกายคนทนรับไม่ไหว จะเปรียบเสมือนหายนะในตำนานที่เล่าขานกัน หากผ่านไปได้จะกลายเป็นเซียนอย่างแท้จริง แต่ถ้าล้มเหลวจะเกิดผลกระทบเนื่องจากทนรับ พลังวิญญาณพลุ่งพล่านไม่ไหว ตัวคนจะระเบิด แม้กระทั่งดวงวิญญาณจะก็ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจรวมตัวได้อีก

และลูกกลอนคุ้มวิญญาณจะถูกนำมาใช้ในช่วงเวลาเช่นนี้ ลูกกลอนคุ้มวิญญาณสามารถป้องกันร่างกายจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเส้นเลือด บรรเทาความรุนแรงได้ คุ้มกัน การฝ่าทะลวงขั้นให้ราบลื่น หากไม่มีการปกป้องจากลูกกลอนคุ้มวิญญาณ ในหนึ่งร้อยคนที่ฝ่าทะลวงสู่ขั้นเก้า จะมีเก้าสิบเก้าคนที่ระเบิดเป็นจุณ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโอสถคุ้มวิญญาณนี้

ส่วนหลัวจั่นอวี่เพิ่งพบอักษรทองแถวนี้ได้ไม่นานก็ฝ่าทะลวงสู่ขั้นเก้า เขาไม่มีลูกกลอนคุ้มวิญญาณติดตัว เคราะห์ดีที่เมิ่งซู่เหยียนมีอยู่เม็ดหนึ่ง นางอนุเคราะห์ให้ ถึงทำให้หลัวจั่นอวี่ทะลวงขั้นอย่างปลอดภัยได้ แต่ก็มีแค่เม็ดนั้นเม็ดเดียว ไม่มีเม็ดอื่นแล้ว

ดังนั้นผู้คนที่บรรลุระดับแปดแล้วของที่นี่จึงไม่กล้าทะลวงขั้นขึ้นไปอีก ไม่กล้าทุ่มเทฝึกฝนอย่างสุดชีวิต…

แต่ยามนี้กู้ซีจิ่วกลับเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถระดับสูง อายุยังน้อยก็สามารถหลอมกลั่นโอสถระดับหกได้แล้ว เช่นนั้นถ้านางฝึกฝนวิชาหลอมกลั่น ต่อไปให้ดีๆ การหลอมโอสถระดับเจ็ดก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!

เมื่อมีลูกกลอนคุ้มวิญญาณระดับเจ็ด พวกเขาก็สามารถทะลวงขั้นได้อย่างปลอดภัย วันคืนที่จะได้ออกไปพบเห็นดวงตะวันอีกครั้งก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว

กู้ซีจิ่วคือความหวังของพวกเขา!

พวกเขาย่อมดีอกดีใจ อยากจัดงานฉลองเป็นธรรมดา นำสุราที่ดีที่สุดออกมา นำเนื้อที่ดีที่สุดออกมาด้วย พวกผู้หญิงก็งัดฝีมือการครัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดออกมาปรุงอาหารจำนวนหนึ่ง ส่วนพวกผู้ชายก็คอยช่วยเก็บกวาด สุขสันต์เบิกบานกันถ้วนหน้า

เหล่าบุรุษของที่นี่ยินดีปรีดาเป็นที่สุด เมื่ออกไปจากที่นี่ได้พวกเขาจะเป็นยอดฝีมือผู้เลิศลํ้า และไม่ต้องกังวลเรื่องการหาศรีภรรยาอีกแล้ว!

แทบทุกคนล้วนมาคารวะสุรากู้ซีจิ่ว แน่นอนว่าคนกว่าสี่สิบคนแห่แหนกันมาคารวะคนเพียงคนเดียวย่อมน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก โชคดีที่ในใจของคนเหล่านี้เลื่อมใสในตัวเธอ ในใจของพวกเขากู้ซีจิ่วลํ้าค่ายิ่งกว่าหมีแพนด้าพันตัวเสียอีก ไม่กล้าทำให้เธอบาดเจ็บหรืออึดอัดเลยสักนิด ดังนั้นตอนที่ทุกคนคารวะสุราเธอ ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ข้าหมดจอก ส่วนเจ้าจิบนิดเดียวก็พอ’

ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงจิบเพียงเล็กน้อย

กู้ซีจิ่วไม่อยากดื่มจนเมา เนื่องจากเธอรู้ว่าระดับความเมามายของตน กล่าวได้ว่าน่าสะพรึงยิ่งนัก เธอไม่อยากเมาแล้วคลั่งในฝูงบุรุษเช่นนี้!

ดังนั้นตอนที่ดื่มสุราช่วงแรกเธอจึงจิบเอาจริงๆ แต่บางทีอาจเป็นเพราะกองไฟเร่าร้อนเกินไป อารมณ์ของฝูงชนก็คึกคักฮึกเหิมเกินไป และบางทีอาจเป็นเพราะผู้คนที่มาคารวะสุราเธอมีมากมายเกินไป การดื่มช่วงหลังๆ กู้ซีจิ่วจึงค่อนข้างปล่อยตัว ดื่มจอกแล้วจอกเล่า ในดวงตาที่ฉํ่าเยิ้มด้วยฤทธิ์สุรา มีเงาร่างของตี้ฝูอีวูบไหวอยู่

หากว่าเธอไม่ได้หนีมา วันนี้จะเป็นพิธีมงคลสมรสของเธอกับตี้ฝูอี คืนนี้ควรจะเป็นคืนที่เธอกับเขาดับเทียนอยู่ร่วมหอ…

เคยเป็นวันที่เธอกับเขาตั้งตารอคอย ตอนนี้…

เขาทำอะไรอยู่นะ?

งานแต่งนั้นคงจะล้มเลิกไปแล้วกระมัง?

ท้ายที่สุดแล้วเธอกับเขาก็ไร้วาสนาต่อกัน…

“ซีจิ่ว ซีจิ่ว…” มีคนกำลังเรียกเธออยู่ นํ้าเสียงดึงดูด สุ้มเสียงทุ้มตํ่า เธอพลันแข็งทื่อไปทั้งตัว รู้สึกคล้ายว่าได้ยินเสียงของตี้ฝูอี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version